ตอนที่ 634: มีพวกเจ้าอยู่ เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ
“อะไรนะ มหาจักรพรรดิเทียนหยุนลงมือกับอาณาจักรกานหยวนอย่างงั้นเหรอ อีกทั้งยังจัดการขุนนางน้อยใหญ่ทั้งหมดในเมืองหลวงด้วย? แม้กระทั่งไท่ซ่างหวงเองก็ด้วย นี่มันไม่ใช่ว่าจะแข็งแกร่งเกินไปหรอกเหรอ?”
“แท้จริงแล้วไปทำอะไรให้มหาจักรพรรดิเทียนหยุนไม่พอใจกันแน่? หรือเพราะว่ามหาจักรพรรดิเทียนหยุนเห็นอาณาจักรกานหยวนเป็นที่ขัดตา หรือไม่ก็คิดที่จะปกครองทั่วทั้งโลกมนุษย์ใบนี้กัน?”
“เรื่องนี้เป็นไปได้ แต่ไม่ว่าจะยังไง นี่ก็ช่างอหังการอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ก็โค่นอาณาจักรชื่อหลง ตอนนี้ก็เป็นอาณาจักรอันดับ 2 อาณาจักรกานหยวน แล้วยังจะอาณาจักรใต้พิภพเมื่อตอนนั้นอีก เหมือนว่าจะเป็นอาณาจักรเทียนหยุนที่เป็นคนโค่นอีกฝ่ายใช่ไหม?”
“โค่นสามอันดับแรก นี่มันจะไม่น่ากลัวเกินไปหรอกเหรอ? หรือจะพูดอีกอย่างคือ อาณาจักรใต้พิภพที่เป็นอันดับ 3 นั้น ถือว่าเป็นทางการแล้วเหรอ? อาณาจักรที่มีชื่อติด 1 ใน 3 ล้วนแต่ถูกมหาจักรพรรดิเทียนหยุนโค่นด้วยตัวคนเดียว……”
เรื่องนี้พลันแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าทำไมอี้เทียนหยุนถึงทำอย่างนี้ แต่สิ่งที่สามารถอธิบายได้เพียงอย่างเดียวก็คือ พลังของอี้เทียนหยุนนั้นทรงพลังมาก คนเพียงคนเดียวแต่กับถล่มมหาอาณาจักรถึงสองอาณาจักรจนราบ สร้างความตกตะลึงให้แก่โลกมนุษย์อีกครั้ง
คนทั้งหลายพากันคิดว่าอี้เทียนหยุนมีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ หวังที่จะปกครองโลกมนุษย์ทั้งหมด ทำให้ทุกอาณาจักรสยบอยู่ภายใต้เขา! ข่าวลือทำให้อาณาจักรจำนวนมากพากันหวาดกลัว พร้อมกับรอให้อี้เทียนหยุนไปถึง จากนั้นจะได้เลือกสวามิภักดิ์ต่อตัวเขา
เผชิญหน้ากับพลังที่อหังการเช่นนี้ พวกเขาทำได้เพียงแต่ยอมจำนนเท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น
หากไม่ยอมจำนน ก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ อาณาจักรชื่อหลงและอาณาจักรกานหยวนก็เป็นตัวอย่างชั้นดี ดังนั้น อาณาจักรอื่นๆ ต่างก็พากันรอให้อาณาจักรเทียนหยุนมาหา แต่ใครจะรู้ว่ารออยู่นานก็ไม่มีใครมา
และตอนนี้เอง พวกเขาก็ได้เกิดข้อสงสัยขึ้น หรือว่าอาณาจักรของพวกเขาจะระดับต่ำเกินไป จึงได้มีเข้าตาอีกฝ่าย?
เทียบกับสิ่งนี้แล้ว คนส่วนใหญ่พากันคิดว่าอี้เทียนหยุนนั้นเป็นทรราช ทรราชผู้อหังการ ตราบใดที่หาเรื่องเขา หรือว่าเขาเห็นเป็นที่ขัดตา ก็จะถูกเขาเข้าสยบในทันที!
อาณาจักรนับไม่ถ้วนในตอนนี้ต่างก็พากันทำตัวซื่อสัตย์ ไม่กล้าที่จะต่อต้านแม้แต่น้อย ขนาดการพูดคุยในที่ลับยังไม่มีใครกล้าพูดถึงเลย
หลังจากได้ฟังข่าวนี้ อี้เทียนหยุนก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี นี่ตัวเขากลายเป็นทรราชแล้วอย่างงั้นเหรอ? หากไม่ใช่เพราะอาณาจักรกานหยวนอยากจะสังหารตัวเอง แล้วเขาจะทำอย่างนั้นไปทำไม
ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่อธิบายถึงเรื่องในคราวนี้ ไม่ว่าโลกภายนอกจะลือเรื่องพวกนี้ยังไง ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเขา
ตอนนี้อาณาจักรเทียนหยุนมีเขาคอยนั่งบัญชาการ ทำให้ทุกชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสมานฉันท์ ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย และก็เพราะว่าอาณาจักรกานหยวนถูกเขาสยบเอาไว้แล้ว จึงจำเป็นส่งคนจำนวนมากเข้าไปจัดการ ดังนั้นจึงทำให้ประชากรในเมืองกลายเป็นขาดแคลนในฉับพลัน
แม้จำนวนประชากรจะน้อยลงมาก แต่ก็จำเป็นต้องส่งคนมีความสามารถไป หากส่งใครก็ไม่รู้ไป คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าทางฝั่งนั้นจะเกิดอะไรขึ้น
เขาไม่อยากจะกลายเป็นทรราชดั่งคำเล่าลือ หากว่าส่งพวกใช้อำนาจบาตรใหญ่ หรือพวกที่ชอบรังแกคนธรรมดาอยู่เป็นนิจ แล้วอย่างนี้เขายังจะกล้าส่งไปอย่างงั้นเหรอ?
ยังไงก็ตาม เรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องให้เขาเป็นกังวล มีเย่ชิงเสวียนกับพวกที่คอยกังวลเรื่องนี้แทนเขาแล้ว เขาแค่คอยนั่งบัญชาการอยู่ที่นี่ก็เพียงพอแล้ว
“สุ่ม…..”
ก่อนหน้านี้เขาจำได้ว่าได้สิทธิ์ในการสุ่มลอตเตอรี่มา 1 ครั้ง ทันใดนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างสุ่มลอตเตอรี่ขึ้นมา พร้อมกับใช้โอกาสในการสุ่มลอตเตอรี่นั้นในทัน ภายใต้การเปิดใช้งานโชคดี เข็มที่หมุนอย่างรวดเร็วก็หยุดลงที่หมวดเครื่องประดับ
“หมวดเครื่องประดับอย่างงั้นเหรอ?” ในใจอี้เทียนหยุนรู้สึกมีความสุข ตอนนี้ที่เขาขาดก็คือเครื่องประดับที่มีคุณสมบัติดีๆ นี่แหละ “จะเป็นอะไรนะ…..”
เขาอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้น และเมื่อเปิดกล่องไม้ขึ้นมา ก็พบว่าในกล่องนั้นมีแหวนอยู่วงหนึ่ง!
แหวนหายนะบรรพกาล : หนึ่งในสามของเซ็ตหายนะบรรพกาล, สมบัติระดับบรรพกาล, เมื่อสวมใส่จะเพิ่มพลังขึ้น 10 เท่า, เพิ่มโอกาสติดคริติ คอล 30%, เพิ่มความแรงคริติคอล 2 เท่า, เมื่อผลาญค่าความคลั่ง 8,000 จะสามารถใช้ท่า “ความบ้าคลั่งแห่งหายนะบรรพกาล” ได้ 5 นาที, ความบ้าคลั่งแห่งหายนะบรรพกาล จะเพิ่มโอกาสติดคริติคอลขึ้น 100% และพลังโจมตีเพิ่มขึ้น 4 เท่า!
“เป็นเซ็ตหายนะบรรพกาลจริงๆ!”
ในใจอี้เทียนหยุนตื่นเต้นสุดๆ นี่หมายความว่าเขามีเซ็ตหายนะบรรพกาลสองชิ้นแล้ว หากเก็บชิ้นที่สามได้ เขาก็จะมีเซ็ตหายนะบรรพกาลครบเซ็ต
หลังจากสะสมครบ 1 เซ็ต เมื่อถึงตอนนั้น เอฟเฟ็กที่ได้ก็มาถึงขั้นสูงสุดอย่างแน่นอน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้ยังไง? เพียงแค่เอฟเฟ็กของพวกมันอย่างเดียว ก็ทำเอาเขาตื่นเต้นได้แล้ว หากว่าเทียบกับเครื่องประดับอื่นๆ แล้ว ถือว่าแข็งแกร่งกว่ามาก สมแล้วที่เป็นถึงสมบัติระดับบรรพกาล หากเทียบกับสมบัติของราชาเซียนแล้ว มันกระทั่งว่าดีกว่า
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก…..”
ในตอนนี้เอง ได้มีเสียงเคาะประตูดังมา อี้เทียนหยุนทำการปรับอารมณ์ จากนั้นก็เงยหน้าพูดขึ้นว่า “เข้ามา”
จากนั้น ก็ได้มีร่างที่งดงามเดินเข้ามา ร่างนั้นก็คือเย่ชิงเสวียน เย่ชิงเสวียนยังคงงดงามเหมือนแต่ก่อน แต่ขณะที่เธอเห็นอี้เทียนหยุน เธอก็ได้เผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา
“ฝ่าบาท พระองค์เรียกหม่อมฉันหรือเพคะ?” เย่ชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“จากนี้คงต้องเหนื่อยเจ้าแล้ว ที่ต้องไปรับอาณาเขตใหม่” อี้เทียนหยุนส่ายหัวแล้วพูดขึ้น
“ทำไมต้องเหนื่อยด้วยล่ะเพคะ? เพราะมีพระองค์อยู่ ขุมอำนาจของพวกเราถึงได้รุ่งโรจน์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะเผ่าภูตของพวกเรายิ่งรุ่งโรจน์กว่าที่เป็นมา เผ่าภูตที่กระสานซ่านเซ็นอยู่ข้างนอกจำนวนมาก ตอนนี้ก็ได้กลับมารวมตัวกันแล้ว! เทียบกับแต่ก่อน ฐานะของเผ่าภูตเราตอนนี้นับว่าเจิดจ้ามากเพคะ!”
นัยน์ตาคู่งามของเย่ชิงเสวียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ไม่มีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยให้เห็น พวกเธออยากจะให้เผ่าภูตฟื้นคืนสู่จุดสูงสุด ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะฟื้นคืนสู่จุดสูงสุด แต่ยังแข็งแกร่งเหนือกว่าที่เคยเป็นมา!
โดยเฉพาะเผ่าภูตของพวกเธอตอนนี้ ที่สมาชิกส่วนใหญ่ล้วนแต่ได้จัดการเรื่องสำคัญ ทำให้อำนาจปกครองของพวกเธอเป็นที่น่าหวาดกลัวอย่างที่สุด ไม่ใช่ว่านิกายเทียนเฉวียนจะไม่ได้รับโอกาส แต่เป็นเพราะว่าใครมีความสามารถมากกว่าก็จะได้กุมอำนาจมากกว่านั่นเอง
ยังไงก็ตาม ทางฝั่งนิกายเทียนเฉวียนก็มีอี้อวี่เหว่ยกับพวกอยู่ ดังนั้นอำนาจของพวกเธอก็เลยมีมากเช่นกัน
“ฝ่าบาททรงเรียกพวกกระหม่อมหรือเพคะ?”
ในตอนนี้เอง อี้อวี่เหว่ยและจิ่วหลิงจวินก็มาปรากฏตัวที่หน้าประตู จากนั้นก็เดินเข้ามา พวกเธอเป็นผู้หญิง แต่ก็เป็นกระดูดสันหลังของอาณาจักรเทียนหยุน เรื่องที่พวกเธอต้องจัดการมีเป็นจำนวนมาก อำนาจของพวกเธอจึงมีมากเช่นกัน
ใครจะไปคิดว่าหญิงสาวเหล่านี้จะเป็นผู้ถือกุญแจแห่งอำนาจเอาไว้? ยังไงก็ตาม ระดับของพวกเธอในตอนนี้ก็ไม่ได้ต่ำเช่นกัน เพราะว่าทุ่มโอสถจำนวนมาก รวมถึงวิชายุทธ์มากมาย จึงทำให้พื้นฐานฝึกตนของพวกเธอเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
พวกเธอล้วนแต่มีระดับผันแปรวิญญาณกันทั้งนั้น ซึ่งนี่ถือว่าเป็นที่น่าตกใจจริงๆ จะน่าเสียดายก็แต่ขาดคนไปหนึ่งคน นั่นก็คือชิเสวี่ยอวิ๋น นั่นจึงทำให้ในใจของเขารู้สึกว่างเปล่า
“อาณาจักรเทียนหยุนมีพวกเจ้าอยู่ เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ” ขณะที่อี้เทียนหยุนมองพวกเธอ เขาก็ได้พูดคำนี้ออกมา
พวกเธอพากันตกใจ จากนั้นก็พากันเบ้าตาแดงก่ำ….. พร้อมกับความรู้สึกขมขื่น มีเพียงพวกเธอเท่านั้นที่รู้อย่างชัดเจน แต่พวกเธอก็ไม่พูดอะไร ในเมื่อนั่งในตำแหน่งนี้ ก็ต้องมีเรื่องมากมายให้ต้องเหนื่อย บนบ่าต้องแบกรับความรับผิดชอบมากมาย
ยังไงก็ตาม เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของอี้เทียนหยุน พวกเธอก็รู้สึกว่าทั้งหมดที่ทำมานั้นคุ้มค่าแล้ว ที่พวกเธอเหนื่อยยากกันมาก็เพื่อความสำเร็จ และส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่ต้องพึ่งอี้เทียนหยุน หากไม่ใช่เพราะเขา ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไง หรือไม่บางทีตอนนี้อาจจะกำลังมีชีวิตที่ยากลำบาก หรืออาจกระทั่งต้องตายก็เป็นได้
ตอนนี้พวกเธอเพียงหวังที่จะตอบแทนเขา จนค่อยกลายเป็นความรับผิดชอบ เพราะที่นี่คือบ้านของพวกเธอ!