CLS ตอนที่ 352: สังหารโหด!
หลังจากที่ขุนพลฟงเปลี่ยนร่างเป็นมังกรลม พลังของเขาก็พลันเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน พลังรบเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เขาทำการเหวี่ยงกระบี่เทพเทียนฟงในมืออย่างแรง ทำให้เกิดเป็นมวลลมมหาศาล ก่อตัวเป็นกระบี่ยักษ์ สับลงมายังร่างของอี้เทียนหยุน
ตัวคมกระบี่ยาวมากกว่าสิบจ้าง แม้ว่าจะเป็นร่างมังกรขนาดใหญ่ของอี้เทียนหยุนก็ยังเห็นว่าเป็นกระบี่ที่ใหญ่มากอยู่ดี
“แค่หนอนแมลง แสร้งเป็นมังกรต่อหน้าข้า ไสหัวไปซะ!”
ร่างขนาดใหญ่ของอี้เทียนหยุนส่ายไปมา พร้อมกับกระโจนลงไปด้านข้างเขาอย่างแรง ก่อนที่สะบัดหางมังกรที่ทรงพลังออกไปราวกับแส้ จนทำให้อากาศรอบๆ ถึงกับสั่นสะเทือน ราวกับจะบดขยี้ความว่างเปล่า!
“เปรี้ยง!”
พลังของทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน จนพากันกระเด็นออกไป แต่สามารถเห็นได้ชัดเลยว่าทางด้านของขุนพลฟงมีสภาพที่ดีกว่า เขากระเด็นออกมาหลายสิบเมตร ในขณะที่อี้เทียนหยุนถึงกลับกระเด็นกระเด้งกระดอนกับพื้น ไถลครูดเป็นทางยาว
“ตูม!”
ร่างของอี้เทียนหยุนล้มตึงลงบนร่างทหารของกองพลวายุทั้งหลาย ล้มทับพวกเขา ทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมากในทันที
“ท่านราชาภูต!”
พวกผู้อาวุโสที่มองดูอยู่ใกล้ๆ หัวใจแทบจะเต้นออกมาจากในลำคอ พวกเธออยากจะออกไปช่วยอย่างมาก แต่ก็กลัวว่าจะกลายเป็นตัวถ่วงซะมากกว่า อี้เทียนหยุนสั่งให้พวกเธออย่าเคลื่อนไหว ถ้าทำให้ขุนพลฟงรู้ตัวจนลงมือด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ พวกเธอจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย บางทียังไม่ทันได้ทำอะไรก็จะกลายเป็นฝ่ายที่ถูกฝังแทน
ความจริงแล้วอี้เทียนหยุนไม่ได้เป็นอะไรมาก มีแค่แผลเพียงผิวเผินเท่านั้น พร้อมกับรอยขีดข่วนตามร่างกาย พูดไปแล้วอีกฝ่ายก็แข็งแกร่งมาก เพียงแต่พลังป้องกันของเขานั้นมันป่าเถื่อนเกินไป ภายใต้เคล็ดวิชาเซวียนเทียน และกายทองคำ รวมกับการระเบิดของเคล็ดวิชาเทพมังกร ทำให้พลังป้องกันของเขาไต่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์
เขารู้ว่าหากเทียบกันด้านพลังโจมตีแล้วล่ะก็ ตัวเขาย่อมด้อยกว่าขุนพลฟงอย่างแน่นอน แต่ถ้าเป็นทางด้านป้องกันแล้วล่ะก็ ตัวเขาไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน เขาสามารถแบกรับพลังโจมตีของขุนพลฟงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีผลต่อเขาแม้แต่น้อย ไม่ว่าอีกฝ่ายจะโจมตีมายังไง อี้เทียนหยุนก็ยังสามารถแบกรับเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
เขากระทั่งใช้แรงปะทะที่เกิดขึ้นทำการกระโจนเข้าใส่ทหารของกองพลวายุ พร้อมกับทับร่างของพวกเขาจนบี้แบน
จากนั้น เขาก็ทะยานขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเปิดปากขนาดใหญ่จนเห็นหลุมดำ แล้วทำการดูดกลืนพลังวิญญาณที่อยู่รอบๆ กระทั่งต้นไม้ที่ถูกตัดอยู่รอบๆ ยังถูกดูดเข้ามา ด้วยแรงดูดที่มหาศาล ทำให้ทหารในกองพลวายุพากันตกใจ พร้อมกับรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ถ้าใครที่อยู่ใกล้เกินไป หรือยืนไม่มั่นคง ก็จะพากันถูกดูดเข้าไปในหลุมดำนั้น
พลังดูดกลืนของอี้เทียนหยุนไม่สามารถดูดกลืนทหารพวกนี้ได้ ถ้าสามารถดูดกลืนได้ล่ะก็ ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องดีกว่านี้อย่างแน่นอน ภายใต้แรงดูดนี้ ทำให้ต้นไม้ที่อยู่รอบๆ หรือพลังวิญญาณ ล้วนแต่ถูกดูดเข้ามา
สำหรับตัวขุนพลฟงนั้น ภายใต้พลังดูดนี้ ตัวเขายังคงนิ่งได้ ไม่ส่งผลอะไรต่อเขาแม้แต่น้อย ยังไงก็ตาม พลังวิญญาณที่เขาส่งเข้าไปในกระบี่เทพเทียนฟงก็เริ่มมีแสงซีดลง พร้อมกับเกิดการพร่าเลือดทีละน้อย พื้นดินรอบๆ เกิดเสียงครืนครั่นดังออกมา พร้อมกับปรากฏร่องรอยเหมือนกับถูกกระบี่ตัดอยู่บนพื้นดิน
“พลังป้องกันแข็งแกร่งมาก มังกรมารตัวนี้แข็งแกร่งมาก เสียแต่พลังฝึกตนที่ต่ำเกินไป ไม่อย่างนั้นข้าคงถูกมันสะกดเอาไว้แล้ว…..” ในใจขุนพลฟงปรากฏอาการแตกตื่น เขาไม่คิดว่าจะมีมังกรมารขนาดใหญ่อยู่ในป่านี้ด้วย ทั้งพลังยังถึงขั้นน่าสะพรึงกลัว โดยเฉพาะหลังจากที่เขาระเบิดพลังทั้งหมดออกมา ก็ทำได้เพียงแค่ทิ้งรอยขีดข่วนเล็กๆ ให้กับอีกฝ่าย จากนั้นก็จางหายไปในทันที
เขาไม่ได้สัมผัสกับเรื่องแบบนี้มานานแล้ว ในอดีตผู้ที่เรียกตนเองว่ามีพลังป้องกันแข็งแกร่งที่สุดเขายังฟันขาดครึ่งเป็นว่าเล่น แต่นี่อีกฝ่ายกลับเพียงแค่กระเด็นไปเท่านั้น
“ข้าอยากจะรู้นัก ว่าเจ้าจะยังดูดได้อีกนานแค่ไหน!”
ขุนพลฟงแทงกระบี่ออกไป พร้อมกับกระโจนขึ้น กลายเป็นมังกรลมร้องคำราม ก่อให้เกิดเป็นเกราะป้องกันธาตุลมรูปมังกรลมขึ้นชั้นหนึ่ง ปกคลุมร่างของเขาไว้ พร้อมกับกระโจนเข้าใส่ร่างมังกรมารของอี้เทียนหยุน
เผชิญหน้ากับขุนพลฟงที่ใกล้เข้ามา อี้เทียนหยุนยังคงรวบรวมพลังดุจเดิม ก่อนที่จะปล่อยพลังที่รวบรวมเอาไว้ตรงเข้าใส่ขุนพลฟงที่พุ่งเข้ามา
“กร่อนปฐพี!”
ลำแสงสีดำที่น่าสะพรึงถูกพ่นออกจากปากของเขา ตรงเข้าใส่ขุนพลฟงที่พุ่งเข้ามา เกราะรูปมังกรลมที่ปกคลุมร่างของเขาลดขนาดลงครึ่งหนึ่งในพริบตา ภายใต้พลังกัดกร่อนที่แข็งแกร่ง ทำให้พลังของเขาค่อยๆ ลงลงอย่างต่อเนื่อง
ลำแสงสีดำที่พ่นออกมายังคงตัดผ่านพื้นที่อื่นๆ อีก ทุกที่ที่แสงสีดำนี้ผ่าน ล้วนแต่ปรากฏร่องรอยกัดกร่อนที่รุนแรงขึ้น เกิดเป็นพื้นที่เผาไหม้สีดำแถบหนึ่ง และถ้ามองดูให้ดีแล้วล่ะก็ จะเห็นว่าพลังงานสีดำนี้ยังทำการซึมลึกลงไป ทำการกัดกร่อนพื้นที่ด้านล่างต่อไปอีก
หลังจากลำแสงหายไป ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเหลือ พื้นดินเบื้องหน้าล้วนแต่ถูกเผาไหม้ ทั้งยังทำการรุกรานไปยังพื้นที่ที่ลึกลงไป
เหล่าทหารจากกองพลวายุบางคนหนีไปทัน หลังจากที่ถูกลำแสงสีดำนี้เข้าไป ร่างกายก็พลันถูกไฟสีดำลุกไหม้ ทั้งยังรุกรานเข้าไปยังภายในร่างกาย จนทำให้พวกเขาร้องโหยหวนออกมา ไม่ว่าจะดิ้นยังไงก็ไม่สามารถดับเปลวไฟนี้ลงได้ ทำได้เพียงดีดดิ้นไปมา พร้อมกับเสียงโหยหวน จนกระทั่งถูกเปลวไฟนี้เผาจนขาดใจตาย
ลำแสงสีดำนี้ก็คือเปลวไฟ และเปลวไฟนี้ก็ได้หยุดยั้งขุนพลฟงในทันที!
“ทำการยับยั้งธาตุลมสำเร็จ พลังเพิ่มขึ้น 0.5 เท่า!”
“พลังรบ 49 ล้าน!”
“คำราม!”
พลังของเปลวเพลิงสีดำพลันรุนแรงขึ้น ระเบิดเข้าใส่ร่างเงาที่ขุนพลฟงปลดปล่อยออกมาในทันที แต่ขุนพลฟงกลับค่อนข้างดื้อ ยังคงทำการพุ่งเข้ามาต่อ พร้อมกับแทงกระบี่เข้าใส่หัวมังกรมารอย่างไม่ปรานี
“วงแหวนวายุ!”
“ฟึบ!”
กระบี่เทพเทียนฟงสั่นเบาๆ พร้อมกับยิงลำแสงสีเขียวซีดออกไป ทำการผ่าเปลวเพลิงออกไปเป็นสองส่วน พร้อมกับพุ่งเข้าใส่อี้เทียนหยุน
อี้เทียนหยุนก็ไม่นั่งรอความตาย เขาทำการพ่นหอกสีแดงออกมาจากปากในทันที จนกลายเป็นลำแสงสีแดงพุ่งผ่าน ปะทะเข้ากับกระบี่เทพเทียนฟง
“เคร้ง!”
ร่างของขุนพลฟงปลิวกระเด็น ขณะที่หอกมังกรแดงก็ได้บินทะลุจนปักลงกับพื้น ทะลุหายเข้าไปในพื้นดิน
“นี่ ยังสามารถพ่นอาวุธออกมาได้ด้วย!?”
หลังจากขุนพลฟงถูกซัดกระเด็นมา ในใจก็ให้รู้สึกตกใจอย่างยิ่ง นี่ยังพ่นอาวุธออกมาได้ด้วย?
ร่างแปลงมังกรมารของอี้เทียนหยุนแน่นอนว่าย่อมใช้อาวุธได้ นั่นก็คือการพ่นออกมาจากปากโดยตรง และแน่นอนว่าพลังของมันย่อมน่าสะพรึงไม่ต่างกัน เพื่อที่จะต้านรับขุนพลฟงอย่างราบรื่น ต่อให้ไม่สามารถถืออาวุธได้ แต่ตราบที่สามารถสะกดกองพลวายุให้อยู่ที่นี่ได้ ก็ถือว่าเขาชนะไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ตอนนี้เขาพอใจแล้ว หลังจากที่โจมตีจนขุนพลฟงกระเด็นไป เขาก็ทำการเปิดปาก พร้อมกับพ่นเปลวเพลิงสีดำออกมา กวาดเข้าใส่พื้นดินในทันที เหล่ากองพลวายุที่อยู่ข้างล่าง ต่างพากันวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น แต่ก็ถูกเปลวเพลิงสีดำเคลื่อนเข้าไปกลืนกิน เผาร่างพวกเขาจนเป็นตอตะโกน นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่ปากเท่านั้นที่ทำการโจมตี ตัวเขายังใช้ร่างมังกรขนาดใหญ่เหยียบย่ำร่างของพวกเขาจนบี้แบนติดพื้น
พริบตา กองพลวายุส่วนใหญ่ก็ถูกอี้เทียนหยุนจัดการสังหารโหดในพริบตา!