CLS ตอนที่ 398: ผลึกแดง
“เจ้ามีหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดขึ้นอย่างสงสัย
“ใช้ ข้ามีหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ ก็แค่หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ…. ตามข้ามาทางนี้ ข้ามีมันจริงๆ!” ชายวัยกลางคนคนนี้พูดด้วยท่าทางที่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ ดูแล้วไม่น่าเชื่อถือจริงๆ
ยังไงก็ตาม สำหรับอี้เทียนหยุนแล้ว ต่อให้เป็นนักต้มตุ๋น เขาก็อยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะหลอกเขายังไง
แต่เมื่อชายเจ้าเล่ห์คนนี้พาเขามาที่มุม อีกฝ่ายก็หยิบเอาหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณออกมา และบนนั้นก็มีผลึกสีแดงเล็กๆ วางอยู่ อยู่ระหว่างหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ
หลังจากเขาเห็น เขาก็รีบหยิบผลึกนี้ออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะโยนทิ้งด้านข้าง แต่อี้เทียนหยุนกลับหูตาว่องไว คว้าเอาผลึกเล็กๆ นี้ไว้ในกำมือ
“ขอโทษที ข้าไม่คิดว่าจะมีเศษหินอยู่ข้างใน เจ้าสนใจเจ้าสิ่งนี้ด้วยเหรอ?” ชายเจ้าเล่ห์ถามขึ้นอย่างสงสัย
“ก็นิดหน่อย ไม่รู้ว่าเจ้าไปได้หินนี้มาจากที่ไหน?” อี้เทียนหยุนหยิบผลึกใสสีแดงนี้ขึ้นมา พร้อมกับถามขึ้น
“เจ้าสิ่งนี้…. ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าก็เพิ่งเห็นตอนหยิบหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณออกมานี่แหละ” ดวงตาของชายคนนี้กลอกไปมา “เจ้าถามอย่างนี้เจ้าต้องการอย่างงั้นเหรอ?”
“ที่จริงก็ไม่ แต่เทียบกับสิ่งนี้ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าไปได้หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนี้มาจากที่ไหน” อี้เทียนหยุนพูดจบก็โยนมันทิ้งลงกับพื้น ราวกับหินสีแดงที่ไม่มีใครต้องการ
ชายเจ้าเล่ห์คนนั้นแสดงสีหน้าผิดหวัง จากนั้นก็ฟื้นกลับคืนอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไว้ข้าจะพาไป แล้วเจ้าจะซื้อหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนี้หรือเปล่า? ข้าขายราคาไม่แพง ตราบใดที่เจ้าให้ข้า 1 ล้านเศษหินวิญญาณก็พอ”
หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณต้นนี้เป็นของจริง รับประกันว่าจริงแท้แน่นอน เพราะดวงตาประเมินไม่เคยโกหก แต่เพราะว่าเก็บอย่างไม่ระวัง ทำให้ฤทธิ์ของมันด้อยลงขั้นใหญ่ นี่ช่างเป็นการทำให้เสียคุณประโยชน์เพราะความสะเพร่าอย่างแท้จริง แต่จะให้ปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่ได้ เพราะการเติบโตของมันช้ามาก ยิ่งกว่านั้น หากคนอื่นมาเอาไปก่อนจะให้ทำยังไง
“500,000 เศษหินวิญญาณ” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่แยแส “ที่เจ้าไปตำหนักสมบัติเทียนหลงเมื่อกี้นี้ก็เพื่อที่จะขายมันใช่ไหม? เพียงแต่ราคาที่ที่นั่นให้ย่อมต้องต่ำอย่างมากแน่นอน หากเป็นปกติข้าคงให้เจ้าแค่ 300,000 เศษหินวิญญาณ แม้ว่าหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณจะหายาก แต่ก็ไม่ได้มีราคาสูงขนาดนี้ การที่ข้าให้เจ้าเพิ่ม 200,000 ถือว่าเป็นราคาที่สูงมากแล้ว”
หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณหายากมาก ทั้งยังหาไม่ได้ตามตลาด ดังนั้นจึงได้ราคาสูง แต่ว่าฤทธิ์ของมันมีค่อนข้างจำกัด จึงสามารถเพิ่มราคาได้เพียงเล็กน้อย หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงไม่มีใครเอา
“ดูเหมือนว่าคุณชายจะเชี่ยวชาญด้านการตัดสินคุณภาพสิ่งของ…. ก็ได้ 500,000 ก็ 500,000” ชายเจ้าเล่ห์คนนั้นกัดฟันพูด เขาคิดว่าจะตกได้หมูอ้วน แต่ไม่คิดว่าจะมาพบกับผู้เชี่ยวชาญเข้า
“อืม 500,000” อี้เทียนหยุนแลกเปลี่ยนเศษหินวิญญาณจำนวน 500,000 กับอีกฝ่าย เพราะสังหารผู้เชี่ยวชาญมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ทรัพย์สินของเขามีอยู่มากมาย
อย่าว่าแต่ 500,000 เลย ต่อให้เป็น 5 ล้านเขาก็มี แต่ว่าเขาไม่อยากกลายเป็นหมูที่ถูกเชือด ต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าจะยอมให้ใครเชือดง่ายๆ ไม่อย่างนั้น ต่อให้มีเงินมากขนาดไหนก็ต้องหมดไปอยู่ดี
“ขอบคุณคุณชายมาก!” ชายเจ้าเล่ห์ยิ้มแก้มปริ พร้อมกับส่งหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณให้กับอี้เทียนหยุน พร้อมกับรับเศษหินวิญญาณจำนวน 500,000 กลับมา การแลกเปลี่ยนครั้งนี้เขาพอใจมาก
หลังจากรับมา เขาก็ทำมือทำไม้เหมือนกับเชื้อเชิญเจ้านายของตน “ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าไป”
หลังจาได้เงินแล้ว ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที ช่างเป็นคุณชายที่ร่ำรวยจริงๆ!
และในพริบตาที่ชายเจ้าเล่ห์คนนั้นหันไป อี้เทียนหยุนก็ได้ยื่นมือออกไป พร้อมกับดูดผลึกสีแดงที่อยู่บนพื้นเข้ามาในฝ่ามือทันที ก่อนที่จะเก็บมันไว้ในช่องเก็บไอเทม
ชายเจ้าเล่ห์นำเขาออกมานอกเมืองหลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อเดินออกมาข้างนอก ความเร็วของเขาก็เริ่มช้าลง กระทั่งอุปกรณ์เดินทางก็ไม่มี ทางยากจนจริงๆ
“สถานที่ที่เจ้าว่าอยู่ไกลไหม?” อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว เขาไม่อยากจะเสียเวลา
“ประมาณ 30 ลี้ ข้าใช้เวลาเดินครึ่งวันถึงจะถึง….”
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็คว้าไหล่เขา พร้อมกับถีบเท้าบินตรงไปยังทิศทางที่บอก ทำให้เขาตกใจจนวิญญาณแทบโบยบิน
“ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณ…..” ชายเจ้าเล่ห์ตกใจจนหน้าขาว จะไม่ให้กลัวได้ยังไง ตัวเขามีพลังเพียงระดับหลอมรวมขั้นที่ 2 ที่ 3 เท่านั้น จะไปเอาแรงที่ไหนไปต่อต้านผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณ
“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก ขอแค่เจ้านำทางข้าอย่างซื่อสัตย์ แต่ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้าแม้แต่น้อยล่ะก็ งั้นก็อย่ามาโทษหากว่าข้าไม่เกรงใจ!” สายตาของอี้เทียนหยุนเย็นชา
“ครับ ครับ ครับ….. ผู้น้อยทราบแล้ว ผู้น้อยทราบแล้ว…..”
อย่างรวดเร็ว ภายใต้การชี้ทางของอีกฝ่าย เขาก็ได้มาถึงที่ริมฝั่งแม่น้ำเล็กๆ หลังจากที่ปล่อยชายเจ้าเล่ห์ลง ตัวเขายังคงสั่นไม่หาย
“ข้าเจอมันที่นี่แหละ ข้าผ่านมาที่นี่แล้วบังเอิญเจอ เห็นว่าในน้ำมีอะไรบางอย่างจึงได้ลองดู ใครจะรู้ว่าจะเป็นหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ….” ชายเจ้าเล่ห์ชี้ไปยังแม่น้ำแล้วพูด
อี้เทียนหยุนกวาดสายตาไปทางแม่น้ำคราหนึ่ง ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เป็นที่นี่จริงๆ มีร่องรอยการขุดเล็กๆ อยู่ ทั้งหลุมนั้นยังไม่ถูกถมอีกด้วย
“อืม ใช้ได้ เจ้าไปได้แล้ว” อี้เทียนหยุนบอกให้เขาไปได้
“ขอบคุณคุณชาย ขอบคุณคุณชาย….” ชายเจ้าเล่ห์หมุนตัวเดินจากไป เขาไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่ครึ่งก้าว เพราะกลัวว่าอี้เทียนหยุนจะฆ่าเขา
ในที่ที่ห่างไกลผู้คนเช่นนี้ ทั้งระดับยังห่างกันมาก หากว่าถูกฆ่า อย่าว่าแต่เศษหินวิญญาณ 500,000 เลย กระทั่งชีวิตยังจะไม่เหลือ แล้วอย่างนี้จะมีเศษหินวิญญาณจำนวนมากนั้นไว้ทำไม
หลังจากอีกฝ่ายจากไป อี้เทียนหยุนก็หยิบผลึกสีแดงเล็กๆ ออกมา พร้อมกับหรี่ตาจับจ้องสำรวจผลึกภาคีฟีนิกซ์ในมือ “ไม่คิดว่าในลำธารเล็กๆ แห่งนี้จะมีผลึกภาคีฟีนิกซ์อยู่ด้วย ถ้าแค่หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณยังพอเข้าใจ แต่ไม่คิดว่ากระทั่งผลึกภาคีฟีนิกซ์จะมาอยู่ในมือข้าในราคาที่ถูกขนาดนี้….”
ผลึกสีแดงเล็กๆ ในมือเขาที่ดูไม่น่าสนใจนี้ แท้จริงแล้วคือผลึกภาคีฟีนิกซ์!
พูดตรงๆ แล้ว เมื่อยามที่ฟีนิกซ์ถือกำเนิด สิ่งนี้ก็จะปรากฏ นั่นหมายความว่า มีความเป็นไปได้ที่ใกล้ๆ นี้จะมีไข่ฟีนิกซ์อยู่ ฟีนิกซ์นี้เป็นถึงสัตว์อสูรระดับเทวะ เขาจะไปพลาดได้ยังไง ยิ่งกว่านั้นยังอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงด้วย ดังนั้นเขายังมีเวลาอยู่ ต้องรีบหาไข่ฟีนิกซ์นี้ให้เจอ
หากได้สัตว์อสูรระดับเทวะมาไว้ในครอบครอง แน่นอนว่าย่อมเป็นเรื่องที่ดี เขาไม่รังเกียจที่จะมีสัตว์ในครอบครองเพิ่มขึ้น
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็ทำการเดินไปด้านหน้า ระหว่างทางเขาก็เปิดสัมผัสวิญญาณออกถึงขีดสุด ตรวจสอบก้นแม่น้ำไม่หยุด ไม่ปล่อยให้มีอะไรหลุดรอดไปจากสายตา! เขาอยากจะดูว่าที่ก้นแม่น้ำมีทางลับหรือว่าอะไรอยู่
จากการคาดเดาของเขา บริเวณนี้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะมีฟีนิกซ์ที่มีชีวิตอยู่
จากการคาดการของเขา มันจะต้องอยู่ในบริเวณนี้อย่างแน่นอน ทั้งยังเพิ่งจะถือกำเนิดไม่นานนี้อีกด้วย ไม่อย่างนั้น มันจะมีผลึกภาคีฟีนิกซ์ตกอยู่ได้ยังไง? ฟีนิกซ์ที่มีชีวิตอยู่ หากว่าจับได้ แล้วทำการฝึกให้ดี ไม่เพียงแต่จะเป็นสัตว์ขี่เท่านั้น แต่ยังสามารถพาเขาเดินทางไปได้ทั้งสี่ทิศ!
สัตว์อสูรระดับเทวะค่อนข้างน่าสะพรึง ภายใต้ระดับเดียวกัน สัตว์อสูรระดับเทวะนี้สามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่ง หากว่าระดับต่ำเกินไป ก็สามารถให้สำนักเอาไปฝึกฝน จากนี้ไปก็จะกลายเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองสำนักไป