CLS ตอนที่ 525: บันไดเทวะ
“เปรี้ยง!”
ป้าหลงกับพวกพากันทุบประตูไม่หยุด จนตอนนี้ประตูเริ่มที่จะหลุดจากกรอบแล้ว ซึ่งนี่ทำให้พวกเขามีความสุข หมิงเฉินพูดออกมาด้วยความดีใจว่า “รีบโจมตีเร็ว พวกมันหลบอยู่หลังประตูได้ไม่นานแล้ว จะได้ฆ่าพวกมันเร็วๆ!”
พวกเขาใช้เวลาโจมตีประตูบานนี้อยู่นานมาก ตอนนี้ประตูมีท่าทางที่จะหลุดออกจากกรอบแล้ว ที่ด้านนอกนั้น ประตูดูแล้วมีสภาพที่ดูไม่ได้เลย ส่วนเสาหินที่ยันไว้ด้านหลังประตูก็ดูเหมือนว่าจะทนได้อีกไม่นาน
ด้านในประตูนี้มีเสาหินค้ำยันเอาไว้อยู่ นี่เป็นสิ่งที่พวกผู้อาวุโสทำไว้เพื่อยืดเวลาออกไป ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถทำลายประตูได้ในทันที แต่ตอนนี้พวกเขาได้จากไปแล้ว ในนี้จึงไม่มีใครคอยยันไว้ ทำให้แค่เสาหินเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะทนกับการโจมตีที่กระหน่ำเข้ามาได้ จึงได้เริ่มที่จะเกิดรอยร้าว
แม้ว่าประตูจะมีพลังในการต่อต้านมหาศาล แต่ตอนนี้ก็เหลือพลังอยู่ไม่มากแล้ว ทั้งเสาหินก็เริ่มปรากฏรอยร้าวเป็นทางยาว เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเสาหินนี้หลังจากที่ได้รับการเติมแต่งค่ายกลเข้าไป จึงทำให้สามารถต้านทานไว้ได้ระยะหนึ่ง
เสาหินนี้เป็นแค่เสาจารึกธรรมดา แต่ระดับความแข็งนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้น ภายใต้การโจมตีที่บ้าคลั่งของผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณหลายคน จึงยากที่จะทนต่อไปได้
จนในที่สุด หลังจากทนมาได้สักพัก ภายใต้การโจมตีที่แสนดุดันของป้าหลง “ปัง” เสาหินหักออกเป็นท่อนๆ กลายเป็นเพียงเศษหินที่หล่นลงพื้นไป
“ปัง!”
และจากนั้นไม่นาน ประตูหน้าก็ถูกโจมตีจนเปิดออก ป้าหลงกับพวกนำคนพุ่งเข้ามา ในตาของแต่ละคนต่างก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร พร้อมกับจับจ้องไปรอบๆ แต่หลังจากที่มองกวาดดูแล้ว พวกเขาก็พบว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่ รอบๆ ล้วนแต่ว่างเปล่า จะเหลือก็แต่กรงขังที่ว่างเปล่า พร้อมกับศพของหน่วยลาดตระเวนบางคน
“คนล่ะ!?” พวกเขาพากันมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว และก็พบว่าไม่มีกลิ่นอายอะไรเหลืออยู่เลย ต่อให้ความสามารถในการซ่อนตัวจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ภายใต้สายตาของผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณหลายคน ก็ไม่มีทางที่จะหลุดรอดสายตาไปได้
แต่ตอนนี้หลังจากที่พวกเขามองดูไปทั่วๆ แต่ก็ปรากฏว่าไม่พบอะไร ล้วนแต่เป็นความว่างเปล่าโดยสมบูรณ์!
“นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงได้หายไปล่ะ?” ในใจพวกเขาพากันตกใจ
ภายใต้ความโกรธ ป้าหลงทำการระเบิดพลังมังกรออกมา ปลดปล่อยร่างเงามังกร พร้อมกับถือกระบี่หนักพุ่งเข้าไป ก่อนที่จะฟันใส่กรงพวกนั้น พริบตา กรงส่วนใหญ่ก็ถูกตัดแบ่งเป็นสองส่วน
ส่วนคลื่นกระบี่ส่วนเกินก็ปะทะเข้ากับกำแพงด้านหลัง แต่ก็ไม่มีผลอะไร เพียงแค่มีรอยติดตรงกำแพงนิดหน่อยเท่านั้น
“คนล่ะ คนล่ะ คนล่ะ!”
เขาคำรามด้วยความโกรธ พร้อมกับเหวี่ยงกระบี่ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดในมืออย่างบ้าคลั่ง ปล่อยคลื่นกระบี่ออกไปรอบๆ ไม่หยุด แต่ไม่ว่าจะทำยังไง ก็ไม่สามารถสัมผัสได้ว่ามีคนอยู่
กรงส่วนมากถูกตัดขาด พร้อมกับทิ้งรอยเล็กๆ ไว้ที่กำแพงด้านหลัง นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรอีก
หมิงเฉินกับพวกก็รู้สึกโกรธจนแทบจะหายใจไม่ออก อุตส่าห์เสียเวลาพังประตูอยู่ข้างนอกตั้งนาน แต่หลังจากเข้ามาแล้วกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของคน? แม้ว่าพวกเขาจะส่งสัมผัสวิญญาณออกไปมากแค่ไหน แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของคน จะสัมผัสได้ก็เพียงมดไม่กี่ตัวเท่านั้น
“หายไป หายไปจริงๆ!” ป้าหลงหยุดโจมตี ขณะที่ความโกรธในสายตาได้พุ่งทะยานขึ้นไปถึงสวรรค์ ก็คิดว่าจะได้ทำการเข่นฆ่าผู้บุกรุกพวกนี้ให้สาสม แต่ไม่คิดว่าจะไม่เจอแม้แต่เงาของคน ที่มีเหลือก็เพียงกรงผุๆ กระทั่งสัตว์อสูรก็ไม่เหลือ!
นี่มันช่างน่าตกใจจริงๆ พวกเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหนีไปจากที่นี่ได้
“ที่นี่ยังมีทางลับอีกเหรอ เป็นไปไม่ได้…… ที่นี่ไม่มีทางมีทางลับเด็ดขาด เพราะทางลับส่วนใหญ่ล้วนแต่รู้เฉพาะพวกเรา!” หมิงเฉินมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว พร้อมกับจับจ้องไปยังกำแพงรอบๆ อย่างดื้อด้าน อยากจะเห็นว่ามีทางลับอยู่ตรงไหน
“หาดูสิ!”
ป้าหลงลูบคลำผนัง เพื่อที่หาดูว่ามีทางลับอยู่ที่นี่ ทำการลูบคลำไม่หยุด หนิวทวนเทียนกับพวกก็ทำการค้นหาเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ที่ตามมาก็ถูกสั่งให้ทำการค้นหาทางลับด้วยเหมือนกัน
ไม่ว่าจะบนกำแพง เพดาน หรือพื้น ต่างก็ถูกพวกเขาลูบคลำเพื่อค้นหาทางลับ
แม้ว่าที่นี่พวกเขาจะได้มีการค้นหาไปแล้ว ทั้งทางลับส่วนใหญ่ในแท่นบูชาเทียนหมิงก็ถูกพวกเขาล่วงรู้แล้วเช่นกัน พวกเขาไม่คิดว่าจะมีทางลับใดๆ เหลืออยู่ แต่ตอนนี้ทั้งคนและสัตว์อสูรมาหายไปอย่างไร้ร่องรอยอย่างนี้ พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่คิดว่าตัวเองพลาดอะไรไป ไม่ก็มีทางลับที่ยังไม่ถูกค้นพบ!
“พวกมันต้องรู้ทางลับอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางหายไปเฉยๆ แบบนี้ได้ ทั้งยังเป็นไปไม่ได้ที่แอบเข้าไปสังหารเหมินหู่เงียบๆ อย่างนี้!” ป้าหลงเดือดดาล “บัดซบเอ๊ย ทำไมพวกมันถึงได้รู้ทางลับได้กัน! กระทั่งพวกเรายังไม่รู้เลยว่ามีทางลับอยู่ในห้องนี้ แล้วพวกมันรู้ได้ยังไง?”
ในใจพวกเขารู้สึกโมโหทั้งยังมากไปด้วยความแตกตื่น ในแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ ยังมีอีกมากแค่ไหนที่พวกเขายังไม่รู้?
พวกเขาคิดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่าแค่พึ่งพาเพียงการเคลื่อนย้ายในพริบตา จะทำให้สามารถออกไปจากที่นี่ได้ เพราะที่นี่มีค่ายกลอยู่มากมาย ต่อให้จะใช้การเคลื่อนย้ายในพริบตาจากที่นี่! ก็ไม่มีทางที่จะทะลุห้องนี้ออกไปง่ายๆ อย่างแน่นอน
ดังนั้น สิ่งที่พวกเขาคิดว่าพอจะเป็นไปได้ก็คือ จะต้องมีทางลับอยู่ที่ไหนสักแห่ง ไม่ใช่การเคลื่อนย้ายในพริบตา
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม พวกเขาคงทำได้เพียงค้นหาต่อไป ดูว่ามีทางลับอยู่ใกล้ๆ หรือเปล่า หากไม่พบทางลับ บทลงโทษที่พวกเขาจะได้รับ จะต้องน่ากลัวมากอย่างแน่นอน!
แต่หากว่าสามารถจับกุมผู้บุกรุกได้ อย่างนั้นก็พอจะมีคำอธิบาย แต่ตอนนี้แม้แต่สัตว์อสูรก็ไม่เหลือ กับผู้บุกรุกยิ่งแล้วใหญ่ อย่างนี้ ย่อมทำให้โทษที่พวกเขาได้รับต้องสาหัสอย่างแน่นอน
และในขณะที่พวกเขากำลังทำการค้นหาอยู่นั้น อยู่ๆ ทั่วทั้งแท่นบูชาเทียนหมิงก็สั่นสะเทือน กำแพงรอบๆ พากันส่องแสงสีทองออกมา ราวกับกำลังจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น ใครมันเริ่มปีนบันไดเทวะกัน!?” ป้าหลงกับพวกพากันเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าแตกตื่น จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าดำคล้ำว่า “หรือว่าจะเป็นผู้บุกรุก?”
“บัดซบเอ๊ย รีบไปดูเร็ว!” หมิงเฉินคำราม ราวกับนี่เป็นการทำให้แผนการของพวกเขายุ่งเหยิง
พวกเขาพากันกลับหันหลังแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนก่อนที่ป้าหลงจะออกไป เขาก็ได้สั่งงานกับลูกน้องว่า “พวกเจ้าอยู่ที่นี่ หากว่ามีเสียงอะไร ให้รีบมารายงานข้าทันที! และไม่ว่าจะยังไง พวกเจ้าก็ต้องขัดขวางพวกมันให้ได้ หากว่าพวกมันหนีไปได้ พวกเจ้าตาย!”
“ครับ!” ในใจพวกเขาพากันสั่น แต่ก็ทำได้เพียงแค่ตอบรับออกไป
หลังจากสั่งงานเสร็จ พวกเขาก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากวิ่งเลี้ยวซ้ายป่ายขวามา ในที่สุดก็มาถึงตรงเส้นทางหนึ่ง และที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขาก็คือขั้นบันได หากว่าประมาณจากสายตาแล้ว บันไดนี้มีประมาณ 1,000 ขั้นได้
แน่นอนว่าจุดสำคัญไม่ใช่สิ่งนี้ สิ่งสำคัญคือมีคนกำลังปีนอยู่ ทั้งยังปีนไปมากกว่า 100 ขั้น ขณะที่ทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยลำแสงชั้น 1
และเมื่อพวกเขาเห็นร่างนั้น ก็พลันคำรามออกมาพร้อมกันว่า “ผู้บุกรุก!”
และผู้ที่กำลังปีนบันไดนี้อยู่ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอี้เทียนหยุนนี่เอง! เขาก็คิดว่ามีสมบัติอะไรฝังเอาไว้เสียอีก แต่ไม่คิดว่าจะเป็นบันไดสูง 999 ขั้น ไม่รู้ว่าปีนขึ้นไปแล้วจะพาไปที่ไหน
เขาก็ไม่คิดว่าขณะที่เริ่มปีน อยู่ๆ ก็ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือน พร้อมกับเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้กับคนอื่นๆ ทำให้ทั่วทั้งแท่นบูชาเทียนหมิงเกิดการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน ค่ายกลที่อยู่ใกล้ๆ ก็พากันฉายแสงออกมาไม่หยุด ดูแล้วน่าหลงใหลอย่างมาก
หลังจากเริ่มปีน เขาก็เร่งความเร็วขึ้นทันที แต่ไม่คิดว่าเพิ่งจะปีนได้ไม่ทันไร พวกเขาก็มากันเสียได้ แต่ว่าเหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้แปลกอะไร ก็แค่คิดว่าการจะแอบเอาสมบัติออกไปเงียบๆ คงเป็นไปไม่ได้แล้วเท่านั้น
