CLS ตอนที่ 484: เสียหน้าไปซะ
เถ้าแก่เย่บอกให้คนทำการทุบกล่องต่อ ตราบเท่าที่เปิดได้ เขาก็จะมอบของทั้งสองชิ้นนั้นให้ แม้ว่าเขาจะยอมให้ทำอย่างนั้น แต่ความยากของมันก็ใหญ่มากอยู่ดี
แม้จะรู้ว่าเป็นอักขระชั้น 5 แต่ใครๆ ก็รู้ว่า แม้แต่นักสลักอาคมระดับต้าซือก็ยังเปิดไม่ได้ ต้องเป็นนักสลักอาคมระดับจงซือลงมือเอง แต่นักสลักอาคมระดับนั้นก็ถือว่าหายากสุดๆ ใช่ว่าจะพบเจอได้ทั่วไป
ราชครูของอาณาจักรใต้พิภพ ตามทฤษฎีแล้วถือว่าเป็นนักสลักอาคมระดับจงซือ แต่ความจริงแล้วยังไม่ถือว่าเป็นนักสลักอาคมระดับจงซือของจริง อย่างมากก็เป็นได้แค่ครึ่งก้าวก่อนเป็นนักสลักอาคมระดับจงซือ มีแต่บรรพชนเผ่าภูตนั่นแหละถึงจะเป็นนักสลักอาคมระดับจงซือที่แท้จริง แต่พื้นฐานที่มีก็ทำให้ถูกจำกัดอยู่ที่ระดับจงซือนี้เท่านั้น
ดังนั้น การที่จะสำเร็จนักสลักอาคมระดับจงซือจึงถือว่ายากมาก แม้นักสลักอาคมที่อยู่ตรงนี้จะมีมาก แต่นักสลักอาคมระดับจงซือกลับไม่มีอยู่เลยสักคน
กระทั่งระดับวิญญาณเที่ยงแท้ยังไม่สามารถใช้แรงทำลายได้ คนอื่นก็พากันคิดว่าอย่างน้อยต้องเป็นระดับราชาวิญญาณถึงจะทำลายได้ แต่อี้เทียนหยุนทำได้เพียงส่ายหัว หากระดับราชาวิญญาณสามารถทำลายได้ ป่านนี้เถ้าแก่เย่คงทำลายไปนานแล้ว
“แท้จริงแล้วกล่องนี้มันคืออะไรกันแน่ ทำไมถึงได้เปิดยากเปิดเย็นขนาดนี้?” อี้เทียนหยุนหรี่ตาจ้องไปที่กล่อง คิดว่าช่างเป็นกล่องที่ลึกลับอย่างมาก ไม่รู้ว่าใส่สมบัติอะไรไว้ข้างใน ทำไมถึงได้ล็อกไว้แน่นขนาดนั้น
“พี่ใหญ่ กล่องนี้ท่านมั่นใจไหมว่าจะเปิดได้?” หยางจื้อเหวินถามอย่างตื่นเต้น “นั่นคืออุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นเชียวนะ หากเปิดได้สำเร็จ ท่านก็จะได้ทั้งสองชิ้นนั้นมา!”
อี้เทียนหยุนยิ้มพร้อมกับตอบกลับไปว่า “มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ตอนนี้ยังไม่ได้ไปตรวจดูใกล้ๆ ดังนั้นจึงยังบอกอะไรมากไม่ได้”
เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นนั้น สิ่งที่เขาสนใจคือของในกล่องมากกว่า หรือว่าในนั้นจะเป็นอุปกรณ์ระดับเทวะ? นี่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ จากสภาพกล่องที่ปิดไว้อย่างแน่นหนาขนาดนั้น หากไม่ใช่สมบัติล้ำค่าแล้วล่ะก็ นั่นก็คงจะน่าผิดหวังจริงๆ
จากนั้นผู้คนก็พากันพยายามทำลายอักขระแทน ไม่มีใครใช้วิธีเอาแต่กำลังเข้าว่าอีก ขนาดระดับวิญญาณเที่ยงแท้ยังปลิว พวกเขาที่ระดับต่ำกว่าระดับวิญญาณเที่ยงแท้จะไปกล้าได้ยังไง?
ดังนั้น จึงมีแต่ต้องทำลายอักขระทีละตัวอย่างช้าๆ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีใครสามารถทำลายได้แม้แต่คนเดียว
เถ้าแก่เย่ก็นั่งมองอยู่ข้างๆ ปู๋เยี่ยนก็ยังคงคาบหญ้าไว้ในปากพร้อมกับนอนอยู่ใกล้ๆ ด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
“อาจารย์ เจ้าสิ่งนี้ยังจะมีคนเปิดได้อยู่เหรอ? ขนาดท่านยังเปิดไม่ได้ แล้วใครจะสามารถเปิดได้กัน?” ปู๋เยี่ยนพูดอย่างเบื่อหน่าย “นี่ก็ลองมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครทำสำเร็จสักคน”
ทุกวัน งานของเขาก็คือหาคนมาเปิดกล่อง นี่ก็ได้ลองมาหลายเดือนแล้ว แต่คนที่เปิดสำเร็จกลับไม่มีเลยสักคน
“อดทนหน่อย จะต้องมีคนเปิดมันได้อย่างแน่นอน” เถ้าแก่เย่พูดอย่างไม่ใส่ใจ “โลกนี้มันกว้างใหญ่กว่าที่เจ้าคิดเยอะ ขนาดข้าเองยังเป็นแค่ตัวตนเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น”
เถ้าแก่เย่พูดอย่างถ่อมตน ไม่ได้คิดว่าตัวเองร้ายกาจ
“ล้มเหลวจนได้ ไอ้กล่องบัดซบเอ๊ย!”
นักสลักอาคมเตะกล่องอย่างโมโห จากนั้นก็หมุนตัวจากไป ขณะเดียวกันก็มองไปที่อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองอย่างตัดใจไม่ได้ แต่เมื่อไม่สามารถเปิดกล่องออก พวกเขาก็ไม่สามารถเอามันไปได้
หลังจากล้มเหลวติดๆ กัน ในที่สุดก็ถึงตาอี้เทียนหยุน หลายคนพากันมองมาที่อี้เทียนหยุนพร้อมกับส่ายหัว ถึงยังไงก็ต้องล้มเหลวอยู่วันยังค่ำ ไม่จำเป็นต้องมองให้เสียเวลา
ขณะที่เขากำลังคิดจะตรวจสอบกล่องนี้อยู่นั้น ด้านหลังของเขาก็พลันมีเสียงตะโกนอย่างเดือดดาลดังมา “หลีกทาง หลีกทาง เทียนชิงจงซือมาแล้ว!”
ในตอนนี้เอง ก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาจากด้านหลัง ด้านหน้านำมาด้วยลูกศิษย์หนุ่มสองสามคน พร้อมกับบอกให้ผู้คนพากันเปิดทางออก เว้นทางไว้ เพื่อให้คนเดินเข้ามา
ภายใต้กลุ่มคนสองฟากฝั่ง ก็ได้มีชายวัยกลางคนเดินมาที่นี่อย่างช้าๆ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโอหัง ท่าทางราวกับกำลังเหยียดหยามทุกคนก็ไม่ปาน
“เป็นเทียนชิงจงซือ! จงซือผู้มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองล่างยวิ่น ดูท่าคงจะได้ยินเรื่องของกล่องนี้เข้าจึงได้มาที่นี่……”
“น่าจะใช่ กล่องนี้เปิดให้ลองเปิดมานานแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเปิดได้สักคน ตอนแรกก็ทำให้นักสลักอาคมจำนวนมากมา มาตอนนี้ ในที่สุดก็ทำให้นักสลักอาคมระดับจงซือมาจนได้!”
“คราวนี้จะต้องเปิดได้อย่างแน่นอน หากแม้แต่นักสลักอาคมระดับจงซือยังเปิดไม่ออก แล้วใครหน้าไหนจะเปิดได้กัน?”
เสียงพูดคุยดังวุ่นวาย คิดว่าคราวนี้จะต้องเปิดได้สำเร็จอย่างแน่นอน ซึ่งนี่ทำให้ทุกคนรอบๆ พากันตื่นเต้น กล่องเล็กๆ นี้ไม่มีใครเปิดได้เลยสักคน คราวนี้มีโอกาสที่จะเปิดออก แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นได้ยังไง?
“เจ้าหนู หลีกทางให้ข้า ให้อาจารย์ข้าเข้าไปก่อน!” เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาบอกให้อี้เทียนหยุนหลีกทางด้วยท่าทางอวดดี เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการลัดแถวอย่างไม่ต้องสงสัย
“เจ้าว่าไงนะ!?” หยางจื้อเหวินกับพวกพากันโมโห “พวกเรามาก่อน ทำไมต้องทำตามที่เจ้าพูดด้วย หากอยากจะเปิดกล่อง ก็ไปต่อแถวเอาสิ!”
“เจ้ารู้ไหมว่าคนตรงหน้านี้เป็นใคร ท่านคือเทียนชิงจงซือ เป็นนักสลักอาคมระดับจงซือ! แล้วอย่างนี้ยังต้องให้พวกเราไปต่อแถวอีก? กล่องนี้ไม่ว่ายังไงเจ้าก็เปิดไม่ออก มีแต่อาจารย์ข้าเท่านั้นที่เปิดได้ เพราะงั้น พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องลองหรอก” เด็กหนุ่มคนนี้พูดอย่างจริงจัง
เทียนชิงจงซือสีหน้าเต็มไปด้วยความใจร้อน ให้เขาไปต่อแถว นี่มันเท่ากับทำให้เขาเสียเวลาชัดๆ
“เอาของให้มัน แล้วไล่พวกมันไปซะ” เทียนชิงจงซือโบกมือ
“ครับ อาจารย์!” เด็กหนุ่มคนนั้นหยิบยาขวดหนึ่งออกมา พร้อมกับส่งให้พวกอี้เทียนหยุนแล้วพูดว่า “ถือว่าเจ้าโชคดี นี่เป็นโอสถชั้นดีขวดหนึ่ง รับไปแล้วหลีกทางซะ โอสถขวดนี้ถือว่าชดเชยให้เจ้า!”
อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว ใช้ของเพื่อให้เขาหลีกทางให้อย่างงั้นเหรอ? เทียนชิงจงซือผู้นี้ มีพลังระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 3 ที่ 4 ด้วยระดับแค่นี้ เขาตบทีเดียวก็ตายแล้ว
“ไปต่อแถว!” ในตอนนี้เอง ก็ได้มีเสียงทุ้มต่ำลอยมาจากด้านหน้า เมื่อผู้คนพากันมองดู ก็พบว่าเถ้าแก่เย่ผู้นั้นกำลังมองมาที่นี่ด้วยสีหน้าเย็นชา พร้อมกันนั้นก็มีแรงกดดันที่น่าสะพรึงกดทับลงมาที่พวกเขา ทำให้เด็กหนุ่มคนนั้นและพวกเทียนชิงจงซือต้องถอยไป ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่แรงกดดันเท่านั้น!
“นี่ พลังระดับนี้มัน…..” ในสายตาของเทียนชิงจงซือเต็มไปด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าที่นี่จะมีสุดยอดผู้เชี่ยวชาญนั่งบัญชาการด้วยตัวเอง!
สีหน้าของเขาดำคล้ำ แต่ก็ไม่คิดจะสร้างเรื่องอะไรอีก พร้อมกับเดินไปต่อแถวอย่างเชื่อฟัง
“ไม่ต้องหรอก ในเมื่อเจ้าอยากจะลอง ก็ให้เจ้าลองก่อนได้เลย” อี้เทียนหยุนโบกมือ บอกให้พวกเขาลองก่อนได้
“พี่ใหญ่….” หยางจื้อเหวินกับพวกพากันไม่พอใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาก่อน
“ให้พวกเขาลองก่อนเถอะ ข้าก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่านักสลักอาคมระดับจงซือจะสามารถเปิดกล่องนี้ได้ไหม” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ถือว่าเจ้ายังรู้ความอยู่บ้าง!” เด็กหนุ่มคนนั้นหน้าซีดขาว แต่เมื่อเห็นว่าอี้เทียนหยุนอนุญาติให้พวกเขาลงมือก่อน ก็รีบพาอาจารย์ของตนเดินไปหากล่องอย่างรวดเร็ว
เทียนชิงจงซือปรายตามองมาที่เขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนที่จะเดินไปด้านหน้ากล่องที่เต็มไปด้วยอักขระนั้น พร้อมกับเริ่มเตรียมตัวกำจัดอักขระที่อยู่บนกล่อง
เถ้าแก่เย่มองไปที่อี้เทียนหยุน ในเมื่ออี้เทียนหยุนให้อีกฝ่ายลองก่อน เขาก็ไม่คิดจะพูดอะไร
เทียนชิงจงซือยกกล่องใบนั้นขึ้นมา พร้อมกับมองหาวิธีทำลาย หลังจากมองอยู่สักพัก เขาก็เริ่มทำการทำลายทันที เขาส่งพลังกระแทกเข้าไป ใช้เวลาอยู่นานเพื่อพยายามกำจัด แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว
เขาคิดว่าจะสามารถทำลายได้ในพริบตา แต่ใครจะรู้ว่าจะทำลายไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ พร้อมๆ กับเวลาที่เลื่อนผ่าน สีหน้าของเทียนชิงจงซือก็แดงก่ำ ภายใต้สายตาที่จับจ้องของทุกคน นักสลักอาคมระดับจงซือผู้นี้ก็ได้พบกับความล้มเหลว!
ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่ได้เลือกที่จะจากไปในทันที แต่กลับเริ่มทำการทำลายต่อ ภายใต้เวลาที่เลื่อนผ่านอีกครั้ง เขาก็ยังคงไม่สามารถเปิดกล่องได้
อี้เทียนหยุนส่ายหัว เทียนชิงจงซือผู้นี้ แท้จริงแล้วกลับเป็นแค่ครึ่งก้าวของนักสลักอาคมระดับจงซือ เป็นนักสลักอาคมระดับจงซือที่แท้จริงที่ไหนกัน? เรื่องนี้เขาดูออกตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นจึงได้ให้เทียนชิงจงซือผู้นี้ลอง
อวดดีนักไม่ใช่เหรอ? งั้นก็จงเสียหน้าไปซะ!