CLS ตอนที่ 356: ศึกเป็นตาย!
เมื่ออี้เทียนหยุนเห็นขุนพลฟงถูกพลังตีกลับ สายตาของเขาก็มีเผยแสงเย็นชาออกมา พร้อมกับอ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีดำเข้าใส่เขาในทันที เพื่อเป็นการซ้ำเติม!
ที่เขาต้องการก็คือผลลัพธ์นี้ หลังจากเปิดดูร้านค้าไปเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็เลือกเม็ดยาคลุ้มคลั่งและเม็ดยาโชคร้ายออกมา เมื่อใช้ทั้งสองอย่างร่วมกัน จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมายิ่งใหญ่มาก โดยเฉพาะเม็ดยาโชคร้ายที่ส่งผลต่อฝ่ายตรงข้ามในระหว่างต่อสู้ มันช่วยให้เขาได้เปรียบเหนือศัตรูอย่างมหาศาล
แม้ว่าจะไม่เหนือกว่าจนกินขาด แต่อย่างน้อยก็สามารถก่อกวนอีกฝ่ายได้ และสถานการณ์ในตอนนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ดีที่สุด หลังจากได้รับเอฟเฟ็กของเม็ดยาโชคร้ายเข้าไป ขุนพลฟงก็ถูกพลังตีกลับในทันที ทำให้พลังรบของเขาตกลงไป
เมื่อเปลวเพลิงสีดำพุ่งเข้ามา ขุนพลฟงก็รีบหลบไปด้านข้างในทันที แต่เพิ่งจะวิ่งไปได้สองก้าว อยู่ๆ เท้าของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับรากไม้ ทำให้ล้มลง ก่อนที่จะถูกเปลวเพลิงสีดำคลุมร่าง พร้อมกับทำการเผาร่างของเขาในทันที
“อ๊ากกกก……”
ขุนพลฟงร้องออกมา เพราะได้รับการตีกลับของพลังอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เขาไม่สามารถปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันร่างกายตนเองได้ ทำให้เพียงปล่อยให้ชุดเกราะที่สวมใส่ทำการต้านทานไป ยังไงก็ตาม ชุดเกราะที่เขาสวมอยู่ก็ยังต้องการพลังวิญญาณเข้าไปเพื่อช่วยปลดปล่อยพลังออกมาอยู่ดี
ดังนั้น เปลวเพลิงสีดำนี้จึงได้ทำการอาบร่างของเขาได้อย่างราบรื่น เผาร่างกายภายนอกของเขา จนต้องส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา
“สลายไปซะ!”
ขุนพลฟงคำรามอย่างเดือดดาล พร้อมกับโคจรพลังในร่างอย่างรวดเร็ว อึดใจต่อมา เขาก็สามารถกดผลของการตีกลับของพลังได้ จากนั้นก็จึงได้ระเบิดพลังออกมา “เปรี้ยง” แรงระเบิดกระจายออกทุกทิศทาง ทำการขจัดเปลวเพลิงที่ปกคลุมร่างของเขาออกไป
ยังไงก็ตาม บนร่างของเขายังปรากฏรอยไหม้ขนาดใหญ่ ดูแล้วน่ากลัวอย่างมาก เปลวเพลิงสีดำนี้ได้อาบร่างของเขาอยู่ระยะหนึ่ง ดังนั้นหลังจากที่ลุกไหม้ จึงหลงเหลือรอยแผลไว้
“แค่ก…..”
หลังจากที่ขุนพลฟงทำการขับไล่เปลวเพลิงสีดำนี้ออกไป เขาก็พลันกระอักเลือดออกมา เพราะเขาฝืนใช้พลังขณะที่รับผลของการตีกลับของพลังอยู่ ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บหนัก เมื่อรวมกับการเผาผลาญแกนโลหิตไปด้วย ทำให้อาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้หนักเพิ่มขึ้นไปอีก
อึดใจต่อมา อี้เทียนหยุนก็ทำการเข่นฆ่าเข้ามา ไม่รู้ว่าเขากลับร่างเป็นมนุษย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ในมือของเขากำลังหอกมังกรแดง บนตัวสวมชุดเกราะมังกรแดง ที่เท้าสวมรองเท้าศึกมังกร พริบตาก็สวมอุปกรณ์เซ็ตหนึ่งได้สำเร็จ!
“ติ๊ง ท่านสวมใส่หอกมังกรแดงสำเร็จ!”
“ติ๊ง ท่านสวมใส่ชุดเกราะมังกรแดงสำเร็จ!”
“ติ๊ง ท่านสวมใส่รองเท้าศึกมังกรแดงสำเร็จ!”
“ติ๊ง ท่านสวมใส่ชุดเซ็ตมังกรแดง ทำให้รับผลเพิ่มพลัง 12 เท่า, พลังป้องกัน 5 เท่า, ขณะที่โจมตี มีโอกาสที่จะปลดปล่อยร่างเงามังกรแดงออกมา!”
“ติ๊ง ท่านเสียค่าความคลั่ง 5,000, เปิดใช้งานมังกรแดงคำราม!”
พลังป้องกันของชุดเกราะมังกรแดงนั้นด้อยกว่าชุดเกราะมังกรมาร แต่ว่าทางด้านพลังโจมตีกลับเหนือกว่าเล็กน้อย ทำให้พลังโจมตีของเขาแข็งแกร่งขึ้น
ชุดเกราะมังกรมารนั้นจะช่วยทำให้พลังรบโดยรวมแข็งแกร่งขึ้น ยิ่งเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีร่างกายขนาดใหญ่ยิ่งได้ผลมาก รวมถึงพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถรับบทเป็นโล่เนื้อได้!
แต่ในตอนนี้เขาไม่ต้องการ สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้ก็คือพลังโจมตีที่แข็งแกร่ง เพื่อที่จะสังหารขุนพลฟงที่ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยนี้ เขาจึงได้ทำการโจมตีเขาอย่างไม่ปรานี
“ติ๊ง เม็ดยาระเบิดเทวะทำงาน!”
เขาทำการกินเม็ดยาระเบิดเทวะเข้าไป ทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าในทันที ตอนนี้ร่างของเขากลายเป็นเหมือนกับดาวหางสีแดง ที่กำลังพุ่งเข้าใส่ขุนพลฟง
“มาได้ดี!” ขุนพลฟงต้องการต้านรับกับอีกฝ่ายซึ่งหน้า เขาทำการกุมกระบี่เทพเทียนฟงเตรียมรับหน้า แต่กลับมีเปลวเพลิงสีดำสองสายพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง ทำให้เขาต้องเผชิญกับความทุกข์ยากจากด้านหลัง
เขาในตอนนี้ทำได้เพียงรีบหลบให้ไว แต่อี้เทียนหยุนกลับไวกว่า ทำการแทงหอกเข้ามาอย่างไม่ปรานี ในพริบตานี้ ความเร็วของเขาก็ได้เหนือไปกว่าขุนพลฟงผู้นี้อย่างไม่คาดคิด ทำให้ฝั่งตรงข้ามตกใจ อยู่ๆ ทำไมความเร็วถึงได้เพิ่มขึ้นมากขนาดนี้กัน?
และในพริบตาที่เข้ามาใกล้จนแทบจะประชิดตัวนี้ เขาก็ได้ผลาญค่าความคลั่ง 5,000 แต้มในทันที
“มังกรแดงคำราม!”
“คำราม!”
มังกรแดงตัวยักษ์โผล่ออกมาจากในร่างของเขา พร้อมกับอ้าปากขนาดใหญ่ของมันแล้วพ่นลำแสงสีแดงออกไป บังคับให้ขุนพลฟงจำต้องยกกระบี่ที่เตรียมจะใช้ป้องกันด้านหลัง ตวัดกลับมายังด้านหน้า เพียงแต่ลำแสงสีแดงที่พ่นออกมานี้กลับไม่ใช่แค่การโจมตีธรรมดา แต่เป็นการโจมตีจากเปลวเพลิงที่มีฤทธิ์เผาไหม้สุดร้อนแรง!
ในขณะที่ท่าของเขาเป็นธาตุลม ทำให้มันเพิ่มพลังให้กับการโจมตีของอี้เทียนหยุนแทน
“เปรี้ยง!”
พลังรบของเขาพลันเพิ่มขึ้นเป็น 55 ล้าน! เกือบจะเทียบได้กับพลังรบของขุนพลฟงเมื่อก่อนหน้า แต่ระหว่างต่อสู้ ฝั่งตรงข้ามได้อ่อนแอลง ทำให้ต่างออกไป
ขุนพลฟงครางเสียงต่ำออกมา ในขณะที่เปลวเพลิงพุ่งผ่านร่าง พร้อมกับคลุมร่างเขาไว้ข้างใน และในพริบตาที่เปลวเพลิงสีแดงกำลังแผดเผาร่างของเขา เปลวเพลิงสีดำก็พลันซ้ำเข้ามา ร่างโคลนของมังกรดำสองตัวที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ใช่เครื่องประดับ ในที่สุดการโจมตีของพวกมันก็มาถึง
แม้ว่าพลังของมันจะต่ำกว่าอี้เทียนหยุน แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอเลย เป็นพลังของระดับก่อแกนวิญญาณ สำหรับการโจมตีนี้ ไม่มีใครกล้าบอกว่าเล็กน้อยอย่างแน่นอน
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ขุนพลฟงคำรามเสียงแหบ ขณะที่ร่างกายของเขาเปล่งแสงเจิดจ้าออกมา ทำการขับไล่เปลวเพลิงที่คลุมร่างเขาไว้ ตอนนี้ผมของเขาหยิกหยอยไม่เป็นทรง ขณะที่ตามร่างกายปรากฏเส้นเลือดผุดขึ้นมาแน่นขนัด ทั้งร่างดูคล้ายกับคนบ้า ที่พร้อมจะทุ่มทุกสิ่งอย่าง
ไม่คิดว่าหลังจากรับการโจมตีไปขนาดนี้แล้ว ขุนพลฟงยังจะมีสติและเรี่ยวแรงพอที่จะระเบิดพลังออกมาอีกครั้ง
โดยที่ไม่สนใจการโจมตีจากด้านหลัง เขาทำการพุ่งเข้าใส่อี้เทียนหยุน พร้อมกับแทงกระบี่ในมือออกไปด้วยทุกอย่างที่มี “ฉวะ” และในพริบตานี้ กระบี่ก็ได้แทงเฉียดไหล่ของอี้เทียนหยุน จนเลือดสาดกระจายออกมา
โชคดีที่เขาหลบได้เร็ว ไม่อย่างนั้นไหล่ของเขาคงถูกแทงทะลุเป็นรูไปแล้ว
“คนที่จะตายคือเจ้า!”
อี้เทียนหยุนหรี่ตา ดูเหมือนว่าเม็ดยาโชคร้ายนี้ บางครั้งก็ไม่สามารถควบคุมได้ ดูท่าตอนนี้คงต้องพึ่งตนเอง หลังจากนั้น เขาก็ทำการแทงหอกมังกรแดงในมือออกไป ปะทะกับอาวุธของฝ่ายตรงข้ามที่โจมตีเข้ามา
“เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!”
ภายใต้การโจมตีติดๆ กัน ทำให้อยู่ๆ ก็มีร่างเงามังกรแดงโผล่ออกมาจากหอกมังกรแดง พร้อมกับทำการพุ่งเข้าใส่ขุนพลฟงที่อยู่ใกล้ๆ แม้ว่าพลังของมันจะห่างไกลจากคำว่าน่ากลัว แต่การโจมตีกะทันหันนี้ก็ทำให้อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน
“ปัง!”
แรงกระแทกหนักๆ ตกลงที่ร่างของเขา จนร่างของขุนพลฟงถึงกับสั่น ทำให้ใบหน้าของเขาซีดขาวลงกว่าเดิม ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่ยอมถอย แต่กลับโจมตีเข้ามาอีกครั้ง แทงกระบี่เข้ามาด้วยพลังที่น่าตระหนก ภายใต้การโจมตีของกระบี่ออกไปติดๆ กันหลายครั้ง ก็ทำให้คมกระบี่สายลมเปลี่ยนเป็นลำแสงสีเขียว พร้อมกับยิงออกมา
“ผ้าคลุมเงา!”
อี้เทียนหยุนเรียกใช้ผ้าคลุมเงาอย่างไม่ลังเล เพราะความสามารถอมตะ 5 วินาที! และเพียง 5 วินาทีนี้ ก็เพียงพอที่จะรับพลังที่ระเบิดออกมาของฝ่ายตรงข้ามได้
“ปัง ปัง ปัง…..” เสียงของกระบี่สายลมสามสายดังมาติดๆ แต่ก็ถูกผ้าคลุมเงารับเอาไว้ โดยที่ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้อีกฝ่ายได้แม้แต่น้อย
ขุนพลฟงที่มองอยู่ถึงกับตาโต ไม่คิดว่าการโจมตีของตนจะไม่ได้ผล!
และในขณะที่ขุนพลฟงกำลังตาโตอยู่นั้น อี้เทียนหยุนก็ได้แทงหอกออกมาอย่างรวดเร็ว และการโจมตีในครั้งนี้ เขาล้วนทุ่มเรี่ยวแรงทั้งหมดออกมา โจมตีออกไปโดยไม่มีการออมแรง หากคิดจะสังหารขุนพลฟง มีเพียงแค่โอกาสนี้เท่านั้น