CLS ตอนที่ 514: แผนการ
หมิงเฉินและคนอื่นหลังออกมากจากเผ่าฟีนิกซ์ ก็พากันหน้าดำคล้ำอย่างน่ากลัว แม้มีเรื่องอยากจะคุยกันก็ติดที่ผู้คุ้มกันที่ตามมาข้างหลัง ทำให้ไม่สามารถพูดขึ้นมาได้
“หมิงเฉิน กลับไปแล้วพวกเราจะตอบยังไงดี?” ในที่สุดผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆ ก็ได้เริ่มพูดขึ้น มีเพียงมาถึงด้านนอกนี้เท่านั้น เขาจึงจะเริ่มพูด
และเมื่อเปิดปากขึ้น น้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ค่อนข้างแหบพร่า ฟังแล้วเหมือนกับเครื่องเคาะพังๆ เช่นหนึ่ง ที่ดูสั่นอย่างมาก ฟังแล้วให้ความรู้สึกเสียดหูอย่างถึงที่สุด ชื่อของชายคนนี้คือหนานกงหมิง เป็นผู้เชี่ยวชาญของตระกูลฝ่ายปกครองหนานกง ซึ่งถือเป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง
“ก็คงได้แต่บอกออกไปตามจริง แต่ว่าเผ่าฟีนิกซ์จะสามารถกำจัดบรรพชนเผ่าวิญญาณร้ายของพวกเราได้จริงๆ อย่างนั้นน่ะเหรอ? นี่เป็นไปไม่ได้ เขาเป็นถึงสุดยอดผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียน เป็นไปได้ยากที่จะถูกกำจัด แล้วจะถูกฆ่าตายได้ยังไง!” หมิงเฉินไม่มีความสุขอย่างมาก นี่คือบรรพบุรุษของพวกเขา หากว่าถูกฆ่า นอกจากจะกระทบกับแผนการของพวกเขาแล้ว นี่ยังเป็นการตายของบรรพบุรุษของพวกเขาด้วย!
เมื่อบรรพบุรุษของพวกเขาตาย ก็หมายถึงว่าพวกเขาได้สูญเสียสุดยอดผู้เชียวชาญไป แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกเขาเจ็บปวดได้ยังไง
“หรือว่าหัวหน้าเผ่าฟีนิกซ์จะโกหกพวกเรา ท่านบรรพบุรุษจะไม่มีทางตายง่ายๆ อย่างนี้อยู่แล้ว” หนานกงหมิงพูดอย่างจริงจัง
“แล้วถ้าเกิดตายจริงๆ ล่ะ?” หมิงเฉินหันกลับมามองสหายของเขา แล้วพูดอย่างเย็นชา “หากเป็นเรื่องจริง พวกเราจะต้องถูกลงโทษจากเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงอย่างแน่นอน!”
หนานกงหมิงเงียบไป พูดไม่ออกเป็นเวลานาน นี่เป็นปัญหาที่ยากลำบากอย่างแท้จริง ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นเรื่องที่ยากมากๆ พวกเขาไม่อยากเป็นที่รองรับความโกรธของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง แม้ว่าโทษของพวกเขาจะไม่ถึงตาย แต่โทษที่ได้รับก็จะไม่เบาอย่างแน่นอน
“เผ่ามนุษย์ที่ธรรมดาคนนั้น เป็นไปได้หรือที่จะสามารถกำจัดบรรพบุรุษของพวกเรา?” หนางกงหมิงยังคงไม่เชื่อ ที่พวกเขาบอกว่าบรรพบุรุษของพวกตนนั้นได้ตายไปแล้ว กับสุดยอดผู้เชี่ยวชาญในตำนานแบบนั้น จะมาตายง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง?
“จะจริงหรือเท็จ เรื่องนี้ไว้กลับไปค่อยคุย แต่เรื่องนี้ต้องจัดการไม่ง่ายอย่างแน่นอน…..” หมิงเฉินคิ้วขมวด
“นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า หากว่าเปิดราคาที่ต่ำกว่านี้ บางทีพวกเราอาจได้เข้าไปแล้ว” หนานกงหมิงแค่นเสียงอย่างเย็นชา จากนั้นก็พูดว่า “แต่ตอนนี้กลับมีเผ่ามนุษย์สอดมือเข้ามา ทำให้ผลลัพธ์ต้องเปลี่ยนไป!”
หมิงเฉินก็เดือดดาลเช่นกัน “ก็ไม่ใช่เพราะตอนนั้นเจ้าเป็นคนแนะนำข้าเองหรอกเหรอ?”
หนานกงหมิงไม่ปฏิเสธอะไร ปล่อยให้ตกลงสู่ความเงียบ ความรับผิดชอบนี้เป็นของเขาจริงๆ นั่นล่ะ พวกเขาคิดว่ามีเพียงพวกตนเท่านั้นที่สามารถแก้ปัญหาได้ ไม่มีทางที่เผ่ามนุษย์หรือเผ่าไหนๆ จะจัดการกับปัญหานี้ได้
ดังนั้น พวกเขาจึงได้เรียกราคาสูง จนทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ แท้จริงแล้วนี่เป็นเพราะความโลภของพวกเขา หากไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการจัดการกับปัญหานี้อย่างสมบูรณ์แบบ และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ครั้งใหญ่ ผลก็คงจะไม่ออกมาเป็นแบบนี้หรอกจริงไหม?
แต่ตอนนี้พวกเขาได้สูญเสียทุกสิ่งแล้ว กลับไปก็ยังต้องถูกลงโทษอีก นี่ช่างเป็นโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริง
“เอาเถอะ เรื่องก็มาถึงจุดนี้แล้ว พวกเขาก็คงได้แต่บากหน้าไปรายงานท่านเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง แล้วดูว่าเขาจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง” หนานกงหมิงส่ายหัว เพราะความโลภในใจ ทำให้เรื่องกลายมาเป็นแบบนี้ ดังนั้นจึงไม่อาจโทษใครได้เลย
……
อี้เทียนหยุนที่อยู่ทางนี้ก็เตรียมดำเนินการตามแผนอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ได้มีเวลามากมายนัก พร้อมกับหยุดชะงักการกระทำทุกอย่าง แผนการที่วางไว้มีมากกว่าหนึ่ง เพียงแต่ว่าแท่นบูชาเทียนหมิงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
“ครั้งนี้พวกเราวางแผนว่าจะแทรกซึมเข้าไปยังแท่นบูชาเทียนหมิง พูดได้ว่าแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ เป็นสถานที่ที่สำคัญ ทั้งยังมีทรัพยากรมากที่สุด! เพราะว่าแท่นบูชาเทียนหมิง เป็นจุดเคลื่อนย้ายทรัพยากรของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง ดังนั้นทรัพยากรส่วนใหญ่จึงถูกเก็บไว้ที่นี่”
“ดังนั้น พวกเราจึงให้ความสำคัญกับการจัดการกับแท่นบูชาเทียนหมิงมากที่สุด หากว่าสามารถขโมยของทุกอย่างในนั้นได้ นี่จะถือว่าเป็นการโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงได้รุนแรงอย่างมาก!”
ไป๋สุ่ยหวงมองไปยังผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้าทั้งสามคน และผู้อาวุโสทั้งสามคนนี้ก็คือ เถ้าแก่เย่ ผู้อาวุโสเหลย และผู้อาวุโสลั่ว ซึ่งพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่รับหน้าที่ปฏิบัติการครั้งนี้
เพื่อให้แผนการลักลอบเข้าไปเป็นไปอย่างราบรื่น ระดับของผู้ที่ลงมือย่อมไม่สามารถต่ำเกินไป เพราะที่นั่นมีผู้คุ้มกันระดับราชาวิญญาณอยู่ หากไม่ส่งผู้อาวุโสที่ทรงพลังไป พวกเขาก็กลัวว่าคนที่ส่งไปอาจไม่มีโอกาสได้กลับมา!
“และก่อนหน้านั้น ทูตของเราได้บอกไว้ว่าเขารู้ทางในแท่นบูชาเทียนหมิงดี ดังนั้น แผนการนี้ข้าจึงได้ให้เขาไปกับพวกท่านด้วย” ไป๋สุ่ยหวงโยนข่าวใหญ่ออกไป ทำให้พวกเขาพากันตกใจ
ไม่แปลกที่อี้เทียนหยุนจะอยู่ที่นี่ด้วย ที่แท้ก็เตรียมตัวจะไปด้วยกันกับพวกเขานี่เอง!
“นี่เหมาะสมแล้วอย่างงั้นเหรอ? ที่นั่นอันตรายมาก หากไม่ระวังแม้แต่น้อยอาจจะเสียชีวิตได้….. ทำไมไม่วาดแผนที่ออกมา แล้วให้พวกเราไปกันเอง” เถ้าแก่เย่เสนอขึ้นมา ที่พูดนี้ไม่ได้จะหาเรื่องอี้เทียนหยุน แต่เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา
เขาเกรงว่าอี้เทียนหยุนจะตายอยู่ที่นั่น หากว่าเป็นอย่างนั้น เมื่อตอนที่วิญญาณร้ายหลุดออมา ใครจะเป็นคนผนึกมัน?
“วางใจเถอะ ข้าจะไม่เป็นตัวถ่วง ข้าอยากมีส่วนร่วมในแผนการนี้ และการมีข้าไปด้วยก็ดีกว่ามีแผนที่แค่อย่างเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแท่นบูชาเทียนหมิงมีค่ายกลอยู่มากมาย พวกท่านคิดว่าจะสามารถทำลายมันได้อย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนต้องไปด้วยอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาจะพลาดค่าประสบการณ์กองโตและภารกิจได้
ผู้อาวุโสทั้งสามต่างก็พากันมองหน้ากัน ที่อี้เทียนหยุนพูดก็จริง พวกเขาไม่มีทางทำลายได้อย่างแน่นอน! นี่ไม่ใช่เรื่องของการมีแผนที่หรือไม่มี ต่อให้รู้ทาง แต่หากว่ามีค่ายกลขวางอยู่ ก็ไม่สามารถผ่านไปได้ แล้วอย่างนี้จะขโมยของได้ยังไง?
“พวกท่านคิดว่าข้าไม่ได้คิดถึงจุดนี้อย่างงั้นเหรอ ทั่วทั้งแท่นบูชาเทียนหมิงนั้น หากว่าง่ายที่บุกรุกเข้าไป ป่านนี้คงถูกผู้ยิ่งใหญ่เข้าไปปล้นเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ตลอดทาง จำเป็นต้องดูแลทูตของเราให้ดี อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาอย่างเด็ดขาด!” ไป๋สุ่ยหวงเอ่ยขึ้น
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา แต่อย่างแรกพวกเราอยากจะเห็นความสามารถในการซ่อนกลิ่นอายของทูตศักดิ์สิทธิ์ก่อน หากว่าการปกปิดกลิ่นอายทำได้ไม่ดี มันจะทำให้การแอบลอบเข้าไปเป็นเรื่องยาก…..”
และตอนนี้ ร่างของอี้เทียนหยุนก็กระพริบวาบ พร้อมกับหายไปจากสายตาของพวกเขาโดยสมบูรณ์ พวกเขาพากันตาโต ความสามารถในการปกปิดตัวตนนี้ ดียิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก!
ที่สำคัญคือนี่คือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ล่องหน ซึ่งเป็นการปกปิดกลิ่นอายของตนอย่างแท้จริง ทำให้ไม่สามารถสัมผัสถึงตัวเขาได้อย่างสมบูรณ์
“พวกท่านคิดว่ายังไง?” อี้เทียนหยุนเผยตัวออกมา ทำให้พวกเขาต้องพากันสูดหายใจเฮือก เมื่อเทียบกันแล้ว พวกเขาไม่มีทางได้ถึงขั้นนี้อย่างแน่นอน!
“สมแล้วที่เป็นทูตศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา ความสามารถในการซ่อนเร้นช่างแข็งแกร่งอย่างแท้จริง…..” พวกเขาพากันหลุดแสดงสีหน้าออกมา คิดว่าอี้เทียนหยุนช่างร้ายกาจนัก เขาทำอย่างนี้ได้ยังไง?
“หากว่าไม่มีใครคัดค้าน งั้นข้าก็จะขอพูดแผนการในครั้งนี้” อี้เทียนหยุนพูดขึ้นในทันที
ไป๋สุ่ยหวงอ้าปากค้าง เธอไม่รู้ว่าอี้เทียนหยุนมีแผนการอะไร ดังนั้นจึงได้พูดขึ้น “แผนอะไร ลองพูดมาดูสิ?”
“ที่จริงก็ง่ายมาก หลังจากที่ลอบเข้าไปขโมยทรัพยากรทุกอย่างแล้ว ก่อนออกมาก็จะทำลายแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ หากว่าแค่ไปขโมยของเพียงอย่างเดียว มันจะเป็นการไปที่เสียเที่ยวมาก” อี้เทียนหยุนไม่ต้องการเพียงแค่ไปขโมยทรัพยากรเพียงอย่างเดียว เพราะอย่างนั้นมันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างแท้จริง
“ไม่ได้ หากทำอย่านี้มันจะเป็นการทำให้ศัตรูรู้ตัว หากว่าที่ถูกสุดยอดผู้เชี่ยวชาญล้อมไว้ แล้วพวกเราระเบิดพลังทั้งหมดออกมา มันง่ายมากที่อีกฝ่ายจะรู้ตัว! เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะคาดเดาได้ว่าเป็นเผ่าฟีนิกซ์ของพวกเรา ซึ่งนี่จะทำให้เกิดปัญหา!” ผู้อาวุโสลั่วปฏิเสธในทันที แม้ว่าเขาจะรู้สึกดีต่ออี้เทียนหยุน แต่เขาไม่สามารถทำให้เรื่องนี้เปิดเผยออกไปได้ นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย
“ดูเหมือนว่าพวกท่านจะเข้าใจอะไรกันผิดสักอย่าง เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะเป็นคนทำหน้าที่ทำลายเอง ส่วนพวกท่านให้หนีออกมาก่อน เข้าใจหรือเปล่า?” ที่มุมปากของอี้เทียนหยุนหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มแสยะ ทำให้พวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวโลหิต!