ตอนที่ 583: สองแม่ทัพ
โลกภายนอกต่างก็พากันมองดูความโชคร้ายของอาณาจักรเทียนหยุนอย่างมีความสุข อี้เทียนหยุนเองก็เตรียมตัวเกือบเสร็จแล้วเช่นกัน และในตอนนี้เอง ก็ได้มียามพุ่งเข้ามาจากด้านนอก
“รายงายฝ่าบาท แม่ทัพของอาณาจักรชื่อหลงได้นํากองทัพเข่นฆ่ามาถึงที่นี่แล้ว อีกไม่นานก็จะมาถึงที่นี่…” ยามคุกเข่ารายงานด้วยสีหน้าซีดขาว แม้ว่าเขาจะรู้ว่าต้องมีเหตุการณ์นี้ แต่เมื่อต้องมาเจอจริงๆ ก็อดรู้สึกให้หวาดกลัวไม่ได้
นี่คืออาณาจักรชื่อหลงเชียวนะ เป็นอาณาจักรอันดับ 1 ในโลกมนุษย์แห่งนี้ แม้ขุมอํานาจในโลกใต้พิภพจะแข็งแกร่ง แต่คนส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้กระจ่าง ถึงยังไงพวกเขาก็ลงมาที่นี้ไม่ได้
แต่ว่าอาณาจักรไหนคืออาณาจักรอันดับ 1 ในโลกมนุษย์นั้น คนส่วนใหญ่รู้ดี ซึ่งนี่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
“บุกมาเมืองหลวงโดยตรง ดูท่าว่าจะมั่นใจมาก ไม่มีการรุกรานเมืองอื่นๆ ของเราเลย” อี้เทียนหยุนสีหน้าเย็นชา หากว่าต้องบุกเมืองอื่น ก็จะทําให้ต้องบุกเป็นวงกว้าง
แต่ตอนนี้พวกเขากลับบุกมาที่เมืองหลวงโดยตรง พฤติการณ์แบบนี้ของพวกเขาช่างสุดโต่งอย่างแท้จริง แต่หากว่าจัดการกับเขาได้ การจะจัดการกับเมืองอื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ตัวจักรพรรดิและพวกระดับสูงตาย งั้นไม่เท่ากับป้อมปราการที่ว่างเปล่าหรอกเหรอ
หลังจากนี้ เมืองอื่นๆ ก็คงจะยอมจํานนอย่างแน่นอน ไม่มีทางที่จะเลือกต้านทานอย่างดื้อด้าน ก่อนหน้านี้สีมหาอาณาจักรรุกมาอย่างบ้าคลั่ง เป็นการรุกรานที่โหดเหี้ยมอย่างมาก!
พวกเขาอาศัยว่าพลังของตนแข็งแกร่งพอ จึงต้องการที่จะรุกคืบทีละก้าว จากนั้นค่อยปิดล้อมทุกทิศทาง ทําให้อาณาจักรเทียนหลงไร้ซึ่งหนทางหลบหนี แต่ตอนนี้การรุกรานของอาณาจักรชื่อหลงกลับเรียบง่ายและดุดันยิ่งกว่า พวกเขาจัดการบุกมาที่เมืองหลวงโดยตรง โดยไม่มีการอ้อมค้อมแม้แต่น้อย
“มาแล้ว” อี้เทียนหยุนลุกขึ้น พร้อมกับเดินออกไปนอกท้องพระโรงอย่างรวดเร็ว เพิ่งจะได้รับแจ้ง อีกฝ่ายก็บุกมาแล้ว?
ยามต่างก็พากันมองหน้ากัน แล้วก็เห็นถึงความแตกตื่นในแววตาของอีกฝ่าย ทําไมถึงได้มาเร็วนักล่ะ? เห็นได้ชัดว่าข้อมูลที่ได้มาผิดพลาดอย่างมาก ความเร็วของฝั่งตรงข้ามไม่ได้ช้าเลย
อึดใจต่อมา อี้เทียนหยุนก็ปรากฏขึ้นที่นอกกําแพงเมือง และในตอนนี้ ยามที่เฝ้ากําแพงเมืองก็ได้ส่งเสียงเตือนออกไป ยังไงก็ตาม เขาก็ได้ยกมือขึ้น บอกให้พวกเขาหยุด หยุดการแจ้งเตือนเอาไว้
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าที่ไกลออกไปมีร่างห้าร่างกําลังบินมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ตัดผ่านท้องฟ้าจนเมฆแหวกออกเป็นทาง พริบตา ร่างทั้งห้านั้นก็ปรากฏขึ้นที่นอกกําแพงเมือง
คนทั้งห้าพากันมองมาที่นี่อย่างเย็นชา ระดับของพวกเขาแต่ละคนก็ยิ่งน่ายิ่งขึ้นไปใหญ่ ตัวหัวหน้าที่นํามาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณถึงสองคน คนที่ระดับต่ำก็อยู่ที่ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 6 ส่วนคนที่ระดับสูงก็อยู่ที่ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 7
ส่งผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณถึงสองคนออกมา พูดได้ว่าเป็นกําลังรบที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ยิ่งกว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณที่ส่งมายังเป็นถึงระดับราชาวิญญาณขั้นท้าย คงต้องการจัดการพวกเขาให้สิ้นซาก
ส่วนอีกสามคนที่เหลือก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ ซึ่งมีระดับเท่ากันที่ขั้นท้าย
“คนของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนสายตาเย็นชา ชายชราที่อยู่ใกล้ๆ มีกลิ่นอายของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไม่สามารถปกปิดดวงตาประเมินได้อย่างเด็ดขาด
เขาเพิ่งจะพูดออกไปว่าบางทีอาณาจักรชื่อหลงอาจจะเกี่ยวข้องอะไรกันกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงก็ได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงแล้วจริงๆ คงจะถูกควบคุมจากเบื้องหลังอย่างสมบูรณ์แล้ว
“นะ นี่…. หรือว่าจะเป็นแม่ทัพเสวียนหลงและเสวียนหูของอาณาจักรชื่อหลง…. พะ พวกเขาก็มาด้วย?”
“ไม่จริงใช่ไหม พวกเขาเป็นแม่ทัพที่เก่งที่สุดของอาณาจักรชื่อหลง แต่กลับถูกส่งมานี่จริงๆ ได้ยินว่าที่ใดที่พวกเขาไป ต่างก็พังราบเป็นหน้ากลอง!”
“จบสิ้นแล้ว อาณาจักรชื่อหลงส่งไม้ตายออกมาตั้งแต่ต้น แล้วฝ่าบาทของพวกเราจะต้านทานได้ยังไง ”
แม่ทัพทั้งสองคนนี้ของอาณาจักรชื่อหลงต่างก็พากันออกรบอยู่บ่อยครั้ง มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการรบ หากที่ใดเจอกับพวกเขา ที่นั่นต่างก็เลือกที่จะยอมจํานน ชื่อเสียงของพวกเขาได้มาถึงจุดที่ทําให้ศัตรูยอมแพ้โดยไม่ต้องสู้แล้ว
คงพูดได้เพียงว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งเกินไป ถือได้ว่าเป็นแม่ทัพคู่เมืองของอาณาจักรชื่อหลง!
“มหาจักรพรรดิเทียนหยุน ไสหัวมาพบข้าเดี๋ยวนี้!” แม่ทัพที่เป็นผู้นําคํารามออกมา เสียงของเขาดังก้องออกไปทุกที่ ก่อเป็นคลื่นกวาดผ่านพื้นดิน พุ่งกระแทกเข้าใส่กําแพงเมือง!
แต่ในขณะที่กําลังจะปะทะกับค่ายกลคุ้มกันกําแพงเมืองนั้น อี้เทียนหยุนก็ได้บินขึ้น พร้อมกับโบกมือเบาๆ ตบฟาดคลื่นเสียงที่น่ากลัวจนเปลี่ยนเป็นพายุ หมุนขึ้นใส่หมู่เมฆด้านบนแทน
เหล่ายามทั้งหลายพากันหน้าเปลี่ยนสี แค่เสียงคํารามเบาๆ ก็สามารถทําลายฟ้าถล่มปฐพีได้ นี่คือพลังของอาณาจักรชื่อหลงอย่างงั้นเหรอ?
บรรพชนเผ่าภูตและพวกเย่ชิงเสวียนก็พากันออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นผู้เชี่ยวชาญทั้งห้า ก็พากันมีสีหน้าหดหูอย่างรวดเร็ว แม้ว่าพวกเธอจะเชื่อในตัวอี้เทียนหยุนอย่างมาก แต่กับคนทั้งห้านี้แรงกดดันของพวกเขาไม่ใช่น้อยๆ ทําให้ในใจพวกเธออดห่วงอี้เทียนหยุนไม่ได้ หากว่าสู้ไม่ได้ ทุกอย่างคงจบสิ้น
“ตบ!”
อี้เทียนหยุนฟาดหลังมือออกไป ส่งพลังที่น่าสะพรึงตบเข้าใส่แม่ทัพผู้นี้ผ่านความว่างเปล่า พลังที่อยู่ๆ ก็ถูกส่งมา รวมถึงความเร็วที่น่าทึ่ง ทําให้แม่ทัพผู้นี้ถูกตบหน้าจนร่างปลิวกระเด็นออกไปในทันที!
“เพี้ยะ!”
เสียงฉาดที่ดังออกมาไม่ได้ดังน้อยไปกว่าเสียงคํารามของเขาก่อนหน้านี้เลย หลังจากปลิวกระเด็นไปได้ห้าอี้ แม่ทัพผู้นี้ถึงจะพอหยุดร่างเอาไว้ได้อย่างกล้อมแกล้ม และในตอนนี้ ใบหน้าของแม่ทัพเสวียนหลงก็ปรากฏรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ ที่แทบจะทําให้หัวของเขาปลิวหลุดกระเด็นออกจากคอ
แม่ทัพผู้แกร่งกล้าถูกตบจนปลิวกระเด็นออกไป ทําให้ฝั่งตรงข้ามไม่ทันได้ตอบสนอง
“มาทําเสียงดังต่อหน้าเมืองของข้า สมควรถูกสั่งสอน!” อี้เทียนหยุนมองไปที่พวกเขาอย่างเย็นชา ไม่ได้มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย
ฝ่ามือที่ตบลงบนหน้าอีกฝ่ายเมื่อกี้นี้ของอี้เทียนหยุนเป็นเหมือนกับการเรียกขวัญกําลังใจของทุกคนกลับมา ทั้งยังทําให้พวกเขารู้สึกตกใจอีกด้วย นี่คือแม่ทัพเสวียนหลงเชียวนะ บอกตบก็ตบเป็นลูกเลย? หรือว่าอี้เทียนหยุนจะแข็งแกร่งเกินไป จึงทําให้แม้แต่แม่ทัพเสวียนหลงก็ไม่ทันตอบ สนอง?
เห็นได้ชัดว่าเขานั้นรู้สึกตัวทัน เพียงแต่ว่าไม่สามารถต้านทานฝ่ามือนี้เอาไว้ได้ก็เท่านั้น
“ฆ่า!”
แม่ทัพเสวียนหลงคํารามอย่างโกรธเกรี้ยว ก่อให้เกิดภาพเงามังกรยักษ์ขึ้นด้านหลังของเขา ก่อนที่จะมีเกล็ดมังกรปกคลุมร่างของเขาในพริบตา กระทั่งมือของเขายังเปลี่ยนเป็นกรงเล็บมังกรพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายอันเย่อหยิ่งของมังกรออกมา ราวกับว่ามังกรที่แท้จริงได้ปรากฏตัวขึ้น
พวกเขาส่วนใหญ่ต่างก็ดูดกลืนแก่นโลหิตของเผ่ามังกรเข้าไป แม่ทัพเสวียนหลงเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ถูกเรียกว่าแม่ทัพเสวียนหลง(มังกรดํา)
เพิ่งมาถึงก็ถูกตบหน้าเข้าซะแล้ว ทําให้เขาทั้งตกใจและโกรธเกรี้ยว ไม่คิดเลยว่าแม้แต่ตัวเองก็ตั้งตัวไม่ทัน ภายใต้ความโกรธนี้ ทําให้เขาระเบิดพลังทั้งหมดออกมา พร้อมกับพุ่งเข้าใส่อี้เทียนหยุน
แม่ทัพเสวียนหูเองก็รู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน ดังนั้นจึงได้ร้องคํารามออกมา ก่อนที่จะมีขนสีขาวขึ้นปกคลุมร่าง ก่อนที่จะกลายเป็นเสือขาว เขาก็เลือกที่จะดูดกลืนแก่นโลหิตเช่นกัน แต่เป็นแก่นโลหิตของเสือขาว ซึ่งเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายตามธรรมชาติ และมีพลังไม่ด้อยไปกว่าเผ่าพันธุ์มังกร!
ดังนั้น เพิ่งจะตั้งตัว สองแม่ทัพก็พากันระเบิดพลังทั้งหมดออกมาแล้ว เนื่องเพราะพวกเขารู้สึกถึงอันตรายที่ถาโถมขึ้นมาในจิตใจ พวกเขาผ่านสนามรบนองเลือดมาเป็นเวลานาน ทําให้มีสัมผัสที่ไวต่ออันตราย และอี้เทียนหยุนก็มอบความรู้สึกที่อันตรายอย่างมากให้กับพวกเขา!
ตอนแรกที่พวกเขาถูกส่งมา ก็คิดดูถูกอีกฝ่ายอย่างมาก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดผิดไปอย่างสิ้นเชิง!
Related