ตอนที่ 628: ละทิ้งหน้าที่
“แท้จริงแล้วเจ้าเป็นใครกันแน่!?”
ไท่ซางหวงกานหยวนมองเขาด้วยความตกใจ พร้อมกับจิตสังหารที่พวยพุ่งออกมา ปกคลุมทั่วทั้งท้องพระโรงในพริบตา ขณะเดียวกัน เหล่าขุนนางทั้งหลายที่สัมผัสกับจิตสังหารนี้ก็พากันทรุดฮวบ สูญเสียแรงที่จะต่อสู้ไปในทันที
ขุนนางพวกนี้ต่างก็มีระดับไม่ได้ต่ํา แต่ละคนต่างก็มีระดับผันแปรวิญญาณขึ้นไปทั้งนั้น แต่ถึงจะอย่างนั้น พอต้องเผชิญหน้ากับจิตสังหารนี้ พวกเขาก็พากันเข่าอ่อนในทันที แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ยังรู้สึกว่าสองขาอ่อนแรง รู้สึกว่าแค่สายตาที่มองมาก็สามารถสังหารพวกเขาได้ในพริบตาแล้ว!
เหล่าผู้คนพากันสงสัย ไม่ใช่ว่านี่คือมหาจักรพรรดิเทียนหยุนหรอกเหรอ ทําไมถึงได้ถามอีกล่ะว่าอีกฝ่ายเป็นใคร? คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าฐานะที่แท้จริงของไท่ซางหวงกานหยวนนั้นคืออะไร และทุกอย่างที่เขาได้มาก็คือสิ่งที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนมอบให้
หากไม่ใช่ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนมอบวิชายุทธ์และโอสถให้กับเขา แล้วอย่างนั้นเขาสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับราชาเซียนได้ยังไง? หากไม่ได้พลังที่ยับยั้งกฎที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนมอบให้ เขาจะสามารถอยู่ที่นี่ได้ โดยไร้ซึ่งแรงกดดันอย่างงั้นเหรอ?
ในฐานะผู้พิทักษ์ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่ถูกจํากัดพลัง แต่ยังไงก็ตาม ภายใต้เวลาที่ร่วงผ่าน จึงทําให้ขีดจํากัดที่ว่าอ่อนแอลงเรื่อยๆ หากเป็นก่อนหน้านี้ แม้แต่ระดับราชาวิญญาณก็ไม่สามารถที่จะอยู่ที่นี่ได้
ตอนนี้แม้กระทั่งระดับราชาเซียนยังสามารถอยู่ที่นี่ได้ สามารถทะลวงระดับบนโลกมนุษย์แห่งนี้ แต่ว่านั่นก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าวิชายุทธ์ที่เจ้ามีนั้นดีพอไหม แล้วไหนจะสมุนไพรวิญญาณอีก หากไร้ซึ่งทรัพยากรมาเดิมเต็ม ก็ยากที่จะเลื่อนระดับ
ไท่ซ่างหวงกานหยวนก็เช่นกัน เขาไม่ทําหน้าที่ในฐานะผู้พิทักษ์ของตน แต่กลับวิ่งออกมาสร้างสํานัก หลังจากเปิดสํานักแล้ว ก็ไม่กลับไปดูดําดูดีทางผ่านใต้พิภพอีก ไม่สนใจที่จะกลับไปซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้น
แล้วตอนนี้กลับยังวางแผนที่จะขึ้นเป็นอาณาจักรอันดับ 1 อีก ต้องการเป็นอาณาจักรที่อยู่บนยอดสูง ทิ้งภาระหน้าที่ที่ต้องปกป้องทั้งหมดออกไปจากสมอง
หากไม่มีราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน ก็ไม่รู้ว่าไท่ซางหวงกานหยวนนี้จะยังไปนั่งฝึกฝนอยู่ที่มุมไหน อย่างมากก็เป็นได้แค่ผู้ฝึกตนทั่วๆ ไป อุตส่าห์ได้รับวาสนาดีขนาดนี้แล้ว แต่หลังจากที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนจากไป เขาก็พลันละทิ้งหน้าที่ของผู้พิทักษ์ไปในทันที
หากราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนกลับมาแล้วล่ะก็ เขาจะต้องโกรธอย่างแน่นอน
อี้เทียนหยุนที่เผชิญหน้ากับจิตสังหารที่พวยพุ่งท่วมฟ้านี้ ใบหน้ายังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มจางๆ ดุจเดิม รู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ข้าเป็นใครนั้น เรื่องนี้มันสําคัญนักเหรอ? เจ้าหลงลืมหน้าที่ที่รับผิดชอบของตน ละทิ้งการดูแลเส้นทางใต้พิภพ แล้วออกมาตั้งอาณาจักรขึ้นที่นี้ หากว่าเส้นทางนั้นถูกปิดลง เจ้าจะรับผิดชอบมันได้เหรอ? หรือจะพูดให้ถูกก็คือ เจ้าทําให้ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนที่ไว้ใจในตัวเจ้าผิดหวัง!” อี้เทียนหยุนแค่นเสียงออกมา
หลังจากที่เส้นทางปิดลง ก็หมายความว่าจะไม่มีเส้นทางที่จะไปยังโลกใต้พิภพอีก ในสภาวะที่ทรัพยากรขาดแคลน พร้อมกับผู้ฝึกตนที่เพิ่มมากขึ้น มันจะทําให้ประชากรหนาแน่นขึ้น
ก่อนหน้านี้ผู้ฝึกตนถูกบังคับให้ไปจากที่นี่ แต่ตอนนี้กลับทําได้เพียงอยู่ที่นี่เท่านั้น แต่ยังไงก็ยังมีโลกสวรรค์อยู่ ดังนั้นจึงพอที่จะพยุงเอาไว้ได้ แต่ก็ต้องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงแน่นอน และเมื่อไม่สามารถใช้ทางผ่านใต้พิภพได้อีก ก็จะทําให้ความสมดุลพังทลายลง
ที่เหล่าราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทําเช่นนี้ ก็เพราะว่ามีเหตุผลของตน ถึงยังไงโลกสวรรค์และโลกใต้พิภพต่างก็มีความแข็งแกร่งมากกว่า หากว่าเทียบกับโลกมนุษย์ ทั้งยังมีพื้นที่ที่ใหญ่กว่ามาก ซึ่งไม่รู้ว่าใหญ่กว่าโลกมนุษย์ไม่รู้กี่เท่า
“ที่ข้าถามเจ้าก็คือ เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงต่างหาก!”
ไท่ซ่างหวงกานหยวนเดินลงมาทีละก้าว พร้อมกับมองเขาด้วยความเย็นชา ทางหนีทุกทางได้ถูกปิดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ด้วยพลังรบระดับราชาเซียนขึ้นที่ 2 ที่ถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ ทําให้พลังรบที่แสดงออกมาสร้างความตกใจให้กับผู้คนในทันที
ไท่ซ่างหวงกานหยวน : ระดับราชาเซียนขั้นที่ 2, มีกายาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์, มีพลังชีวิตที่ควบแน่นอยู่ในร่างอย่างไร้ขอบเขต, มีความสามารถในการรักษา, ฝึกวิชา เคล็ดวิชาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์, หมื่นพฤกษารวมศูนย์, จุดอ่อน : แพ้ทางธาตุไฟ, พลังรบ 2.8 พันล้าน(ภายใต้สภาวะโกรธ), เมื่อสังหารจะได้รับ…”
เพียงแค่โกรธ แต่ยังไม่ได้ใช้วิชายุทธ์ใดๆ ออกมา ก็ทําให้พลังรบพุ่งสูงถึง 2.8 พันล้าน ไม่แปลกที่จะบอกว่าไม่สนใจอาณาจักรชื่อหลง ด้วยพลังระดับนี้ ต่อให้เป็นบรรพชนไท่ซ่างของอาณาจักรชื่อหลง เมื่อเปรียบกับเขาก็เป็นได้แค่ขยะชิ้นหนึ่งจริงๆ
“ข้าเป็นใครน่ะเหรอ!?” อี้เทียนหยุนยื่นมือออกไป พร้อมกับเรียกใช้พลังของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนขึ้นมาบนมืออย่างรวดเร็ว “ข้าก็คือผู้สืบทอดของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน เป็นนายน้อยคนปัจจุบันของเจ้ายังไงล่ะ!”
“ผู้สืบทอดของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน…” ไท่ซ่างหวงกานหยวนเมื่อได้ยิน ไม่เพียงแต่จะไม่ให้ความเคารพเท่านั้น แต่กลับหัวเราะออกมาแทน “ไม่แปลกที่จะมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ที่แท้ก็เป็นผู้สืบทอดของนายท่านนี่เอง!”
แม้แต่มหาจักรพรรดิกานหยวนที่อยู่ด้านหลังยังตกใจ เขาเป็นลูกชายของไท่ซางหวงกานหยวน แล้วเขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง ไม่คิดเลยว่าอี้เทียนหยุนจะเป็นผู้สืบทอดของราชาศักดิ์สิทธิ์ในตํานาน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมหาจักรพรรดิเทียนหยุนถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้
“ไม่แปลก ไม่แปลกเลย….” มหาจักรพรรดิกานหยวนไม่เพียงแต่ไม่มีความเคารพมอบให้เท่านั้น แต่ในตายังมีร่องรอยแห่งความโลภขึ้นมาแทน
หมายความว่าอี้เทียนหยุนในปัจจุบันนี้ เป็นดั่งสมบัติที่ไม่มีใครเปรียบ หากจับเขาได้ ก็จะได้วิชายุทธ์ที่ล้ำค่าจํานวนมาก หรืออาจจะรวมถึงทรัพย์สมบัติมหาศาล รวมถึงวิชายุทธ์ที่ล้ำค่าที่สุดของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนมา!
“แต่แล้วยังไงล่ะ? นายท่านก็ไม่อยู่ที่นี่แล้ว จะให้ข้าคอยไปอีกนานเท่าไหร่ไหร่ หากว่านายท่านไม่กลับมาอีก แล้วจะให้ข้าคอยปกป้องสถานที่กันดารแบบนั้นไปทั้งชีวิตหรือยังไง?” ไท่ซ่างหวงกานหยวนพูดอย่างดูถูก “หน้าที่นั้นไม่ได้มีความหมายอะไรต่อข้าอีกต่อไปแล้ว หัวใจทั้งหมดของข้าล้วนแต่อยู่ที่นี่ ความฝันของข้าคือ การได้เป็นราชาที่แท้จริงได้รับการสรรเสริญจากคนนับหมื่น ไม่ใช่ต้องอยู่เพื่อรอความตายในสถานที่ที่เหน็บหนาวแห่งนั้น!”
“คำพูดของเจ้าก็มีเหตุผล แต่ใครห้ามไม่ให้เจ้าขึ้นเป็นราชากันล่ะ? ทําไมเจ้าไม่เป็นราชาพร้อมๆ กับดูแลเส้นทางใต้พิภพไปด้วยล่ะ?” อี้เทียนหยุนสายหัว “เจ้าไม่จําเป็นต้องหาข้อแก้ตัวให้กับตน เจ้าก็แค่ไม่อยากจะทํามัน หรืออาจจะจงใจให้เป็นแบบนี้เลยก็ได้ เจ้าก็แค่อยากจะให้เส้นทางใต้พิภพปิดลงจะได้ส่งผลต่อโลกมนุษย์
“เมื่อถึงตอนนั้น ก็แค่เปลี่ยนไปยังโลกสวรรค์ ส่วนทางฝั่งโลกใต้พิภพก็จะไม่มีใครสามารถออกมาได้อีก!”
หากทางผ่านใต้พิภพปิดลง ช่องทางอื่นๆ จากโลกใต้พิภพก็จะปิดลงเช่นกัน แม้ทั้งสองที่จะต่างกัน แต่ก็เชื่อมต่อกัน เมื่อเส้นทางสู่โลกใต้พิภพไม่มีแล้ว ก็จะเหลือแต่เส้นทางไปยังโลกสวรรค์
ตอนแรกคิดว่ามันจะสามารถรักษาความสมดุลเอาไว้ได้ แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไป มันก็ค่อยๆ พังทลายลง
เพราะมีบางเส้นทางที่มีพลังงานเล็ดรอดออกมา พร้อมกับหลอมรวมกับโลกมนุษย์ หากทางผ่านใต้พิภพไม่มีแล้ว สมดุลก็จะถูกทําลาย จากนั้น เส้นทางไปยังโลกสวรรค์ก็จะค่อยๆ พังทลายตาม
ที่ราชาศักดิ์สิทธิ์สร้างเส้นทางพวกนี้ขึ้น นอกจากจะเป็นเส้นทางไว้ให้ผู้คนเดินทางไปยังทั้งสองโลกแล้ว ยังสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวชี้นําพลังอื่นเข้ามา
หากว่าเส้นทางไม่มีแล้ว ก็จะไม่มีใครออกมาได้ นอกจากว่าจะมีบางคนทะลวงเข้าสู่ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์แล้วเปิดเส้นทางขึ้น เมื่อไม่มีผู้เชี่ยวชาญออกมา ไท่ซ่างหวงกานหยวนก็จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกมนุษย์ กลายเป็นผู้ควบคุมทุกอย่างที่นี่
หากว่าเขาไปยังโลกใต้พิภพหรือว่าโลกสวรรค์ ด้วยระดับอย่างเขา กลัวว่าแม้แต่ราชาครูของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง เขาก็ไม่มีทางทําอะไรอีกฝ่ายได้
ด้วยความปรารถนาที่จะขึ้นเป็นราชาของเขา ทําให้เขาไม่ลังเลที่จะทําลายคําสาบานที่ให้ไว้กับราชาศักดิ์สิทธิ์ ช่างน่ารังเกียจจริงๆ
“หากข้าตั้งใจแล้วมันจะทําไม ที่นี่คือถิ่นของข้า ต่อให้เจ้าจะเป็นมังกร ก็ต้องยอมสยบให้กับข้า!” ไท่ซ่างหวงกานหยวนพูดอย่างดูถูก “ข้าคือผู้พิทักษ์ที่นี่ ไม่ใช่เจ้า!”
“เจ้าน่ะเหรอผู้พิทักษ์?” อี้เทียนหยุนหัวเราะเยาะ “ข้ารู้สึกว่า หากไม่ใช่เพราะเจ้า ผนึกปีศาจที่ป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์ผนึกไว้ คงไม่เสียหายเร็วขนาดนี้!”
“หนึ่งร้อยปีคือเวลาที่มากที่สุด เมื่อผนึกถูกทําลายสิ้น ความฝันในการเป็นราชาของเจ้านี้ ข้ารู้สึกว่ามันช่างเปราะบางจริงๆ เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าจะยังสามารถปกป้องใครได้ แค่ปกป้องตัวเองได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว!”
คําพูดที่อี้เทียนหยุนพูดออกมาเปรียบดั่งศรที่ปักลงกลางใจเขา ทําให้ไท่ซ่างหวง กานหยวนตกตะลึงไป