CLS ตอนที่ 345: เข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง
“นี่ นี่คือป้าย ป้ายศิลาทรราช…..”
เมื่อบรรพชนเผ่าภูตเห็นป้ายศิลานี้ก็พลันตกใจอย่างหนัก ในสายตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ไม่ใช่ว่านี้คือป้ายศิลาทรราชของพวกเราอย่างงั้นเหรอ?”
เห็นได้ชัดว่าบรรพชนเผ่าภูตเคยเข้าไปยังจุดสิ้นสุดเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้ว่านี่คือป้ายศิลาทรราช หลายคนไม่เคยเข้าไปยังบททดสอบราชาภูต ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าด้านในมีอะไร ถึงยังไงที่นั่นก็เป็นที่สำหรับผู้ที่จะเป็นราชา ดังนั้นคนที่เคยเข้าไปจึงมีแต่บรรพชนเผ่าภูต และคนที่มีสิทธิ์เข้าไปคนถัดไปก็คือเหลยหยุน แต่ใครจะคิดว่าเหลยหยุนจะใจร้อน ตัดสินใจทรยศคนในเผ่า
ดังนั้น คนที่เคยเห็นป้ายศิลานี้จึงมีแต่บรรพชนเผ่าภูตเพียงคนเดียว แม้ว่าเย่ชิงเสวียนจะมีตำแหน่งเป็นเสิ้งหนี่(สตรีศักดิ์สิทธิ์,ธิดาเทพ ฯลฯ) แต่เธอก็ไม่สามารถเป็นราชาภูต เสิ้งหนี่ไม่สามารถเป็นราชาภูตได้ เพราะมีแต่ผู้ชายเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ขึ้นเป็นราชาภูต ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนนั่งตำแหน่งราชาภูตมาก่อน
“นี่ไม่ใช่ป้ายศิลาทรราชของเผ่าอีกต่อไปแล้ว แต่นี่เป็นป้ายศิลาทรราชของข้า!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง “ยิ่งกว่านั้น ที่นั่นยังมีเรื่องใหญ่มากรออยู่ จำเป็นต้องบอกท่านบรรพชนและผู้อาวุโส ขอเชิญท่านบรรพชนและผู้อาวุโสคนหนึ่งเข้ามากับข้าด้วย เสิ้งหนี่ก็ให้มากับข้าด้วยเช่นกัน!”
สีหน้าของอี้เทียนหยุนจริงจังมาก เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ธรรมดา
“พวกเราก็เข้าไปได้เหรอ พวกเราไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์ที่จะนั่งตำแหน่งราชาภูตนะ…..”
ผู้อาวุโสเยี่ยนกับพวกคิ้วขมวด พวกเธอไม่ต้องการเข้าไป เพราะนี่เป็นกฎ ไม่สามารถเข้าไปได้ตามใจ
“ข้าได้รับป้ายศิลาทรราชนี้มาแล้ว ตอนนี้ข้าคือราชาภูต ข้าให้ท่านเข้ามา ท่านก็ต้องเข้า เข้าใจไหม?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง
“เข้าไปกัน ข้าคิดว่าเขาต้องมีเรื่องสำคัญที่อยากให้เราดู” บรรพชนเผ่าภูตไม่พูดมาก เพราะเขาก็สงสัยเช่นกันว่ามีเรื่องอะไรให้เขาเข้าไปดู โดยเฉพาะเรื่องของป้ายศิลาทรราชนี้ด้วย
พวกเธอต่างมองหน้ากัน ในเมื่อท่านบรรพชนพูดแล้ว พวกเธอก็ได้แต่หุบปากแล้วทำตาม
“พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ พวกเราจะเข้าไปเอง” บรรพชนเผ่าภูตบอกคนที่เหลือไม่ให้ตามมา ตอนนี้เรื่องราวยังไม่กระจ่างชัด ไว้รอพวกเขาเข้าไปแล้วค่อยมาบอกพวกเขาทีหลังก็ได้
อี้เทียนหยุนพยักหน้า จากนั้นก็นำพวกเขาเข้าไป เมื่อพวกเขาเข้ามา ก็พลันถูกลมหนาวพัดเข้าใส่ เย่ชิงเสวียนถูกลมหนาวพัดเข้าใส่จนตัวสั่น อี้เทียนหยุนจึงออกมายืนขวาง พร้อมกับปลดปล่อยพลังออกมา ปกป้องเธอไว้ด้านใน ไม่ให้ไอเย็นเล็ดรอดเข้าไปหาเธอได้แม้แต่น้อย
“ขอบคุณ” เย่ชิงเสวียนพูดเสียงแผ่ว
“ไม่ต้องเกรงใจ” อี้เทียนหยุนนำพวกเขาเดินต่อไป ขณะเดียวกัน เหลยหยุนก็เห็นพวกบรรพชนเช่นกัน ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรอยู่นั้น พวกเขาก็พากันเดินผ่านเขาไป โดยที่ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย
และในขณะที่กำลังจะไปถึงเขตแยกด่านนั้น บรรพชนที่อยู่ใกล้ๆ ก็ได้เอ่ยเตือน “เจ้าและคนอื่นต้องระวัง ไม่อย่างงั้นจะตกลงไปสู่บททดสอบ!”
“ท่านบรรพชน เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง มีข้าอยู่ทั้งคน”
อี้เทียนหยุนโยนป้ายศิลาทรราชออกไป จากนั้นป้ายศิลาก็หล่นลงมาจากฟ้า “ตูม” หลังจากป้ายศิลาตกลงมา ก็ได้ปลดปล่อยวงแหวนออกมารอบๆ ทำให้ภาพที่อยู่ตรงหน้าหายไป กลายเป็นเส้นทางที่นำไปสู่จุดสิ้นสุด
“นี่ นี่….” บรรพชนตกใจ แม้ว่าเขาจะเป็นนักสลักอาคมระดับจงซือ แต่จะให้ลบค่ายกลทิ้งไปง่ายๆ อย่างนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
ถ้าให้เขาทำลายค่ายกลนี้ แน่นอนว่าไม่มีปัญหา จะดีจะร้ายเขาก็เป็นนักสลักอาคมระดับจงซือ แม้ไม่อาจเทียบได้กับบรรพบุรุษ แต่อย่างน้อยการที่จะทำลายค่ายกลนี้ หากไม่ให้เวลาหลายปี ก็อย่าได้หวังว่าจะทำลายได้ แต่ที่สำคัญคือค่ายกลนี้มีไว้สำหรับทดสอบ การทำลายมันก็เหมือนกับการทรยศนั่นแหละ
“ไปกันเถอะ นี่คือพลังของป้ายศิลาทรราช”
พูดจบ อี้เทียนหยุนก็เดินนำไป หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินตาม และเมื่อเขาเรียกเก็บป้ายศิลาทรราชนี้ ทุกอย่างก็กลับคืนสภาพเดิม ป้ายศิลาทรราชนี้มีพลังในการยับยั้งค่ายกล ไม่ใช่ทำลาย
โชคดีที่ค่ายกลของที่นี่ส่วนมากเป็นระดับต้าซือ ถ้าเป็นระดับจงซือล่ะก็ ป้ายศิลาทรราชนี้คงไม่สามารถยับยั้งพลังของมันได้
เมื่อพวกเขามาถึงจุดสิ้นสุด ทันใดนั้นก็เห็นผลึกชีวิต เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ๆ ก็พลันสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่เข้มข้น ทำให้พวกเขารู้สึกสบาย
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็เดินไปหยุดตรงหน้าผลึกชีวิต จากนั้น สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง นี่เป็นสิ่งที่มีไว้ฉายซ้ำ ไม่อย่างนั้น หากให้พึ่งพาเขา เชื่อว่าพลังคงต้องอ่อนแอกว่านี้
อย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาได้ฟัง ก็พากันสูดหายใจเฮือกด้วยความตกใจกับข่าวนี้ โดยเฉพาะเรื่องของป้ายศิลาทรราช นั่นหมายความราชาภูตหลายคนก่อนหน้านั้น ตามทฤษฎีแล้วไม่ได้รับการยอมรับจริงๆ ไม่เป็นไปตามกฎแต่ดั้งเดิม!
ตอนนี้พวกเขาต่างก็พากันกระอักกระอ่วน โดยเฉพาะตัวบรรพชนเผ่าภูตเอง เป็นเพราะความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง ราชาภูตเมื่อก่อนหน้า ล้วนแต่ไม่ใช่ราชาภูตที่แท้จริง
“พอเข้าใจคร่าวๆ แล้ว รากฐานที่แท้จริงล้วนมาจากพลังชีวิต เมื่อเป็นอย่างนี้การแก้ปัญหาก็ง่ายมาก เพียงแค่หาสถานที่ที่มีพลังชีวิตมากพอ อย่างน้อยต้องไม่ด้อยกว่าผลึกชีวิตนี้ ตราบเท่าที่หาเจอ ต่อให้ต้องย้ายไปไหนก็ไม่ใช่ปัญหา”
“สุดท้ายก็เพราะป้ายศิลาทรราชนี้ มีเพียงครอบครองป้ายศิลาทรราชนี้เท่านั้น ถึงจะถูกเรียกว่าราชาภูต ตอนแรกเมื่อข้ามา แท้จริงแล้วกลับไม่สำเร็จ แต่เพราะข้าพยายามจะผ่าน สุดท้ายจึงได้รับมันมา” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่ามีใครบ้างที่มีหินอักษรรูน?”
“ข้ามี” เย่ชิงเสวียนหยิบหินอักษรรูนออกมา
หลังจากอี้เทียนหยุนรับมา เขาก็เรียกป้ายศิลาทรราชออกมา จากนั้นก็ใช้ความสามารถทำให้หินอักษรรูนพัฒนาขึ้นเป็นระดับต้าซือในพริบตา โดยที่ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีด้วยซ้ำ ก็ทำให้หินอักษรรูนเลื่อนเป็นชั้น 5 โดยที่ไม่มีความยากแม้แต่น้อย!
แต่เสียดายที่มันมีคูลดาวน์ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะทำการพัฒนาอย่างบ้าคลั่ง แต่ถึงยังไงก็สามารถใช้ได้เพียงสัปดาห์ละครั้ง แค่นี้ก็ดีแล้ว ความสามารถที่เลื่อนระดับอักษรรูน, ค่ายกล, รวมถึงอาคมขึ้นเป็นระดับต้าซือ หากคิดจะทำขายเป็นเงิน ย่อมขายได้ราคาสูงอย่างแน่นอน
ยังไงก็ตาม เพราะใช้ได้กับแค่เพราะค่ายกลแบบทั่วไป ไม่สามารถใช้ได้กับค่ายกลระดับสูง การที่จะเรียกราคาสูงเกินไป คงเป็นไปไม่ได้
แม้ว่าหลังจากที่อาวุธได้ทำการติดค่ายกลลงไปแล้ว ก็ยังสามารถใส่ค่ายกลใหม่ลงไปแทนได้อยู่ ใครบ้างที่ไม่อยากได้ของที่ดีกว่า ยังไงก็ตาม ก็มีบางคนที่ขี้เหนียว สามารถซื้อได้แต่ค่ายกลทั่วไป ซึ่งมีราคาค่อนข้างต่ำ
ค่ายกลชั้นหนึ่งกับค่ายกลทั่วไป ราคาต่างกันราวฟ้ากับเหว
“ท่านบรรพชนดูนี่ นี่หรือเปล่าคือสิ่งที่ท่านต้องการ?” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ นี่คือหินอักษรรูน….. เมื่อข้ายื่นมือไปแตะแล้วส่งพลังวิญญาณเข้าไป ก็ปรากฏหินอักษรรูนนี้ ที่บอกว่าเพื่อให้ได้รับตำแหน่งราชาภูตที่ถูกต้อง ก็คือสัญลักษณ์นี้ล่ะ” บรรพชนเผ่าภูตพูดความจริง
“อืม ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ใช่แล้วล่ะ ที่แท้ก็เพราะได้ข้อมูลผิดพลาด เพราะว่าป้ายศิลาทรราชมีหินอักษรรูนอยู่ เมื่อท่านส่งพลังเข้าไป จึงทำให้หินอักษรรูนนี้ปรากฏออกมา ท่านจึงคิดนั่นเป็นสัญลักษณ์แห่งการยอมรับเพื่อเป็นราชาภูต…..” อี้เทียนหยุนพูด “ที่ข้าล้มเหลวเมื่อก่อนหน้าไม่ใช่เพราะว่าข้าไม่มีคุณสมบัติ แต่เป็นเพราะว่าข้าไม่มีหินอักษรรูน…..”
ใช่แล้ว พวกเขาเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง เป็นความเข้าใจผิดทั้งหมดเลย!