ตอนที่ 560: คืนชีพ!
ความเร็วของอี้เทียนหยุนเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด เขาสามารถเห็นทุกอย่างที่นี่มาตั้งแต่ไกล แต่ว่าความเร็วของเขายังคงช้าเกินไปต่อให้ใช้เทเลพอร์ตก็ยังช้า จนสุดท้ายก็ทําได้เพียงดูบรรพชนเผ่าภูตตายอย่างช่วยอะไรไม่ได้เพื่อที่จะปกป้องคนในเผ่าแล้ว เขากลับเลือกที่จะเอาตัวเข้ารับฝ่ามือสุดท้ายนั้นไว้เอง
เขาทําการผลาญแกนโลหิตเพื่อที่จะรับฝ่ามือนี้ แน่นอนว่าหากเขาไม่ทํา มันจะต้องมีคนตายเป็นจํานวนมากอย่างแน่นอน ถึงยังไงแล้วหลายคนที่นี่ ต่างก็เป็นพวกที่ยังมีระดับที่ต่ําอยู่ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝ่ามือที่ร้ายกาจเช่นนี้ ต่อให้คนอ่อนแอจะรวมพลังกัน ก็ยังคงไม่สามารถต้านฝ่ามือนี้ไว้ได้อยู่ดี
“ใครกัน?!” ฉีกั่วหลินรีบหันไปดูอย่างรวดเร็ว เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่ากลัวมาจา กข้างหลังและเมื่อหันไปดู เขาก็พบว่ามีคนสี่คนกําลังนั่งบนหลังฟีนิกซ์น้ําแข็งบินมาทางนี้ ทัน ใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าชักจะไม่เข้าท่าโดยเฉพาะกลิ่นอายที่น่ากลัวนั่น ทําให้เขารู้สึกเหมือนไร้ซึ่งแรงจะต่อต้านในทันที
“คนที่จะฆ่าเจ้ายังไงล่ะ!”
อี้เทียนหยุนถีบเท้าลงบนหลังฟีนิกซ์น้ําแข็ง พร้อมกับหายไปจากบนนั้นในทันที การหายไปโดยไร้ร่องรอยนี้ ทําให้ฉีกั่วหลินรู้สึกตกใจสุดๆ ทําไมอยู่ๆ ถึงหายไปได้ล่ะ?
แต่อึดใจต่อมาร่างนั้นก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา พร้อมกับตวัดกระบี่เทพเทียนหมิงในมือเข้าใส่ ฉีกั่วหลินที่ไม่ทันตั้งตัวเห็นเพียงแค่ประกายสีเงินแวบผ่านไปเท่านั้น
จากนั้น ขณะที่เขากําลังจะเคลื่อนไหวนั่นเอง เขาก็พบว่าหัวของตนลอยเคว้ง ในจังหวะสุดท้ายนั้น เขาทําได้เพียงเบิกตาจ้องมองอี้เทียนหยุนด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว จนกระทั่งตายไป เขาก็ยังไม่รู้ว่าฝั่งตรงข้ามเป็นใคร แล้วทั้งที่อยู่ห่างขนาดนั้น ทําไมอยู่ๆ ถึงได้มาปรากฏตรงหน้าของตนได้?
“ตั้ง ท่านสังหารฉีกั่วหลินสําเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 410 ล้าน, ค่าความคลัง 5,000, ค่าความชั่ว 1,500, ได้รับวิชายุทธ์ ฝ่ามือยุคทองคํา, ลมปราณโลกทองคํา, ได้รับไอเทม ชุดเกราะจินกัง(เพชร) ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง), รองเท้าศึกจินกัง(ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง), หินเทพจีนกัง(วัตถุดิบหายาก)”
“ตั้ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นสูงสุด!”
อี้เทียนหยุนได้ใช้บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 50 เท่า จึงทําให้ค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับเพิ่มเป็น 66 เท่าที่นี่เต็มไปด้วยผู้ฝึกตนมากมาย แน่นอนว่าย่อมถือเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ เขาจึงถือโอกาสใช้บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์เข้าไปด้วย เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง แม้ตอนนี้จะโกรธอยู่แต่ก็ไม่อาจลืมจุดนี้ได้
เพื่อที่จะแก้แค้น จําเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้น ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต่างอะไรไปจากคําพูดที่ผายออกมา
อยู่ๆ ฉีกั่วหลินก็ถูกฆ่า ผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังแสนร้ายกาจอย่างฉีกั่วหลินที่เมื่อกี้นี้เพิ่งจะแสดงพลังอันน่าสะพรึงต่อหน้าทุกคน ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณ อยู่ๆ ก็ถูกกระบีฟันขาดในฉับเดียวอย่างคาดไม่ถึง?
“เจ้า เจ้าเป็นใครกันแน่ พวกเรา พวกเราเป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง หากว่าเจ้าทําอะไรเรา แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงของพวกเราจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่…”
พวกเขาพูดด้วยน้ําเสียงที่สั่นเทา ผู้นําของตนถูกฆ่า แล้วอย่างนี้พวกเขาจะไปทําอะไรได้?
“ข้าจะฆ่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงของพวกเจ้าด้วย!”
อี้เทียนหยุนร้องที่ออกมา จากนั้นก็เริ่มการเข่นฆ่าอย่างรวดเร็ว ภายใต้กระบี่ที่ตวัดออกไป ก็ทําการสังหารพวกเขาจนไม่มีใครต้านติด การจัดการกับพวกเขานั้น ไม่จําเป็นต้องใช้พลังเต็มที่ เพราะแค่พลังโจมตีจากโหมดคลั่งที่เปิดอยู่ ก็ถือว่าเกินพอแล้ว
เขาในตอนนี้โกรธเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วจะยังมาช้าไปก้าวหนึ่ง! และก็เพราะก้าวหนึ่งนี้ จึงทําให้บรรพชนเผ่าภูตต้องตาย แต่ก็ยังดีที่ไม่ถือว่าช้าเกินไป ไม่อย่างนั้น คนตายอาจจะมีมากกว่านี้มาก
ภายใต้การลงมืออย่างบ้าคลั่ง ก็ทําให้ชีวิตจํานวนมากต้องถูกเขาเก็บเกี่ยวไปอย่างง่ายดายอยู่ๆ ก็ต้องมาถูกสังหารอย่างบ้าคลั่ง จึงทําให้ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในความปั่นป่วน ทันใดนั้นก็ พากันหนีกระจายไปทุกทิศทาง แต่เริ่นเหลียงเฉินกับพวกก็ได้บินมาพร้อมกับร่วมกลุ่มกันเข้าสัง หารพวกเขาอย่างรวดเร็ว ฟีนิกซ์น้ําแข็งเองก็พ่นเปลวเพลิงใต้พิภพออกมาไม่หยุดทําการแช่แข็งพวกเขาไปในพริบตา
พลังของฟีนิกซ์น้ําแข็งนั้นดุร้ายมาก จะดีจะร้ายก็เป็นถึงระดับวิญญาณเที่ยงแท้ ทําให้อีกฝ่ายไม่สามารถที่จะต้านทานได้จริงๆ
“คิดหนี จงตายอยู่ที่นี่ซะ!”
อี้เทียนหยุนคํารามอย่างเดือดดาล พร้อมกับปลดปล่อยสัตว์เลี้ยงระดับผันแปรวิญญาณทั้งหมดออกมา นี่เป็นสัตว์อสูรที่เขาขโมยมาก่อนหน้านี้ แต่ว่าเขายังไม่กล้าใช้มัน เพราะว่ากลัวว่าจะมีเชื่อมโยงมาถึงตัวเขา แต่ว่าตอนนี้เขาได้กลับมายังโลกมนุษย์แล้ว ดังนั้นจึงได้กล้าใช้พวกมันออกมา
จากนั้น เขาก็สั่งให้พวกมันทําการเข้าสังหารสวะพวกนี้ในทันที พริบตา เขาก็ปล่อยสัตว์อสูรออกมาจนหมด ทันใดนั้นก็มีสัตว์อสูรมากกว่าพันโถมออกมา พร้อมกับพุ่งเข้าฉีกกระชากกัดกินผู้ฝึกตนที่อยู่ใกล้ๆในทันที!
อยู่ๆ ก็มีสัตว์อสูรกลุ่มใหญ่โผล่ออกมา ทําให้กระทั่งพวกเงินเหลียงเฉินยังตกใจกลัว อย่าว่าแต่พวกแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงที่ตกใจจนขี้หดตดหาย ทําไมอยู่ๆ ถึงได้มีสัตว์อสูรจํานวนมากโผล่ออกมาไล่ฆ่าพวกเขามากขนาดนี้กัน?
เผ่าภูตที่อยู่ในเมืองเทียนหยุนก็พากันมองดูสถานการณ์ที่นี่ด้วนความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความตกใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ สมแล้วกับที่เป็นราชาภูตของพวกเขา!
“ราชาภูต ราชาภูต ราชาภูต!”
“ราชาภูตกําลังล้างแค้นให้ท่านบรรพชน ราชาภูตกําลังล้างแค้นให้ท่านบรรพชน!”
“องค์ราชาองค์ราชา!”
พวกเขาพากันโห่ร้องอย่างตื่นเต้น ทั้งยังมากไปด้วยความสะใจ ก่อนหน้านี้พวกเขาต้องถูกกด ขี่หวาดกลัว แม้กระทั่งบรรพชนของพวกเขาก็ยังต้องตาย นี่ทําให้ในใจของพวกเขารู้สึกโกรธสุดๆ
มีผู้ฝึกตนบางคนถูกชัดตกลงจากเรือ และหลังจากนั้นหนึ่งลมหายใจ พวกเขาก็กรูกันเข้าไปฆ่าคนพวกนั้นอย่างบ้าคลั่ง ลงดาบสุดท้ายปลิดชีพพวกเขา เผชิญหน้ากับผู้รุกราน พวกเขาย่อมไม่มีการออมมือ!
ยังไงก็ตาม ทุกอย่างก็เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ต่างก็ถูกสัตว์อสูรที่อี้เทียนหยุนเรียกออกมากว่าพันตัวรุมสังหารสิ้นโดยใช้เวลาไม่นาน ทุกพื้นที่ที่เต็มไปด้วยซากศพ เลือดไหลนองพื้นดูแล้วเป็นภาพที่น่าตกใจยิ่ง
นี่คือสงคราม ไม่ใช่เจ้าตายก็เป็นเราสิ้น
เมื่อการต่อสู้สิ้นสุด เขาก็ได้เรียกสัตว์เลี้ยงทุกตัวกลับอย่างรวดเร็ว เพราะมันจะน่าตกใจเกินไปหากปล่อยไว้ข้างนอก เอาไว้ให้ทุกอย่างมั่นคงก่อน จากนั้นเขาค่อยตั้งหน่วยสัตว์อสูรขึ้นมา
“ชิงเสวียน ข้ามาสายไป” อี้เทียนหยุนบินลงข้างๆ เย่ชิงเสวียน มองดูร่างของบรรพชนเผ่าภูตที่นอนตายอยู่ในอ้อมอกของเธอ พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
เขาไม่ได้ตายอย่างเสียเปล่า เพราะเขารู้ว่าเมื่อเทียนหยุนกลับมา จะต้องล้างแค้นให้กับพวกเขาอย่างแน่นอน
“ไม่ได้สายไปหรอก แต่ท่านบรรพชน เขา” เชิงเสวียนอยากจะกลั้นน้ําตาเอาไว้ แต่ ก็กลั่นไม่อยู่เพราะเสาหลักของเผ่าภูตได้ตายไปแล้ว
แม้ว่าบรรพชนเผ่าภูตจะแก่ แต่ก็ยังมีอายุขัยเหลืออีกมาก ทั้งเขายังเป็นคนอัธยาศัยดี แม้แต่ช่วงเวลาวิกฤต เขาก็ยังเป็นคนก้าวออกมาอย่างกล้าหาญ
“ไม่เป็นไรนะ แม้ว่าจะเป็นความทรงจําที่เจ็บปวด แต่ไม่นานมันก็จะกลับเป็นเหมือนเดิมอี้เทียนหยุนมองไปยังบรรพชนเผ่าภูตด้วยความเคารพ แต่ไม่ได้โศกเศร้าแต่อย่างใด
เย่ชิงเสวียนพยักหน้า เธอคิดว่าอี้เทียนหยุนกําลังปลอบตน แม้ว่าจะเจ็บปวด แต่คนก็ยังต้องมีชีวิตต่อไป จําเป็นต้องมีชีวิตต่อ ต่อสู้ดิ้นรนต่อไป
และในตอนนี้เอง อี้เทียนหยุนก็ได้นั่งยองๆ ลงไป พร้อมกับมีลําแสงปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา ก่อนที่จะทาบลงบนหน้าอกของบรรพชนเผ่าภูตอย่างช้าๆ
โดยไม่ถึงอึดใจ บาดแผลตามร่างของบรรพชนเผ่าภูตก็หายไป กระทั่งตัวคนยังดูหนุ่มขึ้นอีกหลายปี ก่อนที่ลืมตาขึ้นช้าๆ “คือ นี่คือโลกวิญญาณในตํานานอย่างงั้นเหรอ? ทําไมราชาภูตถึงอยู่ที่นี่ กระทั่งเสิ่งหนี่ก็ด้วย…” (บทต่อๆ ไปผมจะเปลี่ยนโลกวิญญาณที่เป็น 1 ใน 3 โลกเป็นโลกใต้ พิภพนะครับ เพราะมันจะซ้ํากัน ตัวนั้นจีนใช้ หมิง ส่วนโลกวิญญาณอันนี้จีนใช้หลิง)
“นะ นี่” เชิงเสวียนเอามือปิดปากด้วยความตกใจ บรรพชนเผ่าภูตของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่ ยิ่งกว่านั้นยังดูหนุ่มขึ้นมาก ราวกับเป็นปาฏิหาริย์!
“ท่านบรรพชน ท่านยังไม่ตาย ท่านถูกข้าชุบชีวิตขึ้นมา”
อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา เขาใช้ชีวิตที่แสนล้ําค่าเพื่อคืนชีพให้กับบรรพชนเผ่าภูต นี่คือชีวิต ซึ่งมีค่าเทียบได้กับค่าความคลั่ง 100 ล้าน! ซึ่งเขามีอยู่ทั้งหมด 3 ชีวิตด้วยกันตอนนี้ หนึ่งในนั้นได้ถูกนํามาใช้กับบรรพชนเผ่าภูตแล้ว
ของสิ่งนี้ถือว่าล้ําค่ามาก แต่เขาคิดว่าบรรพชนเผ่าภูตนั้นคุ้มค่ากับมัน! สิ่งที่บรรพชนเผ่าภูตทําเขารู้ดีไม่ว่าจะวิ่งวุ่นเพราะตัวเขา แล้วยังจะทําเหมือนกับเขาเป็นคนในครอบครัว สนับสนุนเขาอย่างไร้เงื่อนไขอีก
จนสุดท้ายเพื่อที่จะปกป้องเมืองเทียนหยุนไว้ เขาก็ได้ยอมสละชีวิตตัวเอง การใช้ 1 ชีวิตเพื่อคืนชีพให้กับเขาถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่าแล้ว! เพราะเขายังเหลืออีก 2 ชีวิต ซึ่งถือว่าเพียงพอ