CLS ตอนที่ 397: นักต้มตุ๋น
สมบัติลับเทียนหลงปลดปล่อยลำแสงออกมาครอบคลุมร่างของเขาเป็นพักๆ จนกระทั่งคลุมร่างเขาจนหมด จากนั้นก็หลอมเข้าไปในร่างกายเขาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นสักพัก ลำแสงนี้ก็สลายไป
หลังจากที่ลำแสงนี้สลายไป อี้เทียนหยุนพลันรู้สึกว่าตัวเขาได้หลอมรวมเข้าด้วยกันกับสมบัติลับเทียนหลงนี้ สามารถควบคุมพลังของมันได้ชั่วขณะ สถานการณ์นี้ทำให้เขาตกใจ ไม่คิดว่าการทำอย่างนี้ของเขาจะทำให้ผ่านการทดสอบอย่างไม่คาดคิด
เขาแค่ส่งพลังเขาไปยังไม่ทันได้หยดเลือดก็ได้รับการยอมรับให้เป็นนายแล้ว หรือว่าการยอมรับจะเกี่ยวกับความรู้สึก?
“สถานการณ์นี้มัน?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างสงสัย
“พี่ใหญ่ ท่านได้รับการยอมรับเสร็จสมบูรณ์แล้ว….. ท่านทำได้สำเร็จจริงๆ?” เริ่นจื่อโหรวรีบเดินเข้ามา พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก…..” อี้เทียนหยุนรู้สึกว่ามันกะทันหันเกินไป เขาแค่อยากจะลองขยับดู โดยการส่งพลังเข้าไปข้างใน แต่ใครจะคิดว่าอยู่ๆ จะได้รับการยอมรับซะงั้น
“ท่านลองดูเร็ว ดูว่าสามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงนี้ได้จริงๆ?” เริ่นจื่อโหรวพูด
อี้เทียนหยุนพยักหน้า จากนั้นก็วางมือลงไป ตามมาด้วยสมบัติลับเทียนหลงที่ปลดปล่อยลำแสงออกไป พร้อมกับคลุมร่างเขาไว้ในพริบตา ก่อเกิดเป็นโล่ป้องกันร่างกายภายนอก ดูคล้ายจะไม่สามารถแตกหักได้
“ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงนี้ได้จริงๆ” เริ่นจื่อโหรวมองดูพร้อมกับนิ่งไป แม้ว่าก่อนหน้านี้จะคิดไว้แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าสามารถทำได้จริง ก็ทำให้เธอต้องตกใจ
อัครเสนาบดีหลงที่มีสายเลือดมังกรสวรรค์ กลับไม่สามารถควบคุมได้ แต่อี้เทียนหยุนที่เป็นคนนอกกลับได้รับการยอมรับให้เป็นนาย ช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ!
“หรือว่าจะเป็นเพราะสายเลือดเทพมังกร?” อี้เทียนหยุนพลันคิดขึ้นมา เรื่องนี้อาจจะเป็นเพราะสายเลือดเทพมังกรก็เป็นได้ ถ้าไม่ใช่เพราะสายเลือดเทพมังกร เขาก็คิดไม่ออกแล้วว่าจะเป็นเพราะสาเหตุใด
ก่อนหน้านี้หลังจากที่สังหารโครงกระดูกมังกรสวรรค์ นอกจากจะได้รับค่าประสบการณ์แล้ว ยังได้รับสายเลือดเทพมังกรมาด้วย หมายความว่าสายเลือดเทพมังกรนั้นเป็นพลังที่เหนือกว่า ซึ่งเทียบได้กับสุดยอดสายเลือดของเผ่ามังกร ไม่อย่างนั้นเขาคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงได้อย่างตอนนี้?
โดยเฉพาะตอนนี้สายเลือดเทพมังกรของเขาได้เลื่อนขึ้นมาถึงขั้นที่ 5 แล้ว แม้ว่าจะยังไม่ได้ปลุกสายเลือดขึ้นอย่างเต็มที่ แต่ว่าความเข้มข้นของมันนับว่าสูงมากแล้ว สามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งออกมา ดังนั้นเรื่องความบริสุทธิ์จึงไม่จำเป็นต้องพูดถึง
ในระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เริ่นจื่อโหรวก็ได้พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ช่างเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์จริงๆ หากบอกเรื่องนี้ให้ท่านพี่ฟัง เขาจะต้องตกใจอย่างแน่นอน หากว่ากันตามกฎ พี่ใหญ่ถือได้ว่าเป็นคนของอาณาจักรเทียนหลงเรา เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็เท่ากับว่ามีคนสามคนในอาณาจักรเทียนหลงที่สามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงได้ มันจะต้องทำให้สมบัติลับเทียนหลงปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน!”
“ควบคุมด้วยกันสามคน? แล้วอย่างนี้พลังของมันจะไม่สลายไปเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างสงสัย
“แน่นอนว่าไม่ พวกเราไม่มีทางที่จะปลดปล่อยพลังทั้งหมดของสมบัติลับเทียนหลงออกมาได้ ทำได้เพียงปลดปล่อยพลังของมันออกมาได้บางส่วนเท่านั้น ซึ่งนี้เป็นเพราะว่าความแข็งแกร่งของพวกเราไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถทำให้มันปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาได้ ถ้าเกิดว่าระดับแข็งแกร่งขึ้น หรือว่าสายเลือดทรงพลังขึ้น ถ้างั้นผลลัพธ์ที่ได้คงต่างออกไป” เริ่นจื่อโหรวพูดด้วยรอยยิ้ม
อี้เทียนหยุนพยักหน้า เมื่อคิดดูแล้วก็คงใช่อย่างที่พูด หากให้ผู้ฝึกตนธรรมดาใช้อาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์หรือจิตวิญญาณ แน่นอนว่าย่อมไม่สามารถแสดงพลังทั้งหมดของมันออกมาได้ ทำได้เพียงแสดงส่วนน้อยของมันออกมา
“นี่เป็นอุบัติเหตุ ข้าแค่เข้ามาดูเฉยๆ เท่านั้น” อี้เทียนหยุนพูดพลางส่ายหัว
“ไม่ได้ นี่แสดงว่าท่านถือเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงเทียนหลงของพวกเรา!” เริ่นจื่อโหรวยิ้มหวาน ดูท่าทางมีความสุข “ข้าต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกท่านพี่ก่อน หากพวกเราสามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงด้วยกันแล้วล่ะก็ จะต้องสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงแน่นอน!”
อี้เทียนหยุนพยักหน้า พร้อมกับเดินไปด้วยกัน แต่ว่าเขาไม่ได้ออกไปด้วยกันกับเริ่นจื่อโหรว เขาวางแผนว่าจะอยู่ที่นี่ เพราะว่าเรื่องเกี่ยวกับกิจการบ้านเมือง เขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย เรื่องนี้ปล่อยให้พวกเริ่นจื่อโหรวจัดการกันไปก็พอ เขาไม่อยากจะไปคอยนั่งฟังอยู่ข้างๆ
“เกือบลืมไปเลย ข้ามีสายเลือดเทพมังกรขั้น 4 อยู่ยังไม่ทันได้เอามาผสานเลย ไม่รู้ว่าหลังจากผสานเข้าด้วยกันแล้วจะได้รับค่าประสบการณ์มากขนาดไหน” อี้เทียนหยุนเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ก่อนหน้านี้ที่สังหารขุนพลมังกร ทำให้เขาได้รับสายเลือดเทพมังกรนี้มา หลังจากผสานอันนี้เพิ่มเข้าไป สายเลือดเทพมังกรของเขาก็จะเลื่อนระดับขึ้น
แต่สายเลือดเทพมังกรขั้น 4 ในตอนนี้ แน่นอนว่าย่อมไม่สามารถทำให้เลื่อนระดับได้ แต่อย่างน้อยเขาก็อยากจะรู้ว่าจะได้ค่าประสบการณ์มากแค่ไหน
“ผสานสายเลือดเทพมังกรขั้นที่ 4 สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 1 ล้าน”
จากเสียงที่ได้ยิน เขาก็รับค่าประสบการณ์ 1 ล้านมาเรียบร้อย ถือเป็นค่าประสบการณ์ 1 ใน 5 สำหรับการเลื่อนจากขั้นที่ 5 ไปขั้นที่ 6 นั้น ต้องการค่าประสบการณ์ 5 ล้าน ซึ่งถือว่ายากมาก แต่จากค่าความคลั่งในปัจจุบันของเขา แน่นอนว่าย่อมสามารถยกเลื่อนระดับได้
แต่ว่าเขาต้องการเลื่อนระดับโหมดคลั่งก่อน ซึ่งนี่ถือเป็นฐานพลังของเขา มันสามารถยกระดับตัวเขาได้อีกหลายเท่า จึงจำเป็นต้องเลื่อนระดับให้สิ่งนี้ก่อน
“ดี ค่าประสบการณ์ 1 ล้าน พริบตาก็ร่นระยะในการเลื่อนระดับได้ถึง 1 ล้าน” อี้เทียนหยุนเอ่ยปากชม แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว
จากนั้นเขาก็มาทำการสุ่มลอตเตอรี่ต่อ สำหรับสิทธิ์ในการสุ่มลอตเตอรี่นี้ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีทางพลาด
หลังจากเปิดใช้งานโชคดี เขาก็เริ่มทำการหมุนอย่างรวดเร็ว เข็มทำการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะค่อยๆ ช้าลง จนสุดท้ายก็หยุดลงตรงหมวดของจิปาถะ
“ขนาดเปิดใช้งานโชคดียังได้ของจิปาถะ…..”
อี้เทียนหยุนรู้สึกพูดไม่ออก หลังจากนั้นเสียง “ติ๊ง” ก็ดังมา พร้อมกับกล่องหยกที่ตกลงไปในช่องเก็บไอเทมของเขา หลังจากเปิดออกมา เสียงระบบก็ดังขึ้นมาว่า
“ติ๊ง ยินดีด้วย ท่านได้รับบัตรค่าประสบการณ์ 30 เท่า!”
“เยี่ยมมาก บัตรค่าประสบการณ์ 30 เท่า” เขาแทบอยากจะตีปากตัวเอง รู้สึกพอใจอย่างสุดๆ ด้วยบัตรค่าประสบการณ์ 30 เท่านี้ เขาสามารถใช้มันเพื่อเลื่อนระดับขึ้นไปเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ได้ ซึ่งราคาของมันนั้นก็นับว่าน่าสะพรึงมาก
ราคาของมันนั้นแพงมาก แพงจนเขาไม่กล้าซื้อ ทั้งเขายังต้องการเก็บค่าความคลั่งไว้เลื่อนระดับโหมดคลั่งด้วย
หลังจากการสุ่มลอตเตอรี่จบลง เขาก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำอีก หากจะให้เอาแต่พักผ่อนอยู่ที่นี่ มันก็คงไม่มีความหมาย
“ระหว่างนี้ ข้าน่าจะไปดูที่ร้านประมูลหน่อย ดูสิว่าจะมีหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณขายไหม”
อี้เทียนหยุนไม่อยากจะนอนหลับให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นจึงทะยานออกจากกำแพงวังไปโดยที่ไม่คิดจะไปบอกพวกเริ่นจื่อโหรว เพราะในขณะที่กำลังบินผ่านทางท้องพระโรงนั้น เขาก็สังเกตเห็นว่าทางด้านนั้นกำลังคุยเรื่องที่สำคัญกันอยู่ เขาจึงไม่อยากจะเข้าไปรบกวน
อย่างรวดเร็ว เขาก็หาสถานที่สำหรับขายสมบัติที่นอกกำแพงวังพบ ซึ่งชื่อของมันนั้นตั้งได้อย่างใจกล้ามาก ชื่อว่า ตำหนักสมบัติเทียนหลง!
นี่ไม่ใช่ร้านที่ราชวงศ์เป็นคนเปิด แต่อาศัยชื่ออาณาจักรเอามาตั้ง ซึ่งชื่อแบบนี้ก็มีอยู่หลายร้าน ตัวอย่างเช่น “ร้านขายเมล็ดงาเทียนหลง” “ร้านศาสตราวุธเทียนหลง” ล้วนแต่มีหมด
หลังจากเข้าไป ทันใดนั้นก็มีคนมาต้อนรับทันที พร้อมกับรอยยิ้มหวานบนใบหน้า
“ไม่ทราบว่าคุณชายต้องการสินค้าอะไรคะ?” พนักงานต้อนรับสาวพราวเสน่ห์เดินเข้ามา พร้อมกับเอ่ยถาม
“ที่นี่มีหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณไหม ข้าอยากจะได้หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ” อี้เทียนหยุนถามออกไปตรงๆ
“หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ…. ต้องขอขอภัยคุณชายอย่างสูง ที่นี่ไม่มีหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณค่ะ” หญิงสาวพราวเสน่ห์พูดขอโทษออกมา
“ไม่มีหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ….” อี้เทียนหยุนส่ายหัว ดูเหมือนว่าเจ้าสิ่งนี้จะหายากจริงๆ
แต่ในขณะที่เขากำลังจะจากไปนั้น โชคดีที่มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างเงียบๆ ว่า “ข้ามีหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณอยู่ จะเอาไหม?”
อี้เทียนหยุนตกใจ นี่คงไม่ใช่นักต้มตุ๋นหรอกใช่ไหม? ทำไมถึงได้บังเอิญอย่างนี้