CLS ตอนที่ 439: คาดเดา
“นี่ พลังนี้มัน ทำไมถึงได้…..”
บรรพชนตี้หมิงตาถลนแทบหลุดจากเบ้า เมื่อไม่มีร่างกายช่วงล่าง ก็ไม่มีทางที่จะขยับได้ พวกเขาไม่มีความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะยิ่งเป็นช่วงไม้ใกล้ฝั่งด้วยแล้ว พลังฟื้นฟูยิ่งอ่อนแอลงช่วงใหญ่ จำเป็นต้องใช้เวลารักษาบาดแผนเป็นเวลานาน นอกจากจะใช้เม็ดยาฟื้นฟูเข้าช่วย แบบนี้ก็จะเร็วขึ้นมาหน่อย
แต่แม้จะได้เม็ดยาฟื้นฟูเข้าช่วย แต่ผลลัพธ์เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนก็ช้ากว่ามาก สาเหตุเพราะร่างกายนั้นไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงทำให้ฤทธิ์ของยาไม่มีประสิทธิภาพดังก่อน
“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ นี่เป็นชะตาของอาณาจักรใต้พิภพของพวกเจ้า! พวกเจ้าทั้งโอหัง โหดร้าย ตอนนี้ข้าจะผดุงความยุติธรรมแทนฟ้า ทำการกำจัดเจ้า นี่คือชะตาของเจ้า!” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกายอย่างต่อเนื่อง ขนาดระบบยังทนไม่ได้ มอบภารกิจให้กำจัดอาณาจักรใต้พิภพ เห็นได้ชัดเลยว่าอาณาจักรใต้พิภพนี้เลวทรามขนาดไหน
“ฮ่าๆๆ….. ผดุงยุติธรรมแทนฟ้าอย่างงั้นเหรอ เหลวไหล ผู้ชนะเป็นจ้าว แพ้เป็นโจร….” บรรพชนตี้หมิงยิ้มอย่างชื่นมื่นออกมาคราหนึ่ง เขาไม่สนใจว่าอะไรที่เรียกว่าโอหัง ใครที่มันกล้าปฏิเสธ มันผู้นั้นต้องตาย เรื่องมันก็ง่ายๆ แค่นี้
“ชนะเป็นจ้าว แพ้เป็นโจร….. คำพูดนี้อาจจะถูกก็จริง แต่ราชาที่แท้จริงนั้น จะไม่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดของผู้บริสุทธิ์ แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้วยกัน!” คำพูดของอี้เทียนหยุนเพิ่งจะจบลง เขาก็ไม่รอให้ฝั่งตรงข้ามได้ตอบ ทำการแทงกระบี่ทะลุหัวอีกฝ่ายไป
บรรพชนตี้หมิงเบิกตาโพลง เหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ก็พูดไม่ออก เนื่องเพราะชีวิตของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว จะมีก็แต่สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทั้งยังมากไปด้วยความไม่ยินยอม
“ติ๊ง สังหารบรรพชนตี้หมิงสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 162 ล้าน, ค่าความคลั่ง 43,000, ค่าความชั่ว 15,000, ได้รับวิชายุทธ์ ฝ่ามือเทพใต้พิภพ, เคล็ดวิชาเทพใต้พิภพ, เคล็ดวิชาใต้พิภพเพลิงผลาญ, เปลวเพลิงใต้พิภพ(ระดับปฐพีขั้นกลาง, หายาก), วิญญาณใต้พิภพ(หายาก), กุญแจใต้พิภพ(หายาก)!”
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 3!”
เมื่อรวมกับค่าประสบการณ์ที่ได้รับมาก่อนหน้า ทำให้เขาเลื่อนระดับเข้าสู่ขั้นที่ 3 ได้อย่างราบลื่น แค่ระดับบรรพชนสองคน ก็ทำให้เขาได้ค่าประสบการณ์มากกว่า 300 ล้าน เมื่อรวมกับค่าประสบการณ์ที่ได้จากการดูดซับเปลวเพลิงใต้พิภพเมื่อก่อนหน้า จึงทำให้เขาทะลวงเข้าสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 3 ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เขาท้าทายสวรรค์ขึ้นไปอีก
เลื่อนระดับราวกับการละเล่น ทะลวงเข้าสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 3 ได้สำเร็จในพริบตา หน้าไหนที่จะทำได้อย่างเขา?
แต่สุดท้ายก็ไม่มีรางวัลสำหรับการต่อสู้ข้ามระดับ ดูเหมือนว่าคงต้องต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้อีกครั้ง คงต้องสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณ ถึงจะมีรางวัลสำหรับการต่อสู้ข้ามระดับมาให้
“ติ๊ง บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 50 เท่า ได้หมดเวลาแล้ว”
“ติ๊ง บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 30 เท่า ได้หมดเวลาแล้ว”
“ติ๊ง…..”
บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 66 เท่า ก็ได้หมดเวลาลงทีละใบ ยังไม่ทันได้สังหารจักรพรรดิใต้พิภพก็หมดเวลาลงซะแล้ว หมายความว่าเขาได้พลาดแกะล้วนตัวนี้ไปในที่สุด ช่างน่าเสียดายจริงๆ และก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมซื้อบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์พวกนี้เพื่อจักรพรรดิใต้พิภพเพียงคนเดียว เห็นได้ชัดว่ามันไม่คุ้มอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากว่าจะมีศัตรูกลุ่มใหญ่ แบบนั้นย่อมต่างกัน
“หมดเวลาซะแล้ว ช่างน่าเสียดายจริงๆ…..”
อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย มหาค่ายกลใต้พิภพของที่นี่เป็นดั่งต้นตอแห่งหายนะ ต้องทำลายทิ้ง อย่างรวดเร็ว พวกบรรพชนเผ่าภูตก็ได้บินเข้ามา มีเพียงแต่เวลานี้เท่านั้นที่พวกเขากล้าเข้าใกล้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาห่วงชีวิตหรือกลัวตาย แต่หากเข้าใกล้แล้วตาย มันจะเป็นการตายที่ไร้สาระเกินไป
“ราชาภูต ท่านร้ายกาจมากจริงๆ….. กระทั่งบรรพชนตี้หมิงและบรรพชนเทียนหมิงทั้งสองยังถูกท่านสังหาร ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อจริงๆ!” ในใจบรรพชนเผ่าภูตรู้สึกแตกตื่น นี่ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อจริงๆ
บรรพชนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองถูกสังหารทิ้งอย่างง่ายดาย ตอนแรกคิดว่าการบุกเข้าเมืองหลวงใต้พิภพง่ายแล้ว แต่ตอนนี้การสังหารบรรพชนทั้งสองกลับง่ายราวกับหั่นแตงโม นี่ช่างยากจะเชื่อจริงๆ
เหตุการณ์นี้ไม่ได้สร้างความตกใจให้กับบรรพชนเผ่าภูตเพียงคนเดียว กระทั่งเริ่นหลงกับพวกก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรดี พวกเขาพากันกังวล แต่แค่พริบตาเดียวเรื่องทุกอย่างก็ถูกจัดการจนแล้วเสร็จ พวกเขาทำได้เพียงมองดูอย่างเซ่อๆ เหมือนไม่มีความหมายอะไร
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยเรื่องพวกนี้ ท่านบรรพชน ท่านและผู้อาวุโสคนอื่นสามารถทำลายมหาค่ายกลใต้พิภพนี้ได้หรือเปล่า?” อี้เทียนหยุนถามขึ้น
“ยากอยู่ แม้ว่าจะไม่ง่าย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ตราบเท่าที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนอื่นเข้ามาโจมตี พวกเขาก็สามารถแก้ไขมหาค่ายกลนี้ได้!” บรรพชนเผ่าภูตตอบออกมา แม้พวกเขาจะไม่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา แต่ให้จัดการเรื่องนี้ แน่นอนว่าไม่มีปัญหา
“งั้นก็ดี เรื่องนี้ยกให้พวกท่านจัดการ ข้าขอไปไล่ตามจักรพรรดิใต้พิภพก่อน ตอนนี้เขาคงกำลังหนีอยู่ ดังนั้น มหาค่ายกลใต้พิภพนี้ต้องถูกทำลาย หากไม่ทำลาย มันจะเพิ่มพลังจำนวนมากให้กับเขา” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง
เขาได้ประสบกับตัวเองแล้วว่ามหาค่ายกลใต้พิภพนี้ ได้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งจำนวนมากให้กับพวกเขา หากไม่ทำลายมัน การจะจัดการกับเขาจะมีความยากขึ้นเล็กน้อย พูดได้ว่าเขากลัวว่ามันจะยุ่งยากขึ้น มีเรื่องน้อยลงได้ก็ดี เพราะเขาไม่คิดว่าตอนนี้ตัวเขาจะไร้เทียมทานจนไม่มีใครทำอะไรได้
“ไม่มีปัญหา ที่นี่ปล่อยให้พวกข้าจัดการเอง!” บรรพชนเผ่าภูตพยักหน้า จากนั้นก็เผยสีหน้ากังวลออกมา “แต่ท่านพูดอย่างนี้ อาจจะเป็นกับดักหรือเปล่า? พวกเราไม่รู้ข้างล่างนั้นเป็นที่ไหน พูดไม่ได้ว่าไม่มีกับดัก”
“แต่ถ้าไม่ลงไป จักรพรรดิใต้พิภพก็จะหนีไปได้ จากนั้นเขาต้องสร้างอาณาจักรใต้พิภพขึ้นใหม่อย่างแน่นอน!” อี้เทียนหยุนสายตาเย็นชา เขาไม่มีทางปล่อยให้เป็นอย่างนี้อย่างแน่นอน
ตราบเท่าที่จักรพรรดิใต้พิภพยังมีชีวิตอยู่ อาณาจักรใต้พิภพย่อมต้องถูกสร้างขึ้นใหม่ได้! หากว่าเขาทำการหลบซ่อนตัว แล้วระหว่างนั้นก็ลอบโจมตีอีกครั้ง นั่นคงเป็นปัญหา หอกในที่แจ้งง่ายจะหลบ แต่ยากจะหลบศรในที่มืด เขาไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นอย่างแน่นอน
“และที่สำคัญ ที่เขาลงไปจะต้องไม่ใช่เพื่อหลบหนีอย่างแน่นอน แต่จะต้องเป็นแผนร้ายอะไรสักอย่าง เขาไม่สามารถสู้กับข้าตรงๆ ได้ หากไม่หนีก็ต้องซ่อนตัว….. ข้าคิดว่าเขากำลังเตรียมตัวทะลวงด่านอย่างแน่นอน” อี้เทียนหยุนพูดการคาดเดาของตนออกมา
ที่จักรพรรดิใต้พิภพมาถึงตรงนี้ได้ แน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนที่รักตัวกลัวตาย เพราะเขาคือคนที่เกิดมาเพื่อเป็นราชา!
เขาไม่มีทางหนีไปทั้งอย่างนี้แน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำอะไรศัตรูไม่ได้ การหนีไม่ใช่รูปแบบของผู้ที่เป็นราชา ดังนั้นอี้เทียนหยุนจึงคาดเดาว่าเขาคงกำลังหาทางเพิ่มพลังบางอย่าง หรือไม่ก็ต้องเตรียมตัวเพื่อทะลวงด่านอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าหากคิดจะทะลวงระดับ ย่อมไม่สามารถบาดเจ็บได้ ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะทะลวงผ่าน และเมื่อทะลวงเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณ เมื่อนั้นก็จะน่าสะพรึงอย่างถึงที่สุด
“ทะลวงเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณ…..”
ผู้คนพากันหน้าเปลี่ยนสีครั้งใหญ่ ระดับราชาวิญญาณสำหรับพวกเขาแล้วเป็นเรื่องที่มีแต่ในตำนาน เมื่อเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณ พลังก็จะเข้าสู่ขอบเขตใหม่ และพลังที่เข้าสู่ขอบเขตใหม่นี้ ก็ไม่ใช่อะไรที่พวกเขาจะจินตนาการถึง
“จริงเหรอ ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ราชาภูต ท่านยังจะไปอีก?” บรรพชนเผ่าภูตพูดอย่างจริงจัง
“เรื่องนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องไป! ก่อนที่เขาจะเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณ เราต้องรีบตัดไฟเสียแต่ต้นลม!” ในตาอี้เทียนหยุนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ไม่อย่างนั้น ก็ยากที่จะรับประกันความปลอดภัยของพวกเราได้ ข้ามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้ใต้บังคับบัญชา!”
คำพูดนี้ทำให้ในใจของพวกเขารู้สึกอบอุ่น สามารถมีประมุขแบบนี้ได้ พวกเขายังต้องการอะไรอีก? ประมุขคนอื่นมีใครบ้างที่จะมาสนใจชีวิตผู้ใต้บังคับบัญชา แต่อี้เทียนหยุนไม่