CLS ตอนที่ 430: ศิลาทรราชแผลงฤทธิ์!
มหาค่ายกลคลื่นความมืดพลันปรากฏขึ้นที่พื้นด้านล่าง พร้อมกับยิงลำแสงสีดำขึ้นฟ้า กวาดผ่านอากาศ พุ่งเข้าใส่วังเทียนหยุน
“เปรี้ยง!”
และในขณะนี้เอง ลำแสงสีดำก็ได้ระเบิดเข้าใส่วังเทียนหยุน ตำหนักเทียนหยุนขนาดมหึมาราวกับเป้าที่มีชีวิต ถูกโจมตีใส่อย่างง่ายดาย ทั่วทั้งตัวตำหนักเทียนหยุนสั่นอย่างรุนแรง ราวกับจะร่วงหล่นจากฟ้าได้ทุกเมื่อ
ยังไงก็ตาม แม้ว่าตัวตำหนักจะสั่นไม่หยุด แต่ก็ยังสามารถบินไปต่อข้างหน้าได้ และเมื่อหลุดมาจากการโจมตีของมหาค่ายกลนี้ ก็พลันมีมหาค่ายกลอื่นผุดขึ้นมาจากพื้น พร้อมกับโจมตีเข้าใส่วังเทียนหยุนอย่างต่อเนื่องและรุนแรง
“เป็นแค่ตัววิหารยังกล้าบินเข้ามาที่นี่ จะทำตัวอวดดีเกินไป เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถบินมาถึงครึ่งทาง จากนั้นก็จะยิงเจ้าร่วงลงมา!” ราชครูพูดเยาะ “หากว่าเจ้าสามารถควบคุมศาสตราวิญญาณเพื่อโจมตีได้ ข้าก็สามารถควบคุมมหาค่ายกลของที่นี่ได้ทั้งหมดเช่นกัน ดูสิว่าเจ้าจะเข้ามาใกล้ได้แค่ไหน!”
ราชครูควบคุมมหาค่ายกลเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่องและรุนแรง เมื่อวังเทียนหยุนนี้หลุดออกมาจากมหาค่ายกลหนึ่งได้ ก็จะมีมหาค่ายกลอีกอันโจมตีต่อทันที เพราะในอาณาเขตนี้ ล้วนแต่เต็มไปด้วยมหาค่ายกลที่มีไว้เพื่อป้องกันผู้ที่บุกเข้ามา
ตราบเท่าที่พวกเขายังบินเข้ามาต่อ เขาก็จะต้องเจอกับการโจมตีของมหาค่ายกลทั้งหลายพวกนี้อย่างแน่นอน ไม่แปลกเลยที่จะไม่เคยมีขุมอำนาจไหนเคยเข้าประชิดเมืองหลวงใต้พิภพมาก่อน เพราะขุมอำนาจเหล่านั้นล้วนแต่ตายอยู่บนเส้นทางนี้ นี่ก็เหมือนกับการโจมตีของมหาค่ายกลศาสตราวิญญาณ ทั้งมีจำนวนมาก รวมถึงโจมตีได้ในระยะไกล
“ไม่แปลกเลยที่ราชครูผู้นี้จะหนีมา ที่แท้ก็เพื่อกลับมาควบคุมมหาค่ายกลที่นี่นั่นเอง ช่างมีความหมายนัก” อี้เทียนหยุนมองไปยังราชครูที่อยู่ไกลออกไป พร้อมกับเผยรอยยิ้มแสยะออกมา ยังคงมีท่าทางไม่ร้อนรนเช่นแต่ก่อน
“ราชาภูต แม้ว่าการโจมตีพวกนี้จะไม่แข็งแกร่งนัก แต่ถ้าปล่อยให้ถูกโจมตีอย่างนี้ต่อไป ข้าคิดว่าพวกเราไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง โล่ป้องกันนี้คงจะถูกทำลายลงซะก่อน” บรรพชนเผ่าภูตมีสีหน้ากังวล โล่ป้องกันที่ด้านนอกสามารถป้องกันการโจมตีได้มหาศาล แต่ก็เผาผลาญพลังงานไปอย่างน่าสะพรึงเช่นกัน หากเป็นอย่างนี้ต่อไป คงไม่สามารถต้านทานได้นานนัก
ไม่ใช่เพราะหินวิญญาณหยกไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะมหาค่ายกลถูกทำลายไปเสียก่อน การจะซ่อมแซมมันนั้นยากมาก เพียงเวลาสั้นๆ ไม่สามารถทำให้มันกลับมาใช้งานได้อย่างแน่นอน ความเร็วในการทำลาย แน่นอนว่าย่อมเร็วกว่าความเร็วในการซ่อมแซมของพวกเขาอยู่แล้ว
ทุกคนต่างก็พากันมองมาที่อี้เทียนหยุนด้วยสีหน้าเป็นกังวล ไม่รู้ว่ารู้อี้เทียนหยุนมีวิธีอะไรหรือไม่ หากไม่มี พวกเขาคงทำได้เพียงนำวังเทียนหยุนนี้ลงจอด จากนั้นก็หาวิธีฝ่ามหาค่ายกลที่ด้านนอกเข้าไป
“วางใจเถอะ ข้าคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว ไม่อย่างนั้น ราชครูที่ถูกทำให้ขายหน้าขนาดนั้น คงไม่เลือกที่จะหนีออกมา” อี้เทียนหยุนยิ้มแสยะ จากนั้นก็ยกมือขึ้นกลางอากาศ ก่อนที่จะปรากฏศิลาทรราชร่วงลงมา กดทับลงบนพื้นอย่างแรง
หลังจากศิลาทรราชขนาดมหึมานี้ร่วงลงถึงพื้น ตัวมันก็พลันเปล่งลำแสงออกมา มหาค่ายกลที่อยู่รอบๆ อาณาเขตแห่งนี้ต่างก็พากันถูกสะกดไว้ ไม่สามารถยิงลำแสงสีดำออกมาได้อีก ราวกับหมดประสิทธิภาพไป
ศิลาทรราช!
เมื่อผู้คนได้เห็นศิลาทรราชนี้ เผ่าภูตก็พลันตาประกาย ศิลาทรราชนี้แน่นอนว่าสามารถจัดการกับมหาค่ายกลพวกนี้ได้ ศิลาทรราชนี้สามารถระงับค่ายกลระดับต้าซือได้ มหาค่ายกลพวกนี้ล้วนแต่ไม่ใช่ค่ายกลระดับจงซือ ดังนั้นพวกมันจึงถูกสะกดไม่ให้สามารถออกฤทธิ์ได้
แม้ราชครูจะเป็นนักสลักอาคมระดับจงซือ แต่ไม่ใช่มหาค่ายกลทุกอันที่เขาจะสร้างขึ้นมาโดยใช้อักษรรูนระดับจงซือ หากเป็นอย่างนั้นจริง ตัวเขาคงได้เหนื่อยตายกันพอดี ยิ่งกว่านั้น อานุภาพของมหาค่ายกลระดับต้าซือก็ไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด คงมีเพียงศิลาทรราชนี้เท่านั้น ที่เพียงโผล่ออกมาก็สามารถสะกดพวกมันได้อย่างง่ายดาย
“ข้าก็เกือบลืมไปเลยว่าราชาภูตสามารถควบคุมศิลาทรราชนี้ได้ ไม่แปลกเลยที่เขาจะใจเย็นอย่างนี้” บรรพชนเผ่าภูตยิ้มออกมา นี่หมายความพวกเขาสามารถบินไปถึงเมืองหลวงใต้พิภพได้อย่างง่ายดาย อีกไม่ง่ายก็จะได้เวลาเริ่มสงครามที่บ้าคลั่งแล้ว
“ข้าบอกแล้วว่าพวกเขาต้องจะมีแผนการ แต่ว่าข้าก็ได้เตรียมการรับมือไว้เช่นกัน!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง “ข้ามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชีวิตพวกท่าน การพาพวกท่านไปตายอย่างง่ายๆ นั้น ไม่ใช่รูปแบบของข้า ข้าต้องการชนะสงคราม แต่ก็ใช่ว่าจะแพ้ไม่ได้! ต่อให้ไม่ชนะ แต่อย่างน้อยก็ต้องสามารถพาทุกคนถอนตัวกลับไปได้ ไม่ใช่พาคนไปตายมากกว่าครึ่ง”
ในใจทุกคนรู้สึกตื่นเต้น นี่สมกับเป็นราชาของพวกเขาจริงๆ!
“นี่มัน นี่คือศิลาทรราชหนิ มีคนควบคุมมันได้ด้วยเหรอ?” เมื่อราชครูเห็นศิลาทรราชนี้ สีหน้าก็ได้กลายเป็นน่าเกลียดในทันที ที่เขาต้องการจับกุมตัวเผ่าภูตเมื่อก่อนหน้านั้น ก็เพื่อศิลาทรราชนี้ ไม่ใช่สิ่งอื่น
หลังจากที่เขาทำลายป่าภูตเมื่อตอนนั้นก็ได้ค้นหาอยู่นานแต่ก็ไม่เจอศิลาทรราชนี้ ไม่คิดเลยว่าจะมีคนถือครองอยู่ก่อนแล้ว ทั้งยังนำมันมาใช้ต่อหน้าเขาอีก พร้อมทำการสะกดมหาค่ายกลของเขา จนมันไม่มีผลอีกต่อไป
ผลก็คือ วังเทียนหยุนได้เข้ามายังพื้นที่ที่ไม่เคยมีขุมอำนาจไหนเคยเข้าถึงมาก่อน! ทั้งยังผ่านมาได้โดยง่ายดาย หากเทียบกับการโจมตีที่ทำให้ตัวตำหนักสั่นสะเทือนเมื่อก่อนหน้า ตอนนี้ดีกว่าเป็นไหนๆ
“ท่านราชครู เราจะทำยังไงดี หรือว่าจะส่งพลธนูออกไปยิงสกัดพวกเขาเอาไว้?” แม่ทัพป้องกันเมืองที่อยู่ใกล้ๆ พูดขึ้น
“เจ้าคิดว่าเข้าไปใกล้พวกเขาแล้วพวกเราจะทำสำเร็จอย่างงั้นเหรอ?” ราชครูพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
แม่ทัพป้องกันเมืองตกใจ พร้อมกับคิดไปถึงศาสตราวิญญาณนับหมื่นเมื่อก่อนหน้า หากว่าส่งคนออกไปโจมตี พวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“อะไรก็ทำไม่ได้ งั้นพวกเราจะคอยดูพวกมันบุกเข้ามาโดยไม่ทำอะไรอย่างงั้นเหรอ?” แม่ทัพป้องกันเมืองพูดอย่างจริงจัง
“แน่นอนว่าไม่ ศิลาทรราชไม่ได้มีอานุภาพร้ายกาจขนาดนั้น มันก็แค่สามารถระงับพลังของค่ายกลระดับต้าซือได้เท่านั้น แต่กลับค่ายกลระดับจงซือนั้นต่างกัน การโจมตีที่แท้จริงคือหลังจากนี้ ตอนนี้ให้พวกมันดีใจกันไปก่อน จากนั้นพวกเราจะจัดการพวกมันในทีเดียว” ราชครูหัวเราะแล้วพูดออกมาว่า “ขุมอำนาจของอาณาจักรใต้พิภพเรา ไม่ได้มีเพียงเท่านี้เท่านั้น!”
วังเทียนหยุนบินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว อี้เทียนหยุนควบคุมศิลาทรราชให้ทำการสะกดมหาค่ายกลตรงหน้าไม่หยุด ทำให้มหาค่ายกลที่พวกเขาเคลื่อนผ่าน ถูกสะกดไว้จนไม่สามารถเปิดใช้งานได้
และเมื่อพวกเขาบินมาได้ครึ่งทาง ราชครูที่อยู่ไกลออกไปก็ได้แสดงรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า ราวกับเห็นเวลาตายของพวกเขา
ยังไงก็ตาม ในตอนนี้ วังเทียนหยุนก็ได้ร่อนลงพื้นอย่างช้าๆ ไม่ได้บินเข้าไปในพื้นที่ด้านในต่อ ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของราชครูชะงักไป นี่ไม่ใช่ว่าอี้เทียนหยุนรู้ความคิดของอีกฝ่าย แต่เป็นเพราะว่าได้เวลาลงมือแล้วต่างหาก
อี้เทียนหยุนชูมือขึ้น จากนั้นก็มีศาสตราวิญญาณนับหมื่นบินขึ้นมา พร้อมกับพุ่งทะยานไปด้านหน้า ราวกับห่าศรนับหมื่น ยิงเข้าใส่เหล่าทหารที่รับหน้าที่ดูแลกำแพงเมือง เพราะระยะห่างใกล้พอแล้ว อยู่ในระยะการโจมตีของเขาโดยสมบูรณ์
“ไม่ดีแล้ว!”
ไม้เท้าอสูรในมือราชครูปล่อยแสงสีดำออกมา พร้อมกับมีแรงกดส่งส่งออกมาจากมหาค่ายกลตรงหน้า ตามมาด้วยคลื่นพลังงานสีดำที่พวยพุ่งออกมา ดูแล้วราวกับมังกรยักษ์ กำลังท่องทะยาน เข้าต้านรับการโจมตีของศาสตราวิญญาณพวกนี้ด้วยร่างกายขนาดใหญ่ของมัน
ภายใต้การสะบัดตัวอย่างรุนแรง ทำให้ศาสตราวิญญาณกลุ่มหนึ่งถูกทำลาย โดยไม่มีความยากแม้แต่น้อย นี่เป็นเพราะว่าพลังต่างกันมากเกินไป ดูจากไกลๆ จะเห็นว่ามีมังกรมืดตัวหนึ่งกำลังท่องทะยานอยู่รอบๆ คอยป้องกันการโจมตีของเขา
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็ทำการเรียกศาสตราวิญญาณทั้งหมดกลับมาอย่างรวดเร็ว มีคนที่ถูกจัดการเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนใหญ่ล้วนแต่ถูกมังกรมืดตัวนี้ป้องกันให้
“ไม่เสียทีที่เป็นถึงมหาค่ายกลระดับจงซือ น่ากลัวว่านี่คงจะเป็นมหาค่ายกลมังกรมืดที่มีชื่อเสียงนั่นสินะ? ช่างสมแล้วจริงๆ” อี้เทียนหยุนหรี่ตามองไปยังมังกรมืดตนนี้ ในใจพลันมีความคิดผุดขึ้นมา