CLS ตอนที่ 343: สมบัติที่สาบสูญแต่โบราณกาล
จากมุมมองของบรรพชนเผ่าภูต ตราบเท่าที่ไม่ได้รับอักษรรูนมา ก็เท่ากับไม่ได้รับการยอมรับ นั่นก็หมายความว่าเขาล้มเหลว ไม่สามารถผ่านการบททดสอบ
“ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ได้เป็นราชาภูตแล้วสินะ?”
อี้เทียนหยุนส่ายหัว ถ้าเป็นอย่างนี้ งั้นเขาก็ทำภารกิจไม่สำเร็จด้วยน่ะสิ? แล้วทำไมระบบถึงได้ให้ภารกิจนี้กับเขามาล่ะ?
“นี่มันจะยากเกินไปหรือเปล่า หากไม่ได้รับการยอมรับ แล้วข้าจะเป็นราชาภูตได้ยังไง?” อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว ความยากของภารกิจนี้จะยากไปหรือเปล่า
หรือว่าจะมีวิธีที่ต่อให้ไม่ได้รับการยอมรับก็สามารถเป็นราชาภูตได้? แต่บรรพชนเผ่าภูตบอกว่า หากเขาไม่ได้รับการยอมรับ ก็ไม่สามารถให้เขานั่งตำแหน่งราชาภูตได้
“หรือเพราะว่าข้าจะเป็นคนนอก ดังนั้นจึงไม่ได้รับการยอมรับ?” อี้เทียนหยุนคิดในจุดนี้ แต่ก็ลบความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว เพราะว่าก่อนหน้านี้นานมาแล้ว ได้มีราชาภูตที่เป็นคนนอกอยู่ ดังนั้น ที่ว่าคนนอกจะไม่ถูกให้การยอมรับ นั่นถือว่าไม่สมเหตุสมผล
เขาขมวดคิ้วพร้อมกับสำรวจที่นี่อย่างละเอียด ดูว่ามีตรงไหนที่เขาละเลยไป ดูว่ามีตรงไหนที่พอจะทำให้เขาได้รับการยอมรับ?
เขามองไปที่กำแพงศิลานี้ พร้อมกับเปิดใช้งานดวงตาประเมินเพื่อตรวจสอบข้อมูล จากนั้น ข้อมูลของกำแพงศิลานี้ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา
“ค่ายกลชั้น 1, ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโอสถ, เพิ่มความสำเร็จในการกลั่นโอสถขึ้น 10%”
“ค่ายกลชั้น 3, ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้อาวุธ, หลังจากสลักลงที่อาวุธ จะช่วยเพิ่มพลังโจมตีขึ้น 10%”
“ค่ายกลชั้น 2…..”
……
ภายใต้ดวงตาประเมิน ข้อมูลของค่ายกลที่สลักอยู่บนกำแพงก็ปรากฏขึ้น แต่นี้ไม่ใช่สิ่งที่อี้เทียนหยุนอยากรู้ ที่เขาอยากรู้ก็คือข้อมูลของกำแพงศิลานี้ต่างหาก! และเมื่อเขาทำการสำรวจไปเรื่อยๆ เขาก็พบว่ามีแต่ค่ายกลต่างๆ ซึ่งไม่ได้สำคัญอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ต้องดูเป็นภาพรวม ถึงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร?”
อี้เทียนหยุนคิด จากนั้นก็ถอยออกมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อถอยออกมาจนพอที่จะมองเห็นกำแพงศิลาได้ทั้งแผ่น เขาก็ทำการเปิดใช้งานดวงตาประเมินขึ้นอีกครั้ง
“ติ๊ง ท่านค้นพบป้ายศิลาทรราช ระดับสมบัติที่สาบสูญแต่โบราณกาล ได้รับค่าประสบการณ์ 5 ล้าน, ค่าความคลั่ง 100,000, ค่าความดี 100!”
ป้ายศิลาทรราช : ป้ายศิลาอาคมที่ส่วนมากถูกสลักไว้ด้วยค่ายกลระดับต้าซือ, สามารถสะกดค่อยกลระดับต้าซือได้ทุกค่ายกล, สามารถลบล้างค่ายกลขนาดใหญ่ได้, หากตนเองอยู่ในระยะ จะสามารถเพิ่มอัตราสำเร็จในการสร้างค่ายกลให้! ถ้าใช้งานป้ายศิลาอาคมนี้ จะสามารถสร้างค่ายกลระดับต้าซือได้ในพริบตา แม้จะไม่มีความสามารถสร้างได้ก็ได้ ระยะเวลาคูลดาวน์ 1 สัปดาห์
“นี่คือสมบัติที่สาบสูญแต่โบราณกาลอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนตกใจ เมื่อเห็นข้อความที่เด้งขึ้นมาก็ได้แต่ตกตะลึง ทั้งผลลัพธ์ของมันยังน่าสะพรึงอย่างมาก นอกจากจะสามารถสะกดค่ายกลของคนอื่นได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มอัตราสำเร็จในการสร้างค่ายกลของตนอีก และที่สำคัญที่สุดก็คือ สามารถสร้างค่ายกลระดับต้าซือได้ในพริบตา!
ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลไหน ก็สามารถสร้างออกมาได้ในพริบตา นี่เหมือนกับการถ่ายภาพชัดๆ ถ้าใช้งานป้ายศิลาอาคมนี้ จะทำให้สามารถสร้างค่ายกลออกมาได้ด้วยความเร็วที่น่าตื่นตระหนก เพียงแค่ความสามารถนี้ใช้ได้กับค่ายกลธรรมดาเท่านั้น ไม่สามารถใช้ได้กับค่ายกลระดับสวรรค์
ถ้าสามารถสร้างค่ายกลโจมตีออกมาได้ในพริบตาล่ะก็ นั่นจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีสุดๆ สามารถใช้โจมตีทีเผลอ แม้จะไม่อาจให้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่นัก แต่ก็ถือว่าเป็นสมบัติที่ลึกลับจริงๆ
“นี่จะต้องเป็นของที่บรรพบุรุษเผ่าภูตเหลือทิ้งไว้แน่นๆ เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าจะใช้ยังไง….. ป้ายศิลาอาคมนี้ ข้าสงสัยจังว่าทำไมข้าถึงไม่ได้รับการยอมรับ หรือว่าจะเพราะค่ายกลบนนั้นมีไม่พอ?”
อี้เทียนหยุนมีสีหน้าแปลกๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง นั่นก็คงแปลกมากๆ ป้ายศิลาอาคมนี้ แท้จริงแล้วเหมือนกับกระดาษยันต์ เพียงแต่ว่ามันล้ำค่ากว่ากระดาษยันต์มากเท่านั้น ทั้งยังเป็นศิลาวิญญาณที่พิเศษ ที่มีลักษณะภายนอกเหมือนเป็นหินดำ ทั้งยังไม่สามารถดูดซับพลังวิญญาณเพื่อช่วยในการฝึกฝน ทำได้เพียงใช้สลักอาคมเท่านั้น
เมื่อมองดูอย่างละเอียด ก็ไม่มีที่ว่างให้วาดค่ายกลลงอีก ดังนั้นจึงไม่ทางทดลองได้
ยังไงก็ตาม เขาอยากจะได้ป้ายศิลาทรราชนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะเอามายังไง
เขาเดินเข้าไปตรงหน้าป้ายศิลาทรราช จากนั้นก็ยื่นมือออกไปแตะ พร้อมกับใส่พลังวิญญาณลงไป หลังจากใส่พลังวิญญาณลงไป ค่ายกลที่อยู่บนป้ายศิลาก็เริ่มเปล่งแสง โดยเริ่มเปล่งแสงจากด้านล่าง ก่อนที่จะเลื่อนขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว
อย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งป้ายศิลาก็ส่องแสงออกมา เขาไม่รู้ว่าจะใช้มันยังไง ดังนั้นจึงได้ลองดู แล้วก็เกิดผลลัพธ์นี้ออกมา
“จงเก็บ!”
หลังจากอี้เทียนหยุนตะโกนออกไป ทั่วทั้งป้ายศิลาก็ระเบิดแสงจ้า อึดใจต่อมา ลำแสงนั้นก็ครอบลงบนตัวเขา ทำให้เขารู้สึกอุ่นขึ้น นี่เหมือนกับก่อนหน้า เป็นความรู้สึกที่พิเศษ
และหลังจากนั้นสักพัก อี้เทียนหยุนก็สัมผัสได้ว่าป้ายศิลานี้กำลังเชื่อมต่อกับเขา เขาจึงทำการคำรามเสียงต่ำอีกครั้ง “จงเก็บ!”
จากนั้น ป้ายศิลานี้ก็ได้ลดขนาดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเหลือขนาดเท่าหนึ่งฝ่ามือ ต่างกับก่อนหน้านี้มาก แต่น้ำหนักที่อยู่บนมือนั้น เขารู้สึกว่ามันหนักหลายพันจินแน่ๆ ก่อนที่จะกลายเป็นลำแสงหายเข้าไปในร่างเขา
ดูเหมือนว่าก่อนที่จะลดขนาดลง น้ำหนักก่อนหน้านี้คงจะมหาศาลมาก
“ดี ดี ดูเหมือนว่านี่จะสามารถใช้เป็นข้ออ้างได้ ตราบเท่าที่ใส่พลังวิญญาณเข้าไป ก็สามารถสั่งให้มันทำงานได้ ดูแล้วไม่ยากเท่าไหร่” อี้เทียนหยุนพยักหน้าอย่างพอใจ
ป้ายศิลาทรราชนี้ดีมาก โดยเฉพาะเอฟเฟ็กของมันที่ทำให้เขารู้สึกพอใจสุดๆ แม้ว่าจะห่างจากระดับที่ท้าทายสวรรค์ แต่ก็ไม่ได้แย่
จากนั้น เขาก็เงยหน้ามองข้างหน้า เพราะว่าป้ายศิลาถูกเก็บไปแล้ว ดังนั้นตรงหน้าจึงปรากฏเส้นทางที่ใช้ไปต่อข้างล่าง พร้อมๆ กับมีแสงสีเขียวทึมๆ ส่งออกมาจากด้านใต้นั้น ทำให้อี้เทียนหยุนรู้สึกสบายเหมือนก่อนหน้า ที่แท้แสงนั่นก็มาจากส่วนลึกของที่นี่นั่นเอง
“ไม่คิดเลยว่าหลังจากเก็บป้ายศิลานี้แล้วจะมีทางไปต่ออีก ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคิดที่จะเก็บป้ายศิลานี้ ทำให้ไม่รู้ว่าป้ายศิลานี้คือสมบัติงั้นสินะ?” อี้เทียนหยุนส่ายหัว ถ้าเขาไม่มีดวงตาประเมินแล้วล่ะก็ เขาก็คงจะไม่คิดเหมือนกันว่าป้ายศิลานี้จะเป็นสมบัติ
ขนาดเขายังคิดไม่ถึง ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลยว่าจะเป็นยังไง พวกเขาจะต้องคิดว่านี่เป็นเพียงป้ายศิลาธรรมดาอย่างแน่นอน
เขาไม่คิดมากอีก พร้อมกับเดินลงไปตามทางนั้น เขาอยากจะดูว่าใต้ดินนี้มีอะไร จะเป็นของดี อันตราย จะแบบไหนก็ต้องไปดู
ระหว่างที่เดิน ยิ่งเดินลึกลงไปเขาก็ยิ่งรู้สึกถึงความอบอุ่นมากเท่านั้น ความรู้สึกนี้ดีมาก ไม่มีสัมผัสถึงอันตรายแม้แต่น้อย ความรู้สึกบอกเขาว่าให้ลงไป ดูว่าในนั้นมีอะไรอยู่กันแน่
ขณะที่เขาเดินลงไปเรื่อยๆ จนเข้าไปใกล้ทางเข้า พริบตานั้นก็พลันมีแสงสีเขียวสว่าง เป็นแสงที่ปรากฏมาจากผลึกสีเขียว ซึ่งในนั้นบรรจุไว้ด้วยพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง พร้อมกับปลดปล่อยพลังชีวิตออกมาจากด้านใน ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับมีสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านร่าง