CLS ตอนที่ 441: ระดับราชาวิญญาณ!
จักรพรรดิใต้พิภพนั่งขัดสมาธิอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับทำการทะลวงกำแพงอย่างบ้าคลั่ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่งผลให้เกิดคลื่นพลังวิญญาณกระเพื่อมออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อี้เทียนหยุนรู้สึกว่าพลังนี้ค่อนข้างน่ากลัว
และหลังจากที่จักรพรรดิใต้พิภพทำการทะลวงด่านสำเร็จ เขาก็จะมาถึงเขตแดนที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาจะมีพลังที่ยิ่งใหญ่ที่พร้อมจะบดขยี้ทุกสิ่ง
แม้ว่าการทะลวงเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณจะยากอย่างมาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ พรสวรรค์ของจักรพรรดิใต้พิภพนั้นน่าสะพรึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาที่ฝึกฝนมานาน การทะลวงเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณในครั้งนี้ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งตอนนี้เขากำลังทำการทะลวงกำแพงอย่างบ้าคลั่ง ถือเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด
“ดูเหมือนว่าควรจะรีบจัดการเขาให้เร็วที่สุด”
นัยน์ตาอี้เทียนหยุนเปล่งแสงเย็นเยียบออกมา ถึงต่อให้จักรพรรดิใต้พิภพจะทะลวงเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณแล้วเขาก็ยังจัดการได้อยู่ดี แต่ว่าเขาไม่อยากให้เรื่องมันยุ่งไปกว่านี้ ดังนั้นรีบๆ กำจัดเขา จะได้กำจัดต้นตอแห่งปัญหาให้หมดสิ้นไป
จากนั้น เขาก็เรียกกระบี่มังกรเทวะออกมา พร้อมกับฟันเข้าใส่ทิศทางที่จักรพรรดิใต้พิภพอยู่ มังกรสวรรค์ทำการพุ่งออกไป พร้อมกับเปิดปากของขนาดใหญ่ของมัน กระโจนไปยังที่ที่จักรพรรดิใต้พิภพอยู่ และในขณะที่กำลังจะโจมตีอยู่นั้น มังกรสวรรค์ตัวนี้ก็เหมือนกับชนเข้ากันม่านแสงบางๆ จนเกิดเป็นเสียงดังสนั่น ก่อให้เกิดเป็นคลื่นอัดอากาศกระเพื่อมไม่หยุดตรงม่านแสงนั้น ก่อนที่ม่านแสงนี้จะระเบิดออกเป็นรูขนาดใหญ่เข้าไปยังข้างใน
หลังจากการระเบิดนี้ ม่านแสงก็ได้พังทลาย เป็นหลักฐานว่ามันไม่สามารถทนได้นานนัก ก็มาถูกทำลายไป
“มหาค่ายกลป้องกันระดับนี้ ช่างเป็นปัญหาจริงๆ” อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว ที่จักรพรรดิใต้พิภพมาที่นี่ แน่นอนว่าเพื่อทะลวงระดับแน่แล้ว หากว่าออกไปจากที่นี่ เขาก็จะไม่มีทางดูดซับเปลวเพลิงใต้พิภพเพื่อช่วยให้เขาทะลวงระดับอีก
จากนั้น เขาก็เปิดเนตรสวรรค์ออก พร้อมกับมองหาช่องโหว่ของมหาค่ายกล พร้อมกับค่อยๆ ใช้กำลังกำจัดมันอย่างช้าๆ การใช้เนตรสวรรค์เพื่อหารูโหว่ เป็นแค่กระบวนท่าพื้นๆ เท่านั้น ที่เสียไปก็เป็นแค่พลังวิญญาณเพียงเล็กน้อย
“ที่นี่แหละ!”
แสงสีฟ้าในตาของอี้เทียนหยุนหายไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำการตวัดกระบี่มังกรเทวะเข้าใส่ทางด้านนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดเป็นรังสีสีทองสว่างพุ่งออกไป พร้อมกับมังกรสวรรค์ที่ถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ทะยานเข้าโจมตียังรูโหว่นั้น
ท่าพิเศษของกระบี่มังกรเทวะนี้น่าสะพรึงมาก เมื่อไหร่ที่ทำการโจมตีออกไป ก็จะสามารถเรียกมังกรสวรรค์ออกมา ทั้งพลังยังเพิ่มขึ้นตามระดับของผู้ใช้อีกด้วย มังกรสวรรค์ที่เขาเรียกออกมานี้ พลังของมันเทียบได้กับระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นสูงสุดได้เลย ไม่อย่างนั้น มันคงไม่สามารถสังหารบรรพชนตี้หมิงได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น
“ตูม!”
พร้อมกับเสียงดังสนั่น พลังป้องกันทั่วทั้งมหาค่ายกลก็ลดลงถึงขีดอันตราย ก่อนที่จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จนก่อให้เกิดพายุหมุนขึ้นใกล้ๆ ตรงที่จักรพรรดิใต้พิภพนั่งทำสมาธิอยู่ แต่ไม่ว่าจะยังไง พายุหมุนลูกนี้ก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้จักรพรรดิใต้พิภพได้ เนื่องจากรอบๆ ตัวจักรพรรดิใต้พิภพ มีม่านเปลวเพลิงใต้พิภพขึ้นรอบๆ คอยปกป้องจักรพรรดิใต้พิภพอยู่
ไม่คิดว่าหลังจากทำลายไปชั้นหนึ่งแล้วจะยังมีการป้องกันอีกชั้นโผล่มา ช่างทำให้ผู้คนรู้สึกรำคาญใจจริงๆ
“สุดท้ายแล้วก็ยังมีม่านเปลวเพลิงใต้พิภพคอยป้องกันอยู่อีกชั้น แต่ยังไงก็ต้องถูกทำลายทิ้งอยู่ดี!”
อี้เทียนหยุนลงมือต่อ ทำการตวัดกระบี่ออกไป พร้อมกับเปลวเพลิงนิรันดร์ซึ่งเป็นเปลวเพลิงอมตะขั้นสูง เพียงกระบี่เดียวก็ทำลายม่านเปลวเพลิงใต้พิภพลงได้ แม้จะป้องกันก็ยังเอาไม่อยู่ สุดท้ายก็ทะลวงผ่านม่านเปลวเพลิงใต้พิภพเข้าไป พร้อมกับตรงเข้าใส่จักรพรรดิใต้พิภพ หวังจะแทงทะลุอีกฝ่าย
และในตอนนี้เอง จักรพรรดิใต้พิภพก็พลันลืมตาขึ้น นัยน์ตาทั้งสองมีประกายแห่งเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ พร้อมกับดูดกลืนเปลวเพลิงใต้พิภพที่อยู่รอบๆ เข้ามายังร่างกาย ราวกับว่าตอนนี้มีมังกรมืดหลายตัวกำลังโอบล้อมรอบๆ ตัวเขา!
These Dark Dragon one swallowed has divided the flame, and continued to throw toward here, before can restrain Netherworld’s Fire Inextinguishable Fire, was defeated unexpectedly here.
มังกรมืดพวกนี้ ตัวหนึ่งได้แยกตัวออกมาจากเปลวเพลิง พร้อมกับโผทะยานเข้ามาที่นี่ ก่อนหน้านี้สามารถจัดการเปลวเพลิงใต้พิภพได้ด้วยเปลวเพลิงนิรันดร์ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ต่าง
ดวงตาอี้เทียนหยุนเป็นประกาย ก่อนที่ตวัดกระบี่มังกรเทวะในมือออกไปอย่างเกรี้ยวกราด พร้อมกับเปลวเพลิงนิรันดร์ที่ลุกโชนบนตัวกระบี่ ทำการตัดร่างมังกรมืดที่พุ่งเข้ามา แล้วก็เหมือนเดิม เปลวเพลิงนิรันดร์ได้ทำการดูดกลืนพวกมันไว้ พร้อมกับเผาไหม้จนสลายไป
พร้อมกันนั้น ข้อมูลใหม่ก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ระดับและพลังรบของจักรพรรดิใต้พิภพได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นใหญ่ : ศัตรูได้ทะลวงเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 1, พลังรบ 170 ล้าน(รวมกับมหาค่ายกลใต้พิภพแล้ว)!
หลังจากทะลวงระดับ พลังหลายๆ อย่างของจักรพรรดิใต้พิภพก็ได้เกิดการยกระดับ จากพลังรบที่แข็งแกร่งที่สุด 120 ล้าน ตอนนี้ได้ไต่มาถึง 170 ล้าน สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 50 ล้าน!
ยังไงก็ตาม นี่ก็เป็นสภาพหลังจากทะลวงระดับ รวมถึงพลังที่ได้รับจากเปลวเพลิงใต้พิภพ ถึงได้ทำให้พลังรบของเขาไต่มาถึงระดับนี้ แน่นอนว่าพลังรบที่แท้จริงของเขาย่อมไม่แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่มีแค่ 120-130 ล้านเท่านั้น แต่แค่นี้ก็ถือว่าท้าทายสวรรค์พอแล้ว
ข้อมูลที่ได้มาจากดวงตาประเมิน มีบอกถึงตอนที่ไม่ได้นับรวมมหาค่ายกลใต้พิภพเข้าไปด้วย ตอนอยู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นสูงสุด พลังรบของเขาอย่างมากก็อยู่ที่ประมาณ 100 ล้าน ตอนนี้หลังจากที่ทะลวงเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณได้สำเร็จ พลังรบของเขาก็เพิ่มขึ้น 20-30 ล้าน ซึ่งจำนวนนี้นับเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว
และที่สำคัญคือตอนนี้พลังของเขายังไม่มั่นคง เนื่องเพราะจักรพรรดิใต้พิภพเพิ่งจะเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณได้สำเร็จ จึงยังไม่มีเวลาทำให้พลังในร่างเสถียร พลังรบที่แสดงออกมานี้จึงไม่ใช่จุดสูงสุด
หากให้เวลาปรับตัวล่ะก็ พลังรบของเขาจะต้องไต่ไปถึง 550 ล้านอย่างแน่นอน นี่ก็คือพลังที่แท้จริงของระดับราชาวิญญาณ อย่างนี้ถึงจะคุ้มกับความเหนื่อยยากที่ทำมา ยิ่งเข้าสู่ช่วงหลัง ความต่างของระดับก็ยิ่งถ่างกว้างขึ้นจนไม่สามารถเอามาเทียบกันได้
“ฮ่าๆๆ…. ในที่สุดข้าก็ทำสำเร็จ ในที่สุดข้าก็เข้าสู่ระดับราชาวิญญาณได้แล้ว” จักรพรรดิใต้พิภพหัวเราะออกมา และหลังจากหัวเราะเสร็จ เขาก็มองมายังอี้เทียนหยุนอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “ข้าต้องขอขอบใจเจ้าจริงๆ เพราะคำพูดของเจ้า ทำให้ข้าไม่มีทางเลือก จนสุดท้ายก็สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณได้สำเร็จ ทั้งหมดนี้ต้องขอบใจเจ้าจริงๆ”
สีหน้าอี้เทียนหยุนยังคงเฉยชา เขาสามารถเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณได้ถือเป็นเรื่องดี แต่คิดจะจัดการกับเขานั้น ตัวเขายังมีวิธีอีกมาก! เอาเฉพาะพลังที่เขาไม่ได้ระเบิดออกมาจนหมด ก็สามารถบดขยี้จักรพรรดิใต้พิภพได้แล้ว แล้วเขายังต้องกลัวอีกฝ่ายด้วยงั้นเหรอ?
“ขอบใจข้า? งั้นข้าคงต้องลุ้นหน่อยแล้ว ว่าเจ้าจะให้อะไรข้าเป็นรางวัล?” อี้เทียนหยุนยิ้ม พร้อมกับเดินไปที่ด้านข้างจักรพรรดิใต้พิภพอย่างไร้ซึ่งความหวาดกลัว
ระดับราชาวิญญาณแล้วไง? อย่างนี้สิถึงดี แบบนี้เขาก็จะได้มีโอกาสได้รับรางวัลจากการสังหารข้ามระดับ
“แน่นอนว่ารางวัลนั้นก็คือ การฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ ยังไงล่ะ รวมถึงสำนักเจ้าด้วย ข้าจะสังหารพวกมันทั้งหมด ให้ไปอยู่เป็นเพื่อเจ้าให้หมดทุกคน!” จักรพรรดิใต้พิภพเปล่งพลังในร่างออกมา พร้อมกับดูดกลืนเปลวเพลิงใต้พิภพอย่างต่อเนื่อง เริ่มเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตน
มีเปลวเพลิงใต้พิภพอยู่ เขาก็จะสามารถทำพลังในร่างมั่นคงขึ้น และความจริงก็เป็นอย่างนั้น พลังรบของเขาได้ไต่ระดับสูงขึ้น ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย
ตอนนี้ ทั่วทั้งร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง พร้อมกันนั้นก็ก่อตัวเป็นเกราะเพลิงขึ้นปกคลุมร่างของเขา ดูแล้วไม่ธรรมดาอย่างมาก นี่คือเคล็ดวิชาใต้พิภพเพลิงผลาญ มันสามารถเพิ่มพลังให้กับตนเองได้ขั้นใหญ่ แต่ละการโจมตีที่ส่งออกไป จะสามารถปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งของเปลวเพลิงใต้พิภพได้!