ตอนที่ 645: เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง !
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 9!”
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุด!”
หลังจากเพิ่มระดับขึ้นสองขั้นติด สุดท้ายก็ได้หยุดลง ไม่ได้เพิ่มขึ้นไปกว่าระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุด เขาคิดว่าน่าจะไปถึงระดับราชาเซียนได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะหวังมากเกินไป
จากระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุดเข้าสู่ระดับราชาเซียนนั้น จำเป็นต้องใช้ค่าประสบการณ์ 1.5 หมื่นล้าน ต้องรู้นะว่าในตอนแรกนั้น จากระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 1 เข้าสู่ขั้นที่ 2 จำเป็นต้องใช้ค่าประสบการณ์ถึง 3 พันล้าน และเมื่อมาถึงช่วงท้าย ค่าประสบการณ์ที่ต้องการก็มากถึงหลายพันล้าน จนไปถึงระดับหมื่นล้าน ซึ่งค่าประสบการณ์ที่เหมือนจะมากมายมหาศาลนั้น แต่แท้ที่จริงกลับเพิ่มระดับให้แค่ 1 ถึง 2 ขั้นเท่านั้น
ยังไงก็ตาม แค่นี้ก็ถือว่าน่าตกใจมากพอแล้ว จากระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 4 สุดท้ายก็ได้มาถึงระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุดราวกับพายุ แต่ว่าเขาก็ต้องใช้ค่าความคลั่งมากกว่า 1 ล้านเพื่อซื้อบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ทั้งหมดนั้นมา ระดับของการล้างผลาญนี้ช่างน่าตกใจอย่างแท้จริง ยิ่งบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ที่ทวีคูณสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งแพงมากเท่านั้น แต่ดีที่ว่าเขายังมีบัตรส่วนลดครึ่งราคาอยู่ จึงได้ถือโอกาสใช้มันในคราวนี้เลย
แม้จะมีบัตรส่วนลดครึ่งราคา ใจเขาก็ยังกังวลอยู่ดี เพราะบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 80 เท่านั้น ต้องใช้ค่าความคลั่งถึง 2,001,000 หลังจากหักออกครึ่งหนึ่ง ก็จะเหลือตัวเลขเพียง 1 ล้าน แต่ว่าถึงอย่างนั้นก็ยังคงแพงอยู่ดี
แล้วเขายังซื้อบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 50 เท่าเพิ่มไปอีก ซึ่งนี่ก็ต้องใช้ค่าความคลั่งเกินล้านเช่นกัน ยังมีบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 20-30 เท่าพวกนี้ด้วย ที่ราคารวมกันประมาณ 1 ล้าน!
หากว่าเขาไม่มีบัตรลดครึ่งราคา ค่าความคลั่งที่เขาต้องเสียไป ต้องเป็นตัวเลขที่สูงถึง 120 ล้านอย่างแน่นอน ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่ากังวลจริงๆ และราคาของบัตรลดครึ่งราคาก็มากถึงระดับร้อยล้าน ซึ่งทำให้เขารู้สึกปวดใจนัก
ยังไงก็ตาม เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเช่นนี้ เขาจะไม่ใช้มันได้เหรอ? เพราะถึงยังไงพื้นฐานก็เป็นสิ่งสำคัญตลอดกาล ยิ่งกว่านั้น ค่าความคลั่งที่เสียไปเขาก็ยังได้รับมันกลับมาในท้ายที่สุดอยู่ดี
“ติ๊ง บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 80 เท่า ได้หมดเวลาแล้ว”
“ติ๊ง บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 50 เท่า……”
“ติ๊ง…..”
บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ค่อยๆ หมดเวลาลงไปทีละใบ เวลา 1 ชั่วโมงนี้ช่างสั้นเกินไปจริงๆ หากว่าได้เวลานานกว่านี้ก็คงจะดี แต่ยังดีที่ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ได้ถูกกำจัดไปแล้ว อีกทั้งระดับราชาเซียนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองก็ได้ถูกเขาฆ่าจนหมด แล้วอย่างนี้ยังจะร้องขออะไรอีก?
ที่มีค่าที่สุดก็คือราชาเซียนสองคนนี้ ส่วนคนอื่นนั้นล้วนแล้วแต่ธรรมดา แต่หากให้เวลานานขึ้น เขาก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด
น่าเสียดายก็แต่ยังไม่ได้จัดการกับเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง หากว่าได้สังหารยักษ์ใหญ่ทั้งสาม ค่าประสบการณ์ที่ได้จะต้องระเบิดระเบ้ออย่างแน่นอน ยังไงก็ตาม ตอนนี้ก็คงทำได้แค่เพียงคิดเท่านั้น การจะจัดการกับพวกเขาจำต้องสูญเสียพลังไปบางส่วน โดยเฉพาะที่ด้านนอก ที่ทำให้เขาเสียเวลาส่วนใหญ่ไป
จากนั้น หลังจากที่อี้เทียนหยุนสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณที่เหลือเสร็จ เขาก็ได้ทำการกลับร่างเดิม ไม่ต้องอยู่ในสภาพพร้อมรบชั่วคราว เพราะการอยู่ในสภาพนี้ต่อ มันทำให้ต้องสูญเสียค่าความคลั่งมากเกินไป
“จบสักที” อี้เทียนหยุนกวาดตามองรอบๆ ในสายตาของผู้คนเผ่าฟีนิกซ์ต่างก็เต็มไปด้วยคาวมตกใจ และคงจะไม่ได้สติไปสักพัก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตกใจกันขนาดไหน
ราชาเซียนผู้ยิ่งใหญ่สองคนถูกสังหารอย่างง่ายดาย แล้วแบบนี้จะไม่ให้พวกเขาพากันตกใจได้ยังไง? พริบตาก็ช่วยเหลือทุกคนได้ทั้งหมด ดีที่เขามาทัน ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางทีคนส่วนใหญ่อาจจะถูกจับ รวมถึงอาจจะมีการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากเช่นกัน
พวกเขายอมต่อสู้จนตัวตาย ดีกว่าที่ต้องถูกจับตัวไป
“พวกท่านรีบไปหาที่ซ่อนตัวเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยชั่วคราวแล้ว ผู้ฝึกตนของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงที่ด้านนอกล้วนแต่ถูกข้าจัดการหมดแล้ว แต่ว่าจะมีกำลังเสริมอื่นอีกไหม อันนี้ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน” อี้เทียนหยุนเดินเข้าไปหาพร้อมกับพูดออกมา
ผู้คนพากันพยักหน้า พร้อมกับรีบนำคนเจ็บหนีไปซ่อนอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้พวกเขาถูกเปลวเพลิงเทียนหยินแช่แข็งไว้ ตอนนี้พวกเขาจึงต้องการเวลาเพื่อรักษาตัว จำเป็นต้องหาสถานที่เพื่อทำการรักษาตัวอย่างช้าๆ ไม่อย่างนั้น พวกเขาก็คงไม่มีแม้แต่แรงจะไปสู้กับใคร
“ท่านพ่อ….” ลั่วเหยียนตะโกนเสียงเบา ไม่ได้พูดเสียงดังเหมือนแต่ก่อน ทั้งยังไม่กระโดดเกาะแขนเขาอีก หมายความว่าตอนนี้เธอรู้แล้วว่าอี้เทียนหยุนไม่ใช่พ่อของเธอ
“จำความได้แล้วเหรอ?” อี้เทียนหยุนยื่นมือออกไปลูบหัวเล็กๆ ของเธอ “จำความได้ก็ดีแล้ว หลังจากนี้ให้เรียกข้าว่าพี่ใหญ่อี้ก็พอ เรียกข้าว่าพ่อมันแปลกเกินไป ถึงยังไงข้าก็ไม่ใช่ลูกเขยของผู้อาวุโสลั่ว เป็นเพียงสหายที่ช่วยพาเจ้ากลับมาเท่านั้น”
“ไม่ ข้าจะเรียกท่านว่าพ่อบุญธรรม!” นัยน์ตาคู่งามของลั่วเหยียนเป็นประกาย จากนั้นก็กระโดดเกราะแขนของเขาแล้วพูดด้วยอารามยินดีปนประหลาดใจว่า “พ่อบุญธรรมร้ายกาจมาก ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนพวกนั้นต่างก็ถูกท่านสังหาร ก่อนหน้านี้ที่เปลี่ยนร่างนั่นคืออะไร ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นมาก่อน!”
“พ่อบุญธรรมอย่างงั้นเหรอ…..” อี้เทียนหยุนเอามือถูจมูก รู้สึกอายนิดหน่อย แต่เรียกว่าพ่อบุญธรรมอย่างนี้ ยังไงก็รู้สึกดีกว่าเรียกตัวเองว่าพ่อ
“ทูตศักดิ์สิทธิ์ โชคดีจริงๆ ที่มีเจ้า ทำให้พวกเราไม่เป็นอะไร ดีที่เจ้ากลับมาไว ไม่อย่างนั้นพวกเรา แค่กๆ…..” ผู้อาวุโสลั่วเอามือกุมอก พร้อมกับใบหน้าซีดขาว เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บหนัก
“ท่านรีบไปซ่อนตัวเถอะ ตัวการใหญ่ยังไม่ถูกจัดการ ข้าคงต้องรีบไปดูก่อนแล้ว” อี้เทียนหยุนบอกให้พวกเขารีบไปซ่อนตัว
พวกลั่วเหยีนพากันพยักหน้า จากนั้นก็นำผู้คนหลบออกไปอย่างรวดเร็ว รังฟีนิกซ์มีสถานที่ปลอดภัยอยู่มาก ดังนั้น พวกเขาจึงหลบออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว เพื่อไปยังที่ปลอดภัย
อี้เทียนหยุนก็รอช้า หลังจากที่พวกเขาจากไป เขาก็พุ่งไปยังถ้ำฟีนิกซ์อย่างรวดเร็ว ขนาดเขายังไม่ทันเข้าไปใกล้ถ้ำฟีนิกซ์ เขายังรู้สึกถึงพลังที่ผันผวนที่ส่งออกมาจากด้านใน ความผันผวนนี้ยิ่งมายิ่งเข้มข้น เห็นได้ชัดว่าเกิดจากการโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
“ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะยังไม่จบ หรือควรพูดว่าเพิ่งจะเริ่มต่างหาก…..”
อี้เทียนหยุนวิ่งเข้าไปในทันที ยิ่งเข้าไปใกล้ด้านล่างมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงที่ส่งออกมาจากด้านในเท่านั้น และเมื่อเขาไปถึง ที่ปรากฏต่อสายตาของเขาก็คือบรรพชนระดับราชาเซียนทั้งสามกำลังร่วมมือกันโจมตีเข้าใส่เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงที่อยู่ห่างออกไปอย่างบ้าคลั่ง!
เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงรับมือการโจมตีร่วมกันของพวกเขาด้วยมือเดียว ขณะที่กำลังดูดวิญญาณจากผนึกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากระบวนการนี้จะช้าอย่างมาก แต่ภายใต้การดูดกลืนวิญญาณที่ถูกผนึกไว้อย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้ระดับของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเข้าสู่ระดับราชาเซียนขั้นสูงสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เผชิญหน้ากับการโจมตีที่บ้าคลั่งของราชาเซียนทั้งสาม แต่เขาก็พึ่งเพียงอุปกรณ์ระดับเทวะให้ทำการรับมืออย่างง่ายดาย ต้องรู้นะว่าบรรพชนราชาเซียนทั้งสามได้ทุ่มวิชาทั้งหมดออกไป โดยเฉพาะวิชาที่ต้องอาศัยความร่วมมือกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสามมีความเข้ากันได้อย่างดี
ทำให้พลังของพวกเขานั้นทวีคูณขึ้น ไม่ใช่แค่รวมพลังกันส่งๆ แต่เป็นการทำให้พลังของพวกเขาทวีคูณขึ้นหลายเท่า จากพลังที่ระเบิดออกมา ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่าพลังรบนั้นมีมากถึง 1.4 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก
หากว่าพวกเขาร่วมมือกันจัดการกับจี้หยาง ก็คงจะสามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย เพราะว่าพลังรบที่มีนั้น แข็งแกร่งกว่าของจี้หยางมากมายนัก ตัวตนระดับบรรพชนทั้งสาม จะเป็นตัวตนที่ธรรมดาได้ยังไงล่ะ จริงไหม? ด้วยพลังที่อหังการรวมกับการร่วมมือกัน จึงทำให้สามารถปลดปล่อยพลังที่มากเป็นทวีคูณออกมาได้อย่างต่อเนื่อง
แต่แม้ว่าพวกเขาจะน่าสะพรึงมากพอ แต่เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงกลับน่ากลัวมากกว่า หลังจากดูดกลืนวิญญาณเข้าไป ก็ทำให้การป้องกันของอุปกรณ์ระดับเทวะขั้นกลางบนหน้าอกของเขามีพลังป้องกันสูงถึง 1.6 หมื่นล้าน
แม้ว่าประสิทธิภาพจะน่าทึ่ง แต่การเผาผลาญของมันกลับน่าทึ่งยิ่งกว่า แต่ว่าเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเป็นตัวตนระดับไหนกัน เขามีโอสถให้ใช้นับไม่ถ้วน ทำให้ภายใต้การกินเข้าไปไม่หยุด ทำให้เขาฟื้นฟูพลังวิญญาณได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เขาจึงสามารถใช้งานมันได้อย่างมั่นคง ทำให้เกิดเป็นการป้องกันที่ไม่สามารถทำลายได้
