CLS ตอนที่ 328: เมฆดำกำลังมา
ในตอนนี้ เรื่องนี้ไม่สามารถล่าช้าได้ อี้เทียนหยุนจึงได้เริ่มเตรียมการทำการถอนพิษในทันที คราวนี้เป็นการทำยาถอนพิษเพื่อกำจัดพิษให้หมดสิ้น ซึ่งเทียบกับก่อนหน้าแล้วไม่ได้ยากกว่ากันมากนัก ดังนั้นจึงสามารถทำได้ แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่
ยาพิษนี้เป็นการผสมกันของพิษหลากชนิด แม้แต่ตัวคนสร้างพิษเองก็ไม่รู้ว่าจะสามารถทำยาแก้ได้หรือเปล่า ดังนั้นจึงต้องทำการกลั่นอย่างระมัดระวัง ผลของยาพิษที่ราชครูเป็นคนกลั่นขึ้นนี้ถือว่าน่าสะพรึงมาก ถ้าเป็นแค่พิษทั่วไป บรรพชนเผ่าภูตคงไม่มีปัญหา
กับผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้แล้ว พิษทั่วไปนั้นไม่มีผล แต่กับพิษชั้น 5 นั้นต่างกัน ตัวสมุนไพรพิษแต่ละชนิดที่ใช้ต่างก็มีราคาไม่ได้ต่ำ ดังนั้นผลลัพธ์ของมันจึงยิ่งน่ากลัว
ภายใต้คำสั่งของอี้เทียนหยุน เย่ชิงเสวียนก็ได้ไปเตรียมสมุนไพรทั้งหมดมา พร้อมกับเริ่มกระบวนการกลั่นยาอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้ช่วงที่ขุนพลมังกรยังไม่มา ทำการถอนพิษให้กับบรรพชนให้เร็วที่สุด
ในช่วงระหว่างนี้ เย่หว่านเอ๋อก็มองมาที่พี่สาวของตนด้วยสีหน้าซับซ้อน พร้อมกับถามขึ้นว่า “ท่านพี่ ท่านสนิทกับพี่ใหญ่อี้มาก่อนอย่างงั้นเหรอ?”
“ไม่ถือว่าสนิท พูดได้ว่าเคยเจอกันครั้งหนึ่ง ส่วนที่เจ้าพามานั้นเป็นครั้งที่สอง” เย่ชิงเสวียนมองน้องสาวของตน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ ว่า “ยังจำได้ไหมเรื่องที่ข้าหายไปเป็นเวลานาน แล้วพอกลับมากลับมองเห็นแผนการชั่วร้ายของเหลยหยุนได้ทันทีน่ะ?”
“นี่ งั้นพี่ใหญ่อี้ก็เป็นคนช่วยท่านอย่างงั้นเหรอ!?” เย่หว่านเอ๋อร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ใช่แล้ว เขาเป็นคนช่วยชีวิตข้า ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่สามารถกลับมาได้ ตอนแรกข้าคิดว่าเขาคงไม่แข็งแกร่งเร็วขนาดนี้ ข้าคิดว่าคงต้องถูกขังจนตายอยู่ที่นั่น ดังนั้นข้าจึงมอบพรสวรรค์ให้กับเขา เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เขาช่วยชีวิตข้า” เย่ชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
“แต่ว่าก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าท่านทำเหมือนไม่รู้จักเขาอย่างงั้นเหรอ? หรือว่าท่านจะแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเขา?” เย่หว่านเอ๋อถามด้วยความสงสัยอย่างมาก
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ข้าจะบอกอะไรให้นะ ใบหน้าที่เห็นอยู่นี้เป็นใบหน้าปลอมของเขา อายุจริงๆ ของเขาเหนือกว่าเจ้าไม่กี่ปีเท่านั้น” เย่ชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“อะไรนะ?!” เย่หว่านเอ๋อตกใจ เด็กขนาดนั้นเชียว อายุจริงยังอ่อนกว่าตอนนี้อีก ต่อให้เขาเริ่มฝึกตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ก็ไม่มีทางที่จะท้าทายสวรรค์ขนาดนี้ใช่ไหม?
“ยิ่งกว่านั้น เขายังมีหลากหลายฐานะมาก มีหลายเรื่องก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับเขา ตัวอย่างเช่นเรื่องตำหนักซิงเฉิน, เรื่องของเมืองจู้หลง, พวกนี้ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับเขาทั้งนั้น…..”
“นี่ นี่…..”
ขณะที่สองพี่น้องกำลังพูดคุยกัน อี้เทียนหยุนก็พลันทำยาถอนพิษชุดแรกเสร็จอย่างรวดเร็ว
“ท่านบรรพชน นี่คือยาถอนพิษชุดแรก ถ้าคิดจะถอนพิษให้หมดจริงๆ จำเป็นต้องรับยาอีกหลายชุด ไม่อย่างนั้นไม่สามารถกำจัดพิษได้หมด” อี้เทียนหยุนส่งยาถอนพิษให้กับเขา ให้เขารับไป
บรรพชนเผ่าภูตยิ้ม รับยาเข้าใส่ปากอย่างไม่ลังเล หลังจากนั้นสีหน้าก็พลันดีขึ้น แต่อย่างนั้นก็เปลี่ยนไป ก่อนที่จะกระอักเลือดสีดำออกมา ย้อมผืนดินด้านล่างเป็นสีดำกองใหญ่
เหล่าวัชพืชที่อยู่ตรงพื้นที่ถูกเลือดสีดำปกคลุม ต่างพากันเหี่ยวเฉาลงในทันที
“ท่านบรรพชน!” พวกเขาต่างพากันเดินเข้าไปอย่างรีบร้อน พร้อมกับถามอย่างเป็นกังวล
“ไม่เป็นไร หลังจากเอาเลือดเสียออกมา ข้าก็รู้สึกดีขึ้นมาก” บรรพชนเผ่าภูตพูดด้วยสีหน้ามีความสุขทั้งยังมากไปด้วยความประหลาดใจ “มันได้ผลดีมากจริงๆ ข้ารู้สึกดีขึ้นมาก มันสามารถขจัดพิษนี้ได้อย่างแน่นอน!”
“ดูเหมือนว่ายาถอนพิษนี้จะได้ผลจริงๆ” เย่ชิงเสวียนพูดอย่างอยากรู้ “แต่ว่าข้าก็รู้สึกแปลกใจ ยาพิษที่ราชครูอาณาจักรใต้พิภพปรุงขึ้น ทำไมเจ้าถึงได้ทำยาถอนพิษออกมาได้ง่ายขนาดนั้น?”
“นี่ คือข้าสัมผัสได้ว่าพิษนี้ประกอบไปด้วยสมุนไพรอะไร ดังนั้นจึงสามารถทำยาถอนพิษออกมาได้” อี้เทียนหยุนพูดความจริง แต่ก็ไม่ได้บอกว่าใช้ดวงตาประเมินในการดู
„Felt that poisonous pill ingredient, is inadequate you to have the day of life nose, can smell inside ingredient? This is the Medicine King ability, if really this, you from now on surely will become Medicine King!” Spirit Race Old Ancestor exclaims.
“สัมผัสได้ถึงส่วนประกอบอย่างนั้นเหรอ จมูกของเจ้านี่มันยังไงกัน สามารถได้กลิ่นส่วนประกอบข้างในด้วย? นี่มันความสามารถของราชาโอสถชัดๆ ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าพูดจริงๆ จากนั้นไป เจ้าจะต้องกลายเป็นราชาโอสถอย่างแน่นอน!” บรรพชนเผ่าภูตร้องอุทานออกมา
ราชาโอสถนั้นต้องเป็นผู้มีพื้นฐานเป็นนักกลั่นโอสถระดับจงซือ หรือก็คือนักกลั่นโอสถที่มีความสามารถในระดับจงซือล้วนแต่คือราชาโอสถ ส่วนระดับถัดไปก็คือ เทพโอสถ
“ราชาโอสถ พี่ใหญ่อี้จะได้เป็นราชาโอสถอย่างงั้นเหรอ?” พวกเธอพากันตกตะลึง ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ตอนนี้เขาเป็นนักสลักอาคมระดับต้าซือ ทั้งยังมีความสามารถที่จะกลายเป็นราชาโอสถอีก นี่เขาคิดจะให้คนอื่นเอาหัวโขกกำแพงตายหรือไง
“นี่ข้าก็ไม่แน่ใจนัก” อี้เทียนหยุนยิ้ม เรื่องนี้เขาก็พอได้ยินอยู่ ต่อให้ไม่ต้องพึ่งดวงตาประเมินก็สามารถวิเคราะห์ได้ “จะยังไงก็ช่างเถอะ ตอนนี้ท่านบรรพชนต้องดูแลตัวเองให้ดี หลังจากกินยาหลายชุดนี้เสร็จ พิษในร่างของท่านก็จะถูกขจัดจนหมดสิ้น”
“ได้ ไม่มีปัญหา” บรรพชนเผ่าภูตมีรอยยิ้มแต้มใบหน้า ทั้งยังมองมาที่อี้เทียนหยุนด้วยความพอใจมากขึ้นไปอีก
จากนั้น พวกเขาก็ปล่อยให้บรรพชนเผ่าภูตได้พักผ่อน ให้เย่หว่านเอ๋อคอยดูแล ส่วนพวกเขานั้นเดินออกมาจากสวนเล็กๆ แห่งนี้
“นี่ชิงเสวียน เจ้ายังมีหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณเก็บไว้อีกไหม?” อี้เทียนหยุนในตอนนี้ต้องการมันมากจริงๆ เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับขุนพลมังกรที่กำลังมา ถ้าระดับของเขาไม่เพิ่มขึ้น เขาก็คงไม่มีวิธีที่จะจัดการมัน
“เหมือนเจ้าจะต้องการมันมากจริงๆ นะ ดูเหมือนว่ามันจะช่วยเจ้าได้มากเลยสิ?” เย่ชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ครั้งนี้ข้าจะให้เจ้า เจ้าช่วยคนในเผ่ากลับมามากมาย ทั้งยังได้รับความชื่นชอบจากท่านบรรพชนด้วย เพื่อที่จะให้เจ้าขึ้นเป็นราชาภูต อย่าว่าแต่หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณเลย กระทั่งสิ่งอื่นก็ไม่มีปัญหา”
“ฮี่ฮี่ ขอข้าหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณก็พอแล้ว ถ้าหาให้ข้าได้สักหลายร้อยต้น นั่นจึงจะเรียกว่าสมบูรณ์แบบ” อี้เทียนหยุนยิ้ม
“หลายร้อยต้น เจ้าฝันหวานเกินไปแล้ว! หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณหายากมาก ต้องใช้เวลาสะสมหลายปีถึงจะมีมากขนาดนี้ได้ ถ้าใครมีหลายร้อยต้นจริงๆ ป่านนี้คงถูกขุมอำนาจอื่นบุกรุกแล้ว” เย่ชิงเสวียนพูดพร้อมกับส่ายหัว
อี้เทียนหยุนรู้ว่าหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนี้หายากมาก แค่เจอสักต้นก็นับว่าดีแล้ว แต่หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนี้คอยรวบรวมแก่นแท้แห่งโลก ดังนั้นมันจึงส่งผลต่อพลังวิญญาณอย่างมาก
จากนั้น เย่ชิงเสวียนก็นำหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญาณจำนวนสามต้นมามอบให้แก่เขา นี่เป็นทั้งหมดที่มีในเผ่าภูต นอกจากจะไปถอนมาจากย่อน้ำวิญญาณหยก ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีอีกแล้ว
“ดีมาก ตอนนี้ก็เริ่มทำยาได้แล้ว จะได้เลื่อนระดับสักที!”
หลังจากอี้เทียนหยุนได้หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนี้มา เขาก็เตรียมตัวกลั่นเม็ดยาเพิ่มพูนจิตวิญญาณทันที หลังจากกินมันเข้าไป เขาจะต้องเข้าสู่ระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 5 ได้แน่ การเลื่อนระดับด้วยความเร็วขนาดนี้ ทำให้เขารู้สึกพอใจมาก เทียบกับการที่ต้องคอยสังหารสัตว์อสูรแล้ว เร็วกว่ามาก
“รีบๆ เลื่อนระดับ ขุนพลมังกร…… เมื่อเจอกันอีกครั้ง ข้าจะให้เจ้ามาได้แต่กลับไม่ได้!” สายตาอี้เทียนหยุนเย็นชา ในมือมีเปลวเพลิงนิรันดร์จุดขึ้นมา พร้อมกับเริ่มกลั่นโอสถ
ขณะเดียวกัน ขุนพลมังกรก็ได้นำทหารมังกรกลุ่มหนึ่งตรงมาที่นี่ พวกเขาพากันเคลื่อนตัวมาโดยไม่หยุดพัก ตรงไปยังป่าภูต ด้วยมังกรดินเกือบ 30 ตัว ทำให้ทุกที่ที่พวกเขาเคลื่อนผ่านเกิดแผ่นดินไหว หลังจากการเคลื่อนผ่านของพวกเขา ทำให้มีหมู่บ้านเล็กๆ บางแห่งพังพินาศ
เมื่อชาวบ้านพวกนี้เห็นมังกรดินพวกนี้วิ่งมา ความโกรธในใจก็พลันถูกน้ำเย็นสาด ไม่กล้าเอ่ยออกไปแม้แต่ครึ่งคำ
“สวรรค์ นี่มันเรื่องอะไรกัน ใครมันกล้าไปตอแยคนพวกนี้?”
ทุกคนรู้สึกเหมือนฟ้ากำลังครึ้ม ไม่รู้ว่าตกใจมากขนาดไหน แต่รู้ว่าเผ่าภูตคงถึงคราวพินาศสิ้นแล้ว!