CLS ตอนที่ 359: ความคิด
มองดูค่ายกลโลกนี้แล้ว ในใจอี้เทียนหยุนรู้สึกกระทบกระเทือนอย่างมาก แล้วยิ่งเขาเห็นวาสีหน้าของเย่ชิงเสวียนซีดขาวแค่ไหนก็ยิ่งรู้ว่าเริ่มไม่เข้าท่าเข้าไปทุกที เป็นเพราะเธอสร้างค่ายกลโลกนี้จริงๆ ถ้าเขาไม่สามารถจัดการขุนพลฟงได้ เย่ชิงเสวียนจะต้องใช้มันกับร่างกายตัวเองเพื่อเข้าช่วยเขาอย่างแน่นอน
แล้วถ้าเขาถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถหนีได้ เย่ชิงเสวียนจะต้องใช้ตัวเองเพื่อพาเขาหลบหนีไปอย่างแน่นอน
แต่ถึงตอนนี้จะไม่ได้ใช้มัน เย่ชิงเสวียนก็ยังเลือกที่จะมอบมันให้กับเขา ยิ่งเห็นสีแดงฉานของมัน ก็ยิ่งทำให้ในใจของอี้เทียนหยุนรู้สึกรัดแน่น รู้สึกผิดอย่างมาก ทำเพื่อเขาถึงขนาดนี้ เขารู้สึกละอายต่อเย่ชิงเสวียนจริงๆ
“แม้แต่คำพูดของข้าเจ้าก็ไม่เชื่อฟัง แต่ก็ช่างเถอะ ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า” อี้เทียนหยุนสั่งให้เธอนั่งลง จากนั้นก็หยิบเอาหยกโลหิตออกมา ของสิ่งนี้ยังไม่หมดคุณค่า ยังมีอีกมากที่ยังไม่ได้ใช้ สิ่งนี้แน่นอนว่าย่อมหายาก ราคาในร้านค้าก็สูงถึง 1 ล้านค่าความคลั่ง ปกติแล้ว เขาไม่กล้าจะใช้มันด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านี้แม้ชิเสวี่ยอวิ๋นจะใช้ไปมาก แต่ก็ยังใช้ไปไม่ถึงครึ่ง เห็นได้ชัดว่ามันมีปริมาณมากขนาดไหน ยังไงก็ตาม ยิ่งมีพลังแข็งแกร่งเท่าไหร่ การเผาผลาญก็ยิ่งมากตาม ยิ่งระดับหลังๆ ยิ่งมีระดับการเผาผลาญที่สูงจนน่ากลัว
“เจ้ารีบใช้หยกโลหิตนี้รักษาตัวเร็วเข้า ไม่อย่างนั้น การฝึกฝนในอนาคตของเจ้าจะได้รับผลกระทบ” อี้เทียนหยุนยัดหยกโลหิตเข้าใส่อ้อมแขนของเธอ บอกให้เธอรีบใช้มัน
“นี่มันสมบัติอะไรกัน ข้ารู้สึกถึงเลือดฉีที่แข็งแกร่งมาก” เมื่อหยกโลหิตถูกยัดเข้าใส่มือเย่ชิงเสวียน เธอก็พลันสัมผัสได้ถึงเลือดฉีที่แข็งแกร่งมากกำลังทะลักเข้ามา ทำการทะลวงเข้าไปในร่างของเธอ ทำให้เธอรู้สึกสบายอย่างมาก
“จะสมบัติอะไรก็ช่าง ขอแค่รักษาเจ้าได้ก็พอแล้ว” อี้เทียนหยุนพูด “รีบๆ ดูดซับมันเข้าไป มันจะช่วยฟื้นคืนเลือดฉีที่เสียไปให้กับเจ้า”
“สมบัตินี้ล้ำค่ามาก ของที่ช่วยบำรุงเลือดฉีได้มีอยู่น้อยมาก เจ้าเก็บไว้ใช้เองดีกว่า” เย่ชิงเสวียนส่งหยกโลหิตคืนให้กับเขา
“ฟังข้า รีบๆ ใช้มันซะ! ข้าขอสั่งเจ้าในฐานะราชาภูต ไม่ใช่ฐานะเพื่อน เข้าใจไหม?” อี้เทียนหยุนทำสีหน้าจริงจัง
“ก็ได้ ข้าจะใช้ ข้าใช้ก็ได้” เย่ชิงเสวียนยิ้มหวาน พร้อมกับเริ่มดูดซับพลังจากหยกโลหิตเข้าไป
ภายใต้การดูดกลืน ทำให้เลือดฉีที่เข้มข้นหลอมรวมเข้าไปในร่างของเธออย่างรวดเร็ว ทำให้สีหน้าที่ซีดเซียวของเธอกลายเป็นมีเลือดฝาด เอฟเฟ็กของหยกโลหิตนี้น่าสะพรึงมาก พริบตาก็ทำให้อาการดีขึ้นแล้ว! นี่เพิ่งจะเริ่มดูดกลืนเท่านั้น แต่ก็ทำให้สีหน้าของเย่ชิงเสวียนดีขึ้นมาก
“นี่ นี่มันมหัศจรรย์มาก เพียงแค่ดูดซับเข้าไปนิดเดียว ข้าก็รู้สึกว่าเลือดฉีที่ถูกใช้ไปฟื้นคืนมามากแล้ว ข้าไม่เคยเห็นสิ่งที่มหัศจรรย์อย่างนี้มาก่อน ต่อให้ใช้เม็ดยาบำรุงแกนโลหิต ก็ไม่มีทางที่จะส่งผลเร็วขนาดนี้ จำเป็นต้องใช้เวลานานมาก กว่าที่จะฟื้นคืนกลับมาได้บางส่วน” เย่ชิงเสวียนรู้สึกตกตะลึง
“นี่เป็นเพียงของเล็กน้อยที่ข้าบังเอิญไปเจอมา ไม่จำเป็นต้องหวงแหนมัน รีบรักษาตัวก่อนแล้วเข้ามากัน นี่เป็นแค่สิ่งของเท่านั้น ข้ายังมีอยู่อีกหลายร้อยชิ้น ต่อให้เจ้าจะใช้มันจนหมดก็ตาม!” อี้เทียนหยุนบอกให้เธอรีบดูดซับเลือดฉีเข้าไป เพื่อให้เธอดูดซับอย่างไม่ต้องกังวล เขาจึงต้องหลอกเธอว่ายังมีหยกโลหิตนี้อีกหลายร้อยอัน
“มีอีกหลายร้อยชิ้น ต่อให้คิดจะหลอกข้าก็ไม่จำเป็นต้องพูดเกินจริงขนาดนั้นก็ได้!” เย่ชิงเสวียนร้องแหวออกมา คิดว่าคำพูดของเขาไม่น่าเชื่อถือ
“ข้าจะไปหลอกเจ้าทำไม รีบๆ ดูดซับเข้าไปเร็วๆ เข้าใจไหม?” อี้เทียนหยุนถลึงตาใส่เธอ
“ก็ได้ ก็ได้” เย่ชิงเสวียนรู้สึกช่วยไม่ได้ จึงได้แต่ดูดซับมัน
เพียงไม่นาน เธอก็ดูดซับพลังออกไปจากหยกโลหิตเกือบจะ 50% ตอนนี้แกนโลหิตของเธอฟื้นคืนมาแล้ว กลิ่นอายที่เปล่งออกมาไม่ต่างจากช่วงก่อนหน้า ก่อนหน้านี้เธอมีท่าทางราวกับคนป่วยหนัก จะเดินยังไม่มั่นคง สภาพนั้นต่อให้เป็นผู้ฝึกตนก็ยากจะฝืน จำเป็นต้องใช้เม็ดยาจำนวนมาก และใช้เวลาอีกหลายปีถึงจะสามารถรักษาให้หายสนิท
ไม่อย่างนั้นพวกขุนพลมังกร หากไม่เจอกับช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดก็ไม่เต็มใจที่จะผลาญแกนโลหิตเช่นกัน เพราะการผลาญแกนโลหิตยากที่จะรักษาหาย ทั้งยังมีผลเสียมากเกินไป ส่งผลกับการฝึกตนไม่ใช่น้อยๆ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าใช้มันตามใจ
ถ้าเกิดสามารถรักษาหายได้ไวล่ะก็ ยามที่ต้องต่อสู้ พวกเขาคงระเบิดมันออกมานานแล้ว บางทีอาจจะระเบิดพลังออกมาตั้งแต่เริ่มการต่อสู้แล้วก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ใช้ช่วงเวลาจวนตัวหรอก
“ข้าฟื้นตัวเสร็จแล้ว ของสิ่งนี้ช่างมหัศจรรย์จริงๆ” เย่ชิงเสวียนส่งหยกโลหิตนี้คืนอี้เทียนหยุน พร้อมกับถามอย่างสงสัยว่า “เจ้ามีอยู่หลายร้อยอันจริงๆ เหรอ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว” อี้เทียนหยุนยิ้ม จากนั้นก็พูดต่อว่า “แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนนะ”
“เจ้า เจ้าหลอกข้าจริงๆ สินะ!” เย่ชิงเสวียนร้องหึออกมา รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
อี้เทียนหยุนยิ้ม จากนั้นก็พูดว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้แล้ว พวกเขารีบกลับกันดีกว่า ถ้าเกิดว่ามีกองกำลังอีกฝ่ายตามมาล่ะก็ พวกเราคงยากที่จะออกไปจากที่นี่ได้”
“อืม!” สีหน้าของเย่ชิงเสวียนจมลง รู้ว่าตอนนี้ยังอยู่ในช่วงอันตราย
หลังจากการปล้นแล้วเสร็จ อี้เทียนหยุนก็พาเย่ชิงเสวียนออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว อย่างแรกต้องกลับไปดูสถานการณ์ที่หมู่บ้านเผ่าภูตก่อน ยังไงก็ตาม เมื่อพวกเขากลับไปถึง ก็พบว่าเผ่าภูตได้พากันอพยพไปกันแล้ว อะไรที่นำไปได้ก็นำไปหมด
เผ่าภูตทุกคนล้วนแต่มีแหวนเก็บของ ดังนั้นการจะนำของล้ำค่าติดตัวไปย่อมเป็นเรื่องง่าย กระทั่งผลึกชีวิตยังถูกกวาดเอาไปด้วย จะเหลือก็แต่สิ่งที่ไม่สามารถเอาไปได้ เสียดายที่ไม่สามารถนำสถูปวิญญาณนี้ไปด้วยได้ จึงทำได้เพียงทิ้งมันไว้ที่นี่
“สถูปวิญญาณ” เย่ชิงเสวียนมองไปยังสถูปวิญญาณแล้วถอนหายใจออกมา “ในที่สุดก็ต้องเลือกที่จะทิ้งที่นี่ไป”
“พวกเราแค่จากไปชั่วคราวเท่านั้น ถ้าหลังจากนี้พวกเราสามารถกำจัดอาณาจักรใต้พิภพจนสิ้นซากได้เมื่อไหร่ พวกเราก็สามารถกลับมาได้ทุกเมื่อ” อี้เทียนหยุนพูดปลอบเธอ
“อืม จะต้องกำจัดอาณาจักรใต้พิภพให้สิ้นซาก!” นัยน์ตาสีเงินของเย่ชิงเสวียนเปล่งประกายเย็นเยียบออกมา
จากนั้นพวกเขาก็พากันออกจากที่นี่ไป ตรงไปยังจุดนัดหมายที่อยู่อีกฝั่ง หลังจากมาถึง เผ่าภูตทุกคนก็ได้กำลังรอพวกเขาอยู่ เมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมา ก็พากันแสดงสีหน้าดีใจออกมา
“ท่านราชาภูตกลับมาแล้ว ท่านราชาภูตกลับมาแล้ว!” พวกเขาพากันโห่ร้องแสดงการต้อนรับ เมื่อเห็นราชาภูตของพวกเขากลับมา พวกเขาก็พากันโล่งใจ
“ข้ามีเรื่องจะประกาศให้ทุกคนฟัง ท่านราชาภูตของพวกเรา เขาได้จัดการสังหารขุนพลฟงด้วยมือของเขาเอง ทำลายแม่ทัพใหญ่ของอาณาจักรใต้พิภพอย่างสมบูรณ์!” เย่ชิงเสวียนทำการประกาศออกไป
ทุกคนพากันตกตะลึงไปในทันที จากนั้นก็พากันโห่ร้องออกมา พร้อมกับทำการกระโดดโลดเต้นอย่างมีชีวิตชีวา
“ท่านราชาภูตร้ายกาจมาก ข้าบอกแล้วว่าท่านราชาภูตไม่กลัวขุนพลฟง!”
“ใช่แล้ว ราชาภูตของพวกเราไร้เทียมทาน แข็งแกร่งที่สุด!”
“ผายลม ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้นี้เจ้ากังวลว่าท่านราชาภูตจะไม่สามารถหนีกลับมาได้หรอกเหรอ?”
“ข้า ข้าก็แค่เป็นห่วงไม่ได้หรือไง”
พวกเขาพากันโห่ร้องออกมา ความนิยมของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทำให้ค่าความดีของอี้เทียนหยุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
“ท่านราชาภูต ไม่ทราบว่าเราจะพากันย้ายไปที่ไหน?” ผู้อาวุโสเยี่ยนกับพวกหลังจากที่หายตื่นเต้นแล้ว ก็พากันถึงเรื่องข้างหน้า
“พวกเราจะไปที่ทวีปตี้จิ่งกัน ไปหลบที่ทางนั้นก่อน ตรงนั้นเป็นถิ่นของข้า เหมาะที่จะใช้อยู่อาศัย” ตาของอี้เทียนหยุนเป็นประกาย ภารกิจใกล้จะสำเร็จอีกอันแล้ว