CLS ตอนที่ 473: แค่ปีนหน้าผาก็เหมือนได้ฝึก
อี้เทียนหยุนมองไปยังผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ อย่างเย็นชา พวกนี้ต่างก็เป็นตัวตนที่โฉดชั่ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปพูดดีด้วย สามารถมาถึงนี่ได้ แน่นอนว่าย่อมไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือพวกเขาต่างก็เป็นพวกป่าเถื่อน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถทำได้
แค่ลงมือครั้งเดียวก็จัดการสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณได้ การฆ่าครั้งนี้ทำให้คนรอบๆ พากันตกใจ! เริ่นเหลียงเฉินกับพวกไม่ได้ตกใจกับการกระทำครั้งนี้ ด้วยพลังที่แสนอหังการของอี้เทียนหยุน เป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณ เรื่องนี้ไม่ได้ผิดไปจากที่คาด ทั้งการลงมือครั้งนี้ยังเป็นการลงมืออย่างกะทันหัน ทำให้คนไม่ทันได้ตั้งตัว
“ยังมีใครอยากจะได้โอสถจากข้าอีกไหม?” อี้เทียนหยุนมองไปยังสีหน้าตกใจของผู้คนแล้วถามขึ้นอีกครั้ง
“ลู่เฟิง อย่ามาโทษข้าหากจะไม่เห็นแก่หน้าเจ้า….. จัดการมัน!” และในนั้นก็มีผู้ฝึกตนระดับผันแปรวิญญาณคนหนึ่งที่นัยน์ตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร จากนั้น ก็ได้มีผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณสามคนกระโจนเข้ามาในทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณคนก่อนหน้าที่ถูกสังหารไป
ส่วนผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณคนอื่นต่างก็พากันถอยออกด้านข้างไป พากันทำตัวเป็นผู้ชม คอยดูว่าสถานการณ์จะกลายเป็นร้ายแรงถึงระดับไหน
ลู่เฟิงมองไปยังอี้เทียนหยุนด้วยสายตาสนอกสนใจ จากนั้นก็มองไปยังผู้ฝึกตนที่กระโจนเข้าใส่อี้เทียนหยุน พร้อมกับแสดงรอยยิ้มเห็นอกเห็นใจออกไป
“ปัง ปัง ปัง!”
อี้เทียนหยุนไร้ซึ่งการผ่อนผัน ทำการวาดขาเตะเข้าใส่พวกเขาที่กระโจนเข้ามาทีละคนอย่างแรง แต่ละคนที่โดนเท้านี้เข้าไป ต่างก็พากันไม่ทันตอบสนอง จากนั้นก็กระเด็นไปติดหน้าผา พร้อมกับทรุดฮวบลงกับพื้น ไร้ซึ่งลมหายใจ
“ติ๊ง ท่านสังหารเผิงหยุนสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 1.1 ล้าน, ค่าความคลั่ง 4,700, ค่าความชั่ว 800, ได้รับวิชายุทธ์ ฝ่ามือกำราบฟ้า, เมฆาขบถ, ย่ำปฐพี, ได้รับไอเทม โอสถฟื้นฟู, โอสถถอนพิษ”
“ติ๊ง ท่านสังหารเล่อเฉินสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 1.15 ล้าน, ค่าความคลั่ง 4,800, ค่าความชั่ว 850…..”
“ติ๊ง….”
คนทั้งสามถูกสังหารในพริบตา ไม่มีโอกาสแม้แต่จะขอความเมตตา ก็มาถูกอี้เทียนหยุนสังหารไป ครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนหน้าที่ให้ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณสองคนนั้นว่ายน้ำเข้ามาเพื่อรักษาชีวิต แต่กลับสังหารทิ้งโดยตรง ไม่คิดจะเหลือไว้ให้เกะกะลูกตา
ในตอนนั้นต่างกับต่างนี้ เพราะตอนนั้นมีคนอยู่แค่ไม่กี่คน ทั้งระยะทางที่ต้องว่ายก็ถือว่าค่อนข้างไกล จะทนได้หรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของตน แต่ถึงจะผ่านมาได้ ก็ไม่รู้ว่ายังรักษาชีวิตของตนเอาไว้ได้อยู่ไหม
ส่วนตอนนี้ไม่มีใครกลัวใคร ทำให้พวกเขาคิดว่าจะทำยังไงกับใครก็ได้
“อะไรกัน?”
และอี้เทียนหยุนก็ไม่รังเกียจที่จะจัดการพวกเขา เพราะนี่สามารถทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นมา แม้ว่าจะไม่มาก แต่หากรวมเข้าด้วยกัน ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่มากอยู่
พริบตาก็จัดการสังหารทิ้งไปสามคน นี่สร้างความสั่นสะท้านให้กับคนที่ดูอยู่ โดยเฉพาะหลังจากที่ไปตรวจดูผู้ฝึกตนที่ถูกซัดกระเด็นไป หนึ่งในพวกเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงตกใจว่า “ตาย ตายแล้วจริงๆ?”
ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 คนนั้นต่างก็มีพลังระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 6 ที่ 7 บอกฆ่าเป็นฆ่า ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุด ก็ไม่มีทางทำได้ง่ายขนาดนี้หรอกใช่ไหม?
หรือว่าจะเป็นระดับวิญญาณเที่ยงแท้? แต่ก็เหมือนไม่ใช่ ทำไมผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ต้องมาที่นี่ด้วย?
ในใจพวกเขาพากันสั่นสะท้าน พร้อมกับพากันถอยออกไป ในสายตาของพวกเขานอกจากความตื่นตระหนกแล้ว ยังแฝงไปด้วยความโกรธ
“เป็นอะไร ไม่ใช่มั่นใจกันมากหรอกเหรอ? หลังจากนี้หากคิดจะลงมือก็ขอให้คิดให้ดี สมองเป็นของดี หวังว่าพวกเจ้าจะมีมัน” อี้เทียนหยุนปรายตามองไปที่พวกเขาเบาๆ จากนั้นก็หันมามองลู่เฟิงพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจที่ช่วยเหลือเมื่อกี้นี้”
“เจ้าให้โอสถแก่ข้า ข้าก็ต้องช่วยเจ้าอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ เจ้าจะไม่จำเป็นต้องให้ข้าช่วยแล้วล่ะ” ลู่เฟิงยักไหล่ จากนั้นก็พูดว่า “ขอทราบชื่อได้หรือไม่?”
เขาลุกขึ้นยื่น เห็นได้ชัดว่ายอมรับในความแข็งแกร่งของอี้เทียนหยุน ดังนั้นจึงจะอยากจะรู้จักเขา ก่อนหน้านี้คิดว่าเป็นแค่ผู้ที่ผ่านทางมา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรู้จัก
“อี้หยุน” อี้เทียนหยุนบอกออกไปง่ายๆ
“ลู่เฟิง” ลู่เฟิงยิ้ม จากนั้นก็หันไปพูดกับคนอื่นว่า “คำที่น้องอี้พูดเมื่อกี้นี้ดีมาก สมองเป็นของดี หวังว่าพวกเจ้าจะมีมัน ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกแล้วว่าอย่าได้หาเรื่องคนอื่น หากเตะถูกแผ่นเหล็กเข้า พวกเจ้าคงพากันจบชีวิต ตอนนี้ ข้าพูดถูกแล้วใช่ไหม?”
ผู้ฝึกตนพวกนี้รู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา ทำได้เพียงเก็บคำพูดเอาไว้ในใจ
“พี่ลู่ ไม่ทราบว่าหลายวันนี้เคยมีคนผ่านไปได้สำเร็จบ้างไหม?” อี้เทียนหยุนถาม
“ย่อมต้องมีแน่นอนอยู่แล้ว ไม่นานมานี้ก็มีคนสองคนผ่านไปได้สำเร็จ ระดับของพวกเขาไม่ได้สูงไปกว่าข้าเลย แต่ก็พากันผ่านไปได้…..” ลู่เฟิงส่ายหัว จากนั้นก็พูดว่า “ดูเหมือนว่าจำเป็นต้องพึ่งสามารถ แน่นอนว่าระดับก็ต้องดีด้วย แต่ยังไงก็ต้องมีความสามารถถึงจะผ่านไปได้ หากว่ามีธาตุที่เหมาะกับที่นี่ ก็จะยิ่งผ่านไปได้ง่ายยิ่งขึ้น”
“ธาตุ….. ธาตุมืดอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนเอ่ยธาตุหายากอออกมา นี่ถือเป็นคุณสมบัติที่หายากมาก เหมือนกับผู้ที่มีคุณสมบัติเกี่ยวกับธาตุมิติเลยล่ะ
“อืม หรืออาจจะเป็นพลังที่สามารถยับยั้งพลังของที่นี่ได้ แบบนี้ก็จะทำให้ลดความยากลงได้มากเช่นกัน” ลู่เฟิงมองมาที่พวกเขาแล้วพูดว่า “หากว่าเจ้ามีความพยายามและความสามารถ เจ้าก็ย่อมสามารถผ่านไปได้เช่นกัน”
“น้องอี้ เจ้าต้องระวังตัวเอาไว้ นอกจากจะสังหารพวกเขาจนหมด ไม่งั้น หากว่าเจ้าตกลงมาพร้อมกับบาดเจ็บหนัก บางทีพวกเขาอาจจะลงมืออีกก็เป็นได้ ถึงตอนนี้คงถือเป็นหายนะเลยล่ะ”
ประโยคสุดท้ายลู่เฟิงส่งเสียงผ่านลมปราณมาให้กับเขา เห็นได้ชัดว่าอยากจะเป็นสหายกับเขา สามารถเป็นสหายกับผู้เชี่ยวชาญ สำหรับบางคนแล้ว ถือเป็นเรื่องดี
“ขอบคุณมากที่เตือน” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มไม่ใส่ใจ “พวกเขาไม่มีโอกาสหรอก”
จากนั้นอี้เทียนหยุนก็หันไปพูดกับพวกเริ่นเหลียงเฉิน “พวกท่านเตรียมตัวกันแล้วใช่ไหม พร้อมจะปีนหรือยัง มั่นใจไหมว่าจะผ่านในครั้งแรก?”
“มั่นใจ!” พวกเขาพากันพยักหน้า เต็มไปด้วยความมั่นใจ
ผู้ฝึกตนที่อยู่ใกล้ๆ พากันมองมาด้วยสีหน้าดูถูก ทั้งยังมากไปด้วยความเกลียดชัง
“กำลังฝันอยู่หรือไง คิดว่าจะผ่านได้ตั้งแต่ครั้งแรก? ช่างเพ้อฝันเสียจริงๆ….”
“ฮี่ฮี่ พวกมาใหม่ก็เป็นอย่างนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? ไว้พวกมันตกลงมาเมื่อไหร่ พวกเราก็จะ…..”
“ดู ข้าคิดว่าพวกเขาจะต้องไปได้ไม่เกิน 50 จ้างอย่างแน่นอน!”
สายตาของพวกเขาต่างจับจ้องไปที่อี้เทียนหยุน ต่างก็พากันจับจ้องมายังที่นี่ และแน่นอนยังมีคนส่วนน้อยที่ไม่ได้คิดจะลงมือตั้งแต่เริ่มเหมือนกับคนส่วนใหญ่ ก็พากันมองมาเช่นกัน
พวกเขาไม่ได้คิดที่จะลงมือลับหลังเหมือนคนพวกนั้น และเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขา แต่พวกเขาแค่อยากจะรู้ว่าเขาจะทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกจริงหรือเปล่า!
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเริ่นเหลียงเฉินก็พากันปรับพลังให้สมดุล พร้อมกับเริ่มปีนขึ้นไป และในขณะที่ปีนนั้น ก็ได้มีพลังงานสีดำทำการรุกล้ำเข้ามาในร่างของพวกเขา พยายามกัดกินร่างกายของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
พวกเขากัดฟันแน่น พร้อมกับรีบปีนขึ้นไป ไม่ยอมชะงักอยู่กับที่
อี้เทียนหยุนก็ปีนขึ้นไปเช่นกัน เพียงแค่เอามือแปะลงไป เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังที่โถมเข้ามาในร่าง แทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเขา หวังจะกัดกินร่างกายเขา
“ดูดกลืน!”
อี้เทียนหยุนเปิดใช้เคล็ดวิชากลืนสวรรค์อย่างไม่ลังเล พร้อมกันนั้น พลังงานสีดำที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างของเขาก็ได้เปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์อย่างรวดเร็ว อย่าว่าแต่ความเสียหายแม้แต่นิดเลย กระทั่งยังกลายเป็นประโยชน์กับเขาด้วยซ้ำ!
“เยี่ยม แค่ปีนหน้าผาก็เหมือนได้ฝึกแล้ว…..” อี้เทียนหยุนยิ้มออกมา