ตอนที่ 627: ต่อต้าน
ณ อาณาจักรกานหยวน
“ฝ่าบาท ตอนนี้อาณาจักรเทียนหยุนจะอวดดีเกินไปแล้ว ถึงกับยื่นมือเข้ามาจัดการถึงในอาณาจักรกานหยวนของพวกเรา!”
“ใช่ แม้ว่าพวกเราจะถูกเรียกว่าเป็นอาณาจักรอันดับสอง แต่พวกเราก็ไม่ง่ายที่จะถูกรังแก ต่อให้เป็นอาณาจักรชื่อหลงเอง ก็ยังไว้หน้าพวกเราอยู่หลายส่วน!”
“อาณาจักรเทียนหยุนนี้มีขุมอํานาจอะไร ขุมอํานาจอะไรก็ไม่มี จะมีก็แต่มหาจักรพรรดิที่ทรงพลัง หากว่ามหาจักรพรรดิตายไป อาณาจักรเทียนหยุนก็จะถึงจุดจบอย่างแน่นอน!”
“คราวก่อน ฝ่าบาทก็ยังต้องคอยอยู่ด้านนอก นี่มันจะเกินไปแล้ว ช่างอวดดีจริงๆ!”
ในท้องพระโรง เหล่าขุนนางต่างก็พูดกันด้วยความเดือดดาล รู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้ทั่วทั้งโลกมนุษย์ ต่างก็พากันยกย่องอาณาจักรเทียนหยุนว่าเป็นอาณาจักรอันดับ 1
“พวกเราถ่อมตัว ก็เลยทําให้ถูกอาณาจักรชื่อหลงกดขี่! มาตอนนี้เมื่ออาณาจักรชื่อหลงไม่มีอยู่แล้ว ก็ถึงคราวที่อาณาจักรเทียนหยุนต้องกดหัวพวกเรา!”
“พูดไปแล้วก็เป็นเพราะว่ามหาจักรพรรดิเทียนหยุนนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ ด้วยตัวคนเดียว กลับถล่มอาณาจักรชื่อหลงจนราบคาบ ข้าว่าพวกเราควรใจเย็นไว้จะดีกว่า….”
“ผายลม! คราวก่อนฝ่าบาทต้องยืนตากแดดอยู่ด้านนอกหลายชั่วยาม เรื่องนี้ข้าทนไม่ได้จริงๆ!”
“แต่หากว่าหาเรื่องมหาจักรพรรดิเทียนหยุน พวกเราคง….”
“เจ้ามันขี้ขลาด คิดว่าอาณาจักรกานหยวนของพวกเราจะไร้น้ํายาหรืออย่างไร? คิดว่าไท่ซางหวง(อดีตจักรพรรดิ)จะไม่มีความสามารถอย่างงั้นเหรอ? ไท่ซ่างหวงของพวกเรา หากเทียบกับอาณาจักรชื่อหลงแล้ว แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า!”
พวกเขาพากันทะเลาะกัน ขุนนางพวกนี้ต่างก็พากันอวดดีอย่างถึงที่สุด เมื่อคิดว่าอาณาจักรใหม่กําลังเหยียบหัวพวกตนอยู่ ก็ให้รู้สึกไม่พอใจอย่างแท้จริง พวกเขาอยากจะโจมตีออกไปหรือไม่ก็ทําอะไรบางอย่าง
พวกเขาไม่อยากที่จะถูกกดหัวอยู่อย่างนี้ คิดว่ามันเป็นการเสียหน้าเกินไป อาณาจักรของพวกเขาก่อตั้งมานานแล้ว จะมาแพ้ต่ออาณาจักรตั้งใหม่ได้ยังไง?
“ฝ่าบาท ทั่วทั้งอาณาจักรเทียนหยุนมีเพียงมหาจักรพรรดิเทียนหยุนแค่คนเดียว หากให้ไท่ซ่างหวงลงมือจะต้องสามารถบดขยอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น ไม่เพียงแต่อาณาจักรเทียนหยุนจะตกเป็นของเราเท่านั้น แต่ทั่วทั้งโลกมนุษย์ก็จะตกเป็นของเราด้วย…” ราชครูที่อยู่ใกล้ๆ พูดพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย “ก่อนหน้านี้ที่พวกเราไม่ลงมือกับอาณาจักรชื่อหลง ก็ไม่ใช่เพราะกลัวว่าพวกเขาจะมีไพ่ในมือไม่ใช่เหรอพะยะค่ะ?”
“ตอนนี้ไพ่ในมือได้ถูกทิ้งลงมาแล้ว หากไม่ใช่เพราะพวกเราระมัดระวังตัวเกินไป ป่านนี้อาณาจักรชื่อหลงคงถูกพวกเราสยบเอาไว้แล้ว”
พวกเขาไม่เต็มใจที่จะเป็นที่สองอย่างเด็ดขาด คิดว่าต้องเข่นฆ่าขึ้นไปเป็นที่หนึ่ง เป็นอาณาจักรที่อยู่เหนือสุดในโลกมนุษย์! แต่ตอนนี้พวกเขาถูกอาณาจักรเทียนหยุนขัดขวางอยู่ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกเขาพากันโกรธได้ยังไง
มหาจักรพรรดิกานหยวนมีสายตาเป็นประกาย ขณะที่ในใจก็คิดที่จะจัดการกับอาณาจักรเทียนหยุนอยู่เหมือนกัน เป็นแค่อาณาจักรเล็กๆ แค่จัดการอาณาจักรชื่อหลงได้ ก็คิดว่าตนนั้นคู่ควรที่จะอวดดีแล้วหรือไง?
ก่อนหน้านี้ที่ถูกทําให้คอยอยู่ด้านนอก แค่คิดก็รู้สึกเสียหน้าแล้ว หากไม่ใช่เพราะกังวลว่าเบื้องหลังของเทียนหยุนจะมีขุมอ่านาจอะไรหนุนหลังอยู่ ตอนนั้นเขาคงอาละวาดไปแล้ว
แต่ตอนนี้หลังจากที่ทําการสืบดูอย่างละเอียดแล้ว ดูเหมือนว่าอาณาจักรเทียนหยุนจะมีแค่เทียนหยุนเพียงคนเดียว ทั้งยังไม่เห็นขุมกําลังเบื้องหลังอะไรอีก ไว้ว่าจะเป็นโลกสวรรค์หรือโลกใต้พิภพก็เหมือนว่าจะไม่มี
แต่ต่อให้มี แล้วพวกเขาจะลงมายังไง?
“เงียบ!” มหาจักรพรรดิกานหยวนบอกให้ทุกคนเงียบ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ความคิดของทุกคนนั้นข้าเข้าใจ ข้าจะเอาเรื่องนี้ไปคุยกับไท่ซ่างหวง ดูว่าท่านจะเต็มใจลงมือหรือเปล่า!”
จากนั้น เขาก็มองขึ้นไปบนฟ้า พร้อมกับพูดด้วยความเคารพอย่างสูงว่า “เสด็จพ่อ ลูกมีเรื่องที่ต้องให้เสด็จพ่อเป็นคนตัดสินใจ…”
หลังจากนั้นสักพัก ก็ได้มีล่าแสงส่องลงมาจากกลางอากาศ พร้อมกับมีชายชราปรากฏขึ้นที่บัลลังก์จักรพรรดิ มองมาที่ทุกคนด้วยสีหน้าสงบ จากสีหน้าที่มองมา เหมือนว่าเขาเป็นชายชราที่ใจดีผู้หนึ่ง
“คารวะไท่ซ่างหวง!”
ขุนนางนับไม่ถ้วนพากันคุกเข่าคารวะ ทุกคนต่างก็พากันหมอบกราบลงกับพื้นด้วยความเคารพอย่างหาที่สุดไม่ได้ แม้แต่ตัวมหาจักรพรรดิกานหยวนเองก็ยังต้องหมอบกราบลงด้วยความเคารพอย่างถึงที่สุดเช่นกัน
“ลุกขึ้นเถอะ” สีหน้าของไท่ซ่างหวงกานหยวนเต็มไปด้วยราศี
ทุกคนพากันลุกขึ้น จากนั้นก็มองไปที่เขาด้วยสีหน้าเคารพ ทั้งในตายังเต็มไปด้วยคลั่งไคล์! ในสายตาของพวกเขานั้น ไท่ซ่างหวงคือเทพที่แท้จริง!
“เรื่องที่พวกเจ้าคุยกันนั้น ข้ารู้แล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นโผล่มาจากไหน ระดับของมันไม่อ่อนแอจริงๆ การที่สามารถสังหารเจ้าเฒ่าแห่งอาณาจักรชื่อหลงได้ พลังของมันอย่างน้อยก็ต้องอยู่ที่ระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุด หรืออาจจะมีพลังระดับราชาเซียนขั้นที่ 1 ก็เป็นได้” ไท่ซ่างหวงกานหยวนพูดอย่างเฉยชา “ด้วยพลังระดับนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าอาณาจักรอื่น ถือว่าแข็งแกร่งมากเกินพออย่างแท้จริง มากจนไม่มีใครกล้าตอแย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า ระดับเพียงแค่นั้นไม่นับว่าเป็นอะไรได้!”
“ไท่ซ่างหวงไร้ผู้ต้าน! ไท่ซ่างหวงไร้เทียมทาน!”
เหล่าขุนนางพากันตื่นเต้น พวกเขาส่วนมากล้วนแต่เคยเห็นไท่ซางหวงลงมือมาก่อน การกระทําในคราวนั้น ยังฝังแน่นในความทรงจําของพวกเขาจนถึงทุกวันนี้
“ก่อนหน้านี้ที่ข้าไม่ไปจัดการกับเจ้าเฒ่าของอาณาจักรชื่อหลงก็เพราะว่าข้าต้องปิดด่านทะลวงระดับ แต่ไม่คิดว่าเพิ่งจะปิดด่าน เจ้าเฒ่านั่นก็มาถูกฆ่าตายไปซะแล้ว” ไท่ซ่างหวงกานหยวนพูดอย่างดูถูก “ขยะก็เป็นขยะอยู่วันยังค่ํา เพราะไปฝึกวิชานอกรีตหาทางลัดอย่างนั้นยังไงล่ะ ถึงได้นําหายนะมาสู่ตัวเอง!”
“แต่ไม่ว่าจะยังไง ขุมอํานาจระดับอาณาจักรอันดับ 1 บนโลกมนุษย์ จะต้องเป็นอาณาจักรกานหยวนของข้า!”
ไท่ซ่างหวงกานหยวนลุกขึ้น ขณะที่เหล่าขุนนางพากันคุกเข่าลงอีกครั้ง จากนั้นก็ตะโกนออกมาเสียงดังว่า “ไท่ซ่างหวงไร้เทียมทาน ไท่ซ่างหวงไร้เทียมทาน….”
ในสายตาของไท่ซ่างหวงกานหยวนเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เป็นหนึ่งในคนประเภทคลังอํานาจ ต้องการชื่อเสียง! เขาชอบความรู้สึกที่ได้อยู่เหนือกว่า พร้อมกับมีคนกลุ่มหนึ่งหมอบกราบตนเอง
“ไว้ข้าจะไปอาณาจักรเทียนหยุนนี้เอง อยากจะเห็นว่ามหาจักรพรรดิผู้นี้จะมีความสามารถอะไรบ้าง! ต่อให้เป็นมังกรที่มาจากโลกสวรรค์ หรือโลกใต้พิภพ ก็ต้องสยบเมื่ออยู่ในถิ่นของข้า!” ไท่ซ่างหวงกานหยวนหัวเราะเยาะออกมา “ข้าจะให้มันรู้ ว่าโลกมนุษย์นั้นมีข้าเป็นผู้ควบคุมไม่ใช่คนอื่น!”
เขากําหมัดแน่น เหมือนกับว่าในตอนนี้ตัวเองได้ยืนอยู่ยังจุดสูงสุดบนโลกมนุษย์ รู้สึกว่าทุกคนบนโลกมนุษย์กําลังหมอบราบคาบแก้วให้กับเขา
“ข้าก็อยากจะดูเหมือนกันว่าเจ้าจะทํายังไงกับอาณาจักรของบ้า?”
ในตอนนี้เอง ได้มีร่างหนึ่งเดินเข้ามาจากประตูอย่างช้าๆ พร้อมกับมองมายังไท่ซ่างหวงกานหยวนอย่างเฉยชา
“มหาจักรพรรดิ์เทียนหยุน!?”
เมื่อเหล่าขุนนางและมหาจักรพรรดิกานหยวนเห็นอี้เทียนหยุนเดินมาก็พากันตกใจ ไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนจะมาด้วยตัวเอง ซึ่งเหนือไปจากที่พวกเขาจะคาดคิด ที่นี่เป็นถิ่นของพวกเขา แต่มหาจักรพรรดิผู้นี้กลับอวดดีจริงๆ ถึงได้กล่ามาที่นี่ตัวคนเดียว
“ใช่แล้ว ข้าเอง” อี้เทียนหยุนพูดอย่างเฉยชา “ทําไม ไม่ต้อนรับข้าเหรอ? แต่ดูแล้วพวกเจ้าก็เหมือนจะไม่พอใจข้าอยู่เหมือนกันหน?”
“สามหาว!” มหาจักรพรรดิกานหยวนพิโรธ “เจ้าบุกรุกเข้ามายังท้องพระโรงตามใจ นี่หมายความว่าเจ้ากําลังหาเรื่องอาณาจักรกานหยวนอยู่!”
มีไท่ซ่างหวงหนุนหลังอยู่ จึงทําให้เขาใจกล้าเป็นธรรมดา
“บุกรุกท้องพระโรงตามใจ?” อี้เทียนหยุนส่ายหัว จากนั้นก็มองขึ้นไปยังไท่ซ่างหวงกานหยวนแล้วพูดอย่างเฉยชาว่า “กานหยวน เจ้าละทิ้งหน้าที่ในฐานะผู้พิทักษ์ ทําให้ทางผ่านใต้พิภพในตอนนี้กลายเป็นยุ่งเหยิง เพราะว่าเจ้าลุ่มหลงในอํานาจ จึงทําให้ลืมหน้าที่ของตน ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนมอบวิชายุทธ์จํานวนมากให้กับเจ้า อีกทั้งยังมีโอสถอีกมากมาย คงไม่ใช่ให้เจ้ามาตั้งอาณาจักรขึ้นหรอก จริงไหม?”