CLS ตอนที่ 370: ออกเดินทาง
ในขณะที่เริ่นจื่อโหรวเตรียมจะออกเดินทางนั้น ก็ได้มีขุนนางเข้ามาขวางเธอ(เปลี่ยนจากต้าเฉินเป็นขุนนางนะครับ)
“องค์หญิง พระองค์กำลังจะไปไหนพะยะค่ะ?” ขุนนางคนหนึ่งถามขึ้น
“ขุนนางหลิว ข้ากำลังจะไปยังถ้ำมังกรขด เพื่อค้นหาพี่ชายของข้า!” เริ่นจื่อโหรวไม่ปิดบัง เพราะขุนนางหลิวตรงหน้านี้ เป็นคนที่ไว้ใจได้
“นี่ นี่ทำไม่ได้นะพะยะค่ะ! จักรพรรดิเริ่นเกิดอุบัติเหตุที่นั่น แล้วอย่างนี้พระองค์ยังจะไปอีก ยิ่งกว่านั้น พระองค์ไม่สามารถไปจากเมืองหลวงได้ ถ้าพระองค์ไปจากเมืองหลวง มันจะยิ่งอันตรายนะพะยะค่ะ!” ขุนนางหลิวห้ามปรามอย่างจริงใจ
“ที่นี่น่ะเหรอปลอดภัย? แล้วการลอบสังหารก่อนหน้านี้ล่ะ?” เริ่นจื่อโหรวส่ายหัว “ก่อนหน้านี้ข้าก็ได้บอกไปแล้ว ว่าหลังจากที่เรื่องภายในเริ่มดำเนินการ ข้าก็จะไปยังถ้ำมังกรขดทันที ข้าเชื่อว่าท่านพี่ยังไม่ตาย เขาจะต้องถูกขังอยู่ที่ไหนสักที่อย่างแน่นอน!”
“หากอยู่ที่นี่ องค์หญิงก็จะสามารถใช้สมบัติลับเทียนหลงได้ ถ้าออกจากเมืองหลวงไป ท่านก็จะไม่สามารถใช้สมบัติลับเทียนหลงได้…..” ใบหน้าของขุนนางหลิวเต็มไปด้วยความกังวล เขาไม่อยากให้เธอออกไปจากเมืองหลวงแห่งนี้
อี้เทียนหยุนที่ฟังอยู่ใกล้ๆ ก็ตกใจ เริ่นจื่อโหรวสามารถใช้สมบัติลับเทียนหลงได้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่จากคำพูดของขุนนางหลิว ดูเหมือนว่าสมบัติลับเทียนหลงนี้จะเป็นสมบัติที่มีไว้ใช้ปกป้องตนเองสินะ? เขานึกถึงช่วงก่อนหน้า ตอนที่เขาเข้าไปช่วยเริ่นจื่อโหรว ตอนนี้ดูเหมือนว่าเริ่นจื่อโหรวกำลังจะทำอะไรบางอย่าง แต่เพราะเขาได้เข้าไปช่วย ทำให้ไม่ได้ใช้มันออกมา
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ชั่วชีวิตนี้ของข้าก็ไม่สามารถออกไปจากเมืองหลวงนี้ได้งั้นสิ?” เริ่นจื่อโหรวคิ้วขมวด “ยังไงข้าก็ต้องไปถ้ำมังกรขดให้ได้ ไม่อย่างนั้นชีวิตนี้ของข้าก็คงไม่สามารถสบายใจได้!”
“ถ้าท่านออกไปแล้วเกิดอัครเสนาบดีหลง หรือคนของอาณาจักรใต้พิภพเข้ามาลอบสังหารล่ะ นั่นจะอันตรายมากเลยนะพะยะค่ะ” ขุนนางหลิวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้าท่านจะออกไปจริงๆ ก็ให้ข้ามศพข้าไปก่อน ไม่อย่างนั้นอย่าได้หวังว่าจะออกจากเมืองหลวงนี้ไปได้!”
“ขุนนางหลิว…..” ขณะที่เริ่นจื่อโหรวอยากจะพูดอะไรอยู่นั้น อี้เทียนหยุนที่อยู่ใกล้ๆ ก็ได้ยื่นมือออกมาขวางเสียก่อน
“เหมือนว่าถ้าให้เจ้าอยู่ที่นี่ คงจะปลอดภัยกว่าสินะ ข้าไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม?” อี้เทียนหยุนถาม
“เรื่องนี้ไม่สามารถยืนยันได้ สหายท่านนี้ ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าเป็นใคร แต่ก็ต้องขอบคุณอย่างมากที่ช่วยองค์หญิงไว้ องค์หญิงสามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงได้ ตราบเท่าที่ยังอยู่ในอาณาเขตเมืองหลวงแห่งนี้ ก็สามารถใช้สมบัติลับเทียนหลงป้องกันตัวได้ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีอะไร ต่อให้มาจากผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น!” ขุนนางหลิวพูดอย่างจริงจัง “ถ้ามีศัตรูโจมตีเข้ามา ตราบเท่าที่เปิดใช้งานสมบัติลับเทียนหลง เมืองหลวงแห่งนี้ก็จะกลายเป็นป้อมปราการไร้พ่าย ไม่มีใครที่จะสามารถทำลายมันได้ อีกทั้งยังสามารถอัญเชิญมังกรสวรรค์ออกมาเพื่อโจมตีศัตรู แล้วแบบนี้เจ้าคิดว่ามันปลอดภัยไหมล่ะ?”
“นี่…. แล้วทำไมก่อนหน้านี้เจ้าไม่ใช้?” อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว จากที่ฟัง ของสิ่งนี้ดูแล้วร้ายกาจอย่างมาก
“ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าสามารถจัดการกับพวกมันได้ ดังนั้นจึงไม่ใช้…..” เริ่นจื่อโหรวเลือกที่จะสภาพออกมาแต่โดยดี
“งั้นเจ้าก็อยู่ที่นี่ ข้าจะไปคนเดียว” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่สนใจ
“แต่ว่า……”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เจ้าอยู่ที่นี่ รอฟังข่าวจากข้า เข้าใจไหม?” อี้เทียนหยุนจ้องเธอ ออกคำสั่งเธอในฐานะพี่ชาย
“ก็ได้….” เริ่นจื่อโหรวยอมเชื่อฟังในที่สุด
ขุนนางหลิวที่อยู่ใกล้ๆ ก็มองอี้เทียนหยุนด้วยท่าทางตกใจ ไม่รู้ว่าอี้เทียนหยุนคนนี้โผล่มาจากไหน ถึงกลับสามารถทำให้องค์หญิงเชื่อฟังได้โดยไม่คาดคิด
“อืม ดีมาก เจ้าอยู่ที่นี่จะปลอดภัยกว่า ข้าจะไปถ้ำมังกรขดช่วยเจ้าค้นหาเอง ตราบเท่าที่จักรพรรดิเริ่นไม่ได้ถูกจับตัวไป ต่อให้เป็นโครงกระดูก ข้าก็จะต้องพาเขากับมาหาเจ้าให้จงได้!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง “ขอแค่เจ้าอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัย แค่นี้ก็พอแล้ว”
“ท่านพี่….” เริ่นจื่อโหรวพยักหน้า นัยน์ตาคู่งามเป็นประกายสว่างไสว “ท่านต้องระวังตัวนะ…. ใช่แล้ว นี่คือต่างหูหยกเทียนหลง ท่านนำมันติดตัวไว้ หากเผชิญอันตรายล่ะก็ ให้ท่านทำการขยี้มัน มันจะช่วยป้องกันการโจมตีได้ชั่วขณะหนึ่ง ส่วนนี้เป็นรูปเหมือนของพี่ชายข้า…..”
เธอส่งต่างหูหยกพร้อมกับภาพใบหนึ่งให้กับเขา หลังจากขุนนางหลิวเห็น ก็พลันอ้าปากกว้าง พูดไม่ออกไปโดยทันที
“ตกลง ภาพกับต่างหูหยกนี้ข้าขอรับไว้” อี้เทียนหยุนเข้าใจว่านี่ต้องไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน เขาจึงใช้ดวงตาประเมินทำการสำรวจข้อมูลของมันในทันที
ต่างหูหยกเทียนหลง : สมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง, เมื่อใช้จะปรากฏโล่ป้องกันขึ้น 1 ชั้น สามารถป้องกันการโจมตีของระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 5 ลงมาได้ชั่วธูปไหม้หมดดอก หลังจากใช้งาน จะต้องใช้เวลาฟื้นตัวเป็นเวลา 1 เดือน
นี่คือสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง ไม่แปลกที่ขุนนางหลิวจะตาโตขนาดนั้น นี่เป็นสมบัติส่วนตัวของเริ่นจื่อโหรว เมื่อใช้ มันสามารถป้องกันการโจมตีจากผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ได้อย่างง่ายดาย แต่เธอกลับมอบมันให้กับอี้เทียนหยุนจริงๆ
แม้ว่านี่จะเป็นของดี แต่กลับไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเท่าไหร่นัก เขารับมันเพื่อความสบายใจของเริ่นจื่อโหรวเท่านั้น เขาเชื่อว่าหากไม่รับต่างหูหยกนี้ เริ่นจื่อโหรวจะต้องไม่ยอม และตามเขาไปอย่างแน่นอน
ส่วนภาพหนุ่มหล่อคนนี้ ดูแล้วก็คล้ายกับเริ่นจื่อโหรวอย่างมาก
“ท่านต้องระวังให้มาก ข้ารู้ว่าตอนนี้ระดับของท่านไม่ต่ำ ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าข้าไปแล้ว แต่ยังไงก็ต้องระวังตัวให้ดี…..” เริ่นจื่อโหรวพูดอย่างเป็นห่วง
เธอไม่ใช่คนโง่ ตอนที่อี้เทียนหยุนลงมือช่วยเธอเมื่อก่อนหน้า ก็ทำให้เธอรู้แล้วว่าอี้เทียนหยุนนั้นแข็งแกร่งมาก ขุนพลหวังนั้น จะดีจะร้ายก็เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 6 แต่ก็ถูกเขาจัดการในกระบวนท่าเดียว ระดับของเขาจะต้องไปถึงระดับผันแปรวิญญาณแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งยังเป็นระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงด้วย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถทำอย่างนี้ได้อย่างแน่นอน
“ไม่มีปัญหา…. ยังไงก็ตาม ก่อนหน้านั้น ข้าต้องการคนปลอมตัวออกไปเป็นเพื่อนอีกคน เพื่อหลอกว่าเจ้าไปด้วยกันกับข้า” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “ให้พวกเขาคิดว่าเจ้าไปกับข้า จากนั้นจะได้ส่งคนมาจับตัวพวกเรา….. ข้าจะใช้โอกาสนี้หว่านแหจับพวกเขาให้หมด เจ้าคิดว่าไง”
“อันนี้ข้าเห็นด้วย แต่แบบนี้เจ้าจะไม่อันตรายเหรอ” ขุนนางหลิวพูดอย่างกังวล “ข้าสามารถหาคนให้เจ้าได้ คนที่ข้าส่งไปนี้ เจ้าวางใจได้เลย หากพวกเขากล้าส่งคนมาจริงๆ ข้าจะทำให้พวกเขารู้ว่าความตายเป็นยังไง”
“ไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้ ข้ามีวิธีของข้า” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “วางใจได้ ข้าไม่คิดจะล้อเล่นกับชีวิตหรอก เพราะข้ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ”
“ท่านพี่ รบกวนท่านแล้ว….” เริ่นจื่อโหรวพูดอย่างจริงจัง
อี้เทียนหยุนพยักหน้า จากนั้นก็ยืมเสื้อผ้าสักหลายชุด แล้วก็หมุนตัวจากไป ไม่รั้งอยู่ที่นี่ต่อ
“พ่อหนุ่มคนนี้ เขาจะไปหาผู้ช่วยมาจากไหน?” ขุนนางหลิวกับพวกพากันสงสัย
อี้เทียนหยุนแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องหาคนช่วย เขาทำการเรียกร่างโคลนออกมา จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มัน พร้อมกับบินออกไปด้านนอก
และเมื่อเขาเพิ่งจะบินออกไป ทันใดนั้นก็มีสายตาจับจ้องมาที่พวกเขาในทันที พร้อมกับรายงานให้กับบุคคลอื่นอย่างรวดเร็ว
“องค์หญิงออกไปแล้ว พวกเราต้องรีบตามไป!” ร่างทั้งหกพลันปรากฏขึ้น บนใบหน้าของพวกเขาพากันปรากฏรอยยิ้มแสยะ “คำสั่งของนายท่าน ผู้ชายให้ฆ่าทิ้ง ส่วนองค์หญิงให้จับมาเป็นๆ เรื่องนี้ง่ายมาก ขนาดจักรพรรดิเริ่นยังถูกกับดักของพวกเราจัดการ แค่สองคนนี้ ไม่มีปัญหา”
“ฮี่ฮี่ พี่ใหญ่ หลังจากเสร็จเรื่องนี้ พวกเราก็จะได้รับรางวัลใหญ่…..”
“ใช่แล้ว หลังจากนี้จะเป็นช่วงเวลาฉลองของพวกเรา….”
พวกเขาพากันมองตากัน พร้อมกับแสดงรอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้า จากนั้นก็ไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหายไปจากตรงหน้า