ตอนที่ 649: สายเลือดเผ่าวิญญาณร้ายที่แสนอหังการ
คำตอบที่สมบูรณ์แบบบวกกับปฏิกิริยาอันอหังการ เป็นการบอกถึงตัวเลือกของอี้เทียนหยุน!
วิญญาณส่วนสุดท้ายของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงถูกเผาจนสลายกลายเป็นเถ้าโดยสมบูรณ์ แม้ว่าต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่เมื่อเขาเพิ่มความรุนแรงของไฟเข้าไป ก็ทำให้เผามันจนกลายเป็นเถ้าได้อย่างง่ายดาย แม้จะเป็นเพียงพลังครึ่งเดียวของเขา แต่ด้วยระดับที่เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ในปัจจุบันไม่สามารถหยุดได้
ในใจพวกไป๋สุ่ยหวงพลันรู้สึกมีความสุข ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้ว อี้เทียนหยุนก็ยังคงเลือกที่จะยืนอยู่ทางฝั่งของพวกเธอ ไม่เลือกที่จะไปอยู่ฝั่งเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่ได้ถูกการเจรจาเพื่อเข้าเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ล่อลวง หากว่าเปลี่ยนเป็นพวกเธอ คงไม่สามารถพูดคำนี้ออกมาได้
คำพูดที่อี้เทียนหยุนตอบกลับไปนั้น กลับยิ่งดุดันยิ่งกว่า! ปราศจากเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง เขาก็สามารถเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่ดี หากเป็นคนอื่น คงไม่มีทางที่จะกล้าพูดคำนี้ออกมา แต่ว่าเขามั่นใจว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ!
สำหรับเขาแล้ว หากว่าแม้แต่ความมั่นใจนี้ยังไม่มี แล้วเขายังจะคู่ควรเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์อยู่ไหม?
“ดี ดีมาก!” เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ “เจ้าคิดว่าสามารถทำลายร่างแยกของข้าได้ สามารถสังหารข้าได้สินะ? ช่างคิดตื้นจริงๆ ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่เลือกปฏิเสธข้า!”
ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แม้ว่าความเสียหายจะไม่มาก แต่หากว่าสามารถสมบูรณ์แบบได้มากกว่านี้ แล้วใครยังเต็มใจที่จะมีตำหนิกัน?
ภายใต้ความเดือดดาล พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง โดยเฉพาะเปลวเพลิงเทียนหยินของเขาที่เหมือนกับจะคลั่งไปแล้ว มันทำการลุกโหมออกทุกทิศทาง ทุกที่ที่สัมผัส ต่างก็ถูกแช่แข็งเป็นหย่อมๆ เปลวเพลิงเทียนหยินอันน่าสะพรึงนี้ ได้มีความเย็นมาถึงขีดสุด จนสามารถแช่แข็งได้ทุกสิ่ง!
ขณะเดียวกัน ร่างของเขาก็เริ่มขยายขนาดขึ้น มีแขนงอกขึ้นมาจากบริเวณต่างๆ ของร่าง ไม่ว่าจะหน้าอก ไหล่ หลัง ต่างก็มีแขนกำยำโผล่ขึ้นมา แขนแต่ละข้างมีขนาดเทียบได้กับร่างของคนคนหนึ่ง เหมือนกับแขนของยักษ์ก็ไม่ปาน!
“ไม่ดีแล้ว เขาต้องเปลี่ยนร่างด้วยพลังของเผ่าวิญญาณร้ายอย่างแน่นอน!” บรรพชนทั้งสามหน้าเปลี่ยนสี พวกเขาเคยเห็นพลังของเผ่าวิญญาณเมื่อนานมาแล้ว แต่แม้จะไม่เคยเห็น แต่ก็มีจุดสังเกตที่สามารถบอกได้
จากนั้น พวกเขาก็พากันโจมตีเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง ต้องการขัดขวางการเปลี่ยนร่างของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง เพราะหลังจากเปลี่ยนร่าง นั่นจึงจะเป็นพลังที่แท้จริงของเขา เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขายังจะต้านทานอีกฝ่ายได้อยู่ไหม?
“แค่แสงของหิ่งห้อย จะไปทำอะไรได้?”
เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงยื่นมือออกมาบี้การโจมตีของบรรพชนทั้งสามที่โจมตีเข้ามา จนทำให้การโจมตีนั้นถูกเปลวเพลิงเทียนหยินแช่แข็งเข้าให้ จากนั้นก็ตกลงบนพื้น ก่อนที่จะกลายเป็นละอองน้ำแข็งไป!
เมื่อปลดปล่อยพลังของตนออกมาโดยสมบูรณ์พร้อมกับโจมตีสวนกลับ ก็ทำให้การต่อต้านทรงพลังยิ่งกว่าก่อนหน้า เหมือนกับว่าไม่ใช่ระดับเดียวกัน
และในขณะที่เขาทำการบดขยี้การโจมตีของบรรพชนทั้งสาม พร้อมกันนั้นก็ได้มีแสงสีดำที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ พุ่งผ่านเปลวเพลิงเทียนหยินที่อยู่รอบๆ เข้ามาด้วยความเร็วอันน่าถึง กระทั่งว่าสะกดได้อย่างสมบูรณ์จนมาถึงหน้าอกของเขาอย่างรวดเร็ว!
แม้ว่าจะกะทันหันเกินไป แต่เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงก็พอที่จะตอบสนองได้ทัน พร้อมกับยื่นมือออกไปรับการโจมตีนั้น
“เคร้ง!”
เสียงเหมือนเหล็กปะทะกันดังมา ยังไงก็ตาม บนมือของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงก็ไม่มีเหล็กอยู่บนนั้นแม้แต่น้อย แต่ก็ยังสามารถส่งเสียงที่แหลมบาดหูออกมาได้
“เปรี้ยง!”
คลื่นอัดอากาศแผ่พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ตามมาด้วยเปลวเพลิงสีดำที่พวยพุ่งออกรอบๆ แม้กระทั่งตัวเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเองยังถูกการโจมตีนี้จ้วงเข้าให้
ภายใต้พลังทะลุทะลวงอันน่าสะพรึงนี้ เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงก็ถูกซัดกระเด็นไป หลังจากที่ถูกทำให้ถอยไปหลายสิบก้าว ก็พอที่จะหยุดตัวลงได้ และในตอนนี้ บนพื้นก็ปรากฏรอยเท้าลึกนับหลายสิบรอยขึ้น เป็นหลักฐานชั้นดีเลยว่าการโจมตีนี้อหังการมากแค่ไหน
“นั่นมันอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์…..” ผู้คนพากันสูดหายใจเฮือก ไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนจะใจถึงเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ก็เสียอุปกรณ์ระดับเทวะไป มาตอนนี้ยังสละอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ด้วย แม้ว่าระดับจะต่ำกว่ามาก แต่จะดีจะร้ายก็เป็นถึงอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง บอกว่าจะสละเป็นสละ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าประสิทธิภาพของมันมีมากเพียงพอ เป็นพลังที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะอย่างน้อยก็ทรงพลังมากกว่าการโจมตีด้วยมือเปล่า และจะดียิ่งขึ้นหากว่าสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ เพราะว่าหากไม่สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ ก็เท่ากับว่าได้เสียอาวุธชิ้นนั้นไป
“ติ๋ง…..”
เสียงหยดเลือดไหลออกจากฝ่ามือของเขาตกลงพื้น แต่ก็ไม่ได้สลายไปบนพื้น แต่กลับเผาพื้นจนกลายเป็นหลุมลึกแทน! พลังที่อหังการขนาดนั้น แต่กลับทำให้ฝ่ามือของเขาเกิดแผลเล็กๆ เท่านั้น ไม่แม้แต่จะทะลุฝ่ามือของอีกฝ่าย
ก่อนหน้านี้สามารถทะลุฝ่ามือของเขาไป แต่ตอนนี้กลับไม่สามารถทำได้แล้ว? หรือจะเป็นเพราะอาวุธที่ใช้คราวนี้คืออุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ประสิทธิภาพของมันขาดไปมาก?
แน่นอนว่าประสิทธิภาพย่อมต่างกัน แต่ที่สำคัญคือพลังป้องกันของฝ่ามือใหญ่นั้นต่อการโจมตีนี้ได้เพิ่มขึ้น! ฝ่ามือใหญ่นี้งอกมาจากหน้าอก ขณะที่ผิวหนังมีแสงสีทองแวววาวออกมา ดูแล้วเจิดจ้าเป็นอย่างมาก และไม่เพียงแต่มือที่บริเวณหน้าอกเท่านั้น แต่กระทั่งฝ่ามือบริเวณอื่นก็เปล่งแสงสีทองออกมาเช่นกัน ราวกับปกคลุมไปด้วยทอง 1 ชั้น
ส่วนตัวคนก็ได้เปลี่ยนเป็นวิญญาณร้ายสีทอง นอกจากแขนธรรมดาทั้งสองข้างแล้ว ก็มีแขนงอกมาเพิ่มอีก 4 ข้าง รวมเป็น 6 ข้าง เทียบกับจี้หยางแล้วยังมากกว่า 2 ข้าง
ไม่เพียงแต่จะมีแขนมากกว่า 2 ข้างเท่านั้น แต่กระทั่งพลังเองยังเพิ่มขึ้นมาก จนพลังรบมาถึงขั้นที่น่าสะพรึง
เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง : ระดับราชาเซียนขั้นสูงสุด, ครึ่งก้าวสู่ราชาศักดิ์สิทธิ์, ทั้งร่างวูบวาบไปด้วยแสงสีทองสว่าง มีร่างกายที่ไม่สามารถทำลายได้ของเทพจิน(ทองคำ) สามารถต้านทานการโจมตีทุกอย่าง มีพลังป้องกันที่ท้าทายสวรรค์อย่างมาก แข็งแกร่งเทียบเท่ากับอุปกรณ์ระดับเทวะขั้นต่ำ ยิ่งการระเบิดพลังยิ่งน่าทึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธอะไร เพียงแค่หมัดเปล่าๆ ก็มีพลังเทียบเท่าอุปกรณ์ระดับเทวะขั้นต่ำ! พลังรบสูงถึง 2.2 หมื่นล้าน!
พลังรบ 2.2 หมื่นล้าน เทียบกับเมื่อกี้แล้วยังมากกว่ากันหลายพันล้าน เพียงแค่เปลี่ยนร่างก็น่ากลัวขนาดนี้แล้ว นี่คือพลังของสายเลือดอย่างงั้นเหรอ?
เมื่อเผ่าฟีนิกซ์ระเบิดพลังก็มีพลังที่น่ากลัวเช่นกัน แต่ว่าก็ยังด้อยกว่าการระเบิดพลังของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง ทั้งบรรพชนทั้งสามยังมีระดับที่อ่อนแอเกินไป ต่อให้ระเบิดพลังออกมา ก็เทียบไม่ได้แม้แต่พลังของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงตอนที่ยังไม่เปลี่ยนร่าง
ไม่แปลกที่ตอนแรกจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนชั้นยอดถึงสองคนเพื่อทำการสะกดเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงผู้นี้ แต่สุดท้ายก็ยังแยกวิญญาณหนีไปได้ นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพลังของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงนั้น ดีกว่าเล็กน้อยหากเทียบกับเผ่าฟีนิกซ์
ในสถานการณ์ที่ถูกสะกด แต่ก็ยังสามารถแบ่งวิญญาณหนีไปได้ แค่นี้ยังไม่บอกถึงความทรงพลังของเขาได้อีกเหรอ?
แต่แม้จะเหนือกว่ามาก แต่ก็ถูกการโจมตีของอี้เทียนหยุนสร้างบาดแผลให้ได้สำเร็จ หมายความว่าตัวเขาในตอนนี้ยังไม่ไร้เทียมทานอย่างแน่นอน การโจมตีก่อนหน้านี้ของอี้เทียนหยุนมีพลังรบสูงถึงระดับ 1.9 หมื่นล้าน แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างอาการบาดเจ็บให้กับเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงได้
ยังไงก็ตาม ตัวเขาก็สามารถสร้างบาดแผลขนาดเท่าเส้นขนให้กับอีกฝ่ายได้! แต่ว่านี้ยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา แต่ก็ใกล้ขีดจำกัดของเขาเช่นกัน แต่ต่อให้ระเบิดพลังทั้งหมดออกมา ก็กลัวว่าคงจะไม่สามารถมีพลังรบเหนือไปกว่าเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงได้
เพราะความต่างระหว่างทั้งสองนั้นห่างมากจริงๆ หากปล่อยให้อีกฝ่ายดูดวิญญาณต่อ อี้เทียนหยุนรู้สึกว่าพลังรบของอีกฝ่ายจะต้องไม่ใช่แค่นี้แน่ อย่างน้อยย่อมต้องสูงกว่านี้อย่างแน่นอน!
ยิ่งพูดก็ยิ่งน่ากลัว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฝ่ายตรงข้ามระเบิดพลังแล้วมีความท้าทายสวรรค์พอๆ กับโหมดคลั่งของเขา และความจริงก็เป็นการท้าทายสวรรค์จริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆ จะแย่สักหน่อย
หากให้คนอื่นที่มีสายเลือดที่แข็งแกร่งทรงพลังแบบนี้ระเบิดพลังออกมา ก็สามารถมีพลังที่น่าทึ่งแบบนี้ได้เช่นเดียวกัน