CLS ตอนที่ 376: ให้โชคกับเจ้า
หวงถิงคนนี้คิดจะใช้ความงามของตนหาที่พึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะใช้ไม่ได้กับอี้เทียนหยุน ทั้งยังไม่ส่งผลต่อสวี่เฟยด้วย เอาตรงๆ แล้ว ที่เธอมองหาคนหนุนหลัง สุดท้ายแล้วก็เพื่อผลประโยชน์ของตน ดูเหมือนว่าเธอนั้นประจบเหลียงหยวนเทียนอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วก็เพื่อหลอกใช้เขา เรื่องนี้อี้เทียนหยุนมองขาด
ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่คิดว่าสิ่งที่หวงถิงทำมันผิด เพียงแต่เขาคร้านที่จะสนใจเธอ
หลังจากตัดหวงถิงคนนี้ออกไปแล้ว พวกเขาก็ได้พบกับช่วงสงบสุขตลอดทาง ทั้งคราวนี้สวี่เฟยยังไม่ได้ค่าจ้างอีกด้วย แต่ว่าเขาก็นำทางอย่างซื่อสัตย์ เลือกหนทางที่ปลอดภัยที่สุด การที่ไม่ได้ค่าจ้าง ไม่ได้ทำให้ความกระตือรือร้นของเขาลดลง
อี้เทียนหยุนเดินตามรอยเท้าเขา พร้อมกับพยักหน้าอย่างพอใจ พูดไปแล้วเส้นทางนี้ค่อนข้างปลอดภัย แม้ว่าจะดูไม่ต่างจากสถานที่อื่น แต่เส้นทางนี้ก็ได้หลบพ้นหูตาของสัตว์อสูรที่อยู่รอบๆ
ที่นี่มีสัตว์อสูรจำนวนมาก ขอแค่ไม่ไปรุกล้ำอาณาเขตของพวกมัน พวกมันก็จะไม่ลงมือ นอกเสียจากว่าจะหิวจนทนไม่ได้จริงๆ ไม่อย่างนั้นพวกมันจะไม่ออกล่าสิ่งมีชีวิตนอกอาณาเขตของตน เส้นทางที่สวี่เฟยพาเขามานี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างปลอดภัย ทั้งยังหลบเร้นอาณาเขตของสัตว์อสูรทุกตนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“เจ้าคงจะใช้เส้นทางนี้มาหลายครั้งแล้วสินะ ไม่อย่างนั้นคงไม่คุ้นเคยขนาดนี้” อี้เทียนหยุนที่อยู่ข้างหลังถามขึ้น
เส้นทางนี้ใช่ว่าจะอาศัยโชคก็พบได้ จำเป็นต้องค้นหาเองทีละนิด
“นี่ทำให้น้องชายอี้หัวเราะแล้ว ที่จริงแล้วข้าผ่านเส้นทางนี้มาหลายครั้งแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อหาสมุนไพรวิญญาณ เชื่อว่าตัวเองจะสามารถเอามาได้ แต่ว่าวัตถุดิบสวรรค์และสมบัติปฐพีล้วนแต่มีสัตว์อสูรคอยป้องกัน ดังนั้นจึงไม่มีทางได้มาง่ายๆ นอกจากจะไปพบกับอาณาเขตที่สัตว์อสูรค่อนข้างอ่อนแอ ไม่อย่างนั้นข้าไม่กล้าเข้าไปเก็บตามใจ” สวี่เฟยยิ้ม ในรอยยิ้มเต็มไปด้วยความขมขื่น
ไม่มีใครอยากจะมายังสถานที่ที่อันตราย หลายครั้งเพื่อโอกาส หรือไม่ก็เพื่อการทะลวงผ่าน
สวี่เฟยมาที่นี่บ่อยครั้ง สามารถเห็นความคิดเขาได้อย่างชัดเจน ว่าย่อมเพื่อการทะลวงผ่าน! เพื่อความก้าวหน้าครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มพลังฝึกตนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ที่สำคัญคือเจ้ามีความรู้สึกไวต่อสิ่งรอบข้างอย่างมาก ไม่อย่างนั้นการเดินทางคงไม่ราบรื่นขนาดนี้” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่จะต้องเป็นพรสวรรค์ด้านประสาทสัมผัส เป็นประสาทสัมผัสที่จะเตือนถึงอันตรายที่จะมาถึง”
หลายคนสามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายที่เข้ามา แต่ผู้ฝึกตนบางคนมีความไวต่อสัมผัสยิ่งกว่า และสวี่เฟยก็เป็นคนประเภทนั้น
แม้ว่าเหมือนจะจำเส้นทางได้ ทำให้เดินไปมาได้สะดวก ถ้ามันง่ายอย่างนั้นอาชีพผู้นำทางคงไม่สามารถหากินได้ อาณาเขตพวกนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง ถ้าเกิดเดินตามความจำโดยไม่รู้จริง นั่นก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาได้เหมือนกัน
“ฮ่าๆ เจ้าก็ดูออกด้วย ใช่แล้ว ข้าคือผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านประสาทสัมผัส ข้าสามารถมองเห็นเหตุการณ์อันตรายที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ หากเป็นแค่อันตรายเล็กน้อย ข้าสามารถเบี่ยงเบนมันได้ทันที และเมื่อวิกฤติร้ายหายไป จากนั้นทุกอย่างก็จะราบรื่น” สวี่เฟยถอนใจ “แต่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรนัก ในอีกทางหนึ่ง นี่เป็นเพียงพรสวรรค์สวะ ไม่ได้มีความสำคัญแต่อย่างใด”
เขาแสดงรอยยิ้มที่ขมขื่นและบีบรัดออกมา เบื้องหลังรอยยิ้มนี้ ไม่รู้ว่ามีความขมขื่นมากเท่าไหร่กลบฝังอยู่
“นี่ก็ดีออก หากว่าเจ้าสามารถขึ้นเป็นพวกผู้บัญชาการที่ได้ควบคุมกองทหารกองหนึ่ง เจ้าก็สามารถใช้สัมผัสพิเศษที่เห็นอันตรายล่วงหน้าหลีกเลี่ยงอันตรายได้ ถือว่าเป็นความสามารถสายบัญชาการชั้นดีเลยด้วยซ้ำ!” อี้เทียนหยุนพึงพอใจต่อพรสวรรค์นี้มาก ถ้าสามารถเป็นผู้บัญชาการล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจ หรือการต่อสู้ ล้วนแต่เหมาะทั้งนั้น
การตัดสินใจที่ถูกต้อง เป็นกุญแจแห่งความสำเร็จตลอดกาล
“น้องชายอี้ เจ้ากำลังชมข้าอย่างงั้นเหรอ…. ในตระกูลของข้าไม่เคยมีใครพูดกับข้าอย่างนี้ มีแต่คิดจะขับไล่ข้า…..” สวี่เฟยส่ายหัว และไม่พูดเรื่องนี้ต่อ “อีกไม่ไกลก็จะถึงถ้ำมังกรขดแล้ว พวกเราเดินให้เร็วขึ้นอีกหน่อยเถอะ”
อี้เทียนหยุนพยักหน้า จากนั้นก็ก้าวตามสวี่เฟยต่อไป ภายใต้การนำของเขา หลังจากนั้นสักพัก พวกเขาก็ได้ผ่านป่าแห่งนี้ออกมาอย่างรวดเร็ว ที่ปรากฏตรงหน้าของพวกเขาก็คือยอดเขาขนาดใหญ่ ที่มีสายลมล้อมรอบ และที่อยู่ตรงยอดก็คือปากถ้ำขนาดใหญ่ที่กำลังเปิดอยู่ ดูแล้วคล้ายกับเศียรมังกรที่กำลังอ้าปาก ขณะที่ร่างกายขดตัวเป็นภูเขา
ดูแล้วเหมือนกับมีมังกรกำลังรัดพันภูเขาอยู่ ไม่แปลกที่จะเรียกว่าถ้ำมังกรขด ปากถ้ำขนาดใหญ่ที่ข้างบน สามารถให้มังกรยักษ์เข้าออกได้ ดังนั้นการที่จะมีมังกรอาศัยอยู่ จึงไม่ใช่ปัญหา
ยังไงก็ตาม นี่ก็เป็นเรื่องเมื่อเก่าก่อน ตอนนี้ถ้ำมังกรขดไม่มีมังกรยักษ์อยู่แล้ว หากไม่อพยพไปก็ล้วนแต่ตายไปแล้ว
“นี่คือถ้ำมังกรขดอย่างงั้นเหรอ ดูแล้วช่างให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่จริงๆ” อี้เทียนหยุนเหมือนกับตกตะลึงกับภาพตรงหน้า หากมองดูให้ดี ราวกับจะมีมังกรยักษ์ที่บาดตาราวกับมีชีวิตกำลังครอบครองยอดเขาอยู่
ถ้ำมังกรขดในปัจจุบันมีผู้ฝึกตนจำนวนมาก ที่กำลังไต่ขึ้นไปข้างบนไม่หยุด ดูแล้วแม้ไม่น่าจะยากเท่าไหร่ แต่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล หากคิดจะปีนถือว่ายากสุดๆ
“ใช่แล้ว นี่คือถ้ำมังกรขด ได้ยินมาว่าในนั้นมีสมบัติมากมาย แต่ก็อันตรายมากเช่นกัน ข้าไม่กล้าเข้าไป จึงส่งเจ้าได้เพียงตรงนี้เท่านั้น บนนั้นข้าไม่มีทางพาเจ้าขึ้นไปได้” สวี่เฟยพูดด้วยอย่างเต็มไปด้วยความเสียใจ
ระดับของเขานั้นออกจะต่ำเกินไป ดังนั้นจึงไม่กล้าขึ้นไป แม้ว่าบางทีข้างในนั้นอาจจะมีสมบัติจำนวนมากอยู่ แต่อย่างน้อยก็ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ด้วยระดับอย่างเขา แน่นอนว่าไม่สามารถต้านทานได้ ทำได้เพียงพาอี้เทียนหยุนมาส่งถึงตรงนี้เท่านั้น
อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย มองเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือเศษหินวิญญาณ 1,000, สิ่งนี้เจ้าควรรับไว้ มันสมควรเป็นของเจ้า” พูดจบเขาก็ส่งเศษหินวิญญาณ 1,000 ให้กับสวี่เฟย
สวี่เฟยผลักมือเขากลับ ส่ายหัวแล้วพูดว่า “น้องชายอี้ ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกไปแล้วว่าจะไม่รับเงินจากเจ้าแม้แต่แดงเดียว ต่อให้เจ้ายัดเยียดมันให้ข้า ข้าก็จะโยนมันทิ้งอยู่ดี พูดแล้วไม่คืนคำ นี่คือหลักการของข้า น้องชายอี้ได้ช่วยข้าไว้ หากยังรับเงินจากเจ้าอีก ข้าคงรู้สึกผิดอย่างมาก”
สีหน้าของเขาเด็ดเดี่ยว ไม่เหมือนคนโกหก เป็นคนที่พูดจริงทำจริง
อี้เทียนหยุนมองสองตาที่กระจ่างใสของเขา จากนั้นก็เก็บหินวิญญาณนี้กลับ พร้อมกับพูดอย่างยอมรับว่า “ก็ได้ ข้าจะไม่บังคับเจ้า แต่ข้าจะเปลี่ยนวิธี ตอนนี้ข้าจะให้โชคกับเจ้า ข้ากำลังจะเข้าไปยังถ้ำมังกรขด ไม่ทราบว่าเจ้าเต็มใจจะไปด้วยกันกับข้าไหม? ตราบเท่าที่เจ้าเดินตามข้า ข้ารับประกันว่าเจ้าจะไม่เป็นอะไร”
สวี่เฟยพลันตกใจทันที เขารู้ว่าอี้เทียนหยุนแข็งแกร่งมาก ถ้ามีอี้เทียนหยุนคอยคุ้มกัน เขาก็สามารถเข้าข้างในนั้นได้…. เขากำหมัดแน่น จากนั้นก็พยักหน้าอย่างหนักหลายครั้งติดๆ กัน “ข้าจะไป! คงต้องรบกวนน้องชายอี้แล้ว…. ไม่ ต้องเรียกว่าพี่ใหญ่อี้ ความปลอดภัยของน้องชายคนนี้ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว!”
เขาไม่ลังเลนานนัก นี่เป็นโอกาสครั้งใหญ่ของเขา ในเมื่อมีคนออกปากว่าจะช่วย แล้วเขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง?