CLS ตอนที่ 412: จิตใจที่ไม่แน่นอนในกองทัพ
กระบวนท่านี้ของอัครเสนาบดีหลงถือเป็นการเปิดเผยฐานะของตนออกมาโดยสมบูรณ์ แล้วนี่ก็เป็นสิ่งที่อี้เทียนหยุนหวังอยากจะเห็น แม้ว่าผู้คนจะรู้ว่าอัครเสนาบดีหลงนั้นมีความสัมพันธ์กับอาณาจักรใต้พิภพ แต่ความสัมพันธ์จะลึกแค่ไหนนั้น พวกเขาไม่แน่ใจ แต่ถ้าดูจากในตอนนี้ ความสัมพันธ์ที่ว่าจะต้องลึกอย่างมาก เป็นระดับสายลับที่ถูกปลูกฝังมาอย่างแน่นอน
แม้จะรู้ว่าเขามีฐานะนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าอัครเสนาบดีหลงนั้นไม่ได้ถูกบังคับ แต่เป็นสายลับตัวเอ้ ไม่ใช่เพราะอาณาจักรเทียนหลงทำเรื่องที่ผิดต่อเขา แต่เป็นเพราะเขาเป็นคนของอีกฝั่งอยู่แล้วนั่นเอง
นี่ทำให้เหล่าแม่ทัพที่อยู่ทางฝั่งอัครเสนาบดีหลงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นข้างในใจ บางคนที่เลือกฝั่งอัครเสนาบดีหลงนั้น เหตุผลใหญ่เพราะไม่พอใจต่อตระกูลเริ่นในรุ่นนี้ จึงอยากจะให้อัครเสนาบดีเข้าไปเปลี่ยนแปลง แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วเขาจะเป็นสายลับ นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังทำงานให้กับอาณาจักรใต้พิภพ ไม่ใช่ทำเพื่อเปลี่ยนแปลงอาณาจักรเทียนหลง
ซึ่งความหมายของทั้งสองอย่างนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง พวกเขายอมรับได้หากจะมีการร่วมมือกับอาณาจักรใต้พิภพ แต่พวกเขาไม่มีทางยอมรับ ที่ต้องถูกอาณาจักรใต้พิภพบัญชาการ
พวกเขาจินตนาการว่าการเชิญอาณาจักรใต้พิภพเข้ามาช่วยในครั้งนี้ หลังจากที่การต่อสู้สิ้นสุด ก็แค่มอบรางวัลเป็นการตอบแทน อย่างนั้นอาณาจักรเทียนหลงก็ยังจะเป็นของพวกเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดน้อยเกินไป หลังจากนี้ จากชื่อเทียนหลง จะต้องเปลี่ยนเป็นใต้พิภพแล้ว
แม่ทัพทั้งหลายพากันหยุดมือในทันที ไม่ลงมือสืบต่อ
“อัครเสนาบดีหลง เจ้าหลอกข้า! เจ้า เจ้าที่แท้เป็นคนของอาณาจักรใต้พิภพ ที่ถูกส่งมาเพื่อหาทางครอบครองอาณาจักรเทียนหลง!”
“ใช่แล้ว คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะหลอกข้า! พวกเราอุตส่าห์เชื่อเจ้า เชื่อว่าเจ้าเป็นคนของอาณาจักรเทียนหลง จะต้องเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องไร้สาระ ที่แท้เจ้าก็เป็นสายลับของอาณาจักรใต้พิภพ!”
“ข้า ข้าไม่สู้แล้ว ข้าขอยอมแพ้ ข้ายอมแพ้!”
เมื่อความจริงเปิดเผย ทันใดนั้นก็มีแม่ทัพหลายคนยอมจำนน แต่ที่รอคอยพวกเขาอยู่คือฝ่ามือเทพใต้พิภพขนาดใหญ่ ที่กดทับลงมายังแม่ทัพฝั่งตนอย่างโหดเหี้ยมและเฉียบไว
“เปรี้ยง!”
แม่ทัพที่เลือกที่จะยอมจำนนต่างก็ถูกซัดจนร่างแหลก คนที่โจมตีก็คืออัครเสนาบดีหลง เขามองไปยังพวกเขาอย่างเฉยชา พริบตาก็เก็บกวาดพวกทรยศที่ยอมจำนนจนแล้วเสร็จ
อัครเสนาบดีหลงไม่คิดเลยว่าตัวเขาจะถูกไล่ต้อนจนต้องใช้กระบวนท่านี้ออกมา สายฟ้าสวรรค์เมื่อครู่นี้แข็งแกร่งมาก ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอันตราย หากไม่ใช่การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกไป เขาคงไม่สามารถที่จะต้านการการโจมตีนี้ได้
แต่ใครจะรู้ว่ากระบวนท่านี้จะเป็นการเปิดเผยตัวตนของเขาออกไป ทำให้ผู้คนที่อยู่ที่นี่รู้ว่าตัวเขานั้นเป็นสายลับ
“ทุกคนล้วนแต่ขึ้นเรือลำเดียวกันแล้ว หากใครคิดหนี ตาย! เจ้าคิดว่าเพียงแค่พูดว่ายอมจำนนแล้วพวกเขาจะยอมปล่อยให้พวกเจ้ากลับเข้าไปในป้อมปราการอย่างงั้นเหรอ?” อัครเสนาบดีหลงบินไปอีกฝั่ง พร้อมกับปรับพลังในร่าง แล้วมองมายังพวกเขาอย่างเย็นชา
คำพูดของอัครเสนาบดีหลงราวกับเสียงหัวเราะเยาะที่โจมตีเข้าไปในจิตใจของพวกเขา ต่อให้พวกเขาจะยอมจำนน แต่อีกฝ่ายจะยอมเชื่อใจ และมอบหมายหน้าที่ที่สำคัญให้กับพวกเขาอย่างงั้นเหรอ? นี่แน่นอนว่าย่อมเป็นไปไม่ได้ พวกเขาย่อมไม่มีทางเชื่อ และไม่มีวันที่จะมอบหมายหน้าที่สำคัญให้ กระทั่งอาจจะส่งคนมาเฝ้าจับตามองพวกเขาก็ได้
เมื่อเลือกที่จะหักหลัง ก็ไม่มีทางที่จะได้รับความเชื่อใจใดใดอีก ไม่มีทาง
ถ้าจะให้พูดตรงๆ หากทุกอย่างสิ้นสุด เมื่อคราวนี้สามารถทรยศได้ งั้นครั้งหน้าก็ย่อมทรยศได้เช่นกัน ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะเชื่อใจ
คำพูดนี้เป็นเหมือนกับแช่ตัวลงไปในอ่างที่เต็มไปด้วยน้ำเย็นจัด ทำให้จิตใจของพวกเขารู้สึกเหมือนมีน้ำแข็งขึ้นเกาะกุม ดูเหมือนว่าต่อให้จะยอมจำนนก็ไม่มีความหมายอะไร
“วางอาวุธลงซะ หากเลือกที่จะยอมจำนน ข้าจะไม่สืบสาวราวเรื่องอีก!” เสียงของเริ่นหลงดังกระจายออกไปทั่วทั้งพื้นที่ พูดด้วยน้ำเสียงทรงพลังว่า “พวกเจ้าก็แค่หลงผิด ข้ารู้ว่าในใจพวกเจ้านั้นต้องการทำเพื่ออาณาจักรเทียนหลง ตราบใดที่เลือกที่จะยอมจำนน ข้าก็จะไม่เอาความใดใดกับพวกเจ้า พร้อมทั้งยินดีที่จะรับพวกเจ้ากลับมาด้วยความจริงใจ!”
เริ่นหลงแน่นอนว่าไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไป สามารถลดความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามลงได้จำนวนมากในพริบตาเดียว แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาดีใจได้ยังไง? ทั้งในใจเขาก็เต็มใจที่จะยอมรับการยอมจำนนของพวกเขา แต่คิดจะให้เชื่อใจพวกเขาอีกนั้น จากนี้ไปคงเป็นไปไม่ได้ แต่แน่นอนว่าสามารถมอบอำนาจให้กับพวกเขาได้ เพียงแต่ต้องเป็นส่วนที่ไม่สำคัญ
แม้ว่านี่จะไม่สามารถระงับจิตใจที่ทรยศของพวกเขาได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นวิธีที่ดี
คำพูดของเริ่นหลงทำให้ในใจแม่ทัพหลายคนที่เลือกที่จะยอมจำนนรู้สึกดีใจ คำพูดของเริ่นหลงนั้นเชื่อใจได้ ทำให้สายตาของพวกเขาพลันเต็มไปด้วยความหวัง พวกเขาเต็มใจที่จะยอมจำนน
“หากใครยอมจำนน ข้าจะฆ่ามันผู้นั้นซะ!” เสียงที่เย็นชาของอัครเสนาบดีหลงลอยเข้าหูของพวกเขา ทำให้พวกที่คิดจะยอมจำนน ต้องรู้สึกเหน็บหนาวขึ้นข้างใน ไม่กล้าพูดออกไปแม้แต่ครึ่งคำ
“วางใจเถอะ คนที่จะตายคนแรกน่ะ คือเจ้า”
อี้เทียนหยุนน้าวคันธนูไว้คอยท่า พร้อมกับปลดปล่อยน้ำค้างแข็งพิโรธเข้าใส่อัครเสนาบดีหลง เมื่อศรน้ำแข็งดอกนี้พุ่งออกไป มันก็ได้ระเบิดพลังออกมาในทันที ไม่มีอะไรสามารถหลีกพ้นจากพลังทีป่าเถื่อนนี้ได้ ด้วยพลังรบที่มากถึง 60 ล้าน ทำให้มันไปโผล่ขึ้นตรงหน้าในพริบตาเดียว พร้อมกับเสียงแตกหักที่ดังมาจากคันศรน้ำค้างแข็งเทวะ เพื่อบอกว่ามันได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว
บนคันศรน้ำค้างแข็งเทวะได้มีรอยร้าวเล็กๆ เกิดขึ้น หากยังคิดจะใช้พลังโจมตีที่รุนแรงอย่างนี้ต่อไปอีก มันจะต้องหักในสักวัน เพราะพลังรบ 60 ล้นถือเป็นขีดจำกัดของมัน หากยังอยากใช้การโจมตีแบบนี้อีก ก็จำเป็นต้องยกระดับของคันศรน้ำค้างแข็งเทวะให้สูงขึ้น
แต่ถึงจะอย่างนั้น พลังรบ 60 ล้านก็ถือว่าท้าทายสวรรค์อย่างยิ่งแล้ว
อัครเสนาบดีหลงหน้าเปลี่ยนสี พร้อมกับซัดฝ่ามือที่ร้ายกาจออกไปครั้ง คราวนี้เขาระเบิดพลังออกมาถึงขีดสุด โคจรเคล็ดวิชาเทพใต้พิภพ พร้อมกับปล่อยฝ่ามือเทพใต้พิภพออกไป ทำให้พลังของฝ่ามือที่ปล่อยออกไปนี้ มีพลังรบสูงถึง 57 ล้าน และนี่ก็เป็นพลังที่สูงที่สุดของเขาแล้ว
“ฉึก!” ฝ่ามือขนาดใหญ่ถูกยิงทะลุในทันที เพียงพริบตาก็ทะลุผ่านฝ่ามือขนาดใหญ่ พร้อมกับระเบิดใส่ร่างของอัครเสนาบดีหลงในทันที
“เปรี้ยง!”
อัครเสนาบดีหลงแค่นเสียงออกมา ร่างถูกซัดกระเด็นออกไป พร้อมกับร่างกายที่ถูกแช่แข็งเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ แต่เขาก็ปลดปล่อยพลังที่แสนอหังการของมังกรสวรรค์ออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะทำลายการกลายเป็นน้ำแข็งนี้ แต่ในทันใดนั้น หน้าของเขาก็เปลี่ยนสี กลายเป็นสีดำ
“พิษสังหารมังกร!”
อัครเสนาบดีหลงหน้าเปลี่ยนสีอย่างใหญ่หลวง เขาไม่คิดว่าฝั่งตรงข้ามจะมีพิษสังหารมังกรด้วย!
อี้เทียนหยุนรู้ดีว่าการโจมตีนี้คงไม่สามารถสังหารอัครเสนาบดีหลงได้ในพริบตา หากอัครเสนาบดีหลงสังหารได้ง่ายดายขนาดนั้น เขาก็คงจะไม่ใช่อัครเสนาบดีหลง ดังนั้น เขาจึงใช้พิษสังหารมังกรเข้าไปด้วย ก่อนหน้านี้เขาได้พิษสังหารมังกรมาจำนวนมาก เขาได้ผสมพิษชนิดนี้เข้ากับศรน้ำแข็งในพริบตาที่ยิงออกไป ทำให้พิษนี้ซึมเข้าไปในร่างของอีกฝ่าย พร้อมกับออกฤทธิ์ในร่างอัครเสนาบดีหลงอย่างบ้าคลั่ง
และในตอนนี้เอง ก็ได้มีลำแสงระเบิดออกจากด้านหลังของเขา เข้าครอบคลุมร่างของเขาอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้ออกจะกะทันหันเกินไป ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อยู่ๆ ราชครูก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของอี้เทียนหยุน นี่ถือเป็นการลอบโจมตีที่สมบูรณ์แบบ “ราชครู” มีสีหน้าเย็นชา พร้อมกับมองมาที่นี่จากกลางอากาศที่ไม่ไกลนัก ที่แท้ก็มีราชครูสองคน!
ยังไงก็ตาม อี้เทียนหยุนก็ได้หายไปจากจุดนั้น และไปปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของราชครูแทบจะในพริบตา หอกมังกรแดงปรากฏขึ้นในมือเขา จากนั้นก็แทงเข้าใส่ราชครูอย่างเหี้ยมโหด
“แค่ก!”
หอกมังกรแดงทะลุร่างของราชครู ตรึงร่างของเขาไว้กลางอากาศ
“เจ้ามักจะลอบโจมตีอยู่เสมอ จนทำเอาข้าเกือบลืมไปเลย” อี้เทียนหยุนมองไปที่ราชครูที่ถูกเขาตรึงอยู่กลางอากาศอย่างเย็นชา นี่มันออกจะเร็วเกินไปจริงๆ นี่เป็นเพราะเขาใช้เทเลพอร์ตเพื่อเข้าไปโจมตี