CLS ตอนที่ 340: บททดสอบราชาภูต
หลังจากบรรพชนเผ่าภูตประกาศเสร็จ คนกลุ่มใหญ่ก็พากันเดินไปตามถนนที่มุ่งไปสู่สถานที่สำหรับเข้ารับการทดสอบราชาภูตอย่างคึกคัก
บททดสอบราชาภูตนั้นไม่มีอะไรมาก เพียงแค่การเข้าไปพิสูจน์ตนแล้วกลับมาก็ถือว่าผ่าน ฟังแล้วเหมือนไม่ยากอะไร แต่เผ่าภูตจำนวนมากที่เข้ารับการทดสอบเพื่อเป็นราชาภูตนั้น ส่วนมากล้วนแต่เป็นผู้มากพรสวรรค์ที่ได้รับความเห็นชอบจากคนในเผ่าส่วนใหญ่ พอเข้ารับการทดสอบแล้ว สุดท้ายกลับจบลงที่ความล้มแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ที่น่าเสียดายมากที่สุด
“บททดสอบราชาภูตนี้ต้องการอะไรเป็นพิเศษไหม?” อี้เทียนหยุนถามอยู่ด้านข้าง
“ข้าไม่เคยเข้าไปแล้วจะไปรู้ได้ยังไง?” เย่ชิงเสวียนส่ายหัว “เรื่องนี้ต้องถามท่านบรรพชนดู ท่านบรรพชนเคยเข้าทดสอบเพื่อเป็นราชาภูตมาก่อน ดังนั้นท่านจะต้องรู้อย่างแน่นอน”
“บททดสอบราชาภูตแบ่งเป็นหลายด่าน ซึ่งแต่ละด่านก็มีรูปแบบของมัน ดังนั้นพูดไปก็เอาไปใช้ได้จำกัด ยังไงก็ตาม ก็มีหลายจุดที่สามารถยืนยันได้ว่า บททดสอบของแต่ละคนนั้นจะมีระดับเหมือนกัน สำหรับเจ้าที่สามารถจัดการขุนพลมังกรได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เอาจริงๆ แล้ว ข้าว่าบททดสอบนี้ไม่น่าจะมีแรงกดดันสำหรับเจ้าสักเท่าไหร่”
บรรพชนเผ่าภูตพูดด้วยรอยยิ้ม “ก็อย่างที่พูดไป บททดสอบสำหรับเจ้าไม่น่าเป็นปัญหา ความยากของด่านก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ที่เป็นปัญหาที่สุดก็คือจุดสุดท้าย นั่นเป็นจุดที่จะพิสูจน์ว่าเจ้านั้นจะผ่านหรือไม่ และที่จุดสุดท้ายนั้นจะมีป้ายศิลาอยู่ หากเจ้าได้รับการยอมรับ เจ้าก็จะได้อักษรรูนจากที่นั่น เมื่อได้รับอักษรรูน เจ้าก็จะกลายเป็นราชาภูต”
“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ข้าก็คิดว่าจะมีอะไรมากกว่านั้นเสียอีก” หลังจากได้ฟัง อี้เทียนหยุนก็พบว่ากุญแจสำคัญก็คือการผ่านด่านแต่ละด่าน ซึ่งก็เหมือนจะไม่มีความยากอะไรนัก
โดยเฉพาะผู้ที่มีพลังฝึกตนที่แข็งแกร่ง ความยากของบททดสอบมีจำกัด ดังนั้น ตราบเท่าที่มีพลังฝึกตนแข็งแกร่งมากพอ ก็จะสามารถผ่านบททดสอบไปได้ง่ายๆ ที่เหลือก็แค่การยอมรับว่าจะผ่านไหมเท่านั้น!
“ใช่แล้ว ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นอย่างนั้น เพราะไม่สามารถผ่านไปถึงด่านพิสูจน์ตน ดังนั้นจึงได้ล้มเหลว” บรรพชนเผ่าภูตหยุดคิดแล้วพูดออกมา “ส่วนด่านพิสูจน์ตนนั้น พวกเราไม่รู้จริงๆ นี่เป็นแค่สิ่งที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ ซึ่งพวกเราไม่เข้าใจความหมายของมัน แต่ตราบใดที่เจ้าได้รับการพิสูจน์ เมื่อนั้นเจ้าก็จะกลายเป็นราชาภูต”
“อืม….”
อี้เทียนหยุนรู้สึกช่วยไม่ได้ พูดออกมาก็เหมือนไม่ได้พูด ไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เท่าไหร่
ภายใต้การนำของพวกเขา ในที่สุดก็มาถึงสถานที่สำหรับเข้ารับบททดสอบราชาภูตอย่างรวดเร็ว ที่นี่ไม่ใช่ป่า แต่ว่าเป็นถ้ำ ซึ่งปากถ้ำนี้ดูแล้วก็ไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่ แต่ก็พอที่จะให้คนสองคนเดินเรียงกันเข้าไปได้ และเพิ่งจะมายืนที่ปากถ้ำ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงลมเย็นๆ ที่พัดออกมาจากข้างใน เป็นความเย็นที่เสียดแทงเข้าไปถึงกระดูก
ลมเย็นนี้หนาวมาก ทำให้อี้เทียนหยุนถึงสั่นน้อยๆ ต้องรู้ว่าถ้าไม่ใช่หนาวมากจริงๆ จะไม่สามารถทำให้เขารู้สึกอะไรได้แม้แต่น้อย แต่ที่นี่กลับทำให้เขารู้สึกหนาวเล็กน้อย ถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว
ถ้าเกิดพลังฝึกตนหรือพลังกายต่ำ แน่นอนว่าย่อมต้องถูกทำให้กลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว
“ที่นี่คือที่สำหรับเข้ารับการทดสอบเป็นราชาภูตอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนมองเข้าไปที่ทางเข้า ดูแล้วก็แค่ปากถ้ำธรรมดา คงไม่มีใครคิดว่าที่นี่จะเป็นที่ที่ใช้สำหรับทดสอบเพื่อเป็นราชาภูต ขอเพียงแค่เดินเข้าไปได้จนจบ และรับอักษรรูนมาเท่านี้ก็จะถือว่าสำเร็จ
“ใช่แล้ว นี่คือที่ที่ใช้ทดสอบเพื่อเป็นราชาภูต เมื่อเจ้าเดินไปได้จนจบ และได้รับสัญลักษณ์อักษรรูนมาก เจ้าก็จะกลายเป็นราชาภูต” บรรพชนเผ่าภูตพูดอย่างจริงจัง “แม้ว่าจะไม่มีการจำกัดเวลา แต่ถ้าอยู่ในนั้นนานๆ ต่อให้เป็นระดับวิญญาณเที่ยงแท้ ก็ยังจะได้รับผลของมัน”
“ร้ายกาจขนาดนั้นเชียว…..” อี้เทียนหยุนตกใจ นี่มันเปรียบดั่งหลุมแห่งความตายชัดๆ ระดับวิญญาณเที่ยงแท้แข็งแกร่งแค่ไหนเขารู้ดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้รับผลจากความเย็นนี้เช่นกัน
“ใช่แล้ว ถ้าไม่ได้รับการยอมรับ ก็ให้หยุด อย่าได้ดึงดันจะไปต่อ เพราะต่อให้ไปต่อ ก็ไม่ได้รับการยอมรับอยู่ดี ทำไปก็ไม่มีความหมาย” บรรพชนเผ่าภูตถอนหายใจ “ก่อนหน้านี้มีอยู่คนหนึ่ง หลังจากที่ไม่ได้รับการยอมรับ เขาก็ยังดึงดันจะไปต่อ สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้กลับมา ความยากนั้นไม่เยอะ ตราบเท่าที่มีพลังไม่ต่ำเกินไป ก็สามารถกลับมาได้สบาย”
“ถ้าไม่ได้รับการยอมรับ ก็เท่ากับว่าไม่สามารถออกคำสั่งได้ เมื่อไม่ได้รับการยอมรับ ก็ไม่อาจออกคำสั่งได้ตามใจ” อี้เทียนหยุนยิ้มบางๆ ออกมา ถ้าไม่ได้เป็นราชาภูต เขาก็จะไม่สามารถออกคำสั่งได้
เพื่อปกป้องสมาชิกในเผ่า หรือเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นราชาภูตเท่านั้น เพราะสามารถใช้ความสัมพันธ์ให้คล้อยตามได้ แต่การได้เป็นราชาภูตจะทำให้การทำงานร่วมกับคนในเผ่าง่ายขึ้นมากเท่านั้นเอง
“ในเมื่อเจ้ารู้ดีแล้วงั้นก็รีบเข้าไปซะ แล้วก็ให้รีบออกมา พวกเราจะคอยเจ้ากลับมาที่นี่!” บรรพชนเผ่าภูตพูด
“ไป ข้าจะรอเจ้ากลับมาที่นี่” เย่ชิงเสวียนเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา เธอเชื่อว่าอี้เทียนหยุนจะต้องทำสำเร็จ
“พี่ใหญ่อี้ ท่านจะต้องทำสำเร็จ!” เย่หว่านเอ๋อกำหมัดน้อยๆ ของเธอแน่น พร้อมกับยกชูให้กำลังใจเขา “ท่านเป็นคนที่ข้าพามา!”
“วางใจเถอะ ข้าจะไม่ทำให้พวกเจ้าผิดหวัง”
อี้เทียนหยุนยิ้ม พร้อมกับย่างเท้าเข้าไปข้างในถ้ำ เพิ่งจะเดินเข้าไป สายตาของเขาก็เหมือนกับมองเห็นโลกแห่งน้ำแข็ง ทุกที่ล้วนแต่ถูกแช่แข็งด้วยน้ำแข็งหนาหนึ่งชั้น เทียบกับข้างนอกแล้วหนาวกว่ากันมาก ทำให้เขารู้สึกหนาวขึ้นเยอะ
ถ้าพลังกายไม่แข็งแกร่งพอ จะต้องถูกลมหนาวพวกนี้เสียดแทงเข้าไปในร่าง เหมือนกับถูกกระบี่แทงเข้าไปอย่างแน่นอน
ขณะที่เขากำลังจะก้าวต่อไปนั้นเอง หูของเขาก็พลันได้ยินเสียงโหยไห้แปลกๆ ดังมา
“หนาว หนาวมาก….. ปล่อยข้า….. ออกไป……”
อี้เทียนหยุนมองตามเสียงไป และเมื่อหันไปดูข้างๆ เขาก็พบเหลยหยุนที่ถูกมัดอยู่บนแท่งน้ำแข็ง ที่ตอนนี้ร่างกายของเขาแทบทั้งหมดเกือบจะถูกแช่แข็ง ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาจะต้องถูกแช่แข็งจนกลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งอย่างแน่นอน
ในตอนนี้อี้เทียนหยุนได้รู้ว่า ว่าพวกเขาขังพวกทรยศไว้ที่ไหน ไม่คิดเลยว่าจะเป็นสถานที่สำหรับทดสอบราชาภูต ที่นี่นับว่าหนาวเย็นจริงๆ มันทำการแช่แข็งเหลยหยุนจนอยู่ในสภาพปางตาย ยิ่งเขาที่ถูกทำลายพลังฝึกตนด้วยแล้ว ยิ่งไม่สามารถต้านทานไอเย็นนี้ได้เลย
“ไม่เจอกันนานเลย ดูท่าเจ้าคงจะลำบากมากสินะ?” อี้เทียนหยุนยิ้ม พร้อมกับเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเหลยหยุน
“เจ้า เป็นเจ้า…..” เหลยหยุนเงยหน้าที่สั่นเทามองมาที่เขา จากนั้นสักพักก็เหลือกตาขาวขึ้น
“ใช่แล้ว ข้าเอง ตอนนี้ข้ากำลังเข้าทดสอบเพื่อเป็นราชาภูต ตราบเท่าที่ทำสำเร็จ ข้าก็จะกลายเป็นราชาภูต อิจฉาข้าหรือเปล่า?” อี้เทียนหยุนพูดพร้อมกับยิ้มให้เขา
“ไม่ เป็นไปไม่ได้….. เจ้าเป็นคนนอก จะเป็นไปได้ยังไง อย่างเจ้าจะเป็นราชาภูตได้ยังไง…..” เหลยหยุนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“แล้วทำไมถึงจะเป็นไม่ได้ล่ะ? ใช่แล้ว คุกใต้พิภพถูกข้าทำลายทิ้งแล้วนะ ท่านบรรพชนเองก็ถูกข้าช่วยออกมาแล้ว ขุนพลมังกรก็ถูกข้าฆ่าทิ้ง….. ไม่รู้ว่าต่อไปอาณาจักรใต้พิภพจะส่งใครมา? แต่ว่าจะส่งใครมาก็ไม่สำคัญ เพราะสุดท้ายก็ต้องถูกข้าฆ่าตายอยู่ดี!” อี้เทียนหยุนส่งยิ้มเย็นให้เขา พร้อมกับยื่นมือออกไปตบหัวเขาเบาๆ “ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ที่นี่ไปแล้วกัน หวังว่าเจ้าคงจะทนได้จนกว่าข้าจะออกมานะ”
“เจ้า เจ้า…..” เหลยหยุนหันกลับมามองอย่างแรง ตัวเขาอยากจะสลบให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่เมื่อถูกความเย็นแทรกตัวเข้ามา เขาก็ไม่สามารถสลบได้!
นี่เป็นสถานที่ไว้สำหรับลงทัณฑ์ ไม่มีทางที่จะถูกแช่แข็งจนสลบ มีเพียงแต่ถูกแช่แข็งไปทั้งกายและจิตเท่านั้น ไม่อย่างนั้น ก่อนตายก็ต้องได้รับความเจ็บปวดที่ไม่สิ้นสุดนี้ต่อไป นี่ถือเป็นการลงทัณฑ์ที่ทรมานที่สุดสำหรับเขา ทำให้เขาถูกแช่แข็งจนตาย