ตอนที่ 599: พลังของชุดเทพมาร!
เม็ดเลือดที่เหมือนจะไร้เทียมทาน อยู่ๆก็แข็งที่อพร้อมกับถูกฝืนฝ่าออกมา ก่อนที่จะลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีดํา! จากเม็ดเลือดที่ยากจะทําลาย อยู่ๆก็ไฟลุก ทําเอาไม่อยากจะเชื่อ
หลังจากที่เลือดถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว ก็ได้กลายเป็นเลือดฉีสีแดงฉานระเหยเป็นไอลอยขึ้นไปบนฟ้า ก่อนที่จะย้อมเมฆข้างบนเป็นสีโลหิตให้ความรู้สึกที่หดหูอย่างมาก
ยังไงก็ตาม ที่น่าตกใจที่สุดก็คือร่างสีดําที่กําลังยืนสง่าอยู่ในเม็ดเลือดนั้น หลังจากที่เม็ดเลือดค่อยๆสลายไป ก็ได้ปรากฏร่างสีดําเมี่ยมขึ้น พร้อมกับปีกสีดําที่กําลังบินอยู่ ขณะที่โลหิตที่เข้า ไปใกล้ปิกนี้ก็ได้พากันติดไฟ
แม้กระทั่งอากาศก็ยังลุกไหม้ ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วนี่คือเปลวเพลิงอะไร แม้กระทั่งโลหิตที่แสนร้ายกาจก็ยังจุดติด
นอกจากปีกที่โดดเด่นสะดุดตาแล้ว ยังเป็นร่างสีดําขนาดใหญ่ที่กํายําแกร่งกร้าว พร้อมกับกล้ามเนื้อเป็นลูกๆ ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ผู้ฝึกตนที่มองดูต่างก็พากันตกใจกับรูปลักษณ์นี้ ไม่เพียงแต่ใบหน้าจะหล่อเหลา แต่ยังมีดวงตาที่ดุดัน ให้ความรู้สึกว่าหยามเหยียดโลกทั้งใบ แม้ดูแล้วเหมือนจะสวมชุดเกราะ แต่ที่ปกคลุมร่างท่อนบนไว้กลับเป็นเกล็ดสีดําเมี่ยม ทําหน้าที่เป็นเหมือนเกราะอ่อนปกคลุมร่างเขาไว้
และที่ส่วนขาก็เหมือนกับมีกางเกงรัดรูปสีดําที่เปิดเผยมัดกล้ามที่เปี่ยมไปด้วยพลัง
“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
บรรพชนไท่ซางตกใจ เขามองไม่เห็นร่างของอี้เทียนหยุน แต่กลับมีร่างที่ใหญ่กว่าอี้เทียนหยุ หลายเท่าปรากฏขึ้นแทน ซึ่งความเป็นไปได้มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือร่างขนาดใหญ่นี้ก็คือเทียนหยุนนั่นเอง
ยังไงก็ตาม สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือกลิ่นที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง ทําให้ความรู้สึกกลัวถาโถมขึ้นมาจากในใจของเขา เขาไม่เคยรู้สึกถึงกลิ่นอายที่น่าสะพรึงขนาดนี้มาก่อนแน่นอนว่านี่คือครั้งแรก!
เขาไม่คิดเลยว่าอี้เทียนหยุนจะสามารถเปลี่ยนร่างได้ เป็นไปได้ว่านี่อาจจะเป็นร่างที่แท้จริงของอี้เทียนหยุน
และไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นที่ตกใจ แต่คนอื่นๆก็พากันคิดว่าอี้เทียนหยุนจะต้องตายอย่างแน่นอน แต่ใครจะรู้ละว่าอีกฝ่ายกลับไม่เป็นอะไรเลย ยิ่งกว่านั้น ยังกลายเป็นร้ายกาจยิ่งกว่าเดิมอีก
“นี่มันพลังอะไรกัน มหาจักรพรรดิเทียนหยุนร้ายกาจขนาดนี้เชียว? หรือว่านี่จะเป็นขีดจํากัดที่แท้จริงของเขา ตกลงว่านี่มันคือสายเลือดอะไรกันแน่ ทําไมถึงได้ระเบิดพลังที่น่าสะพรึงขนาดนี้ออกมาได้?
“มองไม่ออกเลยว่าเป็นเผ่าไหน แต่กลิ่นอายนี้ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งทรงพลังมาก ทั้งยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้าย ให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นเทพมารอย่างไงอย่างงั้น?”
“เทพมารอย่างงั้นเหรอ? คําพูดนี้พูดได้เหมาะมาก ยังไงก็ตาม ตราบใดที่สามารถจัดการกับบรรพชนไก่ช่างได้ เขาก็คือเทพพระเจ้าของพวกเรา!”
แต่ไม่ว่าอี้เทียนหยุนจะเปลี่ยนไปเป็นอะไร ตราบเท่าที่สามารถจัดการกับบรรพชนไท่ซางและช่วยพวกเขาออกมาได้ ที่เหลือล้วนไม่ใช่ปัญหาวิชามารล้วนมีอยู่มากมาย ขึ้นอยู่ที่ว่าจะใช้ยังไง
บรรพชนไท่ช่างต้องการสังเวยโลหิตของผู้ฝึกตนทั่วทั้งเมืองชื่อหลง อย่างน้อยก็มีคนหลายแสนคน กับวิชาที่โหดเหี้ยมแบบนี้ เป็นธรรมดาที่จะรับไม่ได้ แต่หากว่าใช้กับสัตว์อสูร งั้นเรื่องราวคงต่างออกไป
“นี่คือพลังของชุดเทพมารอย่างงั้นเหรอ”
อี้เทียนหยุนรู้สึกเหมือนตนไร้เทียมทานอย่างมาก เพียงแค่เอฟเฟ็กที่เพิ่มขึ้นมาก็น่าทึ่งมากแล้ว เพิ่มพลังและพลังป้องกันขึ้น 50 เท่า นอกจากนี้ยังมีท่าพิเศษอีก ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นหนึ่งในเครื่องสวมใส่ระดับพระเจ้าอย่างแท้จริง!
หากจะให้เทียบเป็นระดับ อย่างน้อยก็เทียบได้กับอุปกรณ์ระดับเทวะ ซึ่งอุปกรณ์ระดับเทวะ 1 ชุด ก็ไม่รู้ว่าจะเหนือไปกว่านี้หรือเปล่า? เพิ่มพลังขึ้น 50 เท่า แค่เอฟเฟ็กนี้เอฟเฟ็กเดียวก็น่าตกใจแล้ว
แต่หากเทียบกับอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงแล้ว ถือว่าผลลัพธ์ของมันต่างกันอยู่หลายเท่า เทียบกับชุดอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ที่เขาได้มาเมื่อก่อน ถือว่าต่างกันไกลลิบเลย!
ด้วยเอฟเฟ็กที่บ้าคลั่งจากชุดเทพมาร ทําให้พลังรบในปัจจุบันของเขาได้แตะขึ้นไปที่ตัวเลข 6.3 พันล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่น่าเชื่ออย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ ตัวเลขที่เขามีอยู่ยังห่างไกลจากตัวเลขชุดนี้ไปไกลนัก
ยังไงก็ตาม แม้จะเพิ่มพลังขึ้น 50 เท่า แต่โหมดคลั่งหมวดพลังโจมตีก็ไม่ได้ทําการทวีคูณเข้าไป เพราะโหมดคลั่งหมวดพลังโจมตีนั้น จะทําการเพิ่มจากค่าพลังพื้นฐานเท่านั้น ส่วนค่าพลังจากส่วนอื่นๆ อย่างเช่นอุปกรณ์สวมใส่นั้น ไม่ถูกนับรวม
หากนับรวมพลังที่ได้จากอุปกรณ์สวมใส่ด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะให้ผลลัพธ์ที่ท้าทายสวรรค์ขนาดไหน โดยที่ยังไม่ต้องไปพูดถึงเครื่องสวใส่อื่น เพียงแค่เอฟเฟ็กเพิ่มพลัง 16 เท่า ก็จะเท่ากับเขาสวมอุปกรณ์ถึง 16 ชุดด้วยกัน แล้วอย่างนี้จะไม่เท่ากับว่าสามารถจัดการกับพระเจ้าได้เลยเหรอ?
แต่ในความเป็นจริงแล้วย่อมไม่ท้าทายสวรรค์ขนาดนั้น แค่เพิ่มจากพลังพื้นฐานขึ้น 16 เท่าก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่สุดยอดแล้ว หากรวมชุดอุปกรณ์เข้าไป พลังรบของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกเกือบๆ 2 พันแล้ว แล้วอย่างนี้ใครจะมาสู้เขาได้กัน?
“ได้เวลาจบแล้ว”
อี้เทียนหยุนกลอกตา พร้อมกับมองไปยังบรรพชนไท่ซ่างที่อยู่ไม่ไกล ทําเอาฝั่งตรงข้ามถึงกับลมหายใจสะดุด ให้ความรู้สึกเหมือนกับจะหายใจไม่ออก
“ตายซะ!”
บรรพชนไก่ช่างไม่ยอมนั่งรอความตาย เขาทําการเอื้อมือพร้อมกับโจมตีออกไปอย่างรวดเร็วส่งศรโลหิตนับไม่ถ้วนยิงออกไป กลายเป็นการโจมตีที่พุ่งออกไปจากสี่ทิศแปดทาง พร้อมกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นอีกมหาศาล
“เปล่าประโยชน์
เทียนหยุนยกมือขึ้นเบาๆ พร้อมกับอากาศรอบๆ พลันติดไฟขึ้นในพริบตา ก่อนที่จะเผาไหม้ ศรโลหิตพวกนั้นจนระเหยไปในทันที อย่าว่าแต่ทําอันตรายเขาเลย แม้แต่จะเข้าไปใกล้ยังทําไม่ได้ด้วยซ้ํา
หลังจากกลายร่างเป็นเทพมาร ทุกการโจมตีของเขาก็เปลี่ยนเป็นการโจมตีระยะไกล สามารถโจมตีได้ในระยะสิบลี้ เอาจริงๆแล้ว เพียงแคโบกมือ เขาก็สามารถโจมตีใส่ที่ไหนก็ได้ตามใจ
ยังไงก็ตาม มันก็ไม่ได้เป็นการโจมตีแบบหมู่ เป็นแค่การโจมตีเดี่ยวๆเท่านั้น แต่กับศรโลหิตที่ล้อมเข้ามานี้ต่างกัน เพราะรอบๆตัวเขาปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง แล้วอย่างนี้พวกมันจะเข้ามาใกล้ตัวเขาได้ยังไง?
“พลังนี้มัน…” บรรพชนไท่ซางหน้าเปลี่ยนสี แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ พร้อมกับคํารามออกมาด้วยความโกรธ “กระบี่ปีศาจกระหายเลือด!”
เขาทําการยื่นมือออกไป พร้อมกันนั้นก็ได้มีโลหิตกองใหญ่กลายเป็นกระบี่ยาวสีทับทิม ที่เหมีอนยืดออกมาจากมือเขา เพิ่งจะจับไว้มั่น เขาก็ทําการตวัดกระบี่เข้าใสอี้เทียนหยุนอย่างแรง ทําให้โลหิตที่ไร้สิ้นสุดไหลทะลักขึ้นมาจากเมืองชื่อหลง ก่อนที่จะไหลไปรวมกับกระบโลหิตนี้!
กระบี่โลหิตที่ฟันออกไปก็ได้เพิ่มพลังขึ้น พร้อมกับความยาวที่มากขึ้น พริบตา ก็ได้มีความยาวมากกว่าหลายสิบจ้าง เพียงกระบี่เดียวก็เพียงพอที่จะตัดแบ่งภูเขาออกเป็นเสี่ยงๆ!
“ข้าบอกแล้วไงว่ามันเปล่าประโยชน์…”
เทียนหยุนทําการกระทืบเท้า ทําให้ผู้เห็นเพียงแสงสีดําวาบผ่าน ความเร็วนั้นเร็วมาก ทําเอาผู้คนมองไม่เห็นว่าเขาเคลื่อนไหวยังไง ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น 10 เท่า ใครจะมาเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้?
“ปัง ปัง ปัง!”
ทุกที่ที่แสงสีดําพุ่งผ่าน ก็ได้ทําให้กระบีโลหิตแตกกระจาย ราวกับน้ําแข็งที่เปราะบาง บรรพชนไท่ซางยังไม่ทันตั้งตัว ร่างสีดําขนาดมหึมาก็ได้มาปรากฏที่ตรงหน้าเขาแล้ว แล้วดวงตาสีดําที่แสนเย็นชานั้นก็ไม่ได้มองใครอื่น แต่กําลังจ้องมาที่เขา
“เจ้า พลังของเจ้ามันชั่วร้ายยิ่งนัก…” บรรพชนไก่ช่างไม่รู้ว่าจะทํายังไงดี จึงได้พูดคําที่น่าหัวเราะนี้ออกมาแทน ตัวเขาที่วางแผนจะสังเวยเลือดผู้ฝึกตนหลายแสนคนเพื่อจัดการกับอี้เทียนหยุน แต่ตอนนี้กลับมาบอกว่าอี้เทียนหยุนนั้นชั่วร้ายยิ่งกว่า
“ชั่วร้ายแล้วไง แต่ข้าก็ไม่ได้สังเวยโลหิตของคนฝั่งเดียวกัน!”
อี้เทียนหยุนหัวเราะเยาะ พร้อมกับฝ่ามือขนาดยักษ์กระซวกผ่านร่างของบรรพชนไท่ซ่างไป ก่อให้เกิดเปลวเพลิงสีดําลุกไหม้ เผาร่างของเขาอย่างรวดเร็ว
โดยไร้ซึ่งความลําบาก ก็ได้ทําการสยบเขาได้อย่างง่ายดาย นี่ก็คือพลังของชุดเทพมาร!