ตอนที่ 569: ไม่มาแล้ว
สงครามยังดําเนินต่อไป กองทัพของสื่อาณาจักรใหญ่ต่างก็พากันรุกคืบเข้ามาอย่างบ้าคลั่งยิ่งมาเมืองที่ตกเป็นของอีกฝ่ายยิ่งมากยิ่งมาข่าวร้ายที่เมืองเทียนหลงได้รับก็ยิ่งมากเช่นกัน
เหล่าขุนนางต่างก็พากันมีสีหน้าหดหู นี้ไม่ได้ผิดไปจากที่คาด ความเสียหายจากสงครามภายในของพวกเขาเมื่อก่อนหน้ายังไม่ฟื้นคืนมา ดังนั้นจึงถูกศัตรูบดขยี่เข้ามาได้อย่างง่ายดาย
หากไม่ใช่พวกอัครเสนาบดีหลงก่อกบฏ อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญจํานวน มากช่วยรับมือและตอนนี้ก็เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นาน ความเสียหายเมื่อคราวก่อนยังไม่ฟื้นคืนมาการบุกเข้ามาของอีกฝ่ายนี้ก็เหมือนกับการโจมตีพวกเขาในระหว่างที่กําลังปวย!
ในที่สุด กองกําลังของศัตรูก็ได้มาถึงที่เมืองหลวง ซึ่งกองกําลังนี้คือกองกําลังของสองอาณาจักรผู้ฝึกตนกลุ่มหนึ่งพากันบินอยู่เต็มท้องฟ้าทั่วทุกที่ดูน่าเกรงขาม ขณะที่บางกลุ่มที่มาทางพื้นดินก็พากันขี่สัตว์อสูรพุ่งตรงมา จํานวนของพวกเขาดูแล้วน่าสะพรึงอย่างมาก
ในพวกเขากระทั่งมีบางคนที่เป็นขุนนางอาณาจักรเทียนหลงที่หักหลัง พร้อมกับเข้าร่วมในการบุกครั้งนี้ด้วย! ซึ่งนี่ก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คาดแต่อย่างใด พวกเขาต่างก็พากันกลัวตายจนขลาดเขลาไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมือนกับม่อซื้อ ที่พร้อมจะสละชีวิตตัวเองเพื่อป้องกันเมือง
เริ่นหลงกับพวกพากันยืนอยู่หลังกําแพงเมือง พร้อมกับมองไปทางด้านนั้นอย่างเย็นชาพวกเขาจะพูดอะไรกับพวกทรยศพวกนี้ดี?
“จักรพรรดิเริ่น ขอให้เจ้ายอมจํานนแต่โดยดี เจ้าคิดว่าพึ่งพาสมบัติลับเทียนหลงแล้ว จะสามารถเอาชนะพวกเราได้อย่างงั้นเหรอ?”
ในตอนนี้เอง ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณสองคนได้นั่งมาบนเกวียนที่ลากโดยมังกรบินมาจากบนท้องฟ้า สามารถใช้มังกรมาลากเกวียนได้ ตัวตนที่อยู่ในนั้นเป็นที่คาดการได้
พวกเขาทั้งสองคือมหาจักรพรรดิของสองอาณาจักร ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะเข้าสู่สนามรบด้วยตนเองแต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะคาดไม่ถึง การที่มหาจักรพรรดิมาบัญชาการรบด้วยตัวเองมันจะส่งผลต่อขวัญกําลังใจเป็นอย่างมาก
ตอนนี้กองกําลังของสองมหาอาณาจักรต่างก็ตั้งทัพกันอย่างน่ากลัว นอกจากมหาจักรพรรดิทั้งสองแล้วยังมีแม่ทัพระดับวิญญาณเที่ยงแท้อีกเป็นจํานวนมาก อย่างน้อยก็มีถึงสิบคนแล้วยังมีผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณอีก 70-80 คน ถือเป็นจํานวนที่มหาศาลส่วนระดับก่อแกนวิญญาณนั้น ไม่จําเป็นต้องพูดถึงเลย
พวกที่ระดับต่ําเกินไปนั้นไม่ถูกส่งมา ต่างก็ถูกทิ้งไว้เฝ้าอาณาจักร ในสงครามครั้งนี้ มีพลังที่แข็งแกร่งเป็นพื้นฐาน ไม่จําเป็นต้องใช้จํานวนผู้ฝึกตนเข้าข่ม เพราะแผนการใช้กําลังเข้าข่มนั้นไม่มีความหมาย
นี่ไม่ใช่ว่าคนยิ่งเยอะยิ่งดี ตอนนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ยิ่งระดับสูงกระบวนการฆ่ายิ่งรวดเร็วหากว่าผู้ฝึกตนระดับต่ํามาก กว่าที่จะมาถึงที่นี่ได้ ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกมากเท่าไหร่
เริ่นหลงกับพวกสีหน้าเย็นชา กองกําลังพวกนี้พวกพอที่จะจัดการกับพวกเขาได้จริงๆ ทั้งสองฟากฝั่งด้านหน้าต่างก็ถูกล้อมเอาไว้หมด นี่เป็นแค่สองอาณาจักรเท่านั้น แต่เพียงแค่สอง อาณาจักรนี้ก็ทําเอาพวกเขาไม่รู้ว่าจะรอดไปได้ยังไงแล้ว
“มหาจักรพรรดิเซียว ข้าจําได้ว่าบรรพบุรุษของพวกเรามีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แล้วทําไมท่านถึงได้เข้าร่วมสงครามในครั้งนี้!” เงินหลงจับจ้องไปที่อีกฝ่ายพร้อมกับพูดอย่างเย็นชา
“จะทําไมก็ช่าง เรื่องนี้พวกเราไม่จําเป็นต้องตอบเจ้า ฝ่ายที่ต้องตอบคือเจ้าต่างหาก จะยอมจํานนหรือไม่จํานน” มหาจักรพรรดิเซียวไม่ยินยอมที่จะอธิบายอะไรกับพวกเขา
มหาจักรพรรดิเซียวคือผู้ปกครองอาณาจักรหยุนเซียว ถือได้ว่ามีสัมพันธ์อันดีกับอาณาจักรเทียนหลง เพราะบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นสหายที่ดีต่อกัน ตอนนี้จักรพรรดิพระองค์ก่อนของอาณาจักรเทียนหลงได้จากไป มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะไปยังโลกสวรรค์หรือไม่ก็โลกใต้พิภพ ซึ่งก็ไม่ได้กลับมาที่นี่นานแล้ว
พร้อมๆ กับเวลาที่ล่วงผ่าน ทําให้ความสัมพันธ์ค่อยๆ จืดจาง แต่ปกติก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยัง คงมีการแลกเปลี่ยนกันบ้างเป็นครั้งคราวแต่ไม่คิดเลยว่าอยู่ๆ พวกเขาจะนํากองทัพเข้ามาโจมตีนี่ทําให้มหาจักรพรรดิเริ่นกับพวกพากันคิดไม่ออก
คิดว่าในจํานวมอาณาจักรที่เข้าโจมตีอาณาจักรเทียนหลงของพวกเขานั้น จะไม่มีอาณาจักรหยุนเซียวอยู่ แต่ใครจะคิดว่าจะอยู่ในนั้นด้วย!
“เอ่อใช่ ทําไมอาณาจักรเทียนหลัวและอาณาจักรเพิ่งหยุนนานปานนี้แล้วยังไม่มากันอีกจริงอยู่ที่ทางด้านนั้นมีเมืองอยู่ค่อนข้างมาก มันยากที่จะโจมตีและยึดครองหรือยังไง?” ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณอีกคนที่นอนเอนหลังอยู่บนเกวียนมังกร พร้อมกับใบหน้าที่ละเอียดอ่อนและรูปงามดูไม่เหมือนกับคนที่เป็นมหาจักรพรรดิเลยสักนิด แต่เหมือนกับหนุ่มเจ้าสําราญมากกว่า
และนี่ก็เป็นความจริง เพราะด้านข้างของเขายังมีสาวงามล่มเมืองสองคนคอยเอาใจเขาพร้อมกับป้อนผลไม้วิญญาณให้เขากินไม่หยุด นี่มันเหมือนกับการมาโจมตีกันที่ไหนเหมือนกับมาเที่ยวมากกว่า
“มหาจักรพรรดิจูเก๋อ สถานการณ์ทางด้านนั้นมีเมืองมากกว่าพวกเรามากนัก ทั้งยังแข็งแกร่งกว่า เพราะทางด้านนั้นมีไว้ป้องกันอาณาจักรใต้พิภพ แน่นอนว่าต้องแข็งแกร่งกว่าฝั่งพวกเรามากเป็นธรรมดา”มหาจักรพรรดิเซียวบอกกล่าวสถานการณ์ด้านนั้นให้กระจ่าง
“ถุย…” มหาจักรพรรดิจูเก๋อยิ้มพร้อมกับถ่มเมล็ดผลไม้ออกมา “ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพากันสูญเสียส่วนพวกเราเป็นฝ่ายที่ได้กําไร?”
“นี่ไม่ใช่ข้าที่บังคับพวกเขา เป็นพวกเขาเลือกเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า” มหาจักรพรรดิ เซียวยิ้มอย่างคลุมเครือพวกเขามีสัมพันธ์อันดีกับอาณาจักรเทียนหลง เรื่องราวของอาณาจักรเทียนหลงพวกเขาย่อมรู้ดีที่สุด
เริ่นหลงกับพวกมีสีหน้าน่าเกลียด หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ส่อาณาจักรจะต้องมารวมตัวกันแน่แล้วพวกเขาก็จะไม่มีทางหนีไปได้ ต่อให้จะมีปีกก็ตาม
“มหาจักรพรรดิเริ่น แล้วคําตอบของเจ้าล่ะ?” มหาจักรพรรดิเซียวมองไปที่เขาอย่างเย็นชาเงินหลงในตอนนี้ยังเงียบอยู่ ทําให้พวกเขาต้องเอ่ยเตือน
“กับสวะอย่างพวกเจ้า เหล่าลูกหลานเนรคุณ ข้าไม่มีอะไรต้องตอบ” สีหน้าเริ่นหลงไม่แยแสแม้จะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่มีความหวาดกลัว
มาถึงขั้นนี้แล้วพูดไปก็เปล่าประโยชน์ แต่จะให้ยกเมืองหลวงให้กับพวกเขาง่ายๆ นี่มันจะเป็นเรื่องง่ายสําหรับพวกเขาเกินไป
“หาว่าข้าเนรคุณอย่างงั้นเหรอ?” มหาจักรพรรดิเซียวหัวเราะ แล้วพูดว่า “มันแปลกอะไรหากจะโทษก็โทษเจ้าเองที่อ่อนแอ! โดยเฉพาะเจ้า พี่เริ่น ในฐานะมหาจักรพรรดิ นานขนาดนี้แล้ว ยังไม่ทะลวงระดับอีก ช่างเป็นเรื่องที่ขายหน้าจริงๆ”
มหาจักรพรรดิเซียวยั่วยุ ทําให้มหาจักรพรรดิเริ่นมีสีหน้าน่าเกลียดอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะถูกขังอยู่ในถ้ํามังกรขดเป็นเวลานาน ปานนี้เขาคงทะลวงระดับไปแล้ว
ตอนนี้เขาอยู่ในระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นสูงสุด ขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะเป็นระดับราชาวิญญาณ แต่ว่าตอนนี้ย่อมไม่มีทางทะลวงระดับได้
มหาจักรพรรดิเซียวและเริ่นหลงอายุไม่ได้ห่างกันมาก การที่ฝั่งตรงข้ามสามารถทะลวงระดับได้ก่อนเขา มันค่อนข้างทําให้เขาขายหน้าจริงๆ ตอนแรก พรสวรรค์ของเงินหลงนั้นเหนือกว่ามหาจักรพรรดิเซียวมาก แต่ใครจะรู้ว่าจะมาถูกแซงเอาได้ นี่ช่างรู้สึกขายหน้าจริงๆ
“เห็นว่าตอนนี้พวกเราอ่อนแอ ก็เลยคิดจะกลืนพวกเราเข้าไปอย่างงั้นเหรอ?” เริ่นหลงสีหน้าเย็นชา
“นี่ไม่ใช่เรื่องปกติหรอกเหรอ ข้าว่าเจ้ายอมจํานนดีๆ ดีกว่า ข้าสามารถไว้ชีวิตเจ้าได้” มหาจักรพรรดิเซียวยิ้มเยาะ “หากว่ารอให้คนอื่นๆ มาถึง มันจะสายเกินไป! อย่าคิดว่าแค่มีสมบัติลับ เทียนหลงอยู่ แล้วตนจะไร้เทียมทาน ในความคิดของพวกเรา มันก็เป็นแค่กระดองเท่าอันหนึ่งเท่านั้น ซึ่งสามารถทําให้แตกเป็นชิ้นๆ ได้! ได้ยินมาว่าเจ้ามีองค์ชายอยู่คนหนึ่งไม่ใช่เหรอ เหมือนว่ามันจะสามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงได้เช่นกันแต่แล้วมันจะยังไงล่ะ?”
สมบัติลับเทียนหลงร้ายกาจมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้เทียมทาน โดยเฉพาะระดับราชาวิญญาณอย่างพวกเขา ถือว่าไม่มีความหมายอะไร สามารถโจมตีกลับได้ง่ายดายมาก
แม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะมีเหตุผลแต่เริ่นหลงก็ยังมีสายตาเย็นชา พร้อมกับมองไปที่พวกเขาอย่างรังเกียจ
“พวกสวะ หากต้องการยึดเมืองหลวงของพวกเรา ก็เข้ามา!” เริ่นหลงพูดอย่างเย็นชา “ข้าจะทําให้พวกเจ้าต้องตอบแทนอย่างสาสม!”
“ได้ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ไม่จําเป็นต้องมีการเจรจากันอีก ไว้อีกสองอาณาจักรมาถึง เมื่อนั้นก็จะเป็นเวลาตายของเจ้า จงรอไปด้วยความรู้สึกที่หวาดกลัวต่อการโอบล้อมของสี่อาณาจักรไปเถอะ!” มหาจักรพรรดิเซียวพูดเยาะ
“เจ้าไม่จําเป็นต้องรอหรอก อีกสองอาณาจักรที่เหลือไม่มาแล้ว” ในตอนนี้เอง ก็ได้มีร่างหนึ่งบินมาพร้อมกับร่อนลงมาจากกลางอากาศ
พริบตา สายตาของทุกคนก็ไปรวมอยู่ที่คนๆนั้นเห็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่ามาปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ยืนเอามือไขว้หลังพร้อมกับมองมาที่พวกเขาอย่างเย็นชา!
Related