ตอนที่ 629: กบฏ
คำพูดที่อี้เทียนหยุนและไท่ซ่างหวงกานหยวนคุยกันนั้น คุยให้ทุกคนได้ยิน ผู้พิทักษ์อะไรกัน ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนอะไรกัน ทุกสิ่งที่พวกเขาคุยกัน ไม่เห็นจะเคยได้ยินมาก่อน แล้วยังจะมีปีศาจอะไรนั่นด้วย พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร
แต่ถึงพวกเขาจะไม่เข้าใจ แต่ว่าไท่ซ่างหวงเข้าใจ
“เป็นไปไม่ได้ ปีศาจนั้นถูกผนึกไว้แน่นอนแล้วนี่นา!” สีหน้าของไท่ซ่างหวงกานหยวนเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เหมือนกับว่าคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นด้วย
“เจ้าที่ไม่เคยสนใจอะไร แน่นอนว่าย่อมไม่รู้ถึงเรื่องนี้เป็นธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าเพิ่งไปดูป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์มา ผนึกที่นั่นได้เริ่มเสียหายมากแล้ว หากว่าข้าไม่ซ่อมมัน อีกไม่เกิน 50 ปี ผนึกนั้นก็จะถูกทำลาย”
“เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าคิดว่าตัวเองยังร้ายกาจกว่าราชาศักดิ์สิทธิ์ไหม สามารถปราบปีศาจตนนี้ได้หรือเปล่า หรือว่าจะนั่งรอความตาย? หากว่าเส้นทางถูกปิด ต่อให้เจ้าอยากจะหนีไปยังโลกสวรรค์หรือว่าโลกใต้พิภพ ก็ไม่มีทางไปไหนได้”
“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหลายปีนี้เจ้าเอาแต่ตามืดบอดลุ่มหลงในอำนาจ จนตอนนี้ทำให้ผนึกทั้งหมดได้รับความเสียหายไปตามๆ กัน!”
นี่ไม่ใช่ว่าอี้เทียนหยุนจะพูดเหลวไหล ที่ผนึกได้รับความเสียหายนี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเพราะว่าพลังวิญญาณนั้นอ่อนแอลง ทางผ่านใต้พิภพเป็นเส้นทางที่คอยส่งพลังวิญญาณให้ไม่หยุด เมื่อเส้นทางไร้ซึ่งการดูแล จึงก่อให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น
จนตอนนี้ได้กลายเป็นเขตอันตรายไปแล้ว ส่วนเส้นทางแม้น้ำศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์นั้นกลับไม่มีเรื่องอะไร ยังคงรักษาความสมดุลได้อย่างปกติ ทำให้การปีนแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์ไม่ได้ยากอะไรนัก อย่างน้อยก็ไม่เต็มไปด้วยอันตรายที่พร้อมจะตายได้ทุกเมื่ออย่างทางผ่านใต้พิภพ
“เป็นไปได้ยังไง…..” ไท่ซ่างหวงกานหยวนตกใจ ในใจเขามีความรู้สึกไม่เชื่ออยู่หลายส่วน คนที่พูดแบบนี้ได้ จะต้องเป็นคนที่ได้เห็นป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์มาแล้วถึงจะพูดแบบนี้ได้
“แล้วตอนนี้เจ้ายังจะหน้ามือตามัวอยู่อีกไหม? ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง กลับไปพิทักษ์ทางผ่านใต้พิภพซะ แล้วข้าจะไม่เอาเรื่อง!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างเย็นชา
แม้ว่าไท่ซ่างหวงกานหยวนจะทำเรื่องที่ผิดพลาดเช่นนี้ แต่หากจะให้สังหารเขาทิ้งไป ก็จะเป็นการสูญเสียเกินไป เขาผิดที่ละทิ้งหน้าที่ หากกลับไปทำหน้าที่ตามเดิม ก็จะเป็นการทำความดีลบล้างความผิดในครั้งนี้ได้
ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าเขาทิ้งหน้าที่จนทำให้ผนึกมีอายุสั้นลง คำพูดนี้ที่จริงแล้วถูกต้อง แต่ต่อให้เขาจะทำหน้าที่พิทักษ์ที่นั่นเป็นเวลาหลายสิบปีหรือมากกว่าพันปี แต่สุดท้ายแล้ว ผนึกนั่นก็จะต้องถูกทำลายอยู่ดี
ผนึกไม่ใช่ว่าจะไร้เทียมทาน แต่หากจะให้เป็นเช่นนั้นก็ต้องให้ป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์ทำการผนึกสิ่งที่ตายแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะปีศาจที่ยังมีชีวิตอยู่ มันสามารถแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนในท้ายที่สุดก็แข็งแกร่งขึ้นจนสามารถทำลายผนึกได้
นอกจากว่าปีศาจตนนี้จะมีระดับที่ต่ำมาก แบบนั้นต่อให้ใช้ทั้งชีวิตก็ไม่มีทางที่จะทำลายผนึกออกมาได้ ยังไงก็ตาม อีกฝ่ายก็มีระดับราชาศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน และราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็ร่วมมือกันทำการปราบ และผนึกมันเอาไว้เพราะว่าหมดหนทางเท่านั้น
ภายใต้เงื่อนไขนี้ จึงเป็นที่แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะผนึกมันไว้ได้ตลอดกาล!
“พอแล้ว แค่นี้ก็พอ….” ไท่ซ่างหวงกานหยวนกลับคืนสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมองไปที่อี้เทียนหยุนด้วยสีหน้าดุร้าย “ร้อยปีก็พอให้ข้าเพลิดเพลินกับทุกสิ่งแล้ว เมื่อถึงตอนนั้น ข้าก็แค่หนีไปที่โลกสวรรค์อีกครั้ง จากนั้น แล้วมันยังจะเกี่ยวอะไรกับข้าอีก? จะให้ข้าเอาแต่ปกป้องสถานที่เส็งเคร็งแบบนั้นไปเรื่อยๆ ข้าคงพูดได้แค่ว่า ไม่มีทาง!”
เขาเดินเข้ามาทีละก้าว พร้อมกับมองมาที่อี้เทียนหยุนอย่างเย็นชา “ผู้สืบทอดของนายท่านราชาศักดิ์สิทธิ์ ไม่คิดเลยว่าเมื่อข้าจากมา เจ้ายังจะนำตัวเองมาสังเวยให้กับข้าถึงที่ ข้าจะให้ตัวเลือกเจ้า ส่งทุกสิ่งที่ได้รับสืบทอดมาซะ แล้วข้าจะให้เจ้าตายอย่างมีความสุข!”
ไม่คิดเลยว่าหลังจากที่บอกเรื่องทั้งหมดนี้ออกมา ไท่ซ่างหวงกานหยวนไม่เพียงแต่จะไม่สำนึกผิดเท่านั้น แต่ยังคิดจะฆ่าเขาอีก พร้อมทั้งต้องการบังคับเอาทุกสิ่งที่เขาได้รับการสืบทอดไปด้วย
หัวใจที่โลภมากนี้ คิดไม่ออกเลยว่าทำไมตอนแรกราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนถึงได้เลือกเขามาเป็นผู้พิทักษ์ ดูเหมือนว่าอย่างระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนเองก็ยังมีช่วงที่ผิดพลาดเหมือนกัน หรือจะพูดว่าคนเราย่อมมีการเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา ไท่ซ่างหวงกานหยวนไม่ได้ซื่อสัตย์เหมือนกับเริ่นเต๋อ ที่จะมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่
แม้ว่าขุนนางคนอื่นใกล้ๆ จะไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรกัน แต่พวกเขารู้ว่าไท่ซ่างหวงต้องการจะลงมือแล้ว จึงได้พากันมีสีหน้าตื่นเต้น นี่หมายความว่ามหาจักรพรรดิเทียนหยุนจะต้องตาย และเมื่อถึงตอนนั้น อาณาจักรอันดับ 1 ก็จะตกเป็นของพวกเขา!
“ดูเหมือนว่าจะสำนึกผิดสินะ ข้าในฐานะตัวแทนของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน จะขอเป็นคนกำจัดคนชั่วอย่างเจ้าเอง!” อี้เทียนหยุนมีสายตาเย็นชาอย่างถึงที่สุด
“กำจัดข้า? นั่นก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถพอหรือเปล่าด้วย แค่สังหารเจ้าเฒ่านั่นได้ ก็คิดว่าตัวเองร้ายกาจมากอย่างงั้นเหรอ? ต่อให้เจ้าจะเป็นผู้สืบทอดของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน แต่ยังไงเจ้าก็ยังเด็กเกินไปอยู่ดี!”
ไท่ซ่างหวงกานหยวนพูดอย่างดูถูก “ข้าเคยบอกไปแล้วว่าต่อให้เป็นมังกร ก็ต้องหมอบเมื่อต้องอยู่ในถิ่นของข้า!”
เขารวบนิ้วกำเป็นหมัดเบาๆ ทำให้พื้นเริ่มแตกออก เหมือนกับทั่วทั้งโลกมนุษย์กำลังสั่นไหว พร้อมกันนั้น พลังวิญญาณทั้งหมดก็ได้ถูกเขาดึงออกไป และเมื่อดูดีๆ แล้ว จะพบว่าที่พื้นปกคลุมไปด้วยค่ายกล และที่ยิ่งกว่านั้นก็คือในร่างของเขากำลังปลดปล่อยพลังของธาตุพฤกษาออกมาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากปล่อยพลัง ไท่ซ่างหวงกานหยวนก็ได้กลับเป็นหนุ่มอย่างรวดเร็ว พริบตาก็กลายเป็นหนุ่มหล่ออายุ 30 นี่ไม่ใช่การดิ้นรนเฮือกสุดท้าย แต่เป็นผลจากการปลดปล่อยพลังชีวิตที่ไร้เทียมทาน ทำให้ตนฟื้นกลับมาเป็นหนุ่ม!
นี่คือพลังของธาตุพฤกษา ทำให้มีชีวิตอยู่เป็นเวลานาน นี่ไม่เพียงแต่เขาจะมีกายาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ที่หายากเท่านั้น แต่ยังได้วิชายุทธ์ที่เหมาะกับกายาของตน ภายใต้การเข้ากันได้ของทั้งสอง จึงทำให้พลังชีวิตของเขาได้ยืดขยายขึ้นอีกมหาศาล
ตัวอย่างเช่นระดับราชาเซียนจะมีขีดจำกัดอายุขัยอยู่ที่ 4-5 พันปี แต่ว่าเขานั้นสามารถยืดอายุของตนไปถึงมากกว่า 7-8 พันปี หรืออาจจะนานกว่านั้น นี่ก็คือผลลัพธ์แห่งความเป็นอมตะของพฤกษาธาตุ!
ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมีอายุมากกว่าบิดาของเริ่นเต๋อ บิดาของเริ่นเต๋อนั้นได้ตายไปแล้ว แต่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่
พริบตา ทั่วทั้งท้องพระโรงก็ปรากฏเถาวัลย์ขึ้นเต็มไปหมด และเถาวัลย์แต่ละเส้นก็พากันส่งแสงสีเขียวออกมา ทำให้ทั่วทั้งท้องพระโรงอันแน่นไปด้วยพลังชีวิต นี่เป็นพลังที่น่าทึ่งแค่ไหน เพียงสัมผัสก็ทำให้คนอ่อนเยาว์ลงได้
“ไท่ซ่างหวงไร้เทียมทาน ไท่ซ่างหวงไร้เทียมทาน!”
เหล่าขุนนางตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคลั่งไคล้ พลังที่เต็มไปด้วยปาฏิหาริย์เช่นนี้ มีแต่ไท่ซ่างหวงของตนเท่านั้นที่สามารถแสดงมันออกมาได้ เขาคือคนที่ใช้พลังแห่งปาฏิหาริย์ได้
“มหาจักรพรรดิเทียนหยุน ก่อนหน้านี้เจ้าทำเป็นอวดดี ให้ข้าคอยอยู่ด้านนอกหลายชั่วยาม! เพราะว่าข้าไว้หน้าเจ้า แต่เจ้ากลับทำตัวโอหังกับข้า! คราวนี้ข้าจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย ไม่ว่าเจ้าจะได้รับสืบทอดอะไรก็ต้องคายมันออกมาให้หมด…..” ไท่ซ่างหวงกานหยวนที่เป็นเหมือนบัณฑิตเมื่อก่อนหน้าได้หายไปแล้ว พร้อมกับถูกแทนที่ด้วยบุคคลที่มีสีหน้าร้ายกาจแทน
คิดว่ายังไงอี้เทียนหยุนก็ต้องตายอย่างแน่นอน ต่อให้อี้เทียนหยุนจะร้ายกาจ แต่จะมาร้ายกาจไปกว่าไท่ซ่างหวงกานหยวนได้ยังไง?
ภายใต้มหาค่ายกลที่เปิดใช้งาน ทำให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จากแต่ก่อนที่มีพลังรบ 2.7 พันล้าน ตอนนี้ได้เพิ่มเป็น 4.3 พันล้านในพริบตา
ในเมื่ออี้เทียนหยุนสามารถสังหารบรรพชนไท่ซ่างของอาณาจักรชื่อหลงได้ ก็แสดงว่าพลังของอีกฝ่ายไม่ธรรมดา ดังนั้น ไท่ซ่างหวงกานหยวนจึงได้เอาจริง ต้องจัดการกับเขาให้ในคราวเดียว แต่จะไม่ทำให้ตาย เพราะว่าเขาไม่ต้องการทุกอย่างที่อีกฝ่ายสืบทอดมาต้องเสียเปล่า
“มัดมันไว้!”
ดวงตาทั้งสองข้างของไท่ซ่างหวงกานหยวนเปล่งแสงสีเขียวออกมา พร้อมกับยื่นมือข้างหนึ่งออกมาทำท่าคว้าจับ ทำให้เถาวัลย์นับไม่ถ้วนเริ่มเคลื่อนไหว เข้าทำการผูกรัดร่างของอี้เทียนหยุนทีละเส้น อี้เทียนหยุนยืนเฉย ปล่อยให้เถาวัลย์พวกนั้นพันร่างของเขาเอาไว้ พร้อมกับพยายามที่จะแทงเข้าไปในร่างของเขา!