CLS ตอนที่ 432: คลื่นหมัดที่ส่องประกาย!
แม้ว่ามังกรมืดจะถูกเผาทิ้งง่ายๆ แต่มหาค่ายกลมังกรมืดไม่ได้มีความสามารถเพียงแค่นี้เท่านั้น หากเทียบกับสมบัติลับเทียนหลงแล้ว ระดับความยืดหยุ่นของมันนั้นแข็งแกร่งกว่ามาก แต่เพราะว่ามีจุดบกพร่องอยู่มาก จึงทำให้พลังของมันในปัจจุบันมีอยู่อย่างจำกัด ยิ่งกว่านั้นยังมีระดับการเผาผลาญที่น่าสะพรึงอย่างมาก ทำให้แค่ควบคุมมังกรมืดแค่อย่างเดียวก็แทบจะเต็มกลืนแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
ส่วนสมบัติลับเทียนหลงนั้น ตราบใดที่ถูกมันยอมรับเป็นนาย ก็จะสามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงได้ แล้วยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสามารถควบคุมมังกรสวรรค์ที่แข็งแกร่งมากเท่านั้น
หากเทียบจากระดับ แน่นอนว่าสมบัติลับเทียนหลงย่อมให้คุณประโยชน์มากกว่า ทั้งระดับการควบคุมก็ไม่ได้ยุ่งยาก แต่หากว่ามันไม่ยอมรับเป็นนาย ต่อให้ทำอะไรก็ไม่มีผลแม้แต่น้อย
หลังจากมังกรมืดถูกจัดการไป ก็ทำให้มหาค่ายกลมังกรมืดได้รับความเสียหาย นี่ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถทำลายค่ายกลได้ง่ายและป่าเถื่อนที่สุด หากว่าสามารถสังหารได้มากกว่าหนึ่งครั้ง มหาค่ายกลมังกรมืดก็จะได้รับความเสียหายเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจุดอ่อนนี้ของมันจึงไม่ใช่น้อยๆ เลย
“บัดซบ แท้จริงแล้วนี้มันเปลวเพลิงอะไรกันแน่….. มาลองกันอีกที!” ราชครูคำรามอย่างเกรี้ยวกราด นี่คือมหาค่ายกลมังกรมืดที่เขามั่นใจที่สุด แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบได้กับสมบัติลับเทียนหลง แต่ก็ใกล้เคียงกันมาก การที่มันถูกจัดการง่ายอย่างนี้ ทำให้เขารู้สึกยากที่จะยอมรับอย่างมาก
อย่างรวดเร็ว เขาก็ทำการใช้งานมหาค่ายกลมังกรมืดอีกครั้ง พร้อมกับสร้างมังกรมืดตัวใหม่ออกมา จากนั้นก็สั่งให้มันทะยานเข้ามาที่นี่อย่างบ้าคลั่ง แต่ดูแล้วมังกรมืดตัวใหม่นี้ดูจะอ่อนแอกว่าตัวก่อนหน้า หลังจากถูกสังหารไปแล้วครั้งหนึ่ง พลังของมันย่อมต้องลดลงมากเป็นธรรมดา
ในตอนนี้ เนตรสวรรค์ของอี้เทียนหยุนก็ได้เริ่มตรวจสอบรอบๆ มหาค่ายกลมังกรมืดเพื่อมองหาแกนกลางค่ายกล เขาแค่อยากจะรู้คร่าวๆ ว่าแกนกลางค่ายกลนั้นอยู่ที่ไหน เพราะตราบเท่าที่สามารถทำลายมันทิ้งได้อย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้มังกรมืดที่มหาค่ายกลสร้างขึ้นมาตัวต่อไปอ่อนแอลง
“แกนกลางค่ายกลอยู่ใกล้ๆ ทางซ้ายมือของเจ้าในระยะสิบจ้าง!”
ในตอนนี้เอง เสียงของเย่ชิงเสวียนก็ดังขึ้นในหูของเขา ในขณะที่อี้เทียนหยุนยังหาไม่เจอนั้น เย่ชิงเสวียนก็ได้ใช้เนตรสวรรค์ช่วยเขามองหาแกนกลางค่ายกลเช่นกัน หากคิดจะโจมตี ก็จำเป็นต้องทำลายมหาค่ายกลนี้ก่อน ดังนั้น หากคิดจะใช้เพียงพลังของตัวเขาเพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถทำสำเร็จได้เร็วอย่างแน่นอน
บรรพชนเผ่าภูตก็เดินเข้ามาในมหาค่ายกลนี้ พร้อมกับเริ่มหาวิธีทำลายมัน แม้ว่าพลังของบรรพชนเผ่าภูตจะยังไม่ฟื้นฟูขึ้นมายังจุดสูงสุด แต่แค่หาแกนกลางค่ายกล ไม่นับว่ามีปัญหาอะไร จะดีจะชั่วเขาก็เป็นถึงนักสลักอาคมระดับจงซือเหมือนกัน ฉายาของเขาใช่มีไว้ประดับเสียเมื่อไหร่!
“อืม!”
อี้เทียนหยุนรู้สึกใจสงบ เมื่อมีบางคนคอยช่วย ความเร็วในการค้นหาก็เพิ่มขึ้นมากถึงสองเท่า หลังจากหาพบ ในมือของเขาก็พลันผุดเปลวเพลิงนิรันดร์ขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับส่งมันไปยังรอยแตกเท่ารูเข็มของแกนกลางค่ายกลในทันที
ภายใต้การปะทุครั้งนี้ มหาค่ายกลไม่ได้เกิดการระเบิดเสียงดังแต่อย่างใด แต่ไม่ได้หมายความว่าพลังของมังกรมืดจะไม่ตกลง
แล้วก็จริง มังกรมืดตัวใหม่ที่เข้ามานี้ พลังของมันได้ตกลงไปอยู่ในระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 1 ทำให้พลังรบของมันตกลงมาก นี่ก็เป็นข้อด้อยของมหาค่ายกลจุดหนึ่ง เมื่อมหาค่ายกลเกิดรอยร้าว ประสิทธิภาพของมันก็จะตกลงช่วงใหญ่ แต่ว่าสมบัติเทียนหลงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ นอกเสียจากว่าตัวสมบัติลับเทียนหลงจะถูกทำลายไป
แต่สมบัติเทวะจะถูกทำลายได้ง่ายๆ อย่างงั้นเหรอ? ขนาดขโมยยังทำไม่ได้ อย่าพูดถึงเรื่องทำลายเลย
“ไสหัวไปซะ เจ้าแมลงกระจ้อยร่อย!”
อี้เทียนหยุนโยนเปลวเพลิงกลุ่มหนึ่งเข้าใส่มังกรมืดอีกครั้ง ความตายของมังกรมืดนี้ ทำให้ทั่วทั้งมหาค่ายกลมังกรมืดได้รับความเสียหาย ก่อให้เกิดรอยแตกเพิ่มขึ้นมา พร้อมกับพลังที่ตกลงอีกครั้ง
สีหน้าราชครูยิ่งมายิ่งน่าเกลียด ขอแค่ไม่ใช่คนตาบอด ก็รู้ได้ว่าไพ่ตายของเขาได้ถูกทำลายแล้ว มหาค่ายกลมังกรดำที่ทำให้ผู้คนทั่วทวีปสั่นสะท้าน แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าอี้เทียนหยุนและเผ่าภูต ดูแล้วกลับเหมือนเป็นของเล่นอย่างไงอย่างงั้น ถูกจัดการลงอย่างง่ายดาย โดยที่ไม่สามารถสังหารได้แม้แต่คนเดียว นี่แน่นอนว่าต้องเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อมังกรมืดปรากฏ ซากศพก็จะกองสุมเป็นทาง แต่ตอนนี้กลับถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าไม่หยุด ทำให้มหาค่ายกลค่อยๆ ได้รับความเสียหายทีละน้อย!
“ท่านราชครู พวกเราจะทำยังไงดี? หากเป็นอย่างนี้ต่อไป มหาค่ายกลมังกรมืดของพวกเราจะต้องถูกทำลายโดยสมบูรณ์อย่างแน่นอน…..” แม่ทัพป้องกันเมืองสีหน้าดำคล้ำ พวกเขาได้รับปากกับจักรพรรดิใต้พิภพแล้ว ว่าถ้าหากไม่สามารถขัดขวางการโจมตีของศัตรูได้ ต่อให้พวกเขาต้องตาย ก็จะไม่มีวันหนีอีกเด็ดขาด
“ดูท่าพวกเราคงทำได้แค่เข้าไปประจันหน้ากับศัตรูต่อต่อตัวเท่านั้นแล้ว….” นัยน์ตาของราชครูมีประกายแสงสีทองสาดออกมา อักษรรูนทั่วทั้งร่างของเขาพากันเปล่งแสง “ปัง ปัง ปัง” ตัวของราชครูพลันระเบิดพลังของอักษรรูนออกมาในทันที พร้อมกับการระเบิดของอักษรรูน ทำให้พลังของราชครูแข็งแกร่งขึ้น นี่ก็เหมือนกับบรรพชนของวังเทียนเหวินเมื่อก่อนหน้า การระเบิดอักษรรูนบนร่างของพวกเขา พูดได้ว่าให้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน
พวกเขาพากันสลักอักษรรูนไว้บนร่างจำนวนมาก หลังจากระเบิดออกมา มันจะปลดปล่อยผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่มาก ช่วยให้พลังของตนแข็งแกร่งขึ้น มากถึงขั้นน่าตระหนกอย่างแท้จริง
นี่หมายความว่าราชครูนั้นได้ทุ่มทุกอย่างออกมาแล้ว หวังที่จะระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมาเพื่อจัดการกับอี้เทียนหยุน แต่เขาจะไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่ได้ ต่อให้เขาหนีไปได้สำเร็จ สุดท้ายแล้วเขาก็ยังต้องตายอยู่ดี เพราะจักรพรรดิใต้พิภพจะต้องไม่ยอมให้สวะที่ทำให้เขาอับอายต้องมีชีวิตรอดอย่างแน่นอน!
ราชครูก็กระทั่งหยิบเม็ดยาโลหิตเทวะออกมา หลังจากที่แม่ทัพป้องกันเมืองที่อยู่ใกล้ๆ ได้เห็น ก็พลันพูดกับราชครูด้วยท่าทางตื่นตระหนกว่า “ท่านเอาเม็ดยาโลหิตเทวะออกมาอย่างนี้…. ต่อให้จะชนะ แต่ระดับของท่านจะต้องถดถอยลงไปช่วงใหญ่เลยนะ!”
ประสิทธิภาพของเม็ดยาโลหิตเทวะนั้นทั้งง่ายและก็โหดร้ายเป็นอย่างมาก มันจะทำการกระตุ้นเพื่อช่วยเพิ่มพลังให้กับแกนโลหิต แต่หลังจากประสิทธิภาพของมันหมดลง ผลข้างเคียงของมันจะทำให้ระดับตกลงไปช่วงใหญ่ และต้องใช้เวลานานมากกว่าที่จะฟื้นกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิมได้ นี่ถือเป็นหนึ่งในเม็ดยาต้องห้าม หากกินเข้าไป จะทำให้การฟื้นตัวต้องใช้เวลาที่นานมาก
ราชครูไม่ตอบ พร้อมกับกลืนเม็ดยาลงไป พร้อมกับพูดออกมาว่า “หากไม่กิน ถ้าแพ้ข้าก็ต้องตายอยู่ดี ระดับลดยังสามารถเพิ่มขึ้นได้ แต่ถ้าต้องตาย สุดท้ายแล้วจะเหลืออะไร?”
น้ำเสียงของเขาเพิ่งจบลง เขาก็ทำการถีบเข้าที่พื้นอย่างแรง “เปรี้ยง” กำแพงที่มั่นคงถูกถีบจนเป็นหลุม พร้อมกับกุมไม้เท้าอสูรในมือ พุ่งตรงมายังที่นี่ พลังมังกรมืดพวยพุ่งออกมาจากใต้ดินไม่หยุด พร้อมกับแทรกซึมเข้าไปในร่างของเขา อึดใจต่อมา เขาก็กลายเป็นมังกรมืด พร้อมกับพุ่งเข้าใส่อี้เทียนหยุนที่อยู่ด้านล่างอย่างไม่ปรานี
พริบตา ท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำอย่างไม่น่าเชื่อ เมฆที่อยู่รอบๆ พลันรวมตัวกัน พร้อมกับปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงลงมายังที่แห่งนี้ไม่หยุด หากเทียบกับการโจมตีของมังกรดำเมื่อก่อนหน้านี้แล้วแข็งแกร่งกว่ามาก ภายใต้พลังที่เพิ่มขึ้น พลังรบของราชครูก็ไต่มาถึงระดับ 98 ล้าน!
เมื่อใช้ทุกอย่างออกมาจนหมด พลังของราชครูก็มาถึงระดับท้าทายสวรรค์ มากเกินกว่าระดับที่เขาเคยทำได้เมื่อก่อนหน้า ซึ่งแน่นอนแล้วว่าพลังที่ระเบิดออกมาในคราวนี้ เกินไปกว่าทั่วไปมาก
บรรพชนเผ่าภูตกับพวกที่สัมผัสถึงพลังนี้ได้ก็พากันแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อออกมา หากว่าถูกมังกรมืดตัวนี้โจมตีเข้า สุดท้ายแล้วพวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
แต่ว่าอี้เทียนหยุนกลับหัวเราะออกมา “ต่อให้เจ้าจะรวมเข้ากับมังกรมืดนี้ก็ยังเป็นได้แค่หนอนแมลงอยู่ดี!”
เขาหัวเราะพร้อมกับถีบเท้าเข้ากับพื้นเบาๆ พร้อมกับพุ่งทะยานออกไป สองตาของเขาระเบิดแสงเจิดจ้าออกมา พร้อมกับเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ความว่างเปล่าเล็งไปยังมังกรมืดตัวนั้น
“หมัดเทพมังกร!”
“เปรี้ยง!”
คลื่นพลังรูปกำปั้นขนาดใหญ่พลันพุ่งออกไป กลายเป็นกำปั้นขนาดยักษ์ต่อยเข้าใส่ พริบตา คลื่นพลังรูปหมัดนี้ก็ปกคลุมไปยังร่างของมังกรมืดตัวนั้นแล้ว เพิ่งจะลงมือ ก็ซัดจนมังกรมืดตัวนี้ต้องหน้าทิ่มพื้น ตกลงมาราวกับอุกกาบาต กระแทกพื้นอย่างแรง “เปรี้ยง” จนพื้นแตกออกเป็นรูปหมัดขนาดยักษ์!
หมัดเดียวปลิดชีพ!
ในตอนนี้ บนหน้าต่างสถานะของอี้เทียนหยุน ได้แสดงตัวเลขที่น่าสะพรึงกลัวขึ้น พลังรบ 176 ล้าน!