CLS ตอนที่ 423: การตัดสินใจที่บ้าระห่ำ
“มาลองดูกันเลยเถอะ”
อี้เทียนหยุนไม่ลังเล พร้อมกับทำการสุ่มลอตเตอรี่ในทันที นอกเสียจากว่าเขาจะไม่มีเวลาจริงๆ ไม่อย่างนั้นถ่วงเวลาไปก็คงเปล่าประโยชน์
“ติ๊ง” วงล้อสุ่มรุ่นปรับปรุงขั้นสูงหมุนเร็วจี๋ รูปลักษณ์ของมันดูแล้วไม่ต่างไปจากเดิมเลย ตารางของที่ได้ก็ไม่เปลี่ยน ขนาดเปอร์เซ็นต์ที่จะได้ก็ยังไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย
แม้ว่าสิ่งอื่นอาจจะเปลี่ยน แต่ภายนอกของมันนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ยังไงก็ตาม คราวนี้เขาไม่ได้เปิดใช้งานโชคดี เขาอยากจะเห็นว่าถ้าเปิดแบบไม่พึ่งโชคดี เขาจะได้อะไรออกมา ค่าความดีของเขาในตอนนี้ไม่ต่ำ ต่อให้เป็นหมวดจิปาถะ เขาก็คิดว่าน่าจะได้ของดีเช่นกัน
หลังจากหมุนอยู่หลายรอบ ในที่สุดวงล้อก็ได้หยุดลง พร้อมกับเข็มที่ชี้ไปยังหมวดวิชายุทธ์!
“ติ๊ง!”
พร้อมกับเสียงดังสดใส กล่องไม้ก็ตกลงยังช่องเก็บไอเทมของเขา ต่อให้เป็นของทั่วไปก็มีสิทธิ์ได้ของดีเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่คิดว่าต้องเปิดใช้งานโชคดี
นอกจากว่าเขาอยากจะได้ของในหมวดความสามารถศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ใช้โชคดีนี้
“ไม่รู้ว่าจะได้อะไรออกมา?” อี้เทียนหยุนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา หลังจากเปิดกล่องนี้ขึ้น อย่างรวดเร็ว ชื่อของวิชายุทธ์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
เคล็ดวิชากลืนสวรรค์ : ระดับสวรรค์ขั้นต่ำ, ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดกลืนให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก, สามารถดูดกลืนพลังงานทุกอย่างเพื่อเปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์(มีผลเป็นปรปักษ์กับเคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬ, ไม่สามารถใช้พร้อมกันได้) ต้องการค่าความชำนาญ 1 ล้านเพื่อเข้าสู่ระดับถัดไป
ความชำนาญที่ต้องการไม่ได้มากมายนัก เพราะว่าหากต้องการเลื่อนระดับเคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬไปยังระดับสวรรค์ จำเป็นต้องใช้ค่าความชำนาญถึง 1 ล้าน ทั้งนี่ยังเป็นการเลื่อนระดับสวรรค์ขั้นต่ำไปยังขั้นกลาง ซึ่งถือว่าต้องใช้ค่าความชำนาญพอๆ กัน ไม่ใช่เพราะว่าเคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬนั้นร้ายกาจเกินไป แต่อาจเป็นเพราะว่าเคล็ดวิชากลืนสวรรค์นั้นน่าผิดหวังเกินไปต่างหาก?
แต่ไม่ว่าจะยังไง การเลื่อนระดับเคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬนี้ก็ยากเกินไปอยู่ดี เพราะจำเป็นต้องทำการดูดกลืนอย่างบ้าคลั่งอยู่บ่อยครั้ง ไม่อย่างนั้น การจะสะสมค่าความชำนาญให้ถึง 1 ล้านนั้นย่อมต้องใช้เวลานานสุดขีด ขนาดผ่านมาตั้งนานเขายังสะสมได้เพียง 200,000 เท่านั้น ยังขาดอีกตั้ง 800,000 ต่อให้เขาทุ่มค่าความชำนาญที่ได้มาก่อนหน้านี้ทั้งหมด ก็ยังไม่สามารถเลื่อนระดับให้มันได้อยู่ดี
ดังนั้น ค่าความชำนาญที่ได้จากภารกิจจึงเป็นสิ่งจำเป็น ต่อให้ได้มาเป็นแสนหรือกระทั่งหลักล้าน ต่อให้ทุ่มลงไปก็ไม่มีทางเลื่อนระดับได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงรอให้ค่าความชำนาญขาดอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถึงค่อยทุ่มค่าความชำนาญในส่วนนี้ลงไป
“มาลองดูกันสิว่าเคล็ดวิชากลืนสวรรค์จะร้ายกาจแค่ไหน….”
อี้เทียนหยุนยื่นมือข้างหนึ่งออกไป พร้อมกับโคจรพลังตามเคล็ดวิชา ทันใดนั้นฝ่ามือของเขาก็พลันเกิดแรงดูดที่น่าสะพรึงขึ้น พร้อมกับทำการดูดโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าเข้ามา และเมื่อโต๊ะตัวนั้นเข้ามาใกล้ฝ่ามือของเขา มันก็พลันถูกทำให้สลายกลายเป็นฝุ่น พร้อมกับถูกดูดเข้าไปในทันที! พลังวิญญาณที่มีทั้งหมดถูกดูดออกไปในพริบตา เหลือก็เพียงเศษตะกอนเท่านั้น
“ได้รับค่าประสบการณ์ 300…..”
แค่พลังทั่วไปก็ได้ค่าประสบการณ์ด้วย ยิ่งกว่านั้นยังสามารถดูดพลังวิญญาณจากสิ่งของได้ด้วย! ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬทำไม่ได้ ตัวมันทำได้เพียงดูดกลืนพลังวิญญาณจากสิ่งมีชีวิตเท่านั้น แต่เคล็ดวิชากลืนสวรรค์นี้กลับสามารถดูดกลืนพลังงานจากสิ่งของได้ ซึ่งนี่นับเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงอย่างแท้จริง
ไม่ว่าจะเป็นแรงดูดหรือประสิทธิภาพ หากเทียบกับเคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬแล้ว แข็งแกร่งกว่าขั้นใหญ่ ดูเหมือนว่าจะสามารถใช้แทนกันได้ในทันที แต่หากต้องการที่จะเลื่อนระดับมันอย่างช้าๆ ความยากของมันก็ใหญ่เกินไป ดังนั้น อี้เทียนหยุนจึงเลือกที่จะยอมแพ้ที่จะเลื่อนระดับมัน
“อืม ดูเหมือนว่าคงต้องใช้เคล็ดวิชากลืนสวรรค์นี้แทนซะแล้ว” อี้เทียนหยุนในตอนนี้ตาเป็นประกาย ในที่สุดก็ได้วิชามาแทนกันได้สักที
ส่วนของอื่นๆ ที่ได้มาจากกล่องของขวัญก็เป็นของดีมากเช่นกัน โดยเฉพาะส่วนลด 50% สำหรับของในร้านค้านั้นน่าสนใจมาก เอาไว้วันไหนมีแต้มเหลือเฟือจริงค่อยใช้แล้วกัน ส่วนตัวบัตรค่าประสบการณ์ 50 เท่านี้ นับว่าเป็นสถิติใหม่ที่สูงที่สุดเช่นกัน
“การสุ่มลอตเตอรี่รุ่นปรับปรุงขั้นสูง 1 ครั้ง จำเป็นต้องใช้ค่าความคลั่ง 2 ล้าน….. นี่มันช่างโหดร้ายเกินไปจริงๆ” ขณะที่อี้เทียนหยุนมองไปยังสิทธิ์ที่จะสุ่มลอตเตอรี่รุ่นปรับปรุงขั้นสูงนี้กลายเป็น 0 อีกครั้ง ก็ทำได้เพียงถอนหายใจออกมา ค่าความคลั่ง 2 ล้านนี้ ตัวเลขไม่ใช่น้อยๆ เลยจริงๆ จำเป็นต้องใช้เวลาสะสมนานมาก กว่าจะมีค่าความคลั่งมากขนาดนี้
ที่เหลือก็ไม่มีอะไรแล้ว ของที่เลื่อนระดับได้ก็เลื่อนระดับ สิทธิ์ในการสุ่มก็ไม่เหลือ ส่วนค่าประสบการณ์สำหรับเลื่อนสู่ระดับถัดไปก็ทำให้เขาต้องแสดงสีหน้าตกใจออกมา
ตอนที่จะเลื่อนระดับจากระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุดขึ้นสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ ยังใช้ค่าประสบการณ์แค่ 200 ล้านเท่านั้น แต่ตอนนี้หากต้องการเลื่อนระดับจากระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 1 ไปเป็นขั้นที่ 2 จำเป็นต้องใช้ค่าประสบการณ์ถึง 300 ล้าน ตัวเลขนี้ช่างโหดร้ายจริงๆ กว่าจะเลื่อนระดับได้แต่ละขั้น จำเป็นต้องใช้ค่าประสบการณ์เป็นหลักร้อยล้าน!
หลังจากทำเรื่องพวกนี้เสร็จ อี้เทียนหยุนก็เดินออกมาจากห้องฝึกตน สถานการณ์ภายนอกยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ทุกคนยังแยกกันเป็นสองฝั่งอยู่เช่นเดิม ฝั่งหนึ่งเป็นทางฝั่งของวังเทียนจี๋ ขณะทีอีกฝั่งเป็นของฝั่งของซากโบราณสถานเทียนเฉิน ซึ่งเป็นคนของนิกายเทียนเฉวียนและเผ่าภูต เพราะเพิ่งจะรวมเข้าด้วยกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยจะคุ้นเคยกันเท่าไหร่นัก
แม้ว่าที่แห่งนี้จะไม่มีอะไรเปลี่ยน แต่ทางฝั่งโลกภายนอกกลับเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มาก ตอนนี้ได้มีข่าวที่ส่งออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งแพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีปเทียนจิ่ง จนไปถึงอาณาจักรใต้พิภพ เมื่อได้ยินว่ามีสำนักลึกลับและวังเทียนจี๋รวมเข้าด้วยกัน ทำให้รู้สึกแปลกอย่างมาก ทำไมอยู่ๆ ทั้งสองสำนักนี้ถึงได้มารวมกัน?
ในโลกนี้ไม่มีกำแพงที่ไร้รูรั่ว โดยเฉพาะการกระทำที่ใหญ่โตเยี่ยงนี้ จึงทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้คน บางคนสงสัยว่าสำนักลึกลับในข่าวคือสำนักไหน แต่หลังจากที่ได้คำตอบกลับมา ก็ทำให้พวกเขาพากันตกตะลึงในทันที
ในสำนักลึกลับนี้ แท้จริงแล้วมีเผ่าภูตอยู่! ทำให้ข่าวนี้ระเบิดออกมาในทันที ก่อนหน้านี้มีข่าวออกไปว่าเผ่าภูตได้หนีไปหลบซ่อนตัว แต่อยู่ๆ กลับมาโผล่ที่ทวีปเทียนจิ่ง ทั้งยังรวมเข้ากับวังเทียนจี๋อีกด้วย ตกลงแล้วนี่มันเรื่องอะไรกันแน่? กำลังรนหาที่ตายหรือยังไง? กว่าจะหลบไปซ่อนตัวได้ยากขนาดไหน ตอนนี้อยู่ๆ ก็เผยตัวออกมา นี่มันต่างอะไรไปจากการรนหาที่ตาย?
ก่อนหน้านี้เผ่าภูตสามารถซ่อนตัวได้สำเร็จ ที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขาหนีไปยังทวีปตี้จิ่ง ยิ่งกว่านั้นยังเป็นในนิกายเทียนเฉวียนอีกด้วย นี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการซ่อนตัวในที่ที่ปลอดภัยที่สุด นิกายเทียนเฉวียนไม่เป็นที่รู้จัก ดังนั้นจึงยากที่จะหาพบ
ตอนนี้เมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นมา ก็ย่อมทำให้ทางฝั่งอาณาจักรใต้พิภพต้องออกมาลงมืออย่างแน่นอน
“เผ่าภูตปรากฏตัวในช่วงวิกฤตจริงๆ ทั้งยังกล้ารวมหัวกับวังเทียนจี๋อีก พวกเขาคิดว่าอาณาจักรใต้พิภพเราเป็นหัวหลักหัวตอหรือยังไง!” ราชครูกับพวกพากันเดือดมาก จักรพรรดิใต้พิภพก็เช่นกัน นี่เป็นเหมือนกับการยั่วยุพวกเขาอย่างไงอย่างงั้น
มีแม่ทัพสองคนตายที่เผ่าภูต นี่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
ตอนนี้พวกเขากำลังเตรียมการ วางแผนว่าจะจัดการกับเผ่าภูตให้สิ้นซากยังไง จะจับพวกเขามาแบบไหน
ขณะที่พวกเขากำลังวางแผนการ อี้เทียนหยุนก็ได้ตัดสินใจที่จะรอต้อนรับอาณาจักรใต้พิภพอยู่ที่นี่!
ผู้คนต้องพากันคิดว่าพวกเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ แต่อี้เทียนหยุนไม่ได้บ้า เขาคิดทุกอย่างมาดีแล้ว จะขาดก็แต่ข่าวจากคนของเผ่าภูตที่ส่งออกไปเท่านั้น
ก่อนที่จะเตรียมการจู่โจม อี้เทียนหยุนก็ได้ส่งคนของเผ่าภูตที่ชำนาญด้านการสืบข่าวออกไปหาข่าวที่อาณาจักรใต้พิภพอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขารอแค่ข่าวจากทางฝั่งนั้นเท่านั้น แล้วเขาก็จะโจมตีได้