ตอนที่ 633: ข้าคือมหาจักรพรรดิ!
อย่างง่ายดาย เขาก็ใช้ฝ่ามือกดหัวไท่ซ่างหวนกานหยวนจนระเบิดออก ตราบเท่าที่หัวระเบิด วิญญาณก็จะถูกทำลายโดยสมบูรณ์ ไม่ว่าจะมีพลังระดับไหน ก็ทำได้เพียงตายเท่านั้น
“ติ๊ง ท่านสังหารไท่ซ่างหวงกานหยวนสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 8.8 พันล้าน, ค่าความคลั่ง 15,000, ค่าความชั่ว 10,000, ค่าความชำนาญในการสลักอาคม 5,000, ได้รับเคล็ดวิชาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์, หมื่นพฤกษารวมศูนย์, ได้รับไอเทม มุกพฤกษาศักดิ์สิทธิ์(หายาก), ชุดเกราะพฤกษาศักดิ์สิทธิ์(ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง, รองเท้าศึกพฤกษาศักดิ์สิทธิ์(ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง), แผนที่รายละเอียดค่ายกลทางผ่านใต้พิภพ”
“ติ๊ง ท่านทำการสังหารข้ามระดับสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 300 ล้าน, ค่าความคลั่ง 50,000, ค่าความชั่ว 10,000, สิทธิ์ในการหมุนลอตเตอรี่รุ่นปรับปรุงพิเศษ 1 ครั้ง!”
“ติ๊ง เนื่องจากสังหารผู้พิทักษ์ ทำให้ตนเองได้รับพลังของผู้พิทักษ์เพิ่มเข้ามา และได้รับฉายา “ผู้พิทักษ์โลกมนุษย์”!”
ผู้พิทักษ์โลกมนุษย์ : หลุดพ้นซึ่งขีดจำกัดของโลก สามารถไปกลับเส้นทางไหนก็ได้ตามใจ และสามารถบินได้ทุกที่!
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 3!”
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 4!”
การที่ค่าประสบการณ์ระเบิดออกมามหาศาลเช่นนี้ เป็นเพราะเขาได้ใช้บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 80 เท่าและ 50 เท่าที่ได้มาจากกล่องของขวัญเลเวล 61 การจะได้สังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนสักคนถือเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก ดังนั้นเขาจึงสองจิตสองใจว่าจะใช้ดีหรือไม่ แต่เมื่อคิดดูแล้ว เขาก็ตัดสินใจใช้มัน ส่วนที่เหลือค่อยว่ากันภายหลัง
แล้วก็จริง ค่าประสบการณ์ 8.8 พันล้านที่ได้มาก็ทำเอาตกใจสุดๆ การเพิ่มค่าประสบการณ์ขึ้น 146 เท่านี้มันบ้ามากจริงๆ ทำเอารู้สึกตกใจและไม่อยากจะเชื่อกับค่าประสบการณ์ที่ได้มาเลยทีเดียว กระทั่งก่อนหน้านี้ที่สังหารเหล่าขุนนางไป ก็ทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์มาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาเลื่อนระดับได้ถึง 2 ขั้นในทันที ค่าประสบการณ์ 3 พันล้านต่อ 1 การเลื่อนขั้น ภายใต้บัตรค่าประสบการณ์ที่ป่าเถื่อนนี้ ก็ทำให้สำฤทธิ์ผลได้อย่างง่ายดาย กระทั่งระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 5 เอง เขาก็ยังห่างอีกไม่ไกล ขาดประสบการณ์อีกประมาณไม่ถึง 1 พันล้านเท่านั้น ก็จะเลื่อนระดับได้
“ช่างเป็นความเร็วในการเลื่อนระดับที่สุดยอดจริงๆ เกือบจะเลื่อนระดับ 3 ขั้นติด หากว่ากัดฟันซื้อบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์มาเพิ่มก็คงดี…..”
เขาคิดแม้กระทั่งจะซื้อบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์มาเพิ่ม แต่ว่าราคาที่ขายนั้นแพงมาก เพราะยิ่งทวีคูณขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งแพงขึ้นเท่านั้น จากตอนแรกที่ราคาไม่กี่แสน แต่ตอนนี้มีราคาแพงถึงระดับล้าน ยิ่งบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 80 เท่ายิ่งแพงขึ้นไปใหญ่
แต่บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 80 เท่าไม่สามารถใช้ซ้อนกัน 2 ใบได้ หากไม่อย่างนั้น ค่าประสบการณ์ที่ได้คงเพิ่มขึ้นเป็น 160 เท่าในพริบตา
หลังจากทำการสังหารไท่ซ่างหวงกานหยวนคนหนึ่ง ก็จะเท่ากับได้สังหารไท่ซ่างหวง 160 คน เท่ากับว่าได้สังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียน 160 คน แล้วบนโลกมนุษย์ใบนี้ จะมีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนสักกี่คนที่เขาจะสามารถค้นหาเพื่อสังหารได้?
แม้แต่ในโลกสวรรค์และโลกใต้พิภพเอง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนมากขนาดนี้ให้สังหาร จริงไหม?
ดังนั้น เขาจึงได้เพิ่มบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 50 เท่าเข้าไป ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการคุ้มค่าอย่างมากกับสิ่งที่ได้มา หากว่าเขาได้เผชิญหน้ากับราชาเซียนอีกครั้ง เขาแน่นอนว่าจะต้องทุ่มทุกสิ่ง เพื่อซื้อบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ทุกระดับเพื่อเพิ่มเข้าไป ต่อให้เป็นบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์เพียง 5 เท่าก็ตาม!
“กลีบดอกไม้พวกนี้ดูแล้วอันตรายจริงๆ แต่ว่าก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับข้า….” อี้เทียนหยุนมองไปยังกลีบดอกไม้ที่กำลังแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีพิษที่กระจายออกมาจากข้างในไหลอาบพื้น
พื้นที่แข็งถูกพิษนี้กัดกร่อนอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่าพิษนี้นั้นร้ายแรงขนาดไหน เพียงไม่ถึงนาทีก็สามารถเปลี่ยนพื้นแข็งๆ ให้กลายเป็นของเหลว เห็นได้ชัดเลยว่าพิษนี้นั้นน่าสะพรึงมาก
“ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนเองก็ตาม หากว่าโดนพิษนี้เข้าไปก็คงยากที่จะแก้ บางที นี่อาจจะเป็นกระบวนท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของกานหยวนก็ได้…..” อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว แม้ว่าครั้งนั้นเขาจะคิดว่าไม่ได้อันตรายมาก แต่เขาก็เลือกที่จะเทเลพอร์ตมาข้างหลังไท่ซ่างหวงกานหยวน พร้อมกับโจมตีอีกฝ่ายเพื่อความปลอดภัย ไม่คิดจะเล่นกับอีกฝ่ายอย่างช้าๆ อีก
เพราะว่าหากยังเล่นต่อไป บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ของเขาคงจะหมดเวลาเสียก่อน ดังนั้น เขาจึงใช้เทเลพอร์ตเพื่อที่จะหลบออกมาในทันที แล้วบดขยี้อีกฝ่ายโดยตรง!
จากนั้น เขาก็เริ่มทำการเก็บกวาดสินสงคราม เก็บกวาดแหวนเก็บของของพวกเขา รวมถึงของไท่ซ่างหวงกานหยวนด้วย หลังจากตรวจดู เขาก็พบว่ามีอุปกรณ์ระดับเทวะถึงสองชิ้นอยู่ข้างใน!
“อุปกรณ์ระดับเทวะสองชิ้น อีกทั้งคุณสมบัติก็ดีเยี่ยม แต่ถึงจะมีสองชิ้น แต่ว่าเขาก็รังเกียจเกินกว่าที่จะมอบมันให้กับลูกชายของตนใช้ ช่างเป็นตาแก่ที่ขี้เหนียวจริงๆ” อี้เทียนหยุนส่ายหัว เพราะหลังจากตรวจดูแหวนเก็บของของมหาจักรพรรดิกานหยวนแล้ว เขาก็ไม่พบอุปกรณ์ระดับเทวะแต่อย่างใด
ดังนั้น จึงสามารถเห็นได้ว่าไท่ซ่างหวนกานหยวนผู้นี้รักแต่ตัวเอง ส่วนอีกฝ่ายนั้นเป็นแค่ลูกชายของตน แค่มอบวิชายุทธ์ให้ก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว
ส่วนอุปกรณ์ระดับเทวะทั้งสองชิ้นนี้มีไว้เพื่อรักษาชีวิตของตน แต่ว่าอีกฝ่ายก็ถูกเขาสังหารโดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้มัน หรือจะพูดว่าอุปกรณ์ระดับเทวะทั้งสองชิ้นนี้ต่อให้นำออกมาก็ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไร เพราะอุปกรณ์ระดับเทวะสองชิ้นนี้เหมาะสำหรับให้ไท่ซ่างหวงกานหยวนใช้ ถูกดัดแปลงมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
มีเพียงแต่เขาที่มีกายาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ถึงจะสามารถใช้ความแข็งแกร่งของมันออกมาได้อย่างสมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิ่งที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนหลอมมันให้กับเขา แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าหมอนี่จะเป็นพวกไม่รู้คุณคน เพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของตน ถึงกับละทิ้งหน้าที่ผู้พิทักษ์ที่ได้รับมอบหมาย
แต่ไม่ว่าจะยังไง สมบัติทุกชิ้นที่อยู่ที่นี่ก็ถูกเขาเก็บกวาดจนเหี้ยน และเมื่อเขาเดินออกมาจากท้องพระโรง องครักษ์ที่อยู่ด้านนอกนับไม่ถ้วนต่างก็พากันมองมาที่นี่ด้วยท่าทางโง่งม ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากจะเข้าไปดู แต่พลังที่ปล่อยออกมาจากด้านในอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาถูกขับไล่ออกมา ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้แม้แต่น้อย
ตอนนี้ พลังงานทั้งหมดได้สลายไปแล้ว และก็ได้มีคนแปลกหน้าคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านใน!
“หือ เจ้าเป็นใครกัน?”
“ขะ เขาคือมหาจักรพรรดิเทียนหยุน…. ข้าเคยเห็นเขามาก่อน ก่อนหน้านี้ที่ไปที่เมืองเทียนหยุน ข้าเคยเห็นมหาจักรพรรดิเทียนหยุนที่นั่น!”
“จะเป็นไปได้ยังไง? แล้วทำไมมหาจักรพรรดิเทียนหยุนถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่ หรือว่าคนที่ต่อสู้ด้านในจะเป็นเขา……”
ขณะที่พวกเขาพากันคาดเดาสถานการณ์อยู่นั้น อี้เทียนหยุนก็ได้กวาดสายตาออกไปรอบๆ จากนั้นก็พูดอย่างจริงจังว่า “เพราะมหาจักรพรรดิของอาณาจักรกานหยวนได้ทำการลบหลู่เกียรติของจักรพรรดิผู้นี้ จึงได้ถูกจักรพรรดิผู้นี้จัดการ! ตั้งแต่วันนี้ไป อาณาจักรกานหยวนจะอยู่ภายใต้การจัดการของอาณาจักรเทียนหยุน มันผู้ใดต่อต้าน จะถูกสังหารโดยไม่มีการปรานี!”
น้ำเสียงของเขาดังไปทั่วทั้งเมืองกานหยวน กระทั่งพื้นที่นอกเมืองหลายลี้ก็ยังได้ยินเสียงของเขา
“อะไรนะ มหาจักรพรรดิกานหยวนตายแล้ว…..”
และในขณะที่พวกเขากำลังตกใจอยู่นั้น ก็รู้สึกเหมือนมีกลิ่นอายจักรพรรดิอันน่าสะพรึงกดทับลงมาจากฟ้า ทำให้ผู้ฝึกตนทุกคนต้องพากันคุกเข่าลงกับพื้น พร้อมกับขับไล่จิตใจที่ต่อต้านของพวกเขาจนสลายไปสิ้น เหลือก็แต่ความรู้สึกเลื่อมใสที่พร้อมจะสยบลงแทบเท้าอี้เทียนหยุน!
นี่ไม่ใช่เพราะว่าอี้เทียนหยุนแสดงพลังออกไป แต่เป็นเพราะเขาสวมใส่ฉายา “ข้าคือมหาจักรพรรดิ”!
ข้าคือมหาจักรพรรดิ : หลังจากสวมใส่ จะทำให้ผู้ฝึกตนที่มีระดับต่ำกว่าเลือกที่จะสวามิภักดิ์ได้ง่ายขึ้น พร้อมกับช่วยเพิ่มค่าบัญชาการขึ้น 1,000!
นี่นับได้ว่าเป็นฉายาที่น่าทึ่งอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ใส่มัน หากว่าใส่มัน ยามเมื่อเดินออกไปข้างนอก แม้จะแค่เปิดปากพูดเบาๆ ก็ทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนขี้หดตดหายแล้ว
ตอนนี้เขาอยู่ในระดับราชาวิญญาณแล้ว จึงทำให้ผู้ฝึกตนที่มีระดับตั้งแต่วิญญาณเที่ยงแท้ลงไปเลือกที่จะสวามิภักดิ์ต่อเขา! ยิ่งมีระดับต่ำเท่าไหร่ ก็ยิ่งง่ายที่จะสยบ
และสถานการณ์ในตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้เช่นกัน ผู้ฝึกตนที่มีระดับต่ำกว่าวิญญาณเที่ยงแท้ลงไป ต่างก็พากันหมอบกราบลงกับพื้น จะมีก็แต่ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับวิญญาณเที่ยงแท้เท่านั้นที่สามารถพอที่จะต่อต้านได้ แต่ว่าในใจก็เกิดความรู้สึกแตกตื่นถึงขีดสุด
มหาจักรพรรดิของพวกเขาตายไปแล้ว หากว่าพวกเขาไม่เลือกที่จะสวามิภักดิ์ แล้วจะให้ทำยังไง?