CLS ตอนที่ 527: ผิดพลาด
“ขยะ รีบปีนขึ้นมาให้ข้าไวๆ เดินช้าเป็นเต่าขนาดนั้น หรือว่าขาเจ้าจะพิการ?”
“ใช่แล้ว เจ้าเด็กเปรต รีบๆ ปีนขึ้นมาให้ข้าไวๆ หากว่าไม่มีปัญญา ก็รีบไสหัวไปซะ!”
“เขาจะต้องพยายามถ่วงเวลาอย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าขึ้นมาไม่ได้ แต่ว่าไม่กล้าขึ้นมากกว่า!”
ผู้คุ้มกันที่อยู่ใกล้ๆ พากันมองมาที่เขาอย่างเดือดดาล อยากที่จะให้อี้เทียนหยุนรีบขึ้นมาเหลือเกิน แต่ว่าอี้เทียนหยุนกลับเอาแต่เดินขึ้นมาอย่างช้าๆ บรรจงก้าวทีละก้าว
กับเสียงที่ดังมารอบๆ นี้ เขาทำเป็นหูทวนลม ทำเป็นไม่ได้ยินไป
“เจ้าหนูนี่คงคิดถ่วงเวลา คิดว่าไม่สามารถขึ้นมาได้ เลยตัดสินใจที่เดินอย่างช้าๆ แทน?” ป้าหลงสีหน้าเย็นชา ถึงยังไงเขาก็ยังต้องการรอให้อี้เทียนหยุนตามขึ้นมา จากนั้นจะได้ซัดเขาให้หายอยากสักที แต่ใครจะรู้ว่าอี้เทียนหยุนจะไม่ตามขึ้นมา แต่กลับเดินอย่างกับคนขี้เกียจแทน
พวกเขาพากันขึ้นมาถึงขั้นที่ 600-700 แล้ว แต่อี้เทียนหยุนยังอยู่ที่ประมาณขั้นที่ 200 ความเร็วที่ใช้เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ช้ากว่ามากนัก
“หรือว่ามันจะคิดว่าอยู่ที่นี่แล้วจะปลอดภัย ไว้เมื่อไหร่ที่คนขึ้นไปสำเร็จ 30 คน เมื่อนั้นมันจะต้องถูกถีบออกไปอย่างแน่นอน!” หมิงเฉินหัวเราะเยาะ “และเมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็จะล้อมมันไว้อีกครั้ง ให้มันตายโดยไร้ซึ่งดินกลบฝัง!”
เมื่อใดที่มีคนผ่านขึ้นไปบนขั้นบนสุดครบ 30 คน เมื่อนั้น บันไดเทวะนี้ก็จะหยุดแผลงฤทธิ์ในทันที พร้อมกับทำการผลักผู้ฝึกตนที่ปีนไม่สำเร็จทั้งหมดออกไป
“ใช่ เมื่อถึงตอนนั้น เราจะจัดการกับเจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมผู้นี้!” ป้าหลงยิ้มอย่างเย็นชา
จากนั้นพวกเขาก็กลับไปปีนต่อ เพียงแต่ความเร็วที่ใช้เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้แล้วช้ากว่ามาก แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณ ก็ไม่ใช่ว่าจะปีนขึ้นไปได้ง่ายๆ เพราะยิ่งมีระดับสูง แรงกดดันที่ได้รับก็จะยิ่งมาก
อี้เทียนหยุนไม่สนใจความคิดของพวกเขา เขายังคงปีนขึ้นไปทีละน้อยด้วยความเร็วไม่เร็วไม่ช้าดุจเดิม ยังไงก็ตาม เมื่อไปถึงช่วงหลัง ความเร็วของเขาก็ได้เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นทีละน้อย แต่ทุกเท้าที่ก้าวก็ยังคงมั่นคง พร้อมกับพลังวิญญาณที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนั้น ข้อมูลที่ได้รับก็มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงชิ้นส่วนของวิชายุทธ์ทั้งหมดทีละน้อย แน่นอนว่าในความรู้สึกของเขารู้สึกว่ารวบรวมได้แค่ 1-2 หน้าแรกเท่านั้น และเมื่อดูจากขั้นที่เหลือ เขาก็คิดว่าคงเก็บได้อีกอย่างมากแค่ 1-2 หน้าเท่านั้น
เขารู้สึกว่าหลังจากปีนขึ้นไปจนครบ 999 ขั้น ก็ไม่ทางที่จะสะสมวิชายุทธ์นี้ได้อย่างเพียงพอ กลัวว่าจะเก็บได้เพียง 3-4 หน้าเท่านั้น
และในขณะที่ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้น หลังจากที่ป้าหลงกับพวกได้เห็น สีหน้าก็พลันดิ่งลงแทน พวกเขาหวังว่าอี้เทียนหยุนจะไม่ขึ้นมา อยากจะให้เขาหยุดอยู่ที่ตรงนั้น อย่างนี้หลังจากที่พวกเขาทดสอบสำเร็จ จะได้จัดการขับไล่อี้เทียนหยุนออกไปได้
“ไม่ต้องไปสนใจ ไม่ว่ามันจะทำสำเร็จหรือไม่ หลังจากนี้พวกเราก็สามารถจัดการกับมันได้อยู่ดี!” หมิงเฉินแสยะยิ้มออกมา แผนการยังคงไม่เปลี่ยนไปจากก่อนหน้า
ต่อให้สถานการณ์เปลี่ยน พวกเขาก็มีแผนอื่นไว้รับมือ
“ก็จริง พวกเราขึ้นไปก่อน นอกจากนี้ยังมีคนของเราอีกเกือบ 50 คน ที่มีความเร็วมากกว่ามัน” หนิวทวนเทียนหัวเราะ รอบๆ พวกเขายังมีคนอีกเกือบ 50 คน
นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้และระดับผันแปรวิญญาณอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ไปไกลเกินกว่าอี้เทียนหยุน แม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าใครจะเป็นผู้ชนะ เป็นไปได้เหรอที่อี้เทียนหยุนจะตามทัน?
และความจริงก็ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นคิดมากเกินไป การเดินของอี้เทียนหยุนนั้น บางก้าวเร็ว บางก้าวช้า ขณะที่บางก้าวเดินอย่างบรรจง เหมือนกับกำลังปรับตัวให้เข้ากับแรงกดดัน
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะระวังกันเกินไป ระดับของเจ้าหนูนี่อ่อนมาก ข้าคิดว่าพลังของมันน่าจะอยู่ในระดับผันแปรวิญญาณเท่านั้น?” หมิงเฉินพูด
“ข้าก็ว่าอย่างนั้น พลังของมันอ่อนแอกว่าแม้กระทั่งผู้ฝึกตนระดับผันแปรวิญญาณทั่วไป แล้วสหายของมันล่ะ? เป็นไปไม่ได้ที่มันจะเข้ามาที่นี่คนเดียว แล้วคนอื่นล่ะอยู่ไหน?” ป้าหลงทำการมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นเงาคนอื่นแต่อย่างใด
“จะยังไงก็ช่าง ยังไงก็ต้องจับมันไว้ จากนั้นค่อยเค้นเอาทางลับทั้งหมดที่มันรู้ออกมา! ไม่อย่างนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะแอบเข้ามาถึงตรงนี้ได้ง่ายขนาดนั้น!” หมิงเฉินมีสายตาเย็นชา ทางลับพวกนี้ไม่มีทางปล่อยให้ศัตรูล่วงรู้ได้เด็ดขาด แต่ต่อจะให้ศัตรูรู้ พวกเขาก็ต้องรู้ด้วย ไม่อย่างนั้น มันจะต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน
พวกเขาพากันพยักหน้า จากนั้นก็ปีนกันต่อ ส่วนอี้เทียนหยุนนั้น ไม่ว่าจะปีนสำเร็จหรือไม่ สุดท้ายก็ต้องจับเป็น พร้อมกับเค้นเอาเรื่องที่รู้ออกมาให้หมด
พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มีอี้เทียนหยุนแค่คนเดียว แต่ตอนนี้คงทำได้เพียงจับตัวเขาไว้ แล้วค่อยว่ากัน
ส่วนเหตุการณ์ทางฝั่งอี้เทียนหยุนก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขายังคงเดินด้วยความเชื่องช้าตามปกติ ราวกับไม่ได้รับความกดดัน เห็นได้ชัดว่าแรงกดดันจากที่แห่งนี้ไม่มีผลต่อเขา แม้ด้วยระดับของเขา เขาจะสามารถเพิ่มความเร็วขึ้นได้อีก แต่เขาก็ไม่ทำ ยังคงค่อยๆ สัมผัสมันไปอย่างช้าๆ
ข้อมูลของวิชายุทธ์ที่ถูกทิ้งไว้ในแต่ละขั้นบันไดนั้นค่อนข้างมาก ดังนั้น เขาจึงจำเป็นต้องเดินอย่างเชื่องช้าเป็นพิเศษ เพื่อที่จะสัมผัสกับความลึกลับนี้อย่างระวัง เขาสัมผัสได้ว่าวิชายุทธ์นี้จะต้องน่าสะพรึงอย่างถึงที่สุด อย่างน้อยก็เป็นวิชายุทธ์ระดับสวรรค์ขึ้นไป ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นวิชายุทธ์ระดับสวรรค์ที่แข็งแกร่งมากด้วย
ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นวิชายุทธ์ระดับสวรรค์ขั้นสูง ซึ่งนี่ไม่น่าจะคาดเดาผิด ต้องรู้นะว่านี่เป็นวิหารที่ผู้ฝึกตนระดับราชาศักดิสิทธิ์เป็นผู้สร้าง หากว่าไม่มีวิชายุทธ์ระดับสวรรค์ขั้นสูงทิ้งเอาไว้ เขาคงจะรู้สึกผิดหวังน่าดู
เขายังคงเดินอย่างไม่รีบร้อน ไม่สนใจว่าสถานการณ์รอบๆ จะเป็นยังไง ฝั่งตรงข้ามจะขึ้นไปได้แล้วแค่ไหน เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเขา
พร้อมกับเวลาที่เลยผ่าน อย่างรวดเร็ว หมิงเฉินก็ขึ้นไปถึงเป็นคนแรก หลังจากขึ้นไปได้สำเร็จ เขาก็มองลงมายังอี้เทียนหยุนจากบนที่สูง พร้อมกับพูดอย่างดูถูกว่า “เจ้าหนู ปีนช้าอย่างนั้น เจ้าคงไม่รู้สินะว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไร!”
ป้าหลงกับพวกก็ตามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะระหว่างพวกเขานั้น ไม่ได้มีความต่างที่ใหญ่นัก ดังนั้นจึงได้ตามกันมาติดๆ
พร้อมกับเวลาที่เลยผ่าน อย่างรวดเร็ว ก็ได้มีหลายคนขึ้นมาได้สำเร็จ ในตอนนี้ อี้เทียนหยุนยังอยู่ที่บันไดขั้นที่ 600-700 ซึ่งยังเหลืออีกประมาณ 300 ขั้นกว่าจะขึ้นมาถึง
“ยังขาดอีกสองคน เจ้ารีบๆ ขึ้นมาล่ะ!” หมิงเฉินกวาดตามองด้านข้าง ยังเหลืออีก 2 คนก็จะครบ 30
ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณหลายคนกำลังปีนด้วยท่าทางทุลักทุเล หลังจากปาดเหงื่อที่ไหลเป็นสายน้ำ ก็พากันปีนต่อด้วยความลำบาก นี่เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับพวกเขา แต่แม้จะยาก ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว พวกเขายังคงสามารถปีนขึ้นมาได้
ในที่สุด หลังจากที่อีกสองคนปีนขึ้นมาได้สำเร็จ ทั่วทั้งบันไดเทวะก็เปล่งแสงสว่างไสวออกมา พร้อมกับปกคลุมทั่วทั้งโถงแห่งนี้ในพริบตา
“ฮ่าๆ เจ้าหนู แกตายแน่!” หมิงเฉินหัวเราะ พร้อมกับพูดต่อด้วยสีหน้าดุร้าย “ปิดทางเข้าออกให้หมด พร้อมกับรอจับกุมเจ้าเด็กนี่ให้ข้า!”
ในสายตาของพวกเขา ระดับของอี้เทียนหยุนนั้นต่ำมาก ดังนั้น ต่อให้พวกเขาไม่ลงมือเองก็สามารถจับกุมได้ง่ายๆ หากว่าไม่ใช่เพราะระดับต่ำ ก็คงจะปีนขึ้นมาถึงนี่ตั้งนานแล้ว ทำไมถึงได้เดินขึ้นมาช้าๆ อย่างนั้นด้วย?
อึดใจต่อมา หลังจากลำแสงเทวะกระพริบวาบ นอกจากอี้เทียนหยุนแล้ว ทุกคนต่างก็ถูกซัดลงไปทันที ทำให้บันไดเทวะที่กว้างขวาง เหลือเพียงอี้เทียนหยุนคนเดียว!
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมมันไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?!” พวกเขาพากันตกใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น