CLS ตอนที่ 524: กลับเข้ามา
ไม่เพียงแต่เลื่อนระดับเท่านั้น แต่ยังได้รับฉายาเป็นรางวัลอีกด้วย ของรางวัลชุดนี้ทำให้อี้เทียนหยุนรู้สึกพอใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ การมาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับกลับมามหาศาล ต่อให้จะไม่ได้อะไรจากห้องสมบัติ ไม่ได้สมุนไพรวิญญาณ เขาก็พอใจอยู่ดี
ตอนนี้เขาได้สัตว์อสูรจำนวนมาก รวมถึงได้ค่าประสบการณ์มหาศาล แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาร้องออกมาได้ยังไง? ค่าประสบการณ์ที่อยู่ๆ ก็ได้รับมา ทำให้เลื่อนขึ้น 1 ระดับในทันที
แต่เมื่อเห็นว่าระดับถัดไปต้องการค่าประสบการณ์ 1 พันล้าน ก็ทำให้เขาได้แต่แอบถอนหายใจ นี่มันช่างยากจริงๆ ยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ ค่าประสบการณ์ที่ต้องการในการเลื่อนแต่ละระดับก็ยิ่งน่าสะพรึง หากไม่สังหารผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับสูงกว่าวิญญาณเที่ยงแท้ ก็อย่าหวังว่าจะได้รับค่าประสบการณ์ที่มากพอ
ส่วนค่าประสบการณ์ที่ได้จากระดับผันแปรวิญญาณนั้น แม้แต่ตาก็ยังไม่อยากจะมอง แต่ค่าประสบการณ์ที่ได้จากการจับสัตว์อสูรนี่สิ มันช่างมากเกินกว่าที่เขาจะคาดถึง ค่าประสบการณ์ที่ได้จากการจับสัตว์นั้น ที่จริงก็ไม่ได้สูงมาก อย่างมากก็ไม่เกิน 5-6 แสน นอกจากจะเป็นพวกระดับวิญญาณเที่ยงแท้ อย่างนี้ถึงจะให้ค่าประสบการณ์สูงหน่อย
แต่ดีที่จำนวนของพวกมันมีมากพอ ดังนั้นจึงทำให้เขาเลื่อนระดับได้อย่างสบาย แต่ก็ทำเอาเสียเวลาไปมากจริงๆ กว่าจะจับสัตว์อสูรทุกตัวหมด หากว่าเปลี่ยนเป็นฆ่า เวลาที่ใช้คงต้องลดลงกว่าครึ่งอย่างแน่นอน
“ในที่สุดก็จับเสร็จจนได้…..”
อี้เทียนหยุนถอนหายใจออกมา นี่เล่นเอาซะเหนื่อยเลย ยังไงก็ตาม พวกที่โจมตีอยู่ด้านนอกนั้นยิ่งน่าตกใจยิ่งกว่า เพราะจนป่านนี้ตั้งแต่เริ่ม พวกเขายังโจมตีประตูหน้าไม่หยุดเลย
“นี่ทูตศักดิ์สิทธิ์จับเสร็จแล้ว?” พวกเขาพากันมองไปรอบๆ คราวหนึ่ง และก็พบว่าสัตว์อสูรที่อยู่ในคอกต่างก็ถูกจับจนหมด พวกเขาสามารถนึกถึงสีหน้าของฝั่งตรงข้ามยามเมื่อเห็นคอกสัตว์ที่ว่างเปล่านี้ได้เลย ว่าจะพากันมีสีหน้าแบบไหน
นี่จะต้องทำให้พวกเขาโกรธจนต้องกระอักเลือดออกมาอย่างแน่นอน เพราะว่าการลงทุนลงแรงของพวกเขา ไม่ได้รับประโยชน์กลับมา
“ใช่ พวกเรามาเตรียมตัวไปจากที่นี่กันเถอะ ที่นี่ไม่มีสมบัติอะไรเหลือแล้ว พูดตรงๆ เลยก็คือไม่มีสัตว์อสูรเหลืออยู่แม้แต่ตัวเดียว” อี้เทียนหยุนบอกให้พวกเขามาจับตัวตนไว้ เตรียมที่จะเทเลพอร์ทหนีออกไป
“ใช่แล้ว เป้าหมายสำคัญของเราคือการโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงอย่างสาหัส และตอนนี้เป้าหมายของเราก็เสร็จแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังทำได้ดีมากอีกด้วย!” พวกผู้อาวุโสลั่วพากันคิดอย่างพอใจ แค่เวลาสั้นๆ สัตว์อสูรทุกตัวก็มาหายไป หากว่าเป็นพวกเขาก็ต้องมีกระอักเลือดออกมาเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีฟีนิกซ์ของพวกเราอีก การมาครั้งนี้ของพวกเขาถือว่าคุ้มจริงๆ
อี้เทียนหยุนพยักหน้า จากนั้นก็พาพวกเขาเทเลพอร์ทออกมาอย่างรวดเร็ว โดยที่ไร้สิ่งขวางกั้นแม้แต่น้อย แม้ว่าค่ายกลของที่นี่จะทรงพลัง แต่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นผลของการเทเลพอร์ทได้อยู่ดี
นี่เป็นสิ่งที่ได้มาจากระบบแห่งความบ้าคลั่ง เป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นจึงสามารถหนีออกมาได้อย่างผ่อนคลาย
อึดใจต่อมา พวกเขาก็มาปรากฏตัวที่ป่าด้านนอก ซึ่งค่อนข้างปลอดภัย
“เรียบร้อยแล้ว” อี้เทียนหยุนพูด
พวกเขาพากันสำรวจสถานการณ์รอบๆ แม้ว่าจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกตกใจมากอยู่ดี นี่มันช่างน่าทึ่งจริงๆ เพียงพริบตาก็สามารถหนีออกมาจากด้านในมาถึงนี่ได้อย่างง่ายดาย
“นี่มันช่างผิดปกติจริงๆ อยู่ๆ ก็ออกมาข้างนอกได้ง่ายๆ ขนาดกำแพงของแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ยังไม่มีผล ไม่มีแรงกดดันแม้แต่น้อย” พวกผู้อาวุโสลั่วพากันถอนใจ พร้อมกับรู้สึกอิจฉาขึ้นมา
แต่ต่อให้พวกเขาจะอิจฉาก็ไม่มีหนทางที่จะฝึกได้จริงๆ พวกเขาคิดว่าจำเป็นมีร่างกายที่มีพรสวรรค์ทางด้านมิติ ถึงจะสามารถใช้วิชานี้ได้ แต่เพราะพวกเขาไม่มีพรสวรรค์นี้ ดังนั้นจึงทำได้แค่มอง ไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียนรู้
ต่อให้จะสอนพวกเขาโดยไม่หมกเม็ด พวกเขาก็ไม่มีทางทำสำเร็จ นี่จึงเป็นเพียงปรารถนาเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น หากเป็นการเคลื่อนย้ายในพริบตาทั่วไป คงไม่ได้ผลลัพธ์แบบนี้ออกมา อย่างมากก็แค่สามารถมาได้ไกลหน่อย ที่สำคัญเลยคือการข้ามผ่านค่ายกลพวกนี้ต่างหาก นี่จึงจะเป็นประสิทธิภาพที่แท้จริงของความสามารถในการเคลื่อนย้ายในพริบตานี้
“ใช่แล้ว ป่านนี่พวกเขาคงไม่พากันกระอักเลือดจนตายแล้วหรอกนะ อุตส่าห์พยายามพังประตูอย่างยากลำบาก แต่สุดท้ายกลับพบว่าไม่มีใครอยู่ด้านใน พวกเขาคงไม่เป็นบ้ากันไปหมดนะ?” พวกผู้อาวุโสเหลยพากันหัวเราะ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสาแก่ใจ
ในใจพวกเขารู้สึกผ่อนคลายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่เมื่อนึกถึงตอนที่เผ่าวิญญาณร้ายลงมือกับพวกเขา นี่ก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น หากไม่ใช่ว่าสถานการณ์ไม่เป็นใจ ป่านนี้พวกเขาคงทำการเข่นฆ่าออกมาจากด้านในแล้ว
“เอาล่ะ พวกท่านกลับไปรายงานหัวหน้าเผ่าเถอะ ฟีนิกซ์ 2 ตัวนี้พวกท่านพากลับไปรักษาและถอนพิษให้มันซะ” อี้เทียนหยุนเรียกฟีนิกซ์ออกมา แม้ว่าฟีนิกซ์จะดีมาก แต่เขาคงทำได้เพียงตัดใจ
เผ่าฟีนิกซ์ย่อมต้องนำกลับไปอย่างแน่นอน ไม่มีทางที่พวกเขาจะให้เขาพาพวกมันไปหรอกจริงไหม?
“เจ้า……” ผู้อาวุโสลั่วมองไปที่อี้เทียนหยุน ในใจก็รู้ว่าอี้เทียนหยุนคิดจะทำอะไร
“ใช่แล้ว แผนการที่ข้าบอกก่อนหน้านี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องไป” อี้เทียนหยุนมองพวกเขา แล้วพูดว่า “พวกท่านกลับกันไปก่อน แล้วข้าจะรีบตามไป”
ผู้อาวุโสทั้งสามพากันมองหน้ากัน สุดท้ายก็ทำได้เพียงพยักหน้า นี่เป็นวิธีที่นี่สุด เพราะยังไงพวกเขาก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของอี้เทียนหยุนแล้ว มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายในพริบตาที่ทรงพลังขนาดนั้น พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลจริงๆ นั่นล่ะ
“ตกลง พวกเราจะกลับไปรายงานสถานการณ์ให้หัวหน้าเผ่าก่อน เจ้าต้องจัดการเรื่องนี้อย่างระวัง แม้ว่าจะมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายในพริบตานี้ แต่ก็ต้องระวังให้มาก ไม่มีความสามารถไหนที่จะใช้ได้ผลไปตลอด หากว่าถูกขังอยู่ด้านใน ไม่เพียงแต่จะไม่ได้อะไรกลับมา กลับจะเป็นผลเสียแทน!” ผู้อาวุโสลั่วเอ่ยเตือนเขา
พวกเขากังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับอี้เทียนหยุนมาก ถึงยังไงเขาก็ได้ช่วยเหลือพวกเขา ทำให้ในใจของพวกเขาต่างก็คิดว่าอี้เทียนหยุนเป็นสหาย แล้วอย่างนี้จะเต็มใจมองเขารนเข้าไปหาที่ตายได้ยังไง?
“เข้าใจแล้ว แล้วข้าจะรีบกลับ” อี้เทียนหยุนยิ้ม จากนั้นก็บอกให้พวกเขารีบไป
หลังจากกล่าวลา พวกเขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว ไม่ยั้งอยู่ที่นี่ต่อ พวกเขาไม่มีทางที่จะต่อสู้ร่วมกับเขา หากว่าเมื่อไหร่ที่การต่อสู้กลายเป็นยากลำบาก อาจจะทำให้พวกเขาพากันถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็ว
การเคลื่อนย้ายในพริบตาของอี้เทียนหยุนนั้นมหัศจรรย์มาก แต่พวกเขาก็รู้ว่าไม่มีทางที่จะสามารถใช้ได้บ่อยๆ หากถึงตอนสำคัญแล้วใช้ไม่ได้ขึ้นมา ก็มีแต่รอให้ถูกฆ่าตายอยู่ในนั้นฝ่ายเดียว
ยังไงก็ตาม พวกเขาคิดว่าการที่อี้เทียนหยุนไปในนั้นคนเดียวย่อมเป็นวิธีที่ดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็ไม่จำเป็นต้องมาคอยกังวลถึงพวกเขายามหนี
หลังจากพวกเขาจากไป อี้เทียนหยุนก็ยังไม่ได้เข้าไปในทันที เพราะเทเลพอร์ทของเขายังคูลดาวน์ไม่เสร็จ จำเป็นต้องคอยอยู่ที่นี่หนึ่งชั่วยามก่อน จากนั้นถึงค่อยเทเลพอร์ทเข้าไป
และในพริบตา เวลาหนึ่งชั่วยามก็ได้พ้นผ่าน ร่างของเขากระพริบวาบ พร้อมกับหายไปยังจุดที่อยู่ เข้าไปด้านในทันที ตอนนี้ข่างในเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่พากันล้อมห้องเก็บสัตว์อสูร จนอากาศแทบจะผ่านไปไม่ได้
อี้เทียนหยุนกวาดตามองไปทางนั้น จากนั้นก็ทำการซ่อนร่างอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเขา เพราะว่าผู้คุ้มกันส่วนใหญ่ถูกเรียกไปที่นั่น ทำให้ตอนนี้เขาสามารถบุกเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
“น่าจะเป็นทางนี้…..”
อี้เทียนหยุนไม่อยู่เฉย เขาทำการตรงไปยังบริเวณที่สมบัติถูกฝัง ตามที่แผนที่สมบัติโลกวิญญาณบอก ที่จริงแล้วเขาอยากจะรู้ว่าสมบัติที่ถูกฝังไว้นั้นคืออะไร หวังว่าหากเทียบกับแผนที่ถ้ำมังกรขดแล้ว สมบัติที่เจอคงจะล้ำค่ากว่ามาก หวังจะได้รับสมบัติที่ดีกว่า!
เขาหวังว่าคงจะเป็นอุปกรณ์ที่มีระดับเหนือกว่าเทวะ หากว่าเป็นแค่ระดับศักดิ์สิทธิ์ มันคงจะไม่คุ้มกับการที่เขาต้องกลับมา
เพราะว่าผู้คุ้มกันไม่มาก ทำให้การบุกรุกของเขาเป็นไปอย่างผ่อนคลาย อย่างรวดเร็ว เขาก็มาถึงบริเวณที่สมบัติถูกฝังไว้ตามที่แผนที่บอก
“ที่นี่แหละ…..” อี้เทียนหยุนทำการจับจ้องไปยังเส้นทางข้างหน้า ตราบเท่าที่เดินไปตามทางนี้ เขาก็จะไปถึงจุดที่สมบัติถูกฝังเอาไว้!