ตอนที่ 650: ความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด!
“แค่เป็นแผลเท่าเส้นขนเท่านั้น ช่างเป็นพลังป้องกันที่น่ากลัวจริงๆ….”
อี้เทียนหยุนไม่ได้ผิดคาด เพราะข้อมูลในปัจจุบันได้ถูกดวงตาประเมินตรวจสอบออกมาแล้ว แต่ยังไงการปฏิบัติจริงก็ทำให้เข้าใจได้มากกว่า หลังจากที่โจมตีไป เขาก็มั่นใจแล้วว่าพลังป้องกันของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงนั้นอหังการมากพอจริงๆ
ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็พากันหน้าถอดสี ด้วยการโจมตีที่อหังการของอี้เทียนหยุนนั้น กลับสร้างบาดแผลได้เท่าเส้นขนเท่านั้น? ซึ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกสิ้นหวังขึ้นหลายเท่า ต่อให้อี้เทียนหยุนจะไม่เข้าร่วมกับอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายก็มีพลังพอที่จะบดขยี้พวกเขาได้อยู่ดี
ไม่แปลกที่เขาจะพาทัพใหญ่ขนาดนั้นบุกเข้ามา ด้วยพลังขนาดนี้ จะเป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะไม่สามารถบดขยี้เผ่าฟีนิกซ์ได้? ขุมกำลังภายในตลอดหลายปีมานี้ของเผ่าฟีนิกซ์ แท้จริงแล้วยังไม่พอแม้แต่จะสะกดเผ่าวิญญาณร้ายเอาไว้ได้ ซึ่งนี้ทำให้พวกเขาพากันรู้สึกเศร้าใจมากจริงๆ เศร้าใจที่ต้องมาถูกสะกดไว้อย่างนี้
หากว่าศึกนี้พวกเขาเป็นฝ่ายแพ้ เผ่าฟีนิกซ์ของพวกเขาก็จะกลายเป็นทาส ไม่มีปากมีเสียง ยิ่งกว่านั้น ยังมีชะตากรรมที่น่าสะพรึงที่สุดรออยู่ นั่นก็คือการถูกดึงเอาแกนโลหิตออกไป เพื่อให้พวกเขาทำการดูดซับ
ที่เผ่าวิญญาณร้ายเลือกที่จะปราบเผ่าฟีนิกซ์ก็เพื่อแกนโลหิตของเผ่าฟีนิกซ์ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มพลังให้กับพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่อย่างนั้น พวกเขาคงไม่ทุ่มกำลังทั้งหมดเพื่อเข้ามาปราบเผ่าฟีนิกซ์ของพวกเขาหรอก หากว่าไม่ได้ประโยชน์อะไร
สำหรับสายเลือดเผ่ามนุษย์ที่แสนธรรมดานั้น พวกเขาล้วนแต่ไม่มีความสนใจแม้แต่น้อย แต่การที่อีกฝ่ายเลือกที่จะช่วยพวกตนนั้น ให้ความรู้สึกที่ดีมากจริงๆ
“พลังก็ถือว่าแข็งแกร่งล่ะนะ แต่ว่ายังขาดอีกมาก!”
เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงหัวเราะเยาะ พร้อมกับมือที่ถือมีดสั้นทำการแทงเข้าไป แสงคมปลาบวิ่งเข้าใส่อี้เทียนหยุน ไม่ว่าจะเป็นพลังหรือความเร็ว ล้วนแต่แข็งแกร่งกว่าการโจมตีที่อี้เทียนหยุนเขวี้ยงออกไปเมื่อก่อนหน้านี้หลายเท่า!
ทันใดนั้น มีดสั้นเล่มนั้นก็ได้มาถึงตรงหน้าอี้เทียนหยุน เขาทำการหรี่ตา พร้อมกับยกมือขึ้นคว้ามีดสั้นเล่มนั้นด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า “เอี๊ยด” จนมีเสียงแสบหูดังออกมา
แรงที่ส่งมาทำให้เขาต้องถูกทำให้ถอยออกไปหลายสิบก้าว ก่อนที่จะพอหยุดไว้ได้ ยังไงก็ตาม มือข้างนั้นของเขาก็ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย พลังป้องกันที่น่าสะพรึงของเขา ได้สยบการโจมตีนี้ไว้ได้!
ด้วยชุดเกราะเทพมารและเซ็ตหายนะบรรพกาลสองชิ้น ทำให้พลังป้องกันของเขามาถึงขั้นน่าสะพรึงอย่างไม่น่าเชื่อ สามารถแบกรับการโจมตีที่น่าสะพรึงนี้เอาไว้ได้อย่างเหลือเฟือ แม้พลังรบจะด้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องแพ้ซะหน่อย!”
ยังไงก็ตาม การที่พลังรบอ่อนแอ ก็หมายความว่ามีพลังด้อยกว่าฝั่งตรงข้าม ไม่ได้หมายความว่าพลังป้องกันจะอ่อนแอกว่า แม้พลังรบจะนับพลังป้องกันเข้าไปด้วย แต่ว่าตัวเลขด้านนี้กลับมีค่าน้อยมาก ดังนั้นจึงไม่สามารถมองแต่พลังได้
“เป็นพลังที่แข็งแกร่งมาก” อี้เทียนหยุนรู้สึกมือชา เกือบจะทะลวงการป้องกันของเขาได้ หากว่าพลังป้องกันของเขาด้อยกว่า ร่างของเขาก็คงถูกมีดสั้นเล่มนี้แทงทะลุอย่างแน่นอน
ยังไงก็ตาม เขาก็มีหลายวิธีที่จะไม่ให้ร่างกายของตนถูกแทงทะลุไป จากความรู้สึกของเขา พลังของฝั่งตรงข้ามนั้นแข็งแกร่งอย่างแท้จริง
ผู้คนพากันสูดหายใจเฮือก การโจมตีที่อหังการขนาดนั้น แต่ว่าเขากลับสามารถป้องกันไว้ได้จริงๆ? ทันใดนั้นก็ทำให้พวกเขาพลันมีความหวังขึ้นมา
“ผิวของเจ้าเหมือนจะแข็งมาก งั้นมาดูกันว่าเจ้าจะสามารถทนการโจมตีของข้าได้สักกี่ครั้ง!”
“ปัง!”
เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงถีบเท้าลงกับพื้น ทำให้บนพื้นปกคลุมไปด้วยค่ายกลเต็มไปหมด ภายใต้การกระแทกเท้านี้ ทันใดนั้น ถ้ำก็กลายเป็นฝุ่นไป
จากนั้น เขาก็กลายเป็นแสงสีทองพุ่งออกไปในทันที เปล่งแสงเจิดจ้าในประตูที่มืดมิด เหมือนกับพระอาทิตย์ที่กำลังส่องสว่างอยู่ในห้องลับแห่งนี้
เขาไม่มีอาวุธอะไร แต่เพียงแค่ร่างกายเปล่าๆ ก็แข็งแกร่งพอๆ กับอาวุธแล้ว หมัดของเขาเทียบได้กับอุปกรณ์ระดับเทวะขั้นต่ำ แล้วเขายังต้องการอาวุธอะไรอีก?
“มาได้ดี!”
อี้เทียนหยุนสายตาเย็นชา พร้อมกันนั้นก็โคจรสายเลือดเทพมังกรในร่างอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ผิวที่ดำสนิทมีแสงสีแดงเปล่งออกมา 1 ชั้น
“สายเลือดเทพมังกร จงเปิด!”
“สายเลือดราชวงศ์ฟีนิกซ์ จงเปิด!”
ภายใต้การเปิดใช้งานสายเลือดคู่ ทำให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง บนผิดที่ดำสนิทได้ปรากฏเกล็ดมังกรขึ้น ขนาดปีกสีดำที่ด้านหลังก็เริ่มกลายเป็นปีกของฟีนิกซ์ไป!
การเปิดใช้งานสายเลือดคู่ เป็นการจับคู่ที่ท้าทายสวรรค์อย่างมาก
พลังรบ 1.75 หมื่นล้าน!
พลังรบ 1.8 หมื่นล้าน!
พลังรบ 1.85 หมื่นล้าน!
พลังรบ 1.9 หมื่นล้าน!
พลังรบ 1.95 หมื่นล้าน!
พลังรบ 2 หมื่นล้าน!
พลังรบ 2.05 หมื่นล้าน!
จนในที่สุด พลังรบก็ได้หยุดอยู่ที่ 2.05 หมื่นล้าน ภายใต้พลังของสายเลือดคู่ ทำให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นอีก 3.5 พันล้าน
นี่ก็ถือว่าท้าทายสวรรค์มากเช่นกัน หากไม่ใช่สายเลือดระดับสูง ไม่มีทางที่ประสบความสำเร็จจนมีผลลัพธ์ที่น่ากลัวแบบนี้ได้
ในที่สุด พลังที่เก็บเอาไว้ในส่วนลึกก็ได้เปิดใช้งาน เขากลายเป็นเหมือนกับอุกกาบาตสีดำขนาดยักษ์ พุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายเสียงดัง
“ปัง ปัง!!”
แสงสีดำและสีทองปะทะใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ราวกับอุกกาบาตสีดำชนเข้ากับดวงอาทิตย์ ทันใดนั้นก็ก่อให้เกิดพลังที่น่าสะพรึงออกมา สร้างเป็นพลังที่ทำลายล้างทุกสิ่งกระจายออกรอบๆ อย่างรวดเร็ว ค่ายกลที่อยู่บนพื้น รวมถึงรูปปั้นที่อยู่ใกล้ๆ ก็ถูกทำลายในพริบตา
อย่างรวดเร็ว ถ้ำฟีนิกซ์ที่แข็งแกร่งก็ต้องเผชิญหน้ากับการพังทลาย ไป๋สุ่ยหวงกับพวกรีบพากันถอยออกไปจากที่นี่ในทันที พวกเธอไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อได้ ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกลูกหลงจากพลังของพวกเขาทำร้ายเอา
บรรพชนทั้งสามนั้นสามารถทนได้ แต่หากพวกไป๋สุ่ยหวงถูกคลื่นพลังนี้เข้าไป ต่อให้ไม่ตายก็ต้องพิการ
“น่ากลัวนัก ทูตศักดิ์สิทธิ์มีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว…..”
พวกเขามองเห็นสีหน้าแตกตื่นจากอีกฝ่าย ขณะเดียวกันก็มองเห็นความหวังที่อี้เทียนหยุนจะชนะ! หากเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงชนะ พวกเขาจะต้องถึงจุดจบ
ต่อให้คนในเผ่าของพวกเขาจะหนีไปได้ แต่จากนี้ไปก็คงจะไม่กล้าโผล่หน้าออกมาอีก หากออกมา ก็จะถูกเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงจับตัวไว้ เมื่อถึงตอนนั้น ก็จะต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ที่ต้องถูกดึงแกนโลหิตออกไปจนแห้งตาย
“ไม่รู้ว่าระหว่างพวกเขาใครจะเป็นผู้ชนะ แต่ข้าหวังว่าทูตศักดิ์สิทธิ์จะเป็นฝ่ายชนะ….”
พวกเขาพากันภาวนาขึ้นในใจ แต่โดยไม่ต้องให้พวกเขาคิดนาน “เปรี้ยง” แสงสีดำก็ถูกกระแทกจนปลิวออกมาจากถ้ำฟีนิกซ์ หลังจากนั้นก็มีเปลวเพลิงลุกตามมา ทุกคนต่างก็เห็นชัด ว่าคนที่ถูกกระแทกออกมานั้นคืออี้เทียนหยุน!
หน้าอกของอี้เทียนหยุนยุบเป็นโพรง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นแผลที่เกิดจากหมัด จากนั้นเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงก็บินขึ้นมาจากใต้ดิน สภาพของอีกฝ่ายนั้นดีกว่ามาก หากว่าเทียบกับอี้เทียนหยุน บาดแผลบนร่างนั้นไม่มี ขณะที่ร่างยังคงเปล่งแสงสีทองเจิดจ้าเช่นเดิม
ไม่เพียงแต่เท่านี้เท่านั้น แต่พลังรบของเขาก็ได้เพิ่มขึ้นอีก จากพลังรบ 2.2 หมื่นล้าน ได้เพิ่มเป็น 2.3 หมื่นล้านแล้ว! เหมือนว่ายิ่งต่อสู้ยิ่งร้ายกาจ ยิ่งต่อต้านยิ่งมีพลังที่น่ากลัว
“พลังของเจ้านั้นดี แต่หากเทียบกับข้าแล้วยังแย่อยู่มาก เป็นแค่มดปลวกจากเผ่ามนุษย์ที่มีสายเลือดขยะ ยังกล้ามาอวดดีต่อหน้าข้า!” เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงมองลงมายังเขาด้วยท่าทางโอหัง
ในสายตาเต็มไปด้วยความดูถูก “สายเลือดของข้าเพียงพอที่จะสะกดเจ้ามาตั้งแต่เริ่ม! ไม่เพียงแต่นี่เท่านั้น แม้แต่พลังของวิชายุทธ์เอง เมื่อเทียบกับเจ้าแล้วก็ยังสูงกว่า!”
คำพูดของเขาไม่ใช่คำโกหก ระดับวิชายุทธ์ของอีกฝ่ายหากเทียบกับอี้เทียนหยุนแล้วแข็งแกร่งกว่า วิชายุทธ์ของเขาสูงสุดคือระดับสวรรค์ขั้นสูง ยิ่งกว่านั้นยังต้องอัพเกรดให้สมบูรณ์ด้วย
อี้เทียนหยุนนั้นมีวิชายุทธ์มากมาย แต่ที่เหมาะกับเขาจริงๆ นั้นมีค่อนข้างน้อย วิชายุทธ์ของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนนั้นร้ายกาจมาก แต่ก็ยากที่เติมเต็มช่องว่างระหว่างคนทั้งสอง
“สายเลือดของเผ่ามนุษย์เป็นขยะอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดด้วยสายตาเป็นประกายวาว “ข้าไม่ปฏิเสธว่าสายเลือดของเผ่ามนุษย์เรานั้นธรรมดา แต่พวกเรามีหัวใจที่มั่นคงอย่างไม่น่าเชื่อ….. ดังนั้น ทั้งโลกจึงเป็นของเผ่ามนุษย์เรา เพราะพวกเรามีความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด!”
ในความคิดของเขา ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าหัวใจเต๋าที่มั่นคง!
หากแม้แต่หัวใจเต๋ายังไม่มั่นคงแล้ว ยังจะพูดเรื่องฝึกตนไปทำอะไร? ต่อให้จะมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งสักแค่ไหน แต่หากไร้ซึ่งหัวใจเต๋าที่มั่นคงแล้ว สุดท้ายก็ไม่มีทางที่จะเข้าสู่ระดับที่สูงกว่าได้ ซึ่งนี่ก็ไม่ได้เป็นการพูดเหลวไหลไร้สาระ
ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนเองก็เป็นผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์ ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายก็เข้าสู่ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างงั้นเหรอ? ยิ่งกว่านั้นยังเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ราชาศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันด้วย ถึงกับสามารถบดขยี้ราชาศักดิ์สิทธิ์คนอื่นจนเละคามือ!