CLS ตอนที่ 530: ปีนขึ้นไป
ภายใต้ความเร็วที่น่าตกใจ อี้เทียนหยุนก็ปีนขึ้นไปเหนือโลก ทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลังอย่างง่ายดาย ปีนป่ายขึ้นไปตลอดทาง จนขึ้นไปถึงขั้นที่ 2!
เพิ่งจะเหยียบเท้าลงไปบนขั้นที่ 2 ทันใดนั้นก็มีเสียงรายงานของระบบดังขึ้นมา
“ติ๊ง ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 10 ล้าน!”
หลังจากขึ้นถึงอีกขั้น ก็ได้รับค่าประสบการณ์จำนวน 10 ล้านในทันที และยังมีข้อมูลของวิชายุทธ์เหมือนก่อนหน้า หลอมรวมเข้ากับข้อมูลครั้งที่แล้ว เติมเต็มหน้ากระดาษจนสมบูรณ์
“ค่าประสบการณ์ 10 ล้าน ดูเหมือนว่ายิ่งขึ้นสูงก็ยิ่งได้มาก” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ค่าประสบการณ์ที่ได้ทั้งหมดจะต้องมหาศาลอย่างแน่นอน
เพียงแค่ปีนขึ้นไปก็จะได้รับค่าประสบการณ์ หากขึ้นไปบนสุด ค่าประสบการณ์ทั้งหมดจะต้องมากกว่าร้อยล้านอย่างแน่นอน ซึ่งนี่ทำให้เขารู้สึกพอใจมาก บางทีอาจจะไม่ถึงขั้นที่เลื่อนระดับได้ แต่ยังไงก็ดีกว่าไม่มี
หลังจากดูดซับวิชายุทธ์แล้วเสร็จ เขาก็ทำการปีนต่ออย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีการลดความเร็วลงแม้แต่น้อย ในขณะที่พวกเขาปีนขึ้นมาถึงขั้นที่ 2 ตัวอี้เทียนหยุนเองกลับใกล้จะถึงขั้นที่ 3 แล้ว
“ติ๊ง ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 20 ล้าน!”
ค่าประสบการณ์ที่ได้มากเป็นเท่าตัวในทันที ซึ่งนี่เขาก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ระหว่างที่ปีน แรงดูดที่มีนั้น เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมมาก แต่ดีที่เขาได้เลื่อนระดับวิชาขึ้นหลายขั้น จึงทำให้เขาพอจะอดทนผ่านมันไปได้
ดังนั้น การที่ได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมากอย่างนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด หากเป็นต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ มันก็จะเป็น 1 ก้าวย่าง ทะยานสู่สรวงสวรรค์อย่างแท้จริง ยิ่งขึ้นไปได้มากขั้นเท่าไหร่ สิ่งที่ได้รับก็จะมากขึ้นไปเท่านั้น ไม่แปลกที่พวกเขากระหายที่จะเข้าสู่บททดสอบนี้เหลือเกิน
ความเร็วในการดูดซับของพวกเขาค่อนข้างช้า จำเป็นดูดซับพลังวิญญาณให้หมดเสียก่อน จึงจะสามารถทำการปีนต่อได้ หากว่ายังไม่สามารถดูดซับพลังวิญญาณให้หมดแล้วเริ่มปีนในทันทีแล้วล่ะก็ เมื่อเป็นอย่างนั้น มีโอกาสที่จะเกิดรอยร้าวได้ ทำให้การมาในครั้งนี้ของพวกเขาเสียเปล่า
การเกิดรอยร้าวนั้นเป็นปัญหาจริงๆ หากพยายามสะกดมันเอาไว้ในร่างกายแล้วปีนต่อ มันจะทำให้เกิดการสะสมที่มากขึ้น และเมื่อสะสมมากเข้า มันก็มีโอกาสเป็นไปได้มากที่จะทำให้เส้นลมปราณระเบิดออก หรือแม้กระทั่งร่างกายระเบิดออกก็เป็นได้!
“ทำไมเจ้าหนูนี่ถึงได้เร็วนัก แรงดูดไม่มีผลต่อมันเลยหรือยังไง?” ในใจพวกเขายิ่งมายิ่งแตกตื่น อี้เทียนหยุนดูราวกับลิง ปีนขึ้นไปข้างบนอย่างคล่องแคล่ว ทั้งความเร็วยังคงดุจเดียวกับแต่ก่อน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้ยังไง
“มีความเป็นไปได้ว่า เจ้าหนูนี่จะต้องมีอะไรพิเศษ ไม่อย่างนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเร็วขนาดนี้” สีหน้าของป้าหลงดูน่าเกลียด สังหารพี่น้องของเขายังไม่พอ ยังมากระโดดโลดเต้นต่อหน้าเขาอีก แล้วอย่างนี้จะให้ในใจของเขารู้สึกดีอยู่ได้ยังไง
“หากว่ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป มันมีโอกาสเป็นไปได้มากว่าจะขึ้นไปถึงบนสุดเป็นคนแรก…..” หนานกงหมิงพูดอย่างเคร่งเครียด
“งั้นก็ภาวนาให้มันรีบขึ้นไปให้ถึงยอดเร็วๆ เถอะ เมื่อถึงตอนนั้น ก็จะเป็นเวลาตายของมัน” ป้าหลงเปิดปากออก เผยให้เห็นถึงเขี้ยวสีขาว ดูแล้วท่าทางดุร้ายมาก หวังว่าพวกตนจะได้ฉีกมันเป็นชิ้นๆ
“ใช่แล้ว เมื่อขึ้นไปถึงยอด นั่นก็คือเวลาตายของมัน!” หมิงเฉินสีหน้าเย็นชา ไม่อยากจะทำการทดสอบต่อไปแล้ว กลับกัน เขาอยากจะให้อี้เทียนหยุนขึ้นไปถึงยอดเร็วๆ
หลังจากไปถึง ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรกันหมด
อี้เทียนหยุนยังคงไม่รู้อะไร ทั้งยังคงปีนขึ้นไปด้วยความเร็วเหมือนกับก่อนหน้า จนขึ้นมาถึงขั้น และเมื่อขึ้นมาถึงขั้นที่ 4 ค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับก็คือ 30 ล้าน พูดได้ว่าน่าตกใจจริงๆ!
จากนั้นก็เป็นขั้นที่ 5 ที่6…….
ยิ่งปีนขึ้นไปเท่าไหร่ ก็ทำให้เขารู้สึกว่าพลังดูดของเขาเริ่มไม่พอ เมื่อมาถึงขั้นนี้ แรงดูดก็เริ่มเหนือกว่าพลังดูดของเขา ทำให้พลังวิญญาณของเขาเริ่มถูกดูดออกไป
ยังไงก็ตาม สำหรับเขาแล้ว แค่นี้นั้นไม่ได้มากมายอะไร ภายใต้พลังดูดที่แข็งแกร่ง ทำให้เขาสามารถต้านทานแรงดูดส่วนใหญ่เอาไว้ได้ จะเหลือก็แต่แรงดูดเพียงเล็กน้อย ซึ่งเทียบได้กับแรงดูดในขั้นที่ 2 ดังนั้น จึงทำให้ความเร็วของเขายังคงดีเหมือนก่อนหน้า
ขั้นที่ 9!
“ติ๊ง ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 90 ล้าน!”
ในที่สุดก็ขึ้นมาได้อีกขั้น ตราบเท่าที่ปีนอีกขั้นเสร็จ เขาก็ขึ้นไปถึงยอด และเมื่อหันกลับลงไปดู ก็พบว่าพวกเขาเพิ่งมาถึงขั้นที่ 6 ซึ่งยังห่างกับเขาอยู่ 3 ขั้น ถือว่าเป็นความต่างที่ไม่น้อยเลย
“เจ้าพวกหลานเต่า ท่านปู่ของพวกเจ้าเตรียมจะปีนขึ้นไปสู่ยอดแล้วนะ ทำไมพวกเจ้าถึงได้ช้าอย่างนี้” อี้เทียนหยุนยั่วยุทีหนึ่ง ใช้คำพูดที่ก่อนหน้านี้พวกเขาพูดกับเขา คืนกลับให้พวกเขาอย่างดุร้าย เหมือนกับเป็นการตบหน้าพวกเขาอย่างแรง
หมิงเฉินกับพวกพากันระเบิดความโกรธออกมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ใครใช้ให้หมิงเฉินปากพล่อยก่อน พูดคำนั้นออกมา จนทำให้มันกลับมาตบหน้าตัวเอง
“เจ้าเด็กนี่ หลังจากกลับมา จะต้องฉีกร่างมันเป็นชิ้นๆ ให้ได้!” พวกเขาพากันโกรธอย่างมาก แต่ก็ทำได้เพียงเพิ่มความเร็วในการปีนขึ้นไปเท่านั้น
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเร่งความเร็วยังไง ก็ไม่มีทางที่ไล่อี้เทียนหยุนทัน การที่พวกเขาจะปีนขึ้นไปถึงยอด จำเป็นต้องใช้เวลาอีกนาน ต่อให้เป็นระดับราชาวิญญาณ แต่แรงกดดันของที่นี่ก็ไม่ใช่น้อยๆ
“มาลุยขั้นสุดท้ายกัน ไม่รู้ว่าการทดสอบถัดไปจะเป็นอะไร?” สายตาอี้เทียนหยุนเป็นประกาย แต่สำหรับเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ไม่ใช่ปัญหา ตราบเท่าที่ยังมอบค่าประสบการณ์จำนวนมากให้ ยิ่งมีบททดสอบมากเท่าไหร่ยิ่งดี
“มันใกล้จะไปถึงยอดแล้ว…..”
แม้ว่าในใจพวกเขาจะอยากให้อี้เทียนหยุนไปถึงยอดไวๆ แต่เมื่ออีกฝ่ายกำลังจะไปถึงยอดจริงๆ ในใจของพวกเขาก็รู้สึกเสียหน้าอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าพวกเขาที่มีประสบการณ์มาหลายครั้ง จะมาพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของผู้บุกรุกจริงๆ
ในที่สุด ภายใต้ความรวดเร็ว เขาก็มาถึงบนยอดได้สำเร็จ เพิ่งจะย่างเท้าลงไป ในหูก็ได้ยินเสียงสวรรค์ดังมา
“ติ๊ง ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 100 ล้าน!”
ค่าประสบการณ์จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา พร้อมๆ กับข้อมูลของวิชายุทธ์ที่ไหลเข้าสมอง เมื่อรวมกับสามหน้ากระดาษเมื่อก่อนหน้า ทำให้ตอนนี้เขามีกระดาษเป็นจำนวนห้าหน้าแล้ว ยังไงก็ตาม เขาก็ยังรู้สึกว่านี่ยังเป็นวิชาที่ไม่สมบูรณ์ ถึงยังไงนี่ก็เป็นเพียงแค่ 2 บท เพียงแค่ปรายตามองก็รู้แล้วว่ายังไม่สมบูรณ์
ยังไงก็ตาม ด้านนอกก็ได้มีบอกเอาไว้ ว่าเคล็ดวิชาเฉียนคุนนี้ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 บท! ซึ่งตอนนี้เขาได้มาแล้ว 2 บท ยังเหลืออีกบทสุดท้ายที่ขาดไป
และเมื่อเขามองดู ก็พบว่าที่ที่เขายืนอยู่นั้นไม่ใช่ที่ไหน แต่เป็นส่วนยอดของแท่นบูชาเทียนหมิง! เพียงแค่แหงนหน้าขึ้นไปก็สามารถมองเห็นชั้นเมฆที่กำลังล้อมรอบส่วนยอดของแท่นบูชานี้
ทั้งรอบๆ ยังเต็มไปด้วยค่ายกลมากมาย ซึ่งรวมกันเป็นมหาค่ายกลที่ใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ! ดูแล้วตระการตาอย่างมาก และเพราะว่าเป็นค่ายกลระดับผู้สร้าง จึงทำให้ดวงตาประเมินไม่สามารถวิเคราะห์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ จะเห็นก็เพียงความยากที่สูงเกินกว่าระดับของเขาในตอนนี้ไปมากก็เท่านั้น
และในตอนนี้เอง ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ตกลงมาจากอากาศ ลงมาที่ตัวเขา ทำให้ทั่วทั้งวิหารเทพแห่งนี้สั่นสะเทือน ตามมาด้วยผู้คนที่กำลังปีนอยู่ ก็ได้ถูกเคลื่อนย้ายขึ้นมาข้างบน โดยที่ยังปีนไม่ทันเสร็จ ก็ถูกเคลื่อนย้ายขึ้นมาบนยอดแล้ว
และที่สำคัญคือพวกเขากำลังงงกันอยู่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเขารู้แค่ว่ากำลังปีนกันอยู่ ก็ถูกเคลื่อนย้ายขึ้นมาบนนี้แล้ว ไม่เหมือนกับว่าพวกเขาได้ถูกเคลื่อนย้ายขึ้นมา
และก็เพราะแรงสั่นสะเทือน ทำให้ผู้ฝึกตนจำนวนมากวิ่งออกมาจากแท่นบูชาเทียนหมิงในทันที และเมื่อเห็นพวกเขาที่บนยอด ก็รีบพากันบินขึ้นมา แต่ยังไงก็ตาม พวกเขาก็ทำได้เพียงบินขึ้นมาเท่านั้น ไม่สามารถเข้าใกล้ได้
เพราะเมื่อเข้ามาใกล้ พวกเขาก็จะถูกแรงกดดันจากข้างบนกดทัน ทำให้ไม่สามารถบินต่อได้ ดังนั้น พวกเขาจึงทำได้เพียงมองดูจากที่ห่างออกไปหน่อย และเมื่อเห็นอี้เทียนหยุนกับพวกขึ้นมาจากข้างล่าง จำนวนก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร ยังคงเป็น 31 คนตามเดิม แต่ว่าดูแล้วให้ความรู้สึกแปลก