CLS ตอนที่ 354: ความโกรธของขุนพลฟง
คำพูดของอี้เทียนหยุนทำให้ความโกรธของขุนพลฟงลดลง เขารู้ว่าหากตัวเองเข้าไปในป่า ก็จะตกอยู่ภายในเขาวงกตอย่างแน่นอน และเมื่อถึงตอนนั้น เขาก็จะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ บางทีอาจจะมีชะตาเดียวกับขุนพลมังกร ที่ถูกขังอยู่ในนั้นและไม่มีวันได้กลับออกมาอีก
แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ที่เหลือทหารอยู่ 2-3 คน ทำให้เขาไม่สามารถดำเนินตามแผนการเดิมได้ต่อ
เมื่อมองไปยังทหารที่เหลืออยู่แค่ 2-3 คน ก็ทำให้ขุนพลฟงโกรธจนแทบกระอัก ภายใต้จมูกตัวเองแท้ๆ แต่คนของตนกลับถูกฆ่าจนแทบไม่เหลือ จักรพรรดิใต้พิภพเชื่อใจเขาว่าจะสามารถบดขยี้เผ่าภูตได้ จึงได้ส่งเขามา ทั้งยังมีสายตาของคนภายนอกคอยจับตาอยู่
หมายความว่าความสำเร็จหรือล้มเหลวของเขาจะกลายเป็นหน้าตาของอาณาจักรใต้พิภพ ถ้าเขาไม่สามารถทำลายเผ่าภูตได้ นั่นก็เท่ากับพ่ายแพ้ เมื่อถึงตอนนั้น อาณาจักรใต้พิภพจะต้องเสียหน้าจนหมดสิ้น ชื่อเสียงจะตกลง เพียงแค่ชนเผ่าที่อ่อนแอ ไม่คิดเลยว่าจะสามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้ เขาที่เป็นหน้าตาของอาณาจักร กลับพ่ายแพ้ต่ออีกฝ่ายโดยสมบูรณ์
ทั้งลูกน้องภายใต้บังคับบัญชาของเขาก็เหลืออยู่เพียงน้อยนิด เขาอุตส่าห์เหนื่อยยากฝึกฝนมา ตอนนี้กลับเหลืออยู่แค่ 2-3 คน สามารถนับได้ด้วยนิ้วมือเพียงข้างเดียว นี่เป็นผลลัพธ์ที่น่าสมเพชขนาดไหน กองพลวายุถือเป็นสัญลักษณ์ของเขา ตอนนี้ล่องลอยหายไปตามสายลมแล้ว
เพื่อที่จะฝึกฝนกองพลวายุให้ได้จำนวนมากขนาดนี้ จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรไปมาก ยิ่งคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เขาแทบกระอัก
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ขุนพลฟงราวกับเป็นบ้าไปแล้ว เขาแหงนหน้าพร้อมกับร้องตะโกน จากนั้นสายตาของเขาก็เพ่งมอง จับจ้องมายังต้นไม้ใหญ่ด้านหน้าอย่างดื้อด้าน จากนั้นก็ถีบเท้าลงกับพื้นอย่างแรง ก่อให้เกิดลมพายุขึ้นที่ใต้เท้าของเขา พร้อมกับกระโจนเข้ามาราวกับลูกหนัง
เขาถือกระบี่เทพเทียนฟงในมือแน่น พร้อมกับฟันเข้าใส่ต้นไม้ใหญ่ตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง เพียงแค่สองฉับ ก็สามารถตัดต้นไม้ใหญ่ขาดกลางได้ จากนั้นก็หมุนตัวไปตัดต้นไม้ต้นต่อไป เขาไม่เสียสติจนถึงขั้นที่จะบุกเข้าไปในป่า แต่คิดจะใช้ความแข็งแกร่งของตนโค่นต้นไม้พวกนี้ลง เขาไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถบุกเข้าไปจนถึงหมู่บ้านของเผ่าภูตได้!
หากว่าอี้เทียนหยุนโผล่ออกมา เขาก็จะทำการสะกดอีกฝ่ายเอาไว้เช่นก่อนหน้า ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ตราบเท่าที่สามารถบุกเข้าไปทีละน้อย แล้วรอให้อี้เทียนหยุนบุกเข้ามา นี่จึงเป็นการยิงนกสองตัวด้วยหินเพียงก้อนเดียว
“บัดซบ นี่เขาคิดจะฆ่าตัวตายหรือไง ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป แม้ว่าจะต้องใช้เวลานาน แต่อย่างมากก็ใช้เวลาอาทิตย์กว่าๆ เขาจะต้องไปถึงหมู่บ้านของพวกเราได้อย่างแน่นอน” ผู้อาวุโสเยี่ยนมองอีกฝ่ายพร้อมกับคาดการออกมา
ขุนพลฟงไม่อ่อนแอเลยสักนิด แค่เขาเพียงคนเดียวก็เทียบได้กับกองพลวายุครึ่งกองแล้ว ความเร็วในการตัดต้นไม้ของเขาก็น่าตื่นตะลึงเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าต้นไม้พวกนี้แข็งอย่างมาก แต่ภายใต้กระบี่เทพเทียนฟงในมือเขา มันราวกับเป็นการผ่าเนย แค่ครั้งเดียวก็ตัดต้นไม้จนแยกเป็นเสี่ยงๆ
อี้เทียนหยุนมารวมตัวกับพวกเธอ พร้อมกับมองไปที่สถานการณ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าหนักใจ เห็นได้ชัดว่าขุนพลฟงผู้นี้โกรธจนเป็นบ้าไปแล้ว แต่ถึงจะโกรธ อีกฝ่ายกลับไม่สูญเสียเหตุผลไป ยังคงใช้เหตุผลพร้อมกับโค่นต้นไม้อย่างบ้าคลั่ง บุกเข้าไปยังหมู่บ้านของเผ่าภูตด้วยวิธีการที่โง่ที่สุด
“ดูเหมือนว่าหากไม่ฆ่าเขา ก็จะไม่สามารถหยุดการรุกคืบของอีกฝ่ายได้” ตาของอี้เทียนหยุนเป็นประกายเย็นชาขึ้นหลายส่วน พร้อมกับเตรียมตัวที่จะโค่นอีกฝ่ายอย่างไม่ปรานี
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำอะไรขุนพลฟงผู้นี้ได้ แต่ว่าอีกฝ่ายก็ทำอะไรเขาไม่ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น คงได้แต่ใช้วิธีที่ทื่อด้านเพื่อจัดการกับอีกฝ่ายแล้ว อี้เทียนหยุนเชื่อว่าตัวเองสามารถลากถ่วงอีกฝ่ายได้ แม้ว่าขุนพลฟงจะมีพลังโจมตีที่ร้ายกาจ แต่การโจมตีของเขากลับไม่สามารถทำอะไรอี้เทียนหยุนได้ เขาคิดจะผลาญพลังอีกฝ่ายทีละน้อย โดยใช้การสนับสนุนตนเอง รวมถึงพลังป้องกันที่เป็นที่สุด เขาเชื่อว่าจะสามารถผลาญพลังอีกฝ่ายอย่างช้าๆ ได้
ถ้าระดับของเขาสูงกว่านี้ ก็คงไม่ต้องเจ็บปวดขนาดนี้ แต่ว่าระดับของทั้งสองฝ่ายต่างกันเกินไป แม้พลังป้องกันของเขาจะเหนือกว่า แต่พลังโจมตีของเขากลับไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้ ถ้าโหมดคลั่งของเขายกระดับอีกครั้งล่ะก็ ขุนพลฟงผู้นี้จะต้องตายภายใต้ฝ่ามือเขาอย่างแน่นอน
ตอนนี้ค่าความคลั่งของเขายังขาดอีกมาก แม้ว่าการได้มาของค่าความคลั่งจะง่าย แต่จำนวนที่ต้องการก็มากเกินไป ยังขาดอีกมาก ต่อให้เขาขายของทุกอย่างที่ปล้นมาได้ก็ยังไม่พอ ยังขาดอีกตั้งหลายล้านค่าความคลั่ง
“ท่านราชาภูต เมื่อกี้ท่านก็สูญเสียพลังไปมาก ถ้ายังฝืนอีก กลัวว่า….” นัยน์ตาคู่งามของเย่ชิงเสวียนเต็มไปด้วยความกังวล ผู้อาวุโสคนอื่นก็เช่นกัน พวกเธอต่างก็รู้สึกกังวลมาก
สีหน้าที่ซีดขาวของอี้เทียนหยุนเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด
“ถ้าข้าไม่ทำ เขาก็จะไปถึงหมู่บ้านของเราอย่างรวดเร็ว” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง “ไม่ว่าผลลัพธ์คราวนี้จะเป็นยังไง พวกเราก็จะต้องเริ่มอพยพออกไปในทันที! ตอนนี้พวกเรารู้วิธีแก้แล้ว ดังนั้นจึงสามารถออกไปจากที่นี่ได้โดยไม่มีปัญหา ยิ่งกว่านั้น ข้ายังสามารถจัดการขุนพลฟงผู้นี้ได้ ข้าคิดว่าหลังจากนี้พวกเขาจะต้องส่งราชครูมาอย่างแน่นอน หรือไม่งั้นก็เป็นตัวจักรพรรดิใต้พิภพเองที่จะมา พวกเขาแน่นอนว่าไม่สามารถกล้ำกลืนความอัปยศนี้เอาไว้ได้!”
ขุนพลทั้งสองที่ถูกส่งมาต่างก็ตายลงที่นี่ แล้วอย่างนี้อาณาจักรใต้พิภพจะไม่โกรธได้เหรอ? ครั้งหน้าที่มา แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่านี้แน่ ทั้งยังมาด้วยแผนการที่ชั่วร้ายยิ่งกว่า มีเพียงแต่สังหารจนกระทั่งจักรพรรดิใต้พิภพตายลง ไม่อย่างนั้น คงไม่สามารถระงับความโกรธของอาณาจักรใต้พิภพได้
แม้ว่าอี้เทียนหยุนจะไม่รู้ว่าจักรพรรดิใต้พิภพแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งกว่าขุนพลฟงมากอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าหนีได้ต้องหนี การละทิ้งที่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตราบเท่าที่คนยังมีชีวิตอยู่ก็พอ
“ใช่แล้ว ข้าก็มีความคิดนี้เหมือนกัน หลังจากที่พวกเรารู้ว่าคำสาปที่แท้คืออะไร ก็ได้คิดถึงการอพยพไว้ก่อนแล้ว แม้ว่าจะตัดใจลำบาก แต่ก็ทำได้เพียงวิธีนี้เท่านั้น หากไม่ถอย ก็มีแต่ตายสถานเดียว”
“เมื่อเป็นอย่างนี้ พวกท่านก็รีบไปเตรียมการอพยพเถอะ ข้าจะถ่วงเวลาที่นี่ให้เอง เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หากถึงตอนนั้นแล้วอีกฝ่ายไล่ตามมา ต่อให้อยากจะหนีก็หนีไม่ได้แล้ว” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง
พวกเธอพยักหน้า รู้ว่าตอนนี้ตัวเองต้องทำอะไร
“ที่นี่คงต้องฝากท่านราชาภูตแล้ว พวกเขาขอไปอพยพคนในเผ่าก่อน เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราจะรอท่านที่ทะเลสาบเทียนหยี่ ซึ่งเป็นสถานที่ลับของพวกเรา!” พวกเธอไม่พูดมาก หลังจากพูดเสร็จ ก็พากันวิ่งตรงกลับหมู่บ้านในทันที
“เสิ้งหนี่ รอเดี๋ยว!” อี้เทียนหยุนรีบร้องขึ้น
“ว่า?” เย่ชิงเสวียนถามขึ้นอย่างสงสัย
“อย่าลืมช่วยข้าเก็บหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณมาด้วยล่ะ จะเหลือไว้ให้พวกอาณาจักรใต้พิภพไม่ได้นะ!” อี้เทียนหยุนร้องเตือน
เย่ชิงเสวียนเหลือกตาใส่เขา เธอก็คิดว่าเขาจะพูดอะไร ที่แท้ก็กำลังคิดถึงหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณที่บ่อวิญญาณหยกนี่เอง
“นี่มันแน่นอนอยู่แล้ว ของสำคัญที่เอาไปได้ พวกเราย่อมไม่ทิ้งไว้อย่างแน่นอน!” เย่ชิงเสวียนพูด
“ตกลง ไว้หลังจากเสร็จเรื่องตรงนี้ แล้วข้าจะไปหา!” อี้เทียนหยุนพูดพร้อมยิ้มออกมา
หญ้าที่ให้ค่าประสบการณ์นี้ เขาจำได้ว่าที่บ่อวิญญาณหยกมีอยู่สามต้น ถ้าเปลี่ยนพวกมันเป็นค่าประสบการณ์ล่ะก็ นั่นก็เท่ากับค่าประสบการณ์หลายร้อยล้านเลยนะ แล้วอย่างนี้จะให้เขาพลาดได้ยังไง?
“ราชาของข้า พวกเราจะคอยท่านกลับมา!” นัยน์ตาสีเงินของเย่ชิงเสวียนมากไปด้วยความกังวล สุดท้ายหลังจากที่มองตาเขาคราหนึ่ง ก็ตัดใจหันหลังวิ่งจากไป
“วางใจเถอะ ข้าจะต้องกลับไปอย่างแน่นอน…..” สายตาของอี้เทียนหยุนเลื่อนมามองยังร่างของขุนพลฟง พร้อมกับคิดว่าจะจัดการสังหารอีกฝ่ายยังไงดี!
กับศัตรูแล้ว ยิ่งมีน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี