ตอนที่ 665: ไม่มีประโยชน์
เงียบ เงียบจนน่ากลัว!
ผู้คนพากันมองไปยังอี้เทียนหยุน ไม่รู้ว่าฐานะจริงๆ ของอี้เทียนหยุนนั้นคืออะไร ที่พอจะเดาได้คือเหมือนว่าจะเป็นศิษย์ของอาณาจักร ไม่ก็ศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่พอจะเป็นไปได้
ไม่อย่างนั้น ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ถึงสองคน ทำไมถึงได้อ่อนแอจนถูกบังคับให้คุกเข่า นี่มันช่างน่าตกใจจริงๆ
ในตอนนี้ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ไม่กล้าที่จะดูถูกอี้เทียนหยุน พวกที่รอดูความโชคร้ายของคนอื่นก็พากันหุบปากเงียบ ใครจะรู้ว่าอยู่ๆ อาจจะมีฝ่ามือฟาดมาทางพวกเขาก็เป็นได้? เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็คงจะลงเอยเช่นกันกับผู้คนของวังตัวหลง ถูกบังคับให้ต้องคุกเข่า กลายเป็นตัวตลกไป
และที่น่ากลัวที่สุดคืออี้เทียนหยุนยังคงนั่งจิบสุราอย่างไม่แยแส ราวกับเรื่องทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับเขา เรื่องนี้แค่มองก็เข้าใจได้ เขาคงจะผ่านเรื่องแบบนี้มากแล้ว ไม่อย่างนั้นจะเป็นไปได้ยังไงที่จะใจเย็นได้ขนาดนี้?
ในตอนนี้ผู้คนพากันนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของอี้เทียนหยุน อย่าว่าแต่อาณาจักรเลย ต่อให้แดนศักดิ์สิทธิ์เขาก็ทำลายมาแล้ว! หรือว่านี่จะเป็นเรื่องจริง? เรื่องที่เขาสามารถทำลายอาณาจักรได้นั้นไม่น่ามีปัญหา แต่คำที่ว่าทำลายแดนศักดิ์สิทธิ์ได้นี่ นี่มันจะไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยเหรอ?
“ดี ดี ยิ่งเข้าช่วงหลังเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโดดเด่นเท่านั้น” อี้เทียนหยุนพอใจเหอหรงคุนผู้นี้มาก คิดว่าเขาเป็นวัตถุดิบที่สามารถขึ้นรูปได้ ในตอนแรกอยู่ในระดับมาตรฐาน และช่วงท้ายก็ไม่ล้าหลัง อีกทั้งยังไล่ตามขึ้นไปแทน ปีนขึ้นไปทีละขั้น จนเข้าไปอยู่แถวหน้าแล้วในตอนนี้!
นี่ทำให้เขารู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายขึ้นหลายส่วน พรสวรรค์ของเขาจะต้องไม่ต่ำอย่างแน่นอน หากว่ามีพรสวรรค์ที่ต่ำเกินไป จะทำให้การปีนเป็นไปด้วยความยากลำบาก
แต่แน่นอนว่ายิ่งระดับสูงก็ยิ่งปีนง่าย แต่คนที่มีระดับสูง พรสวรรค์ก็ต้องต่ำอย่างแน่นอน ทั้งสองสิ่งนี้ไม่สามารถแยกกันได้ จำเป็นต้องมีด้วยกันทั้งสองอย่าง
เมื่อมีระดับสูง พรสวรรค์ก็ต้องไม่ต่ำอย่างแน่นอน หากเป็นคนปัญญาอ่อน ก็ยากที่จะทะลวงระดับ แต่ว่าทุกสิ่งย่อมมีข้อยกเว้น หากว่าคนปัญญาอ่อนผู้นั้นถูกทุ่มด้วยโอสถชั้นเทพที่หลากหลาย เขาย่อมต้องทะลวงระดับผ่านไปได้อย่างแน่นอน แต่ว่าวิธีนี้ไม่นานก็ต้องพบจุดจบ
“ใช่ ความสามารถของข้ามีจำกัดอย่างน่าสมเพช ไม่อย่างนั้น เขาย่อมกลายเป็นมังกรได้อย่างแน่นอน!” เว่ยเฟยโจวถอนหายใจ อุตส่าห์มีศิษย์ที่ดีอย่างนี้ แต่ทรัพยากรของเขากลับมีอยู่น้อยมาก นี่ก็เป็นปัญหาที่ยากจะจัดการอย่างหนึ่ง
“วางใจเถอะ ข้าจะมอบโชคชะตาดีๆ ให้กับเขาเอง” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา แต่ก็ไม่พูดอะไรต่อ
เว่ยเฟยโจวก็ไม่ถาม แต่ว่าสายตากลับเป็นประกาย เขารู้สึกคาดหวังกับคำว่าโชคชะตาดีๆ สองคำนี้อยู่บ้าง ก่อนหน้านี้คิดว่าเป็นแค่คำโอ้อวดที่เขาพูดออกมาเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่คำโอ้อวด แต่ว่าเป็นเรื่องจริง!
และในระหว่างนี้ คนของวังตัวหลงยังคงนอนอยู่กับพื้น ไม่ว่าจะตะโกนยังไงก็เปล่าประโยชน์ กลับกัน ยิ่งตะโกนออกมา ก็ยิ่งถูกกดลงไป จนแม้แต่ปากของพวกเขาต้องจูบพื้น ทำได้เพียงส่งเสียง “อู้อี้” ออกมาเท่านั้น วิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้ น่ากลัวมาก หากว่ายังคงถูกกดลงกับพื้นเช่นนี้ ฟันในปากพวกเขาจะต้องถูกบดจนแหลกอย่างแน่นอน
แต่นี่เป็นการคำนวณที่เบาที่สุดแล้ว เพราะอย่างน้อยก็ยังมีชีวิตอยู่
และเวลาก็ค่อยๆ ผ่านการ การปีนบันไดนี้ไม่ได้จบลงอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาอีกหลายวัน และในหลายวันนี้ เหอหรงคุนก็ได้ปีนขึ้นไปมากกว่า 800 ขั้นแล้ว อีกทั้งความเร็วของเขายังเป็นไปตามเป้า กระทั่งว่าติด 1 ใน 5 ด้วยซ้ำ
หากว่าเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาจะต้องผ่านบททดสอบแรกนี้ไปได้อย่างแน่นอน จะต้องเป็น 1 ใน 30 ด้วยอันดับที่ 5 ของเขาในตอนนี้ แน่นอนว่าย่อมไม่มีแรงกดดัน
เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้อี้เทียนหยุนลงมือ เขาก็สามารถผ่านรอบแรกไปได้อย่างง่ายดาย สมกับที่เป็นคนมีพรสวรรค์จริงๆ
“เจ้าเป็นใครกัน กล้าดียังไงถึงได้ทำกับคนของข้าอย่างนี้!” ในตอนนี้เอง ได้มีชายวัยกลางคนเดินออกมาจากกลุ่มคนด้วยความเดือดดาล พร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายระดับราชาวิญญาณออกมาในพริบตา! กลิ่นอายของเขากวาดผ่านเข้าใส่ผู้คนที่อยู่รอบๆ แต่ยังไงก็ตาม ผู้คนส่วนใหญ่ ณ ที่นี่ต่างก็มีระดับไม่ต่ำทราม มีทั้งระดับวิญญาณเที่ยงแท้ และระดับราชาวิญญาณอีกนิดหน่อย แต่ว่าส่วนใหญ่ล้วนแต่อยู่ในระดับผันแปรวิญญาณ
พวกเขาเป็นคนนำศิษย์มาทดสอบ หรือไม่ก็มาเป็นองครักษ์ ไม่ได้มาเพื่อหาเรื่องกับอี้เทียนหยุน
แต่ชายวัยกลางคนที่ปรากฏออกมาในตอนนี้นั้น เป็นประมุขของวังตัวหลง ชื่อว่า ตัวเจียหยวน ระดับของเขาก็ไม่ถือว่าต่ำ เป็นถึงระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 2 แต่ว่าในสายตาของอี้เทียนหยุนแล้ว เพียงแค่ฝ่ามือเดียวก็จัดการเขาได้แล้ว
“สหายท่านนี้ ข้าไม่รู้หรอกนะว่านายน้อยตัวจะทำเรื่องโหดร้ายอะไร แต่การที่เจ้าทำอย่างนี้ ไม่คิดจะเห็นแก่หน้าวังตัวหลงหน่อยเหรอ?” ในตอนนี้เอง ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณอีกคนก็ได้ก้าวออกมา เหมือนว่าจะเป็นคนของวังตัวหลง เห็นได้ชัดว่าเป็นระดับผู้อาวุโสใหญ่
ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณทั้งสองนี้พากันส่งแรงกดดันเข้าใส่อี้เทียนหยุน ทำให้เว่ยเฟยโจวที่อยู่ใกล้ๆ ต้องมีสีหน้าจมลง เรื่องนี้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วจริงๆ ไม่สามารถยุติลงดีๆ ได้แล้ว
และเมื่อมองไปที่อี้เทียนหยุนที่ยังใจเย็นได้อยู่ ก็ทำให้เขาโอดครวญต่อพระผู้เป็นเจ้า เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่มองหยามเหยียดโลกเพียงใด
“มันต้องการหักแขนหักขาข้า แค่นี้พอไหม?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ข้าก็เลยให้มันลิ้มรสชาตินั้นดูบ้าง”
“หักขาหักขาเจ้าแล้วยังไง?” ตัวเจียหยวนพูดอย่างเย็นชา “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร แต่วันนี้เจ้าจะต้องตาย! ข้าจะทำลายกระดูกทุกชิ้นของเจ้า จากนั้นก็จะเอาพวกมันไปเลี้ยงหมา!”
ความโหดเหี้ยมเช่นนี้ ช่างสมกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆ อีกทั้งคำพูดนี้ ยังไร้เหตุผลมากด้วย
แต่สำหรับคนไร้เหตุผลแบบนี้ อี้เทียนหยุนถูกใจนักแล
“คุกเข่าก่อนค่อยพูด!”
อี้เทียนหยุนสายตาเย็นชา พร้อมกับสายตาของพวกเขากลายเป็นพร่ามัวในทันที ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 5 นี้ ทำให้ถูกเนตรเสน่ห์ของเขาควบคุมได้อย่างง่ายดาย
“นี่…..”
ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณทั้งสองพากันคุกเข่าลงจริงๆ นี่ทำให้ผู้คนพากันตกใจอย่างมาก หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณก็ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันนี้ได้? นี่มันจะผิดปกติเกินไปหน่อยหรือเปล่า?
เว่ยเฟยโจวก็ตกใจจนต้องยืนขึ้น จนสุราในจอกกระฉอกใส่มือ แต่ก็เหมือนว่าจะไม่รู้สึกตัว
แม้แต่ระดับราชาวิญญาณก็ต้องคุกเข่า นี่มันคือพลังอะไรกันแน่? เขาก็คิดว่าอี้เทียนหยุนน่าจะเป็นระดับราชาวิญญาณ มาตอนนี้น่ากลัวว่าจะเป็นระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุดหรือเปล่า?
แต่ระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุดสามารถทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณขั้นแรกคุกเข่าลงได้ด้วยเหรอ? เขาที่ไม่มีระดับถึงขั้นนั้น จึงจินตนาการถึงความต่างระหว่างพลังระดับนั้นไม่ได้จริงๆ
“สวรรค์ นี่ข้ากำลังเห็นอะไรอยู่ ผู้เชี่ยวชาญของวังตัวหลงทุกคน ต่างก็พากันคุกเข่าอยู่ที่นี่….”
“วังตัวหลงเตะถูกแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว นี่มันน่ากลัวมากจริงๆ แท้จริงแล้วเขามีระดับอะไรกันแน่ ทำไมถึงทำได้ถึงขั้นนี้?”
“น่ากลัวว่าจะเป็นระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุด ไม่ก็ระดับราชาเซียน?”
“ระดับราชาเซียน นี่มันจะไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยเหรอ? มีระดับราชาเซียนมาอยู่ใกล้ๆ เนี่ยนะ?”
ในใจพวกเขาต่างก็พากันสั่นสะท้าน พวกเขาไม่เคยเห็นราชาเซียนมาก่อน ราชาเซียนสำหรับพวกเขาถือว่าเป็นผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่ง เปรียบได้กับมังกรที่เห็นหัวไม่เห็นหาง โดยทั่วไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนจะเป็นราชครูของแดนศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ก็เป็นระดับราชา ใช่ระดับที่พวกเขาจะอยากเห็นก็ได้เห็นที่ไหน?
แม้ว่าแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนจะดีมาก แต่ระดับราชาเซียนย่อมไม่มาที่นี่ ต่อให้แดนศักดิ์สิทธิ์จะส่งคนมาเข้ารับการทดสอบ ผู้ที่นำมาก็ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณ หรือไม่ก็ระดับวิญญาณเที่ยงแท้
“เชื่อไหมว่าต่อให้ข้าสังหารเจ้า พ่อของเจ้าก็ไม่กล้าพูดแม้แต่ครึ่งคำ?” อี้เทียนหยุนปรายตามองไปยังตัวเจียเต๋อ
ตัวเจียเต๋อตัวสั่นเทาด้วยความแตกตื่น พร้อมกับส่งเสียงอู้อี้ออกมา ตอนนี้ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าอะไรที่เรียกว่าความผิดพลาด แต่ว่ารู้ไปก็ไม่มีประโยชน์