CLS ตอนที่ 448: ยอมรับนาย
“ติ๊ง ท่านสังหารวิญญาณหมิงเฉินสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 120 ล้าน, ค่าความคลั่ง 12,000, ค่าความชั่ว 15,000, ได้รับวิชายุทธ์ เคล็ดวิชาเทพใต้พิภพ, ฝ่ามือเทพใต้พิภพ, เคล็ดวิชาใต้พิภพเพลิงผลาญ, มังกรมืดสิงร่าง, ได้รับไอเทม แผนที่โลกวิญญาณ(หายาก), บัญชาลับโลกวิญญาณ(หายาก), กระดานดวงดาวโลกวิญญาณ(หายาก)!”
หลังจากสังหารหมิงเฉิน ของชุดใหญ่ก็ระเบิดออกมา ดูแล้วน่าจะเป็นของดีด้วย แม้ว่าจะไม่มีชุดตกลงมา แต่ของที่ได้ก็สำคัญกว่าหากเมื่อเทียบกับชุด จะน่าเสียดายก็แต่ที่ไม่มีอุปกรณ์ระดับเทวะตกลงมา พูดได้โอกาสของมันนั้นอาจจะต่ำเกินไป จึงไม่สามารถตกลงมาได้ตามปกติ แม้จะเปิดใช้งานโชคดีก็ตาม
“จะไม่ปล่อยข้า….” สายตาอี้เทียนหยุนเป็นประกาย “หากเก็บเจ้าไว้ แล้วสถานการณ์ของข้าจะดีขึ้นอย่างงั้นเหรอ?”
คำพูดของหมิงเฉินแน่นอนว่าเชื่อไม่ได้ เขาก่อตั้งสำนักของเขามาอย่างยากลำบาก แล้วจะให้ยอมแพ้ทั้งอย่างนี้ แล้วจะเรียกว่าการแก้แค้นได้ยังไง? การปล่อยคนบาปที่หลอกลวงคนเอาไว้ ก็เท่ากับรอวันตาย แต่ไม่คิดว่าการจัดการกับอาณาจักรใต้พิภพจะกลายเป็นหาเรื่องศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าอย่างแดนศักดิ์สิทธิ์!
แน่นอนว่าหากเขารู้ว่าอาณาจักรใต้พิภพมีแดนศักดิ์สิทธิ์คอยอยู่เบื้องหลัง เขาก็คงเลือกที่จะทำอย่างนี้อยู่ดี ที่นี่ปกครองกันด้วยกฎแห่งป่า เมื่อลงมือมาถึงขั้นนี้แล้ว หากไร้ซึ่งความแข็งแกร่ง ต่อให้ไปหลบอยู่มุมไหนก็ไร้ประโยชน์
เขาไม่มีทางเสียใจต่อเรื่องที่ตนทำไป หากว่าฝ่ายตรงข้ามส่งคนมา เขาก็จัดการให้หมด เปลี่ยนพวกเขาเป็นค่าประสบการณ์เลื่อนระดับให้กับตน!
จากนั้น สายตาของเขาก็ค่อยๆ ตกลงบนไข่มุกสมบัติใต้พิภพ หลังจากสูญเสียเจ้าของ มันก็ร่วงลงจากกลางอากาศ ตกลงพื้น พร้อมกับกลิ้งเบาๆ ก่อนที่จะหยุดลงใกล้ๆ หากมองจากไกลๆ ดูแล้วไข่มุกเม็ดนี้งดงามอย่างมาก หากเทียบขนาดกันแล้ว ดูเล็กกว่าสมบัติลับเทียนหลงมาก ขนาดเทียบกับไข่มุกทั่วไปยังดูเล็กกว่า
หากไม่รู้คงจะคิดว่ามันเป็นเพียงไข่มุกดำธรรมดา แต่เมื่อตรวจสอบดูดีๆ แล้ว จะพบว่าแท้จริงแล้วมันคืออุปกรณ์ระดับเทวะ! นี่คืออุปกรณ์ระดับเทวะ เป็นสิ่งของที่ขุมอำนาจระดับอาณาจักรต่างก็ต้องการคว้ามาครอง แต่ว่ามันหายากเกินไป ความยากที่จะได้มาครองจึงสูงมาก
อาณาจักรใต้พิภพมีไข่มุกสมบัติใต้พิภพ แต่ตามทฤษฎีแล้วไม่อาจนับว่าเป็นของจักรพรรดิใต้พิภพ พูดได้ว่าเขาสามารถควบคุมมันได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากว่าเขาสามารถปลดปล่อยเปลวเพลิงใต้พิภพที่น่าสะพรึงนั้นออกมาตั้งแต่แรก เขาจะต้องถูกโจมตีจนต้องบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน
เขาเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมา เพราะสูญเสียเจ้าของ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นของที่ไม่มีนาย เขาทำการกรีดนิ้วแล้วหยดเลือดลงไปยังไข่มุกสมบัติใต้พิภพนี้ พร้อมกับหยดเลือดที่ถูกดูดเข้าไปอย่างรวดเร็ว เริ่นหลงและบรรพชนเผ่าภูตที่อยู่ใกล้ๆ พากันมองมาที่นี่ แต่ไม่กล้าเดินเข้าไปตามใจ
พวกเขาสัมผัสได้ว่าเปลวเพลิงใต้พิภพที่อยู่รอบๆ นี้ค่อนข้างน่าสะพรึง หากไม่ระวังล่ะก็ เพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้พวกเขาถูกเผาจนเหลือแต่เถ้าได้!
เปลวเพลิงใต้พิภพนี้ไม่ใช่เปลวเพลิงแบบเดียวกับที่จักรพรรดิใต้พิภพดูดกลืนเพื่อเพิ่มระดับเมื่อก่อนหน้า แต่เป็นเปลวเพลิงใต้พิภพขั้นสูงที่หมิงเฉินปล่อยออกมา ทำให้พลังของมันสูงถึงระดับราชาวิญญาณ ไม่มีทางที่พลังของพวกเขาจะต้านทานได้
โชคดีที่ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายไม่ได้ถูกสิงร่างโดยสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้น พื้นที่พวกนี้คงได้กลายเป็นขุมนรกอย่างแท้จริง
“ฟรึบ!”
ทันใดนั้น ไข่มุกสมบัติใต้พิภพก็ได้ปลดปล่อยเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงออกมา ก่อนที่ปกคลุมแขนของเขา พร้อมกับซึมหายเข้าไปอย่างรวดเร็ว อี้เทียนหยุนไม่แม้แต่จะตกใจ เขารู้ว่านี่เป็นหนึ่งในกระบวนการยอมรับเจ้านาย และก็เพียงครู่เดียว เปลวเพลิงใต้พิภพที่ซึมหายเข้าไปในร่างของเขาก็กลับเข้าไปยังไข่มุกสมบัติใต้พิภพ เป็นการบอกว่ากระบวนการล้มเหลว
“ยอมรับนายล้มเหลว….. คิดว่าคงต้องใช้เปลวเพลิงใต้พิภพด้วย หากปราศจากเปลวเพลิงใต้พิภพ กลัวว่าน่าจะควบคุมได้ยาก”
อี้เทียนหยุนทำการเรียกใช้เปลวเพลิงใต้พิภพออกมา เปลวเพลิงนี้เขาได้มาตอนที่สังหารจักรพรรดิใต้พิภพเมื่อสักครู่ หลังจากเรียกใช้ เขาก็ทำการทดลองใหม่อีกครั้งทันที
“อีกครั้ง!”
ไข่มุกสมบัติใต้พิภพทำการปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมาอีกครั้ง พร้อมกับดูดกลืนเปลวเพลิงใต้พิภพของเขาเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็ไหลเข้ามาในร่างของเขาผ่านเปลวเพลิงใต้พิภพ หลังจากการเชื่อมต่อสำเร็จ พลังงานของทั้งคู่ก็เข้ากันได้ในพริบตา ทำให้ไข่มุกสมบัติใต้พิภพเปล่งลำแสงสีฟ้าออกมา กลายเป็นสมบัติที่เขาสามารถใช้ได้!
“ดีมาก ในที่สุดก็ยอมรับนายสำเร็จ” ตาของอี้เทียนหยุนเป็นประกาย พร้อมกับเรียกใช้งานอุปกรณ์เทวะนี้ในทันที หากไม่ปล่อยเปลวเพลิงใต้พิภพออกมา เขาก็ไม่สามารถควบคุมไข่มุกสมบัติใต้พิภพนี้ได้
ที่นี่มีเปลวเพลิงใต้พิภพที่ควบคุมได้น้อยมาก แต่ต่อให้จะสามารถควบคุมได้ ระดับก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี ดังนั้นความยากจึงไม่ใช่น้อยๆ เลย
หลังจากควบคุมสำเร็จ อี้เทียนหยุนก็รีบยกมือขึ้น พร้อมกับทำการควบคุมเปลวเพลิงใต้พิภพให้ยืดขยายออกไปด้านหน้า แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “จงดูดกลืน!”
จากนั้น ไข่มุกสมบัติใต้พิภพก็ระเบิดลำแสงออกมา พร้อมกับดูดกลืนเปลวเพลิงใต้พิภพที่อยู่รอบๆ เข้ามาในตัวไข่มุกสมบัติใต้พิภพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเอามาเก็บไว้ ไข่มุกสมบัติใต้พิภพนี้สามารถสร้างเปลวเพลิงใต้พิภพเพิ่มขึ้นได้ แต่ความเร็วกลับค่อนข้างช้า ดังนั้น การรวบรวมเอามาเก็บไว้อย่างนี้จึงเป็นเรื่องที่ดีกว่า
เปลวเพลิงใต้พิภพนี้อยู่ระหว่างสวรรค์และโลก ไม่ได้มีมาแต่กำเนิด แต่เกิดจากการดูดซับผ่านคืนวันอันยาวนาน ถึงได้เกิดเป็นเปลวเพลิงใต้พิภพนี้ขึ้น
มีผู้ฝึกเปลวเพลิงสวรรค์ไม่มากนัก พูดได้ว่าหายากกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะเปลวเพลิงระดับสูง ยิ่งหายากไปกันใหญ่
อย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงใต้พิภพที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ ก็ได้ถูกไข่มุกสมบัติใต้พิภพดูดเข้ามา นอกจากเปลวเพลิงใต้พิภพที่ลุกไหม้อยู่ที่ทางเดินใกล้ๆ แล้ว นอกนั้นต่างก็ถูกดูดมาเก็บไว้หมด
“ดีจริงๆ จากนี้ก็สามารถมีเปลวเพลิงใต้พิภพใช้แล้ว มีเปลวเพลิงเพิ่มมาอีกหนึ่ง ก็จะมีพลังเพิ่มขึ้นอีกมาก”
เปลวเพลิงใต้พิภพไม่ใช่เปลวเพลิงชั่วร้าย นี่เป็นเปลวเพลิงจากพื้นโลก สิ่งชั่วร้ายไม่ชอบเปลวเพลิง แต่ชอบเข้าไปในจิตใจของผู้คนมากกว่า
“ท่านราชาภูต สมบัตินี้คืออะไร ทำไมถึงสามารถดูดกลืนเปลวเพลิงใต้พิภพเข้าไปได้มากขนาดนี้?” บรรพชนเผ่าภูตเดินเข้ามา พร้อมกับมองไปที่ไข่มุกสมบัติใต้พิภพในมืออี้เทียนหยุนอย่างสงสัย
“นี่คือของที่ข้าได้มาหลังจากสังหารจักรพรรดิใต้พิภพ เป็นอุปกรณ์ระดับเทวะ” อี้เทียนหยุนไม่ได้ปิดบัง และก็ไม่มีอะไรต้องปิด นี่คือผู้คนที่เชื่อใจได้
“จักรพรรดิใต้พิภพถูกท่านสังหารแล้วจริงๆ….. แล้วยังมีอุปกรณ์ระดับเทวะอีก ราชาภูต ท่านร้ายกาจจริงๆ” บรรพชนเผ่าภูตอุทานออกมา “คนข้างบนเป็นห่วงว่าท่านจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราจึงได้ลงมาตรวจสอบ ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเราจะเป็นห่วงราชาภูตสุดร้ายกาจของเรามากเกินไป”
“ใช่แล้ว น้องอี้ เจ้าร้ายกาจจริงๆ การที่อาณาจักรเทียนหลงเราได้เจ้ามาเป็นองค์ชาย ถือว่าเราได้กำไรก้อนใหญ่จริงๆ” เริ่นหลงยิ้มอย่างมีความสุข แต่อย่างรวดเร็วใบหน้าก็จมลง “จักรพรรดิใต้พิภพถูกจัดการแล้ว แต่ยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอยู่ ข้าจะรีบให้คนมาในทันที จากนั้นก็ทำการกำจัดอาณาจักรใต้พิภพที่ชั่วร้ายนี้ให้สิ้นซาก จากนี้ไป จะไม่มีอาณาจักรที่ชื่อว่าใต้พิภพอีก!”
“ใช่แล้ว! จากนี้ไป จะไม่มีอาณาจักรที่ชื่อว่าใต้พิภพอีก!”
พวกเขารู้สึกว่าคำพูดนี้น่าชื่นใจอย่างมาก คิดว่าทุกอย่างได้มาถึงจุดสิ้นสุด แต่ว่าอี้เทียนหยุนรู้ดีว่าเรื่องนี้ยังห่างจากบทสรุปอีกไกล