CLS ตอนที่ 494: เสนอหน้า
“หากแค่พอเป็นแล้วเลือกเตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธออกจะเป็นตัวเลือกที่ไม่ดีอย่างมาก เพราะเตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธนี้ไม่ใช่จะควบคุมได้ง่ายๆ หากว่าระดับต่ำเกินไป อาจจะเกิดพลังตีกลับเข้าสู่ตนเองได้ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็นระดับอาจารย์ ถึงจะไม่ถูกผลของพลังตีกลับ”
ผู้อาวุโสลั่วแนะนำอยู่ใกล้ๆ “เตาหลอมเทวะผลาญสวรรค์ที่อยู่ใกล้ๆ กันนั้นเป็นตัวเลือกที่ดี หากพูดโดยทั่วไปแล้ว อุณหภูมิของมันค่อนข้างมาก ขนาดนักกลั่นโอสถขั้น 4 ยังสามารถใช้ได้”
คำแนะนำของผู้อาวุโสลั่วก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผล และความจริงก็เป็นอย่างนั้น แต่ว่าเขาถูกทำเหมือนกับเป็นนักกลั่นโอสถระดับต่ำ ไม่ใช่นักกลั่นโอสถระดับสูง หากว่าดูจากอายุที่น้อยของเขา คนส่วนใหญ่มักจะตัดสินใจจากรูปลักษณ์ภายนอก แค่เขารู้สึกว่าระดับฝึกตนของอี้เทียนหยุนไม่ได้ต่ำ แค่นั้นก็ทำให้เขาชมเชยอี้เทียนหยุนอย่างสูงแล้ว
เขาคิดว่าอี้เทียนหยุนเป็นแค่นักกลั่นโอสถชั้น 5 ซึ่งนักกลั่นโอสถชั้น 5 ก็ถือว่าดีมากจริงๆ แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธได้อยู่ดี
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของผู้อาวุโสลั่ว แต่ว่าตอนนี้ข้าต้องการแค่เตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธนี้เท่านั้น” อี้เทียนหยุนตัดสินใจเลือกสิ่งนี้ นักกลั่นโอสถระดับอาจารย์ เพียงพริบตาเขาก็เลื่อนขั้นไปถึงแล้ว ดังนั้น การที่จะควบคุมเตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธนี้ย่อมไร้ซึ่งแรงกดดัน
“เอาล่ะ งั้นก็เอาตามที่เจ้าเลือกแล้วกัน หากว่าเจ้าไม่ใช่นักกลั่นโอสถระดับอาจารย์แล้วล่ะก็ หวังว่าเจ้าจะไม่ใช้เตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธนี้ตามใจ ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจจะถูกพลังตีกลับได้ ขอให้จำเรื่องนี้เอาไว้ให้มั่น!” ผู้อาวุโสลั่วพูดเตือนเขา
“ข้าเข้าใจแล้ว” อี้เทียนหยุนพยักหน้า ไม่ปฏิเสธความหวังดีของเขา
ผู้อาวุโสลั่วพยักหน้า พร้อมกับหยิบเตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธนี้ลงมาส่งให้อี้เทียนหยุน แล้วพูดว่า “นี่เป็นรางวัลของเจ้า เจ้าต้องรักษาไว้ให้ดี หวังว่าจากนี้ไป มันจะเป็นตัวช่วยที่ยิ่งใหญ่ให้กับเจ้า”
“ขอบคุณผู้อาวุโสลั่วมาก” อี้เทียนหยุนรับมา นี่เป็นอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง บอกว่าให้เป็นให้ ราวกับว่าเป็นของธรรมดาสำหรับพวกเขา
และสำหรับตัวอี้เทียนหยุนเอง เตาหลอมนี้ถือว่าเป็นตัวช่วยชั้นยอดเลย อาวุธและชุดเกราะระดับศักดิ์สิทธิ์เขามีอยู่มากแล้ว มีแต่เตาหลอมนี้แหละที่ธรรมดา เตาหลอมเพลิงม่วงศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ก่อนหน้านี้แม้ว่าจะไม่ได้มีระดับที่ต่ำมาก แต่ก็ถึงคราวที่ต้องเปลี่ยนแล้ว
เพราะเตาหลอมระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นหายากมาก ดังนั้น ในตอนที่เขาต้องการเปลี่ยน แต่ก็ไม่สามารถซื้อมาเปลี่ยนได้
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ นี่เป็นรางวัลที่เจ้าสมควรได้รับ ที่จริงแล้วยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ” ผู้อาวุโสลั่วพูดด้วยรอยยิ้ม
พูดเสร็จ ผู้อาวุโสลั่วก็นำเขาออกมา เพราะอยู่ต่อก็ไม่มีความหมาย สมบัติก็เลือกแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ
หลังจากออกมา ผู้อาวุโสเฟิงก็เหมือนกับมองมาทางนี้ พร้อมกับถามขึ้นว่า “เลือกอะไรมา?” เขาหยิบสมุดออกมา เตรียมจะเขียนลงไปว่าอี้เทียนหยุนเลือกของสิ่งไหน เรื่องนี้จำเป็นต้องบันทึกเอาไว้
“เตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธ” ผู้อาวุโสลั่วพูด
“เตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธ?” ในขณะที่ผู้อาวุโสเฟิงเตรียมบันทึกอยู่นั้น เมื่อได้ฟังว่าเขาเลือกเตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธออกมา ก็พลันตกใจ พร้อมกับมองมาที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดขึ้นว่า “ของสิ่งนี้หากไม่ใช่นักกลั่นโอสถระดับอาจารย์ ไม่มีทางควบคุมมันได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน เจ้าจะเอาไว้ใช้เองหรือให้คนอื่นใช้? หรือว่าจะเอาไปขาย?”
“ใช้เอง” อี้เทียนหยุนตอบตามจริง
“เจ้าควบคุมมันได้เหรอ?” ผู้อาวุโสเฟิงถามอย่างแปลกใจ
“น่าจะไม่มีปัญหา” เขาตอบไปอย่างถ่อมตน ไม่ได้บอกว่าทำได้อย่างแน่นอน
“เจ้าเป็นนักกลั่นโอสถชั้นไหน หรือว่าจะเป็นนักกลั่นโอสถระดับอาจารย์แล้ว?” ผู้อาวุโสเฟิงรู้สึกแตกตื่น
“ไม่ต้องถามระเอียดขนาดนั้นหรอก นี่เป็นสิ่งที่เขาเลือก พวกเราเพียงแค่มอบสิ่งที่เขาต้องการให้ก็พอ” ผู้อาวุโสลั่วตัดบท แล้วพูดขึ้นว่า “รีบบันทึกลงไปเถอะ”
เมื่อผู้อาวุโสเฟิงบันทึกลงไปแล้ว ผู้อาวุโสลั่วก็พาเขาเดินออกมา
“ยังมีอะไรที่ต้องการอีกไหม?” ผู้อาวุโสลั่วที่เดินมาด้วยกันถามขึ้น
“ตอนนี้แค่เตาหลอมเทวะเพลิงพิโรธก็พอแล้ว” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เจ้าพาหลานสาวของข้ามาส่ง รางวัลแค่นี้ไม่นับว่าเป็นอะไร หากว่าข้ามีอุปกรณ์ระดับเทวะที่ไม่ใช้นะ ข้าคงมอบให้เจ้าสักชิ้นแล้วล่ะ หลานสาวของข้าไม่สามารถตีเป็นราคาได้!” ผู้อาวุโสลั่วพูดด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสำนึกใจบุญคุณ “ชั่วชีวิตของข้าก็ไม่มีสมาชิกในครอบครัวเหลืออยู่อีก ตอนนี้ก็เหลือเพียงหลานสาวคนนี้เท่นั้น”
เขาถอนหายใจออกมา แม้ว่าจะอยู่ในเผ่าฟีนิกซ์ แต่สมาชิกในครอบครัวของตนล่ะอยู่ไหน?
“ข้าเข้าใจความคิดท่าน แต่ว่าก่อนจะไป ข้าอยากจะไปบอกลาเหยียนเอ๋อก่อน….” เด็กน้อยที่เปิดปากแต่ละทีเป็นต้องเรียกตัวเองว่าพ่อ ในใจของเขาเหมือนจะไม่สามารถทอดทิ้งได้
“เจ้ามีจิตใจอย่างนี้ถือว่าธรรมดามาก และความจริงก็ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ ข้าสามารถเชิญเจ้ามาที่เผ่าฟีนิกซ์ได้ตลอดเวลา มีป้ายของข้าอยู่ เจ้าจะสามารถมาหาเหยียนเอ๋อได้ในพริบตา” ผู้อาวุโสลั่วยิ้มออกมา เป็นธรรมดาที่เขานั้นใจกว้าง มีคนเป็นห่วงหลานสาวของตน ย่อมถือเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว
เขาดูออกว่าเหยียนเอ๋อติดอี้เทียนหยุน ความสัมพันธ์ของทั้งสองถือว่าดีเป็นอย่างมาก ดังนั้นแน่นอนว่าเขาย่อมเต็มใจให้อี้เทียนหยุนมา หากว่าเหยียนเอ๋อเห็นอี้เทียนหยุนเมื่อไหร่เป็นต้องหลบ ผู้อาวุโสลั่วย่อมไม่เต็มใจให้เขามาอย่างแน่นอน
“งั้นก็ต้องขอบคุณผู้อาวุโสลั่วมาก แค่รางวัลชิ้นนี้ก็พอ หากว่าข้ายังต้องการอะไรอีก นั่นก็คงจะเป็นการโลภเกินไป” อี้เทียนหยุนพูดอย่างที่ใจรู้สึก
“งั้นก็ได้ ในเมื่อเจ้าพูดมาถึงขนาดนี้ ข้าก็จะไม่เซ้าซี้อีก คนที่ไม่ต้องการของรางวัลอะไรอีกจริงๆ ก็เพิ่งมีเจ้านี่แหละเป็นคนแรก” ผู้อาวุโสลั่วพูดพร้อมกับส่ายหัว
อี้เทียนหยุนยิ้ม แต่ก็ไม่ปฏิเสธอะไร หากว่าเป็นคนอื่น แน่นอนว่าย่อมต้องการของอย่างอื่นเพิ่ม ยิ่งได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี แต่สำหรับเขาแล้ว แค่ที่ได้มานี้ก็ถือว่าคุ้มพอแล้ว
หากว่าโลภเกินไป มันง่ายที่จะทำให้คนอื่นไม่ชอบตนแทน
และในขณะที่พวกเขาเตรียมจะกลับไปยังบ้านพักสุดหรูอยู่นั้น ก็ได้มีผู้คุ้มกันรีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามา พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ผู้อาวุโสลั่ว ไม่ดีแล้ว ทางฝั่งถ้ำฟีนิกซ์เกิดปัญหาขึ้นแล้ว!”
“เกิดปัญหา? งั้นพวกเราก็ไปกันตอนนี้เลย!” สีหน้าผู้อาวุโสลั่วจมลง จากนั้นก็หันไปพูดกับอี้เทียนหยุนว่า “เจ้ากลับไปยังบ้านพักสุดหรูกับเขาก่อน ไว้ข้าจัดการเรื่องแล้วเสร็จ แล้วข้าจะไปหาเจ้าอีกครั้ง!”
“ผู้อาวุโสลั่ว ท่านพอจะพาข้าไปด้วยได้ไหม?” อี้เทียนหยุนถามขึ้น
ผู้อาวุโสลั่วตกใจ แต่ก็ไม่ได้ลังเลนานนัก พร้อมกับพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ตกลง เจ้ามากับข้า แต่ว่าเจ้าทำได้เพียงแค่ดูอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น อย่าได้เดินไปไหนตามใจเด็ดขาด”
“ขอบคุณผู้อาวุโสลั่วมาก!”
ผู้อาวุโสลั่วพยักหน้า พร้อมกับบินตรงไปยังที่แห่งนั้นในทันที อี้เทียนหยุนกับพวกก็บินตามไปเช่นกัน หากว่าเดินไป ความเร็วจะช้าเกินไป
ภายใต้การนำของผู้อาวุโสลั่ว พวกเขาก็มาถึงบริเวณถ้ำฟีนิกซ์อย่างรวดเร็ว ที่นี่ไม่ได้ไกลนัก เวลาแค่อึดใจก็มาถึง จากนั้น ขณะที่พวกเขาเพิ่งเข้าไปใกล้ถ้ำฟีนิกซ์ อี้เทียนหยุนก็เห็นรูปปั้นฟีนิกซ์ขนาดมหึมาตั้งอยู่ราวกับผาสูง ดูแล้วราวกับจะกระโจนขึ้นฟ้าอย่างไงอย่างงั้น
และที่ใต้ผาแห่งนี้ก็ได้มีถ้ำขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่ออยู่ พร้อมกับมีเปลวเพลิงพ่นออกมาจากด้านในอย่างต่อเนื่อง ดูแล้วอุณหภูมิค่อนข้างสูง จนทำให้พื้นดินรอบๆ กลายเป็นหินหนืดไป พร้อมกับไหลออกมารอบๆ ไม่หยุด
ที่นี่มีคนของเผ่าฟีนิกซ์อยู่หลายคน พร้อมกับทำการดูดกลืนเปลวเพลิงนี้เข้าไปในร่าง แต่ในขณะที่ดูดกลืนเข้าไป ก็ต้องพบกับความรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุดไม่ได้ สีหน้าแต่ละคนไม่มีซึ่งความสุข ทั้งยังซีดลงเรื่อยๆ อีกด้วย
อี้เทียนหยุนมองไปยังเปลวเพลิงนี้พร้อมกับใช้ดวงตาประเมินในการตรวจสอบในทันที
เปลวเพลิงนิรันดร์ : ระดับปฐพีขั้นสูง, เป็นเปลวเพลิงอมตะที่ร้อนแรงแบบสุดๆ, ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเพลิงหยางดูดเข้าไป นอกจากผู้ที่มีเปลวเพลิงหยินแล้ว นอกนั้นต้องถูกทำลายทั้งหมด
“เปลวเพลิงนิรันดร์….. นี่สมควรเป็นเรื่องที่ข้าต้องเสนอหน้าออกไป?” เมื่อเขาเห็นเปลวเพลิงนิรันดร์จำนวนมากเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าตัวเองต้องเสนอหน้าออกไป หากว่านี่เป็นปัญหาที่ยากสำหรับเผ่าฟีนิกซ์ งั้นเขาก็สามารถเสนอหน้าออกไปได้?