CLS ตอนที่ 596: วิชาลับ ปีศาจกระหายเลือด
พลังของบรรพชนไท่ซ่างนั้นอหังการอย่างมาก แต่พลังที่อี้เทียนหยุนแสดงออกมากลับอหังการยิ่งกว่า ฝ่ามือยักษ์ที่กดลงมาจากฟ้า ตบจนมังกรทรายทองจมพื้น
ทรายทั้งหมดที่ควบรวมมาถูกตบจนสลายไป เหมือนกับมีพายุทรายก่อตัวขึ้นในบริเวณนี้ ทําให้โลกทั้งใบมีดสนิทจนมองไม่เห็นสิ่งใด
ในเมืองชื่อหลงต่างก็พากันได้รับผลกระทบที่น่าสะพรึงนี้ จุดที่อยู่ใกล้ๆ ต่างก็ถูกพายุพัดกระจาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคน ต่างก็พัดจนปลิวทั้งหมด
สร้างความรู้สึกให้ทุกสิ่งดูเล็กจ้อย ด้วยทรายที่ปกคลุม ทําให้เหมือนท้องฟ้ามืดลง ราวกับเป็นวันพิพากษาอย่างไงอย่างงั้น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
สายตาของทุกคนพากันค่อยๆ รวมกันที่ตรงหน้า ไม่มีใครรู้ว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบไหน สิ่งสุดท้ายที่เห็นคือฝามือของอี้เทียนหยุนตบลงมา ทําให้บรรพชนไท่ซ่างของพวกเขาถูกกดลงกับพื้น
แต่บรรพชนไท่ช่างจะพ่ายแพ้จริงไหม พวกเขาไม่รู้ แต่ในใจพวกเขารู้ดีว่าครั้งนี้อี้เทียนหยุนเป็นฝ่ายชนะ! ฝ่ามือนั้นน่าสะพรึงมากจริงๆ พลังที่อหังการนั่น ไม่มีใครที่สามารถป้องกันได้ หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาคงถูกฝามือนี้ตบกลายเป็นเนื้อบดไปเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาไม่คิดว่าในโลกนี้นอกจากบรรพชนไก่ช่างแล้ว จะยังมีคนที่มีพลังน่ากลัวขนาดนี้อยู่
แต่พวกเขาก็ไม่อยากคิดถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายนี้ ยังอยากจะคิดว่าบรรพชนไท่ซ่างของพวกเขาต้องไม่เป็นไร ยังสามารถสู้ต่อได้! เบื้องหลังของเขาจะต้องมีการโจมตีสวนกลับแน่ สามารถช่วยอาณาจักรชื่อหลงเอาไว้ได้
และเมื่อพายุทรายสลายไปจนหมด ในที่สุดทุกคนก็มองเห็นสถานการณ์ตรงหน้า
รอยฝ่ามือขนาดยักษ์ฝังอยู่บนพื้น เหมือนกับมียักษ์กดฝามือลงมา ก่อให้เกิดเป็นรูปฝ่ามือขึ้น พลังที่น่าสะพรึงนี้ ทําเอาหลายคนต้องพากันสูดหายใจ นี่มันเหมือนกับคลื่นที่สามารถถล่มฟ้าทลายปฐพีได้อย่างแท้จริง!
และในขณะที่พวกเขากําลังมองหาร่างบรรพชนไท่ซ่างอยู่นั้น ก็ได้มีร่างหนึ่งซวนเซลุกขึ้นจากพื้น ทําเอาผู้คนพากันพร้อมใจมองไปยังบุคคลนั้น และก็พบว่าอีกฝ่ายคือบรรพชนไท่ซ่างของพวกเขา
“บรรพชนไท่ซ่างไม่เป็นไร บรรพชนไท่ซ่างไม่เป็นไร!”
พวกเขาพากันร้องออกมาอย่างมีความสุข ตราบเท่าที่บรรพชนไท่ซ่างของพวกเขายังมีชีวิตอยู่อาณาจักรชื่อหลงของพวกเขาก็ยังคงมีความหวัง แต่เมื่อมองดูดีๆ แล้ว ร่างของบรรพชนไท่ซาง ในตอนนี้ได้กลับเป็นชายชราอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าได้มาถึงขีดจํากัด หลังจากใช้ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งออกไป ก็หมายความว่าได้เผาผลาญอายุขัยไปแล้ว
ตอนนี้ตัวเขาได้กลับเป็นชายชราที่จะตายแหล่มิตายแหล่
สถานการณ์นี้ก็เหมือนกับมีมือมาบีบที่คอพวกเขา ทําให้เสียงที่ร้องออกไปอย่างมีความสุขต้องถูกเก็บกลับมา คนก็กลายเป็นสภาพนี้แล้ว ยังจะมีพลังที่ไหนไปต่อสู้ได้อีก? แค่ยังมีชีวิตอยู่ก็ดีแค่ไหนแล้ว!
“เจ้า ทําไมพลังของเจ้าถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ เทียบได้กับระดับราชาเซียนขั้นที่ 2 ที่ 3 เลยทีเดียว…” ในสายตาของบรรพชนไท่ซ่างเต็มไปด้วยความแตกตื่น นี่มันเป็นพลังที่บดขยี้ทุกอย่างโดยสมบูรณ์ โดยไม่จําเป็นต้องใช้อาวุธอะไร ก็สามารถบดขยี้เขาได้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาแตกตื่นได้เหรอ
อี้เทียนหยุนที่ไม่ใช้อาวุธ แต่กลับมีพลังที่ท้าทายสวรรค์ได้ด้วยเครื่องประดับที่มี ซึ่งว่ากันโดยตรงแล้ว ยังให้พลังได้มากกว่าที่อาวุธพวกนั้นจะให้ได้เสียอีก แต่หากว่าเพิ่มอาวุธเข้าไปด้วย แน่นอนว่าบรรพชนไท่ซ่างคงถูกเขาจัดการจนไม่มีทางลุกขึ้นมาได้อีกอย่างแน่นอน
“ยังรอดมาได้อีก?” อี้เทียนหยุนหรี่ตามอง เขาก็คิดว่าหมัดของตนจะต้องจัดการฝ่ายตรงข้ามได้แล้วเชียว แต่ไม่คิดว่าจะยังสามารถลุกขึ้นได้ ช่างแข็งแกร่งจริงๆ
ยังไงก็ตาม เขาก็รู้ว่าทําไมฝ่ายตรงข้ามถึงยังรอดมาได้ เพราะที่ใกล้ๆ นั้น มีผงที่เกิดมาจากที่สร้อยคอถูกทําลายอยู่ นั่นถือว่าเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด บางที่นั่นอาจจะเป็นสมบัติที่ไว้ใช้ป้องกันการโจมตีถึงตายชิ้นหนึ่ง จึงทําให้สามารถป้องกันหมัดนี้ของเขาเอาไว้ได้
ป่านนี้อีกฝ่ายคงร่างแหลกคาหมัดของเขา เหมือนกับพวกอดีตจักรพรรดิเฉินเสวียนเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว
“พอได้แล้ว สมควรจบสักที!” อี้เทียนหยุนสีหน้าเย็นชา ไม่ใจอ่อนต่อชายชราผู้นี้ เขาดูเหมือนว่าเป็นคนใจดี แต่ก็เป็นคนที่โหดเหี้ยมมากเช่นกัน!
หากว่าปล่อยไป มันจะเป็นการทําให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคต
จากนั้น เขาก็ต่อยหมัดออกไป ก่อให้เกิดเป็นมังกรพุ่งออกไปจากร่างของเขา และในขณะที่กําลังจะปะทะกับร่างบรรพชนไท่ซางนั้น อีกฝ่ายก็ได้ทําการบีบป้ายหยกจนแหลก ก่อนที่จะกลายเป็นลําแสงบินไปทางเมืองเทียนหลง
ความเร็วของเขาหากว่าเทียบกับความเร็วโจมตีของอี้เทียนหยุนแล้ว ถือว่าเร็วกว่าหลายขั้น จึงทําให้อีกฝ่ายหลุดรอดไปได้
“ยันต์เทพหลบหนีอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนตกใจ บรรพชนไท่ซ่างผู้นี้ ช่างมีสมบัติมากมายจริงๆ แม้แต่ยันต์เทพหลบหนีซึ่งเป็นของหายากก็ยังมี
ยันต์เทพหลบหนีนั้นสามารถเพิ่มความเร็วขึ้นหลายเท่าในพริบตา ซึ่งช่วยให้หลุดรอดจากการโจมตีที่แหลมคมได้ แต่ว่าก็ใช้ได้ไม่นานนัก ไม่นานเอฟเฟ็กของมันก็จะหมดลง
“คิดหนี?”
อี้เทียนหยุนกระทืบเท้าพร้อมกับไล่ตามไปด้วยความเร็วที่เร็วกว่า เขาไม่ยอมใจอ่อน ในเมื่อคิด จะฆ่าก็ต้องฆ่า!
“ขวาง ขวางมันไว้! ช่วยท่านบรรพชนไท่ซ่าง!”
ในตอนนี้ ก็ได้มียามเข้ามาขวางอย่างรวดเร็ว แม้จะรู้ว่าสู้ไม่ได้ แต่ก็ยังอยากที่จะช่วยบรรพชนไท่ซ่างของตน สิ่งนี้สามารถเห็นได้ถึงความซื่อสัตย์ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี แต่อี้เทียนหยุนก็ไม่ใจอ่อน ใครขวาง ตาย!
“หลีกไปซะ!” อี้เทียนหยุนสีหน้าเย็นชา พร้อมกับโบกมือออกไป ก่อให้เกิดลําแสงพุ่งผ่าน ผ่าร่างพวกยาม สังหารพวกเขาไปอย่างง่ายดาย
และในขณะที่บรรพชนไท่ซ่างกําลังบินหนีนั้น ก็ได้ร้องคํารามออกมา พริบตา ทั่วทั้งเมืองชื่อหลงก็โชนแสง มหาค่ายกลทั้งหมดบนพื้นพากันจุดสว่าง ทําให้ผู้ฝึกตนทั้งหลายพากันตกใจ
“บรรพชนไท่ซางยังมีไพ่ในมือ เขายังสามารถสู้ได้”
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าบรรพชนไท่ช่างจะต้องไม่พ่ายแพ้ง่ายขนาดนี้ ครั้งนี้เขาต้องชนะอย่าง แน่นอน!”
“บรรพชนไท่ซ่างไร้เทียมทาน บรรพชนไท่ซ่างไร้เทียมทาน!”
พวกเขาพากันส่งเสียงร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง ยังคงคิดว่าอาณาจักรชื่อหลงของพวกตนไร้เทียมทาน ไม่ต้องการพ่ายแพ้แต่อาณาจักรที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่
และหลังจากนั้นสักพัก พวกเขาก็พากันร้องไม่ออก มหาค่ายกลบนพื้นทั้งหมดได้ทําการแผดเผาพวกเขา พร้อมกับมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวดึงเอาเลือดฉีของพวกเขาออกไปไม่หยุด และไม่ใช่แต่พวกเขาเท่านั้น แต่ทุกคนที่อยู่ในเมืองชื่อหลง ต่างก็ถูกดึงเอาแกนโลหิตออกไปอย่างบ้าคลั่ง!
พริบตา ทั่วทั้งเมืองชื่อหลงก็ปกคลุมไปด้วยลําแสงสีแดงฉาน ซึ่งเป็นผลมาจากที่เลือดฉีถูกดึงออกจากร่างอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับไหลเข้าไปในร่างของบรรพชนไท่ซ่าง เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาขั้นใหญ่
ภายใต้เลือดฉีที่เข้มข้นนี้ ตัวเขาก็ได้เริ่มกลับเป็นหนุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสีหน้าที่เผยให้เห็นถึงความรู้สึกอิ่มเอมอย่างปิดไม่มิด
“ความรู้สึกนี้ล่ะ ในที่สุด คราวนี้ก็สามารถใช้มหาค่ายกลนี้ได้…”
อยู่ๆ บรรพชนไท่ซ่างก็สดชื่นขึ้นมาทันที จากนั้นก็หันไปอ้าปากพร้อมกับคํารามใส่ผู้ฝึกตนตรงหน้า ทําให้ผู้ฝึกตนพวกนั้นพากันตัวสั่นอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่จะกลายเป็นหมอกเลือดไหลเข้าไปในปากของเขา ช่วยฟื้นฟูเลือดให้กับเขา!
“วิชาลับ ปีศาจกระหายเลือด!”
อี้เทียนหยุนที่ไล่ตามมาก็ได้หรี่ตา ก่อนหน้านี้เขาได้ทําการตรวจสอบเคล็ดวิชานี้มาก่อนแล้ว ก็คิดว่าอยู่ว่าเป็นวิชาแบบไหน ที่แท้ก็เป็นวิชาที่เอาไว้ใช้ดูดแกนโลหิตของคนอื่นเพื่อเปลี่ยนมาเป็นพลังให้กับตน!
ทันใดนั้น ทั่วทั้งเมืองชื่อหลงก็เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและโหยหวนดังขึ้นทั่วเมือง แม้ผู้คนอยากจะพากันหนี แต่ก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้ ทําได้เพียงแค่รอความตายเท่านั้น ขณะเดียวกัน ก็ได้มีหลายคนมองมาที่เขาด้วยสายตาแตกตื่น พร้อมกับคิดว่าพวกเขาต้องมาตายแบบนี้เหรอ
“บะ บรรพชนไท่ซาง นี่ท่านกําลังทําอะไร หากเป็นอย่างนี้ พวกเราจะตายกันหมดนะ…”
“นี่ นี่มันวิชามารอะไร ทําไมถึงได้ดูดแกนโลหิตของทุกคนออกไปได้…”
ความรู้สึกในใจพวกเขาพากันสั่นสะท้าน เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ตาย? ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าภักดีต่อข้าหรอกเหรอ? นี่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วไงล่ะ! ข้า ปกป้องพวกเจ้ามานานพอแล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวที่พวกเจ้าต้องตอบแทนข้าแล้ว!” นัยน์ตาทั้งสอง ข้างของบรรพชนไท่ซ่างแดงก่ํา พร้อมกับเลือดที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง นี่มันจะไปคล้ายกับคนแก่ที่ก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปในโลงศพที่ไหนกัน นี่มันไม่ต่างไปจากชายฉกรรจ์เลยด้วยซ้ําไป!