Crazy Leveling System ตอนที่ 658: ไปโลกสวรรค์!

ตอนที่ 658: ไปโลกสวรรค์!

หลังจากที่อี้เทียนหยุนยืนยันว่าตนได้รับสิทธิ์ในการควบคุมแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนแล้ว ก็ได้ขึ้นไปยืนบนค่ายกลเคลื่อนย้ายโลกสวรรค์ในทันที

ค่ายกลเคลื่อนย้ายโลกสวรรค์นั้นตั้งอยู่บนยอดสุดของแท่นบูชาเทพเติ้งเทียน ซึ่งเป็นมหาค่ายกลที่มีขนาดใหญ่มาก เพื่อที่จะเคลื่อนย้ายไปยังโลกสวรรค์ ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนจึงได้ลงแรงสร้างมหาค่ายกลนี้ให้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ทำให้พลังงานที่ต้องสูญเสียในการใช้แต่ละครั้งมาถึงขั้นน่าตระหนก

ที่เขาทำอย่างนี้ก็เพื่อให้มีเส้นทางอีกเส้นที่สามารถไปยังโลกสวรรค์ได้ หากว่าเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเกินปัญหา

ตอนนี้โลกใต้พิภพและโลกสวรรค์ไม่สามารถเดินทางไปหากันได้ เพราะว่าเส้นทางในตอนนี้ไม่มั่นคง ทำให้ไม่สามารถผ่านไปได้ หากฝืนบุกเข้าไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเจอกับอันตรายมากขนาดไหน

ดีที่มีแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนอยู่ ทำให้เขาสามารถไปยังโลกสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย และมหาค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ก็ไม่เพียงแต่สามารถส่งคนเพียงคนเดียวขึ้นไปได้เท่านั้น แต่ยังสามารถส่งคนเป็นกองทัพขึ้นไปได้เช่นกัน ตราบใดที่มีพลังวิญญาณเพียงพอ ก็สามารถส่งคนขึ้นไปได้ตามต้องการ

แต่ตอนนี้เขาต้องการขึ้นไปเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นเรื่องอื่นๆ จึงง่ายขึ้นไปอีก ทำให้ไม่ต้องเสียพลังวิญญาณไปมากเกินไปนัก

“เริ่มเคลื่อนย้ายไปยังโลกสวรรค์ได้!” อี้เทียนหยุนบอกกับวิญญาณมายาที่อยู่ใกล้ๆ

“ค่ะ นายท่าน” วิญญาณมายายอมรับอี้เทียนหยุนเป็นนายคนถัดไปแล้วในตอนนี้ ตราบเท่าที่ระดับของเขามาถึงระดับที่กำหนด เขาก็จะกลายเป็นเจ้านายตัวจริง

จากนั้น วิญญาณมายาก็ได้เริ่มเปิดใช้งานมหาค่ายกลเคลื่อนย้าย อย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนก็สั่นไหว พร้อมกับมีแสงสว่างส่องมาจากมหาค่ายกล เมื่อเหล่าผู้ฝึกตนพเนจรที่อยู่ด้านนอกเห็นฉากนี้เข้า ก็พากันตกใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ผู้อาวุโสใหญ่นอกเผ่าคนนั้นเข้าไป ก็ได้เกิดสิ่งนี้ขึ้น นี่เขากำลังเปิดใช้งานอะไรกัน?”

“คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ พวกเราแค่ดูอยู่ใกล้ๆ นี้ก็พอแล้ว แต่ว่าคราวนี้ แดนศักดิ์สิทธิ์อี้หลงคงต้องชดใช้สาหัสมากทีเดียว ยกให้คนโง่เป็นราชครู ไม่เพียงแต่ไม่ได้ประโยชน์เข้าตัวเท่านั้น แต่ยังไปสร้างปัญหาให้กับประเทศตัวเองอีก!”

“ฮ่าๆ นี่ช่างน่าสนใจนัก”

ผู้คนพากันสงบอารมณ์ดูเรื่องสนุก พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับแดนศักดิ์สิทธิ์อี้หลงแม้แต่น้อย ดังนั้น เรื่องในคราวนี้จึงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขา

“เปรี้ยง!”

ในขณะที่พวกเขากำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่นั้น แท่นบูชาเทพเติ้งเทียนก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ก่อนที่จะยิงลำแสงขนาดยักษ์ขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ทะลุผ่านเมฆ จนเป็นผลให้เกิดแผ่นดินไหว พื้นดินรอบๆ ในระยะสิบลี้ ต่างก็เกิดแผ่นดินไหวไปตามๆ กัน

แต่ไม่ว่าจะยังไง ลำแสงนี้ก็ได้หายไปอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เชื่อมต่อกับเส้นขอบฟ้า มันก็ได้หายไปในทันที ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับคืนสภาพปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“หือ ทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยล่ะ?”

ผู้คนพากันสงสัย ดูแล้วเหมือนจะเป็นมหาค่ายกลที่เอาไว้ใช้ยิงปืนใหญ่ แต่ใครจะรู้ว่ากลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาก็คิดว่าอี้เทียนหยุนจะเปิดใช้มหาค่ายกลอะไรเพื่อโจมตีออกมา หรือไม่ก็สร้างปรากฏการณ์อะไรบางอย่างขึ้นแก่โลก แต่ใครจะคิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

และในขณะที่พวกเขาพากันคาดเดาอยู่นั้น หลังจากที่อี้เทียนหยุนได้ถูกส่งตัวมาในระยะเวลาอันสั้น เขาก็รู้สึกเพียงร่างกายถูกอะไรบางอย่างฉุดดึงไปเท่านั้น ดีที่ระดับของเขาไม่ได้ต่ำ ไม่อย่างนั้นคงถูกสิ่งนี้ฉีกขาดเป็นสองท่อนไปแล้วจริงๆ แรงฉุดดึงที่เขาได้รับนี้ น่ากลัวมากจริงๆ เพียงพอที่จะฉีกร่างผู้ฝึกตนที่มีระดับต่ำให้กลายเป็นเศษนับไม่ถ้วนได้ง่ายๆ เลย

แต่กระบวนการนี้ก็เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนว่าตนได้เข้าสู่พื้นที่ที่ไม่ปกติ และจากนั้น สายตาของเขาก็ฟื้นกลับคืนมาเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว

สิ่งแรกที่ปรากฏต่อสายตาของเขาก็คือมหาค่ายกล ซึ่งอยู่บนพื้นที่อันกว้างใหญ่ของวิหารเทพเหมือนก่อนหน้า แต่เมื่อดูดีๆ แล้ว เขาก็พบว่าค่ายกลของที่นี่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มาก ไม่เหมือนกับมหาค่ายกลก่อนหน้า

ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อต้องเคลื่อนย้ายจากโลกสวรรค์ไปยังโลกใต้พิภพ มหาค่ายกลก็ต้องมีความแตกต่างกันบ้างเป็นธรรมดา เขาไม่คิดว่าการเคลื่อนย้ายนั้นจะล้มเหลว แต่หากจะล้มเหลว ก็ต้องไม่ใช่ความผิดของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน

ค่ายกลเคลื่อนย้ายของแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนนั้นแตกต่างจากค่ายกลที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว แต่ว่าสิ่งก่อสร้างที่ใช้สำหรับวางค่ายกลเคลื่อนย้ายในโลกสวรรค์นี้กลับเหมือนกัน แม้แต่ภายนอกก็ไม่มีอะไรต่าง

และตัวเขาเองก็สามารถควบคุมที่นี่ได้เช่นกัน ยังคงสามารถควบคุมค่ายกลทั้งหมดในนี้ได้เหมือนกับก่อนหน้า ไม่มีอะไรเปลี่ยน ทำให้ที่นี่กลายเป็นป้อมปราการที่เชื่อใจได้ ยากที่จะมีใครบุกเข้ามา

ในตอนแรกที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา ก็เพื่อที่จะให้บางคนสามารถใช้มันเพื่อจัดการกับสัตว์อสูรจากภายนอก หากจะใช้เส้นทางธรรมดาทั้งสองเส้นทางนั้น มันออกจะช้าเกินไปจริงๆ และที่นี่ก็สามารถทำการเคลื่อนย้ายแบบเป็นกลุ่มได้

เส้นทางภายนอกนั้นถูกทำลายได้โดยง่าย แต่ค่ายกลเคลื่อนย้ายภายในนั้นย่อมมั่นคงอย่างแน่นอน ดังนั้น ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนจึงได้ใส่ใจในการสร้างสิ่งปลูกนี้เป็นพิเศษ

เขาเดินออกไปนอก และที่ปรากฏต่อสายตาของเขาก็คือภูเขากว้างและแม่น้ำที่ยาวสุดลูกหูลูกตา โลกสวรรค์และโลกใต้พิภพนั้น แม้จะฟังดูแล้วน่ากลัว แต่ที่จริงแล้วทั้งสองที่นั้นเหมือนกัน ต่างก็เป็นที่ที่มีพลังวิญญาณหนาแน่นไม่ต่างกัน

สิ่งที่เดียวที่แตกต่างระหว่างพลังวิญญาณทั้งสองที่ก็คือ พลังวิญญาณของโลกสวรรค์นั้นเหมาะกับผู้ชายมากกว่า ขณะที่โลกใต้พิภพนั้นกลับเต็มไปด้วยความบรรยากาศที่อึมครึมและหนาวเย็นกว่า

แต่ว่าจะเลือกฝึกฝนที่ไหนนั้นก็ไม่มีอะไรต่าง อย่างเช่นเผ่าฟีนิกซ์ที่มีเป็นธาตุไฟนั้น ทำไมถึงยังอยู่ในโลกใต้พิภพล่ะ?

ยังไงก็ตาม หากได้อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม ก็ย่อมมีประสิทธิภาพกว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องสงสัย ซึ่งโลกมนุษย์นั้นกลับเป็นดินแดนที่เหมาะกับคนทุกสภาพ ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นพลังแบบไหน

และโดยทั่วไปแล้ว สถานที่ต่างๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก ที่นี่ก็ไม่ได้งดงามราวกับสรวงสวรรค์ ขณะที่โลกใต้พิภพก็ไม่ได้โหดร้ายดั่งนรก มันก็เป็นแค่ชื่อเรียกเท่านั้น

เทียบกับแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนบนโลกใต้พิภพแล้ว แท่นบูชาเทพเติ้งเทียนของโลกสวรรค์นี้กลับค่อนข้างใหญ่ แค่มองดูจากที่นี่ก็เห็นกลุ่มคนที่พากันเดินเข้าออกแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนอยู่บ่อยครั้ง

ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแต่ละคนนั้นมาจากขุมอำนาจที่ต่างกัน เห็นได้ว่าที่นี่นั้นต่างจากโลกใต้พิภพ ที่ใครก็สามารถมาได้อย่างงั้นเหรอ? สิ่งเดียวที่ต่างก็คือ บนยอดของแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนนี้ ไม่มีใครสามารถขึ้นมาได้

ตราบใดที่เข้าไปใกล้ ก็จะถูกที่นี่ป้องกันไว้ ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนไม่ต้องการให้ใครขึ้นมา ไม่อย่างนั้น ค่ายกลเคลื่อนย้ายของที่นี่อาจจะถูกทำลาย ซึ่งถือว่าอันตรายมาก

“น่าสนใจ ไม่รู้ว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นแบบนี้ได้…..”

ร่างของอี้เทียนหยุนกระพริบวาบ ทันใดนั้นก็หายไปจากค่ายกลเคลื่อนย้าย ราวกับว่าที่นี่ไม่เคยมีคนอยู่มาก่อน

“หือ ทำไมเมื่อกี้นี้ข้าเหมือนเห็นเงาคนบนแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนล่ะ?”

“ไหน ทำไมข้าไม่เห็น? ไม่ใช่ว่าเจ้าตาฝาดหรอกนะ? ตั้งหลายปีมาแล้ว ไม่เคยมีใครเห็นคนมาจากที่นั่นเลย แม้แต่เข้าใกล้ก็ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ”

“ใช่ เหมือนว่าข้าจะตาฝาดจริงๆ?”

ผู้ฝึกตนคนนั้นเอามือกุมหัว และเมื่อหันไปมองทางนั้นอีกครั้ง เขาก็ไม่เห็นใครอยู่จริงๆ ในเมื่อไม่มีใครสามารถปีนขึ้นไปข้างบนได้ งั้นเมื่อกี้นี้เขาคงจะตาฝาดจริงๆ

“ข้าก็ว่าเจ้าตาฝาดแหละ พวกเรารีบไปเร็ว แท่นบูชาเทพเติ้งเทียนกำลังจะเปิดทดสอบแล้ว หากพวกเราไม่ไปตอนนี้จะไม่มีที่เอาได้!”

สหายของเขากรอกตา จากนั้นก็บินนำไปยังแท่นบูชาเทพเติ้งเทียน สหายของเขาเอามือกุมหัว จากนั้นก็ทำได้เพียงบินตามไป ไม่คิดอะไรอีก

Crazy Leveling System

Crazy Leveling System

Status: Ongoing
อ่านนิยายCrazy Leveling System ปมเพาะไม่ได้เพราะเส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ? ไม่ใช่ปัญหา! เพราะมีระบบเพิ่มเลเวล แสนบำคลั่งอยู่ เจ้าแค่หภารกิจ สังหารสัตว์อสูร ดูดกลืนพลังวิญญาณของคนอื่น หลอมยา หรือสลักอาคม แค่นี้เจ้าก็ได้ค่าประสบการณ์แล้ว! อะไรนะ! ค่าประสบการณ์ที่ได้มันต่ำไปอย่างงั้นเหรอ? อย่าได้กลัว เพราะข้มีปัตร ประสบการณ์ x2 หรือแม้กระทั่งปัตรประสบการณ์ x10 แค่นี้ค่าประสบการณ์ของเจ้าก็จะฟุง ทะยานราวกับพลุระเบิดแล้ว! น่าชัน อัจฉริยะ นายน้อยตระกูลใหญ่ จักรพรรดิผู้ครองอาณาจักร หรือกระทั่งอัจฉริยะที่ฟันปี จะมีสักครั้งอย่างงั้นเหรอ? เมื่ออยู่ต่อหนีระบบเพิ่มเลเวลแสนบำาคลั่งนี้ พวกมันลัวนถูกทิ้ง ห่างไปไกล! "เฮ้ย นี่ข้เลเวลอัพอีกแล้วเหรอ?" อี้เทียนหยุนที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าเลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้น อีกครั้ง.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset