CLS ตอนที่ 493: เลือกสมบัติ
ผู้อาวุโสลั่วพยักหน้า ทั้งไม่ได้ปฏิเสธอะไร ที่อี้เทียนหยุนพูดก็ถูก ไม่ว่าจะเผ่าไหน ล้วนแต่เหมือนกันหมด เพียงเพราะความเกลียดชัง การปฏิบัติจึงได้แตกต่าง
หากว่าเผ่ามนุษย์มีผลไม้ธาตุเพลิงสุดขั้ว เผ่าฟีนิกซ์ย่อมไปขโมยมาอย่างแน่นอน นี่เป็นเรื่องจริง
ผู้อาวุโสลั่วไม่พูดอะไร พร้อมกับพาอี้เทียนหยุนเดินเข้าไปด้านใน หลังจากผ่านผู้คุ้มกันแต่ละชั้น ในที่สุดก็มาถึงด้านหน้าตึกสมบัติ และที่ด้านหน้าตึกสมบัตินี้ ก็ได้มีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณป้องกันอยู่ โดยกำลังนั่งดื่มชาอย่างเกียจคร้านอยู่ใกล้ๆ
“หือ ผู้อาวุโสลั่ว…. นี่คือเผ่ามนุษย์ใช่ไหม?” เมื่อผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 6 เห็นอี้เทียนหยุน ในแววตาก็เผยให้เห็นถึงความเป็นปรปักษ์ หากว่าไม่ใช่เพราะมาด้วยกันกับผู้อาวุโสลั่ว เขาคงโจมตีไปแล้ว
“ผู้อาวุโสเฟิง เขาคือคนที่พาหลานสาวของข้ามาส่ง พร้อมกับบอกข่าวของหวงเอ๋อ เพื่อที่จะตอบแทนเขา ข้าจึงพาเขามายังวิหารแห่งนี้ เพื่อเลือกสมบัติ” ผู้อาวุโสลั่วอธิบายอย่างง่ายๆ
“….” ผู้อาวุโสเฟิงอดไม่ได้อยากจะถามออกมา แต่ก็ถามไม่ออก
“ใช่แล้ว ผมหงอกส่งคนผมดำ…..” ผู้อาวุโสลั่วถอนหายใจ
“สะกดความเศร้าและทำใจให้สงบ….” ผู้อาวุโสเฟิงพยักหน้า แล้วมองมาที่อี้เทียนหยุนพร้อมกับพูดว่า “ขอบใจเจ้ามากในความปรารถนาดี มีเผ่ามนุษย์น้อยคนมากที่จะทำได้อย่างเจ้า”
ท่าทางของเขาดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับผู้อาวุโสเหลย หลังจากทราบสถานการณ์ ท่าทางของเขาก็พลันเปลี่ยนไปในทันที
ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงออกอย่างแข็งกร้าวเหมือนกับผู้อาวุโสเหลย แต่ในใจของพวกเขาล้วนแต่เต็มไปด้วยความเกลียดชังไม่ต่างกัน
“แม้ว่านี่จะเป็นการตอบแทน แต่ก็ต้องเป็นไปตามกฎ สามารถเลือกออกไปได้ชิ้นเดียวเท่านั้น มากกว่านี้แม้แต่ชิ้นเดียวก็ไม่ได้” ผู้อาวุโสเฟิงเปิดประตูออกเบาๆ เมื่อฝ่ามือของเขาทาบลงไปที่ประตู บนประตูก็พลันเปล่งแสงออกมา จากนั้น บานประตูก็ค่อยๆ เปิดออกอย่างช้าๆ เปิดช่องออกมาพอที่คนหนึ่งคนจะเข้าไปได้
“เรื่องกฎข้ารู้ดี” ผู้อาวุโสลั่วนำเข้าไป อี้เทียนหยุนพยักหน้าให้กับผู้อาวุโสเฟิงก่อนเดินตามเข้าไป
หลังจากเข้ามา ที่ปรากฏต่อสายตาของเขาก็คือสมบัตินับไม่ถ้วน ที่พากันวางอยู่บนชั้น สมบัติที่นี่มีมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นหมวดอาวุธ เครื่องป้อง หรือโอสถ
ในฐานะที่เป็นถึงขุมอำนาจแดนศักดิ์สิทธิ์ หากไม่มีถึงขนาดนี้ ก็คงไม่ถูกเรียกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ รังฟีนิกซ์เป็นขุมอำนาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่อย่างนั้น ป่านนี้คงถูกแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงจับกุมไป หรือไม่ก็คงถูกขุมอำนาจอื่นเข้ายึดครอง
“ขุมอำนาจภายในช่างน่าสะพรึงจริงๆ….”
อี้เทียนหยุนกวาดตามอง อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ล้วนมีอยู่มากมาย ส่วนโอสถชั้น 5 ชั้น 6 ก็มีอยู่หลากหลาย กระทั่งวิชายุทธ์ระดับสวรรค์ก็ยังมีวางไว้ที่นี่ มีของระดับนี้ไว้เป็นรางวัล สมแล้วกับชื่อเสียงขุมอำนาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งกว่านั้น นี่ยังเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ไม่ใช่ที่มีอยู่ทั้งหมดอย่างแน่นอน
ตัวอย่างเช่นอุปกรณ์ระดับเทวะที่ไม่มีอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มี แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะเอามาไว้ที่นี่อย่างแน่นอน
“สมบัติที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด เจ้าสามารถเลือกได้ตามสบาย นี่เป็นรางวัลที่เตรียมไว้สำหรับคนนอก ตราบเท่าที่สร้างบุญคุณให้เผ่าฟีนิกซ์เรา หรือสำเร็จเงื่อนไข หากว่าไม่ได้ถูกจำกัดสิทธิ์ ตามกฎสามารถมาเลือกของรางวัลที่นี่ได้” ผู้อาวุโสลั่วไม่ได้วางแผนว่าจะตอบแทนด้วยสมบัติ พาหลานสาวของเขากลับมา ไม่ว่าสมบัติอะไรก็ไม่สามารถตอบแทนได้
โดยเฉพาะเมื่อเห็นหลานสาวของตนตัวติดเขา หากว่าไม่ได้ดูแลเธออย่างดีแล้วล่ะก็ ผลจะต้องไม่ออกมาเป็นอย่างนี้อย่างแน่นอน ตัวอย่างเช่นสกัดเอาแก่นโลหิตของเธอบ่อยๆ อย่างนี้เธอยังจะตัวติดกับอี้เทียนหยุนอีกเหรอ?
“ผู้อาวุโสลั่ว ในใจของท่านก็เกลียดชังเผ่ามนุษย์เช่นกันเหรอ?” อี้เทียนหยุนยังไม่ได้เลือกสมบัติในทันที แต่กลับถามคำถามขึ้นมาแทน
“บอกกับเจ้าตามจริง เป็นเช่นนั้น หากว่าเจ้าไม่ได้เป็นคนพาหลานสาวของข้ากลับมา ท่าทางของข้าก็คงจะเหมือนกับผู้อาวุโสคนอื่น ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง” ผู้อาวุโสลั่วส่ายหัว แล้วพูดต่อว่า “ดังนั้น หากว่าเจ้าเลือกสมบัติแล้ว ก็ให้ไปจากที่นี่เสีย บางทีอาจจะมีหลายคนมองเจ้าใหม่ แต่คนส่วนใหญ่ล้วนไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองได้ชั่วคราว”
อี้เทียนหยุนพยักหน้า ที่เขาพูดก็เป็นความจริง ต่อให้หลังจากภารกิจสำเร็จแล้วจะได้ค่าความชอบเพิ่มขึ้นมา 100 ก็เปล่าประโยชน์ เหตุผลนั้นง่ายมาก หากว่าค่าความชอบแต่เดิมติดลบ แม้จะเพิ่มขึ้นมาอีก 100 ก็ยังคงติดลบอยู่ อย่างนั้นมันก็ไม่ช่วยให้พวกเขามีความรู้สึกที่ดีต่อเขา
คงมีแต่ผู้อาวุโสลั่วที่ได้รับประโยชน์ในทันที ดังนั้นท่าทีที่มีต่อเขาจึงดีขึ้นมาก
“ข้าเข้าใจแล้ว งั้นข้าขอเลือกสมบัติก่อน” อี้เทียนหยุนเดินดู พร้อมกับตรวจสอบสมบัติบนชั้นวางไม่หยุด ดูว่ามีอะไรที่เหมาะกับเขาไหม
ส่วนอาวุธนั้นเขาไม่ต้องการ เพราะอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงไม่มีอยู่ ดังนั้นอาวุธจึงต้องปล่อยไป ส่วนโอสถก็ต้องปล่อยไปเช่นกัน เพราะว่ามันไม่สามารถเพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับเขา นอกเสียจากว่าจะเป็นโอสถแบบพิเศษ ก็อย่างเช่นพวกโอสถเพิ่มพูนจิตวิญญาณที่มีผลช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับเขา
ตัวอย่างเช่นโอสถชั้น 6 โอสถวิญญาณเที่ยงแท้ ยาชนิดนี้เหมาะสำหรับให้ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้กินเข้าไป หากเขากินมัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็มีเพียงเล็กน้อย เล็กน้อยจนน่าสงสารจริงๆ อย่างมากก็ได้ค่าประสบการณ์แค่ไม่เกิน 1 ล้าน
แม้ว่าค่าประสบการณ์ระดับล้านจะถือว่ามาก แต่ระดับความหายากของโอสถชั้น 6 ถือว่าเทียบได้กับหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ มันจะคุ้มกว่าหากใช้มันกับพวกชิเสวี่ยอวิ๋น
เมื่ออาวุธไม่เอา ชุดเกราะก็ไม่ต้องการเหมือนกัน ต่อมาก็หมวดวิชายุทธ์ แม้วิชายุทธ์ระดับสวรรค์จะถือว่าดี แต่ว่าเขาไม่ต้องการ เพราะหลังจากสังหารผู้ฝึกตนคนอื่น เขาก็ได้มันมาอยู่ดี หากให้เลือกวิชายุทธ์จากที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเป็นการไม่คุ้มค่าอย่างมาก ยิ่งกว่านั้น วิชายุทธ์ระดับสวรรค์นั้น ในตัวเขามีอยู่มากมาย
และสุดท้าย สายตาของเขาก็จับจ้องไปยังเตาหลอมโอสถ เผ่าฟีนิกซ์เป็นเผ่าที่มีเปลวเพลิงที่ร้อนแรงมาก ดังนั้นพื้นฐานของแต่ละคนจึงเหมาะกับการเป็นนักกลั่นโอสถ เขาอยากจะหาพู่กันสลักอาคมจากที่นี่ แต่สุดท้ายก็พบว่าที่นี่มีพู่กันสลักอาคมอยู่เพียงไม่กี่ด้ามเท่านั้น ทั้งอย่างมากก็เป็นแค่ระดับจิตวิญญาณ ไร้ซึ่งพู่กันสลักอาคมระดับศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก
ส่วนเตาหลอมโอสถระดับศักดิ์สิทธิ์กลับมีอยู่หลายอัน ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่เขาจะเลือก ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเตาหลอมเพลิงม่วงศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถยกระดับได้ ทำให้ระดับของมันต่ำมาก ดังนั้นตอนนี้ เขาจึงจำเป็นต้องเพิ่มระดับของเตาหลอมโอสถให้ได้โดยเร็วที่สุดเป็นดี
“ผู้อาวุโสลั่ว ไม่ทราบว่าที่นี่มีพู่กันสลักอาคมระดับสูงหรือไม่?” อี้เทียนหยุนถาม
“อันนี้ไม่มีจริงๆ เผ่าของข้าน้อยมากที่จะผู้มีความสามารถในด้านนี้ ดังนั้น พู่กันสลักอาคมที่เก็บไว้จึงมีน้อยมาก” ผู้อาวุโสลั่วพูดตามจริง
“อืม งั้นข้าขอเลือกเตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธนี้แล้วกัน!” หลังจากได้ฟัง อี้เทียนหยุนก็ตัดสินใจเลือกกระถางที่งดงามที่อยู่ใกล้ๆ ในทันที บนตัวกระถางวาดไว้ด้วยฟีนิกซ์สองสามตัว ดูแล้วงดงามราวกับมีชีวิต ทำให้เตาหลอมอันนี้เหมือนกับมีชีวิตขึ้นมา
“เจ้าปรุงโอสถเป็นด้วย?” ผู้อาวุโสลั่วถามอย่างสงสัย
“ก็พอเป็น” อี้เทียนหยุนถ่อมตน ระดับของเขาถือว่าอยู่ในระดับอาจารย์ชั่วคราว พูดได้ว่าอีกนิดเดียวก็จะสำเร็จนักกลั่นโอสถระดับอาจารย์เต็มตัว
อย่าลืมว่าเขายังมีค่าความชำนาญกองโตที่ยังไม่ได้ใช้ เขาอยากจะดูว่าความสามารถไหนที่ยังขาดค่าความชำนาญหลายหมื่นหรือหลายแสน หากว่าจำเป็นต้องใช้เมื่อไหร่ เขาก็จะทุ่มมันลงไปเพื่อเพิ่มระดับในทันที
ดังนั้น เขาสามารถสำเร็จนักกลั่นโอสถระดับอาจารย์ได้ในพริบตา ด้วยอายุอย่างเขา สามารถสำเร็จนักกลั่นโอสถระดับอาจารย์ หากพูดออกไปต้องสร้างความตกใจได้อย่างแน่นอน