CLS ตอนที่ 517: ทางลับ
ที่มุมหนึ่งในแท่นบูชาเทียนหมิง อยู่ๆ ก็มีแสงเปล่งออกมา จากนั้นก็มีร่างสี่ร่างโผล่ขึ้นมาจากในอากาศ หากว่าด้านข้างมีคนอยู่ คนผู้นั้นจะต้องตกใจอย่างแน่นอน
“เข้ามาแล้ว” อี้เทียนหยุนตรวจสอบสถานการณ์รอบๆ แล้วก็พบว่าพวกเขาอยู่ที่มุมเล็กๆ มุมหนึ่งของขอบด้านนอก ไม่ใช่ในห้อง
เขาได้เสียพลังไปมาก เพื่อที่จะสำรวจสถานการณ์ภายใน และค้นพบสถานที่นี้ที่เหมาะจะเข้ามา เพราะที่อื่นนั้นไม่ค่อยเหมาะจริงๆ
“อะ อะไรนะ เข้ามาแล้ว?”
ในใจพวกเขาพากันสั่นสะท้าน หลังจากมองรอบๆ คราวหนึ่ง ก็พบว่าพวกเขานั้นได้เข้ามาแล้ว ทั้งหมดนี้ช่างมหัศจรรย์จริงๆ ทำให้พวกเขาต้องพากันตกตะลึง!
“เจ้าใช้ทักษะเคลื่อนย้ายได้?” หลังจากได้สติ พวกเขาก็พากันมองมาที่อี้เทียนหยุนในทันที พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความแตกตื่น
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้” อี้เทียนหยุนยิ้ม เทเลพอร์ทของเขาหลังจากที่เลื่อนระดับแล้ว การที่จะพาคนสามคนมาด้วย จึงไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อย ทั้งยังมีระยะทางที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
ดังนั้น เมื่อเทียบกับแต่ก่อนแล้ว ความมั่นใจในการหลบหนีของเขาจึงมากกว่าแต่ก่อน ทั้งยังไม่มีขีดจำกัด และไม่ว่าจะเป็นค่ายกลแบบไหน ก็ไม่สามารถขวางกั้นการเทเลพอร์ทของเขาได้ ทำให้เขาสามารถเทเลพอร์ทไปที่ไหนก็ได้ตามใจ โดยที่ไร้ซึ่งแรงกดดัน!
และต่อให้เขาจะตกอยู่ในระหว่างมหาค่ายกล มันก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เพราะว่าเขาสามารถเทเลพอร์ทหนีไปได้อย่างไม่ยากเย็น
“สวรรค์ เจ้าถึงกับใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาซึ่งเป็นหนึ่งในความสามารถของกายาธาตุอากาศที่หาได้ยาก….. ไม่แปลกที่เจ้าบอกว่าจะทำการต่อสู้ขึ้นที่นี่ ที่แท้ก็เพราะว่ามีวิชานี้อยู่นี่เอง ตอนนี้เวลาหลบหนีของพวกเขา อ่อนแอกว่าเจ้ามากนัก” ผู้อาวุโสลั่วกับพวกหลังจากที่ได้สติ ในใจก็พากันตกใจยิ่งกว่าก่อนหน้า
สิ่งที่หายากเหล่านี้ กลับมารวมอยู่ในตัวของคนๆ เดียว ช่างไม่อยากจะเชื่อจริงๆ
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาพูดกัน พวกเราต้องลงมือกันแล้ว เวลาไม่ได้มีมาก…..” สายตาอี้เทียนหยุนเป็นประกาย ก่อนที่จะเคลื่อนร่างไปอีกด้าน พร้อมกับหายตัวไปต่อหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสลั่วกับพวกพยักหน้า ในสายตาของพวกเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ เชื่อว่าเวลานี้ จะต้องทำภารกิจสำเร็จได้อย่างแน่นอน!
จากนั้น พวกเขาก็พากันหายตัวไป พร้อมกับไล่ตามหลังอี้เทียนหยุนไปติดๆ อี้เทียนหยุนไม่ได้เดินตามทางในแผนที่ของเขาในทันที แต่เดินไปตามทางของแผนที่ที่ไป๋สุ่ยหวงให้ ในเมื่อเธอเป็นคนได้ข่าวนี้มา มันจะต้องไม่ใช่ข่าวปลอมอย่างแน่นอน
เขาเชื่อว่าที่นี่จะต้องมีห้องสมบัติและอื่นๆ อยู่แน่ ดังนั้นจึงไปที่นั่นก่อน จากนั้นค่อยไปตามที่ที่ระบุในแผนที่สมบัติใต้พิภพอีกทีก็ยังไม่สาย
ภายในของแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ ดูแล้วยิ่งใหญ่ไม่ต่างไปจากด้านนอก หินแต่ละชิ้นที่อยู่ที่นี่ ล้วนแต่ไม่ใช่หินธรรมดา ทั้งบนนั้นยังสลักไปด้วยอักขระและทองแดง แข็งแกร่งระดับเดียวกับราชาวิญญาณ ยากที่จะทำลายได้! ซึ่งทั่วทั้งแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ล้วนแต่สร้างขึ้นมาด้วยวัสดุหินระดับนี้ หากคิดที่จะทำลายมัน ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ไม่เพียงแต่วัสดุหินที่ยากจะทำลายนี้เท่านั้น แม้แต่อักขระที่วาดอยู่บนนั้นก็เป็นอาคมตั้งแต่ระดับอาจารย์สลักอาคมขึ้นไป ไม่มีที่ต่ำกว่า ถือว่าน่ากลัวจริงๆ!
หากเทียบกับคุกใต้พิภพเมื่อก่อนแล้ว แข็งแกร่งกว่าหลายเท่านัก ไม่สามารถที่จะเอามาเทียบกันได้เลย แม้แต่อี้เทียนหยุนในตอนนี้ ก็ยังไม่สามารถที่จะทำลายมันได้อย่างง่ายดาย พูดได้ว่าไม่มีทางทำลายได้เลยล่ะ นอกจากว่าระดับสลักอาคมของเขาจะเพิ่มขึ้นอีก 1 ขั้น ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะทำลายได้
สิ่งนี้สร้างขึ้นด้วยน้ำมือของราชาศักดิ์สิทธิ์ แล้วอย่างเขาจะไปทำลายได้ยังไง
ยังไงก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ต้องกังวลถึงเรื่องเหล่านี้ เมื่อลอบเข้ามาแล้ว อย่างรวดเร็วก็พบกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งที่ทำหน้าที่ลาดตระเวน ระดับของตัวหัวหน้าไม่ได้แข็งแกร่งนัก อยู่เพียงระดับผันแปรวิญญาณเท่านั้น
แม้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงจะทรงพลัง แต่ก็ยังขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้อยู่ เพราะหากที่นี่ถูกบุก จากนั้นก็ค่อยส่งผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้มาก็ได้ ทำไมต้องให้มาประจำการอยู่ที่นี่ประจำด้วย
“จัดการ!”
อี้เทียนหยุนส่งสัญญาณผ่านสายตา จากนั้นร่างก็กระพริบไปโผล่ขึ้นข้างหลังพวกเขา พร้อมกับซัดเข้าไปอย่างแรง ก่อนที่จะปล่อยไอสีดำเข้าไปใน ทำการทำลายล้างร่างกายของพวกเขาจากภายใน!
พริบตา ผู้คุ้มกันทั้งห้าก็ถูกอี้เทียนหยุนจัดการ โดยที่ผู้อาวุโสลั่วกับพวกไม่ทันขยับ อี้เทียนหยุนก็จัดการแล้วเสร็จ โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้รู้ตัว
“ทูตศักดิ์สิทธิ์ ทำไมเจ้าถึงจัดการได้เร็วขนาดนี้?” ผู้อาวุโสลั่วมองดูพวกนั้นถูกจัดการ จนอดไม่ได้ต้องยกนิ้วให้ “ความสามารถในการลอบสังหารของเจ้าเทียบได้กับผู้อาวุโสเย่เลยทีเดียว!”
อี้เทียนหยุนยิ้ม แล้วพูดตอบออกไปว่า “ก็งั้นๆ…..”
จากนั้น พวกเขาก็ทำการเก็บกวาดซากศพในทันที จัดการเอาศพพวกเขาไปซ่อนไว้ในมุมที่ลึกที่สุด ที่นี่กว้างมาก ดังนั้น การจะซ่อนศพแค่ไม่กี่ศพย่อมไม่มีปัญหาอะไร แต่เชื่อว่าอีกไม่นานพวกเขาก็คงจะถูกตรวจเจอ
กลุ่มลาดตระเวนกลุ่มหนึ่งอยู่ๆ ก็หายไป เชื่อว่าพวกเขาจะต้องพบความผิดปกติอย่างแน่นอน แต่ยังไงก็ต้องใช้เวลาในการค้นหา ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาพบ
“ไปกันต่อเถอะ!” จากนั้น ร่างของอี้เทียนหยุนก็หายไปอีกครั้ง พร้อมกับทำการลอบเข้าไปต่อ
พวกเขาพากันอ้าปากค้าง จากนั้นก็พบว่าเส้นทางนี้ไม่เหมือนกับที่ไป๋สุ่ยหวงให้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไร
อย่างรวดเร็ว หลังจากเดินวนอยู่หลายรอบ ก็ได้มาถึงทางตัน
“ทางตัน?” พวกเขาพากันตกใจ ไม่คิดว่าว่าอี้เทียนหยุนจะพาพวกตนมาที่ทางตันอย่างนี้
อี้เทียนหยุนไม่พูดอะไร จากนั้นก็เคาะบนกำแพงเบาๆ ทันใดนั้น กำแพงก็พลันเปิดออก ร่างของเขาก็เดินเข้าไปในทันที ผู้อาวุโสลั่วกับพวกก็พลันตกใจ ไม่คิดว่าจะมีทางลับอยู่!
พวกเขาพากันตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้น กำแพงด้านหลังก็ได้ปิดลง เพิ่งจะเข้ามา ที่ด้านนอกก็พบว่ามีหน่วยลาดตระเวนกำลังผ่านมา และก็เหมือนว่าจะได้ยินเสียงอะไร จึงได้เดินมาตรวจดู
“เมื่อกี้นี้เหมือนได้ยินเสียงอะไรสักอย่าง?” หน่วยลาดตระเวนคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างสงสัย
“ข้าก็ได้ยินเหมือนกัน เหมือนว่าจะเป็นเสียงของหินเคลื่อนตัว ข้าได้ยินมาจากทางนั้น”
พวกเขารีบเดินมาในทันที และก็พบว่าที่กำแพงไม่มีอะไรอยู่ ทำให้พวกเขายิ่งสงสัย ที่นี่ไม่เห็นมีอะไร แต่ทำได้ถึงได้ยินเสียงดังมา?
“หรือจะเป็นเสียงกำแพงร้าวที่ดังมาจากที่อื่น?” พวกเขาเกาหัว แต่สุดท้ายก็ได้เดินจากไป
ไม่รู้ว่าพวกเขาเดินผ่านที่นี่มากี่ครั้งแล้ว ที่นี่มีอะไรอยู่บ้างพวกเขาล้วนรู้ดี แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาคงคาดไม่ถึงแน่ว่าหลังกำแพงนี้จะมีทางลับอยู่
หลังจากอี้เทียนหยุนกับพวกเข้ามา ก็พบว่าในนี้ไม่ได้มืดแต่อย่างใด ยังคงมีแสงสว่างอย่างมาก และไม่เป็นปัญหาต่อการเดิน
“ที่นี่มีทางลับด้วย พวกเราไม่เคยรู้มาก่อน…..” ผู้อาวุโสเหลยตกใจ พวกเขาคิดว่าอี้เทียนหยุนพามาผิดทาง แต่ที่แท้ก็เป็นเพราะมาทางลับนี่เอง
“หากเจ้ารู้ พวกเราก็ให้เจ้านำทางเองแล้วสิ” ผู้อาวุโสลั่วกรอกตาใส่เขา
“ข้าก็แค่รำพึงเท่านั้น ทำไมเจ้าต้องว่าข้าด้วย” ผู้อาวุโสเหลยตอบกลับไป
“เอาล่ะ พอได้แล้ว….. ทางลับนี้ข้าก็ไม่รู้ว่าจะมีคนอื่นรู้หรือเปล่า แต่ว่าทางลับนี้สามารถพาไปถึงห้องเก็บสมบัติได้อย่างง่ายดาย” อี้เทียนหยุนครอบครองแผนที่สมบัติโลกวิญญาณอยู่ เส้นทางลับทั้งหมดในนี้ เขาล้วนรู้ดี (ผมแปลตาม eng นะครับ บางทีก็เป็นแผนที่โลกวิญญาณ บางทีก็เป็นแผนที่สมบัติใต้พิภพ)
แต่ที่จริงแล้วเขานั้นรู้ดี ว่าทางลับนี้จะต้องมีคนรู้อย่างแน่นอน แม้ว่าหน่วยลาดตระเวนอาจจะไม่รู้ แต่ว่าคนระดับหมิงเฉินจะต้องรู้อย่างแน่นอน และเพื่อความปลอดภัย พวกปลาซิวปลาสร้อยจะต้องไม่มีทางรู้อย่างเด็ดขาด
แต่ไม่ว่าจะยังไง ที่พวกเขาต้องการในตอนนี้คือความเร็ว พวกเขาจำเป็นต้องทำภารกิจให้สำเร็จ และออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด! เพราะว่าหลังจากนี้ จะมีคนรู้หรือไม่รู้ มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป