CLS ตอนที่ 618: ซ่อมแซม
ภายใต้การทําความเข้าใจ ในที่สุดอี้เทียนหยุนก็รู้สถานการณ์ทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม แค่รู้เพียงจุดนี้จุดเดียวก็พอ นั่นก็คือพวกเขายังมีเวลาเตรียมตัวอีก 100 ปี ซึ่งเวลานี้ถือว่าไม่น้อย แต่ก็ไม่มากเช่นกัน ซึ่งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะซ่อมแซมค่ายกลให้เสร็จสมบูรณ์ได้ไหมแต่ต่อให้จะซ่อมเสร็จสมบูรณ์แล้วหลังจากนี้กลับมาซ่อมใหม่เวลาก็จะไม่เพิ่มขึ้นอยู่ดี
ปีศาจที่ถูกสะกดไว้นับวันยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะสะกดไว้ได้นานไปกว่านี้อีกสุดท้ายยังไงก็ต้องมีวันออกมาและวันนั้นก็จะเป็นต้องเผชิญหน้ากัน ตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมกําลังเพื่อต่อต้านหรือเขาแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นเรื่องของตอนนั้น
“ตั้ง ท่านรับภารกิจหลักขั้นสุดยอด”สังหารปีศาจจากนอกโลก, กลายเป็นผู้กอบกู้สําเร็จ!เมื่อสําเร็จจะได้รับค่าประสบการณ์ 1 แสนล้าน, ค่าความคลั่ง 100 ล้าน, ค่าความชั่ว 50 ล้าน,ค่าความดี 5,000, และได้รับฉายา”ผู้กอบกู้! “ภารกิจหลักขั้นสุดยอด?”
อี้เทียนหยุนตกใจ อยู่ๆ ก็ได้ภารกิจสําคัญมาอย่างที่ไม่ทันตั้งตัว ยิ่งกว่านั้นยังเป็นภารกิจหลักขั้นสุดยอดอีกนี่ทําให้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
ภารกิจหลักขั้นสุดยอด : เป็นการเปิดภารกิจหลักก่อนเวลา ในขณะที่ภารกิจหลักก่อนหน้ายังทําไม่สําเร็จ
และเมื่ออ่านข้อความที่ตามหลังมา เทียนหยุนก็เข้าใจว่าที่แท้เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ หากเป็นตามปกติถ้าเขาไม่พบหินยักษ์ก้อนนี้ อีกหลายสิบปีให้หลัง ผนึกนี้ก็ถูกทําลายอยู่ดี
เมื่อถึงตอนนั้น ปีศาจตนนี้ก็จะหลุดออกมาจากผนึก จากนั้น ภารกิจหลักก็จะปรากฏขึ้น และให้เขาไปจัดการกับปีศาจตนนี้อยู่ดี
แต่จะว่าไปแล้วค่าประสบการณ์ที่ได้ก็น่าตกใจจริงๆ 1 แสนล้าน แล้วยังจะค่าความคลั่ง 100 ล้านนี้อีกดูแล้วน่าตกใจอย่างมาก ซึ่งนี่เป็นการบอกถึงความน่าสะพรึงของปีศาจตนนี้
ไม่อย่างนั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้รางวัลมากขนาดนี้ หากเป็นภารกิจหลักธรรมดา รางวัลที่ได้ก็จะต่ํากว่านี้นี่เป็นความจริงที่ไม่มีทางเปลี่ยน หากว่าเป็นภารกิจที่ยากล่าบาก รางวัลที่ได้ก็จะสมน้ําสมเนื้อเช่นกัน
“จริงสิ มีบางเรื่องที่ข้าลืมบอกเจ้าไปเลย หากจะว่าไปแล้ว ข้าถือเป็นผู้สืบทอดของนายท่านของเจ้า“พูดจบเทียนหยุนก็ปลดปล่อยกลิ่นอายที่คุ้นเคยออกมา หลังจากที่วิญญาณเวทย์สัมผัสได้ สีหน้าของมันก็เปลี่ยนไปทันที
“เป็นผู้สืบทอดจริงๆ ด้วย…. “วิญญาณเวทย์คุ้นเคยกับพลังนี้ เพิ่งจะปล่อยออกมา เขาก็สัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยอย่างมาก
“ข้าได้รับสืบทอดในแท่นบูชาเทพเติ้งเทียน ไม่รู้ว่าเจ้าจะรู้เรื่องนี้หรือเปล่า?”เทียนหยุนบอก
“นี่ไม่แน่ใจนัก“วิญญาณเวทย์ส่ายหัว จากนั้นก็พูดว่า”แต่กลิ่นอายนี้นั้นคุ้นเคยอย่างมากเจ้าคือผู้สืบทอดของนายท่านจริงๆ หรือว่านี่จะเป็นโชคชะตา?”
เทียนหยุนพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนนั้นสร้างขึ้นหลังจากที่ผนึกปีศาจเอาไว้ไม่อย่าง นั้น วิญญาณเวทย์ตนนี้ย่อมต้องรู้อย่างแน่นอน มันที่อยู่ข้างกายเขาตลอดไม่อย่างนั้นทําไมถึงไม่รู้ล่ะ?
“อม งั้นข้าคงต้องซ่อมแซมที่นี่ก่อน ไว้ถึงตอนนั้นข้าจะรวบรวมขุมอานาจอื่นมาด้วย โดยเฉพาะทายาทของราชาศักดิ์สิทธิ์สองคนที่เหลือ บางทีอาจต้องร่วมมือกันถึงจะสามารถจัดการกับมันได้! “อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง
“หากได้ร่วมมือกับทายาทของทั้งสองย่อมเป็นการดีที่สุด ตอนแรกก็เป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามช่วยกันสยบปีศาจตนนี้เอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถจัดการกับมันได้ พร้อมกับเวลาที่เลยผ่าน ทําให้มันยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ”วิญญาณเวทย์ถอนหายใจ”หากถึงตอนนั้นแล้วราชาศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกันน้อยเกินไป เมื่อนั้น ปีศษจตน นี้จะต้องทําลายทุกอย่างอย่างแน่นอน!”ขนาดราชาศักดิ์สิทธิ์สามคนยังเอาไม่อยู่….”
สีหน้าอี้เทียนหยุนจมลง นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว ขนาดสามคนยังทําได้เพียงสะกดมันไว้ไม่สามารถสังหารได้แล้วตกลงว่าปีศาจตนนี้แข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่?
“เจี๊ยกๆ อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า ต่อให้พวกราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนมา คราวนี้ก็ไม่มีทางจัดการข้าได้!“ในตอนนี้เองน้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายก็ดังออกมาจากในหิน
“เจ้าปีศาจ หยุดพูดจาเหลวไหล!“วิญญาณเวทย์คํารามอย่างเดือดดาล ทั่วทั้งหินเปล่งแสงเจิดจ่าออกมาปลดปล่อยพลังแห่งการสะกดออกมาแม้แต่ค่ายกลที่อยู่รอบๆก็เปล่งแสงออกมาเช่นกัน
“เจี๊ยกๆ วิญญาณเวทย์สวะๆ อย่างเจ้า อย่างมากก็แค่สะกดข้าได้ชั่วคราวเท่านั้น ไว้ข้าออกไปได้เมื่อไหร่คอยดูว่าข้าจะบดขยเจ้ายังไง!“ปีศาจแค่นเสียงออกมาเจ้าหนูโลกทั้งสามของเจ้าต้องถึงจุดจบอย่างแน่นอนพวกเจ้าทุกคนต้องกลายมาเป็นอาหารของข้า… รสชาติของพวกเจ้าช่างหอมหวานจริงๆหากข้าได้กินพวกเจ้าจนหมดระดับของข้าจะต้องก้าวหน้าอย่างแน่นอน…..”
น้ําเสียงของมันยิ่งมายิ่งเบา จนสุดท้ายก็ถูกสะกดอย่างสมบูรณ์ ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาอีก
“ปีศาจตนนี้ต้องการฆ่าและกลืนกินทั้งหมดอย่างงั้นเหรอ?”เทียนหยุนขมวดคิ้ว กลืนชีวิตเพื่อเพิ่มระดับวิชานี้ย่อมมีอยู่ ไม่ใช่แต่เผ่านี้เท่านั้น
สําหรับปีศาจตนนี้แล้ว พวกเขาก็เป็นเหมือนกับโอสถที่ช่วยเพิ่มพลังฝึกตน แน่นอนว่ายิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี
นี้ก็เหมือนกับเผ่ามนุษย์ที่กินเนื้อมังกรฟีนิกซ์เป็นยาปารุง
“อนาคตคงต้องพึ่งเจ้าแล้ว… “วิญญาณเวทย์ถอนหายใจ”ไม่รู้ว่าราชาศักดิ์สิทธิ์อีกสองคนได้บอกอะไรกับทายาทของพวกเขาไว้หรือเปล่า ได้ทําให้พวกเขาเตรียมตัวรับมือกับปีศาจตนนี้ไหม?” “นี่….”
อี้เทียนหยุนส่ายหัว ขนาดอาณาจักรเฟยเทียนที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนก่อตั้งยังไม่เหลือเหลือก็แต่วังไปเหลียนนี้เท่านั้น คิดว่าวังไปเหลียนนี้ก็เป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนที่สร้างขึ้นไม่อย่างนั้นคงไม่ให้บรรพชนสั่งการลงมาแบบนี้
ตอนนี้คนที่รู้เรื่องนี้มีอยู่น้อยมาก ใครจะคิดล่ะว่าความมืดใกล้จะมาเยือนพวกเขาแล้ว
“ข้าคงทําได้แต่ไปหาดูเท่านั้น อย่างแย่ที่สุดข้าก็แค่ต้องจัดการกับมันลําพัง“อี้เทียนหยุนยิ้ม
“เจ้าน่ะเหรอ แม้ว่าเจ้าจะได้รับสืบทอดจากนายท่าน แต่ว่าระดับของเจ้าเลวร้ายเกินไป จําเป็นต้องรวมพลังกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ถึงจะมีพลังพอที่จะต้านทานมันได้”วิญญาณเวทย์ส่ายหัวปฏิเสธคําพูดของเทียนหยุน
เทียนหยุนยิ้ม ไม่ได้ปฏิเสธออกไป คนอื่นอาจจะยากที่จะไปให้ถึงระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าเขานั้นไม่ยากเลย
“อันดับแรกคงต้องซ่อมแซมค่ายกลพวกนี้ก่อน อย่างน้อยก็ช่วยถ่วงเวลาออกไปได้อีกหน่อย”อี้เทียนหยุนคิดว่าที่เหลือก็ไม่ต่างกัน จึงได้เริ่มลงมือซ่อมแซมค่ายกลต่อ เพราะยังไงก็ซ่อมไปคุยไปได้
ภายใต้การซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง ทําให้ค่ายกลเล็กๆ ถูกซ่อมแซมจนเสร็จ ส่วนใหญ่ที่เสียหายมีแต่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ได้ซ่อมยากเท่าไหร่นัก
แม้จะเป็นอย่างนั้น แต่กว่าจะซ่อมเสร็จก็ใช้เวลาไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ จนในที่สุดค่ายกลที่ซ่อมได้ก็ซ่อมหมดแล้วที่เหลือไม่ใช่เรื่องของเขา
ครั้งหน้าที่มาที่นี่อีก หากไม่ใช่เพราะมีคนเข้ามาทําลายมัน ก็เป็นตอนที่ปีศาจทําลายผนึกออกมาได้แน่นอนว่ายังมีข้อที่มีผลลัพธ์ดียิ่งกว่า นั่นก็คือตอนนั้นระดับของเขาแข็งแกร่งพอแล้วนั่นเอง!
“เอาล่ะ ข้าจะผนึกที่นี่อีกครั้งอี้เทียนหยนพยักหน้าแล้วพูดขึ้น
“ผู้สืบทอด เจ้าถือเป็นนายข้าครึ่งหนึ่ง“วิญญาณเวทย์มองมาที่เขาแล้วพูดขึ้น” ที่นี่ยังมีความทรงจําของนายท่านหลงเหลืออยู่นิดหน่อย ข้าจะส่งมันให้เจ้า หวังว่าจะช่วยอะไรเจ้าได้”
พูดจบ เขาก็ยื่นมือที่มีบอลแสงขึ้นมา พร้อมกับลําแสงที่ทะลวงเข้าไปในหัวของเขา
“ขอบคุณมาก”เทียนหยุนยิ้ม ที่นี่ยังมีความทรงจํานี้อยู่ ช่วยให้เขารู้ข้อมูลเพิ่มขึ้น ทําให้หลายเรื่องที่ต้อง ลงมือทําง่ายขึ้น
จากนั้น ขณะที่เขาออกมาและเตรียมที่จะผนึกห้องลับนี้เอาไว้ อวชีเชียนก็ได้รีบลุกขึ้น พร้อมกับพูดอย่างเคารพว่า”ฝ่าบาท พระองค์ออกมาแล้ว… ประมุขทั้งโหมวเทียนได้คอยพระองค์อยู่ด้านนอกนานแล้วเพคะ” “ข้าลืมเรื่องนี้ไปเลย”เทียนหยุนส่ายหัว กับเรื่องขี้หมูขี้หมาอย่างนี้เขาจะไปจําได้ที่ไหนกัน?