ตอนที่ 647: หนึ่งกระบี่ทะลวงผ่าน!
หลังจากอี้เทียนหยุนแปลงร่างเป็นเทพมารแล้ว สายตาเขาก็เขาก็ได้หรี่ลง พร้อมกันนั้นที่มือทั้งสองก็ได้ปรากฏกระบี่เทพเทียนหมิงขึ้น พร้อมกับปีกเปลวเพลิงสีดำที่กลางหลังสลายไป จากนั้นก็สังเกตเห็นว่ามันได้เข้าไปรวมกันกับกระบี่เทพเทียนหมิง พริบตา กระบี่เทพเทียนหมิงก็ปรากฏแสงของค่ายกลสว่างขึ้น ดูแล้วแสบตาสุดๆ!
“จงขาดเป็นชิ้นๆ ไปซะ!”
อี้เทียนหยุนกระทืบเท้าพุ่งออกไป ตรงเข้าใส่เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงที่อยู่ไม่ไกล ความเร็วที่ใช้นั้นเร็วมากจนทำให้เห็นเป็นแสงสีดำพุ่งผ่าน เปลวเพลิงสีดำที่ปกคลุมร่าง ดูแล้วราวกับกุหลาบดำที่กำลังเบ่งบานกลางท้องฟ้า
พลังของกุหลาบดำนี้ ได้พุ่งขึ้นสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อรวมกับกระบี่เทพเทียนหมิงในมือแล้ว ทำให้พลังรบในปัจจุบันของเขาได้ขึ้นมาสูงจนน่ากลัวถึง 1.7 หมื่นล้าน!
ภายใต้พื้นฐานระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุด รวมกับพลังโจมตี 16 เท่า อีกทั้งยังเสริมด้วยชุดเทพมาร ทำให้สามารถระเบิดพลังรบ 1.7 หมื่นล้านออกมาได้ในพริบตา ทำให้จิตใจของผู้คนที่ได้เห็นต้องสั่นสะท้าน
หากว่ามีราชาเซียนระดับทั่วไปหรือผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณมายืนอยู่ใกล้ๆ ร่างกายคงจะถูกทะลวงในพริบตา และถูกเผาจนกลายเป็นเถ้า! ตอนนี้ภายใต้การพุ่งผ่าน แม้แต่อากาศก็ยังถูกเผาจนไม่เหลือ กำแพงที่อยู่รอบๆ ก็ถูกเปลวเพลิงนี้แผดเผาจนร้อนลวก กลายเป็นขี้เถ้าไปทีละชุน พลังที่น่าสะพรึงนี้ทำให้นัยน์ตาของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงถึงกับต้องหดลง พร้อมกับสัญชาตญาณภายในที่ร้องเตือนถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา
“ไสหัวไป!”
เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงยื่นมือข้างหนึ่งออกมาทำมุทราอย่างรวดเร็ว ทำให้อุปกรณ์ระดับเทวะบนร่างปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมออกมา ก่อให้เกิดเป็นม่านป้องกันที่ด้านนอกทับอีกชั้น เทียบกับม่านพลังอันแรกที่ใช้ต้านรับบรรพชนทั้งสาม ถือว่าแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า เห็นได้ชัดว่านี่จึงจะเป็นพลังป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาสามารถระเบิดออกมาได้อย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้เป็นพลังเพียงไม่ถึงครึ่งเท่านั้น
ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงอันตราย ดังนั้นจึงได้ระเบิดพลังเต็มที่ออกมาในทันที ต้องการต้านทานการโจมตีที่น่าสะพรึงของอี้เทียนหยุนนี้ เขามีลางสังหรณ์ล่วงหน้า หากไม่อย่างนั้น กลัวว่าคงถูกทะลวงร่างไปแล้ว!
เขาไม่มีดวงตาประเมิน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าพลังนี้ แท้จริงแล้วแข็งแกร่งแค่ไหน ทำได้เพียงระเบิดพลังป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าเดิมขึ้นมา ทั้งที่จริงแล้วเขาสามารถหลบการโจมตีนี้ได้อย่างรวดเร็ว หรือเลือกที่จะใช้พลังอื่นตีโต้กลับไป แต่ว่าในตอนนี้เขาทำอย่างนี้ไม่ได้
หากว่าออกไปจากที่นี่ มันก็จะเป็นเรื่องยากที่จะดูดกลืนวิญญาณต่อ เมื่อถึงตอนนั้น หากว่าเขาออกไป บรรพชนทั้งสามจะต้องกลับมาผนึกที่นี่เอาไว้อย่างแน่นอน ไม่มีทางให้เขาได้มีโอกาสดูดกลืนต่อ
“ช่างเป็นพลังป้องกันที่แข็งแกร่งนัก ไม่คิดว่าก่อนนี้อีกฝ่ายจะใช้พลังเพียงครึ่งเพื่อต่อกรกับพวกเรา เห็นได้ชัดว่าดูถูกพวกเราอยู่…..” บรรพชนทั้งสามหน้าดำคล้ำ พวกเขาทุ่มทุกอย่างไป แต่ว่าอีกฝ่ายกลับแสดงพลังออกมาแค่ครึ่งเดียว หากไม่เรียกว่าดูถูกแล้วจะให้เรียกว่าอะไร?
ตามจริงก็ดูถูกพวกเขานั่นล่ะ แม้บรรพชนทั้งสามจะร่วมมือกัน แต่ระดับก็ยังคงต่ำเกินไป หากมีคนที่มีระดับสูงกว่าคนที่มีระดับสูงที่สุดของพวกเขา 1 ขั้น ก็สามารถจัดการกับพวกเขาทั้งสามคนได้อย่างเพียงพอแล้ว!
แม้การร่วมมือกันจะแข็งแกร่ง แต่ระดับก็ยังห่างกันเกินไป ดังนั้นจึงไม่มีวิธีที่จะเติมเต็มความห่างนี้
พร้อมๆ กับที่ม่านพลังที่แข็งแกร่งโผล่ขึ้นมา ก็ได้ถูกกระบี่เทพเทียนหมิงแทงทะลุผ่านง่ายๆ เหมือนกับแทงกระดาษ แทงทะลุม่านพลัง 1 ชั้นนั้นไปได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่มีแรงกดดันอะไร กระทั่งตัวม่านพลังที่ถูกแทงเข้าไปยังติดไฟ จนสุดท้าย โล่ป้องกันที่แข็งแกร่งก็ได้ถูกเผาเป็นเถ้าไป!
โล่ป้องกันพลังวิญญาณนี้ เปรียบเสมือนเชื้อไฟ ไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้เปลวเพลิงสีดำอ่อนแรงลงเท่านั้น แต่กลับทำให้ไฟยิ่งโหมมากขึ้นไปอีก
“เป็นไปได้ยังไง…..” เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงหน้าเปลี่ยนสี เขาคิดว่าแค่นี้ก็น่าจะป้องกันได้ แต่ใครจะคิดว่าแค่เริ่มก็ป้องกันไม่ได้แล้ว
ในเวลานี้ เขาทำได้เพียงหลบออกมาเท่านั้น พุ่งออกไปด้านข้าง แต่ว่าก็ยังช้าไป ตัวกระบี่ได้แทงเข้ามาถึงแขนของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงแล้ว ทำให้เขาต้องรีบยกฝ่ามือขึ้นต้าน ชุดเกราะระดับเทวะเองก็รีบปล่อยพลังออกมา เพื่อต้านทานพลังที่แสนอหังการนี้
แต่ใครจะรู้ว่ากระบี่นี้จะยังคงแทงทะลุฝ่ามือเขาเข้ามาได้อยู่ดี พร้อมกับเปลวเพลิงสีดำที่น่ากลัวได้ทำการปกคลุมร่างเขาในพริบตา จะหยุดก็หยุดไม่อยู่ หลังจากที่กระบี่เทพเทียนหมิงทะลุฝ่ามือของเขา ก็ได้แทงเข้าใส่กำแพงข้างหลัง จนสุดท้ายก็ฝังเข้าไปในกำแพงทั้งเล่ม จนมองไม่เห็นแม้เงา
พลังที่เขวี้ยงออกมานี้ สามารถทะลวงได้ถึงสวรรค์ และเปลวเพลิงสีดำที่แสนอหังการ ก็สามารถเผาไหม้ได้ทุกสิ่ง!
“เปลวเพลิงนี้ จงดัง!” เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงแค่นเสียงออกมา พร้อมกับเรียกเปลวเพลิงเทียนหยินออกมาเพื่อดังเปลวเพลิงนี้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าท้ายที่สุดจะดับได้ แต่ทั่วทั้งแขนของเขาก็ถูกไหม้จนดำ เห็นได้ชัดเลยว่าเปลวเพลิงนี้น่ากลัวขนาดไหน
และก็เพราะการหลบนี้ จึงทำให้กระบวนการดูดวิญญาณได้ปิดลง ไม่มีทางที่ดูดได้ต่อ วิญญาณของวิญญาณร้ายเมื่อไม่มีแรงดูดจากภายนอก ก็ไม่มีทางที่จะหลุดออกมาจากผนึก ทำได้เพียงกรีดร้องอยู่ในก้นบึ้งของนรกเท่านั้น
“ตอนนี้ล่ะ!”
บรรพชนทั้งสามหูตาว่องไว ทันใดนั้นก็พุ่งไปยังผนึก ต้องการผนึกเผ่าวิญญาณร้ายนี้ไว้อีกครั้ง ยังไงก็ตาม ในเวลานี้ อี้เทียนหยุนก็ได้มาถึง พร้อมกับยืนอยู่ในสถานที่ที่แตกหัก พร้อมกับพูดอย่างเฉยชาว่า “ที่นี่ให้ข้าจัดการเอง”
จากนั้น เขาก็ปล่อยเปลวเพลิงสีดำที่น่ากลัวกลุ่มหนึ่งออกจากมือเข้าใส่ผนึก ทำให้พลันมีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเผ่าวิญญาณร้ายที่ถูกผนึกนี้ ได้ถูกทำการเผาไหม้อย่างรวดเร็ว และกำลังสลายไป!
“เป็นเปลวเพลิงสีดำที่น่ากลัวนัก นี่มันพลังอะไรกันแน่?” ในใจบรรพชนทั้งสามต่างก็รู้สึกตกใจ ความตกใจในวันนี้ มากกว่าความตกใจทั้งชีวิตที่พวกเขาเคยเจอมาเสียอีก
ผู้เชี่ยวชาญที่ท้าทายสวรรค์ขนาดนี้ เป็นเผ่ามนุษย์จริงๆ เหรอ? คงไม่ใช่ทายาทของราชาศักดิ์สิทธิ์บางคนหรอกนะ?
“ทูตศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งมาก แท้จริงแล้วเขามีระดับอะไรกันแน่?” ในใจไป๋สุ่ยหวงก็รู้สึกตกใจถึงขีดสุดเช่นกัน ตกใจจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“หัวหน้าเผ่า…..” ผู้อาวุโสเฟิงที่กลับลงมามีสีหน้าแตกตื่น พร้อมกับบอกข้อมูลบางอย่างให้ไป๋สุ่ยหวงฟัง “ผู้เชี่ยวชาญของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงนับไม่ถ้วน ถูกสังหารหมดแล้วจริงๆ……”
คำตอบนี้ไม่ได้ผิดไปจากที่พวกเธอคาด อี้เทียนหยุนไม่ได้โกหก ไม่ได้โกหกตั้งแต่เริ่มแล้ว เพียงแต่พวกเธอพากันไม่เชื่อเอง
กระบี่เมื่อกี้นี้ ได้ทำให้พวกเธอเชื่อแล้วว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง อี้เทียนหยุนได้ทำการสังหารผู้เชี่ยวชาญของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงที่อยู่ด้านบนทั้งหมดแล้วจริงๆ
“บัดซบ!” แขนของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว สามารถมองเห็นก้อนเนื้อสดใหม่ที่คืนสภาพทีละชุนได้ด้วยตาเปล่า เทียบกับความเร็วในการฟื้นฟูของไท่ซ่างหวงกานหยวนเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว กระทั่งว่าเร็วกว่า
นี่ช่างเป็นความสามารถในการฟื้นตัวที่น่ากลัวนัก น่าตกใจจริงๆ
“ต้องเสียใจด้วยจริงๆ แผนของเจ้าถูกข้าทำลายแล้ว แต่เจ้าเองก็ดูดวิญญาณไปได้มากเหมือนกัน” อี้เทียนหยุนมองไปที่เขาอย่างเย็นชา แม้ว่าเขาจะกำจัดวิญญาณร้ายนั้นไปแล้ว แต่เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงก็ดูดกลืนวิญญาณร้ายตนนั้นเข้าไปมากแล้ว อย่างน้อยก็ดูดวิญญาณส่วนใหญ่เข้าไปแล้ว ไม่อย่างนั้น ระดับของเขาคงจะไม่เพิ่มขึ้นเร็วขนาดนี้
“พูดได้เลยว่า เจ้าเป็นเผ่ามนุษย์คนแรกที่ร้ายกาจที่สุดที่ข้าเคยเห็น…… ไม่ ควรพูดว่าเผ่ามนุษย์ในปัจจุบัน เจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่คิดเลยว่าเผ่าฟีนิกซ์จะมีผู้เชี่ยวชาญแบบเจ้าให้การช่วยเหลือ ช่างเหนือไปจากที่ข้าคิดนัก!” เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงมีสีหน้าดำคล้ำอย่างน่ากลัว เขาได้ยินคำพูดที่ผู้อาวุโสเฟิงพูดเมื่อกี้นี้แล้ว คนอื่นๆ ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง ล้วนแต่ถูกฆ่าจนหมด!
ตอนนี้เหลือเขาเพียงคนเดียวแล้ว ทำให้โอกาสที่จะสำเร็จลดลงอย่างมาก เห็นได้ชัดเลยว่าแผนการทั้งหมดได้พังลงแล้ว!