ตอนที่ 666: สร้างสัมพันธ์
แม้แต่บิดาของตนกับผู้อาวุโสใหญ่ก็ยังคุกเข่าลงอย่างโง่งม คุกเข่าลงกับพื้นอย่างเชื่อฟัง โดยที่ไม่มีคำบ่นออกมาแม้แต่น้อย
ตัวเจียเต๋อในตอนนี้รู้แล้วว่าตนนำพาปัญหาใหญ่มาซะแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมากด้วย ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดในวังตัวหลงต่างก็ถูกสยบโดยที่ทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย ในตอนนี้แม้แต่เขาเองก็ยังพยายามดิ้นรนจากการถูกกดทับ แต่ก็ไม่มีความหมาย
“อื้อออ…..”
ตัวเจียเต๋อกรีดร้องด้วยความแตกตื่น แต่ว่าเขาก็พบว่าตัวเองทำได้เพียงส่งเสียงนี้ออกมาเท่านั้น เสียงอื่นกลับไม่สามารถเปล่งออกมาได้ ทำได้เพียงกรีดร้องอยู่ในลำคอ
“ข้าแค่อยากจะลงโทษเจ้าเท่านั้น แต่ใครจะคิดว่าพวกเจ้าจะชั่วร้ายกันทั้งตระกูล อาศัยว่าตัวเองมีอิทธิพล จึงคิดที่จะรังแกคนอื่นตามอำเภอใจ?”
“ในเมื่อเจ้าชอบกฎปลาใหญ่กินปลาเล็ก งั้นคราวนี้ก็ถึงคราวที่ข้าจะกินเจ้าบ้าง เจ้าเตรียมตัวแล้วหรือยัง?” สีหน้าอี้เทียนหยุนเฉยชา เขาเกลียดคนที่ชอบใช้อิทธิพลของตนรังแกคนอื่นมาก
มีหลายสิ่งที่เจ้าสามารถใช้กำลังเข้าครอบครองได้ นี่ไม่ผิด แต่ไอ้ประเภทที่โหดเหี้ยมจนเกินไป อย่างเช่นการหักแขนหักขาคนอื่นบ่อยๆ อย่างนี้ เขาทนไม่ได้จริงๆ
ในเมื่ออยากจะเล่นกฎปลาใหญ่กินปลาเล็ก เขาก็ยินดี คิดจะใช้หมัดแก้ปัญหา ถ้าหมัดเดียวแก้ไม่ได้ งั้นก็ใช้สองหมัด จะได้ไม่ต้องเปลืองสมอง
“อื้อออ…..” ตัวเจียหลงส่งเสียงออกมา เหมือนกำลังร้องขอความเมตตา
“เอาล่ะ ไสหัวไปได้แล้ว อยู่ที่นี่ต่อก็มีแต่จะทำให้พื้นเปื้อนเลือดซะเปล่าๆ!” อี้เทียนหยุนโบกมือ จากนั้น ตัวเจียหยวนและผู้อาวุโสใหญ่ก็พากันลุกขึ้น แล้วเข้าไปพยุงตัวเจียเต๋อกับพวกออกไป
ปัญหาถูกจัดการเรียบร้อยอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งกว่านั้น ตัวเจียหยวนกับพวกก็ถูกจัดการโดยที่ไม่มีการปรานี
นี่คือราคาที่ต้องจ่าย สำหรับพฤติกรรมที่พวกเขาทำ!
ทันใดนั้น ที่นี่ก็กลายสะอาดตาในที่สุด ตัวเจียหยวนที่ลากลูกชายของตนออกไป เป็นฉากที่ไม่มีใครเคยคิดถึงมาก่อน ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ต่อให้จะไม่มีใครรู้ ก็ไม่มีใครกล้าเปิดปากออกมาแม้แต่ครึ่งคำ พากันหุบปากเงียบอยู่ใกล้ๆ อย่างเรียบๆ ร้อยๆ
ส่วนขุมอำนาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ นั้น พวกเขาก็ไม่คิดที่จะไปตอแยผู้เชี่ยวชาญคนอื่นตามใจ ต่อให้ขุมอำนาจของตนจะร้ายกาจ แต่ก็ไม่มีเต็มใจที่จะเข้าไปหาเรื่องศัตรูที่ทรงพลัง
“ข้าน้อยเป็นผู้ตรวจการณ์แดนศักดิ์สิทธิ์จั่วชิว(สุสานตะวันออก) วันนี้นำสุราดีมาเป็นพิเศษ ไม่ทราบว่าพอจะนั่งดื่มด้วยสักจอกได้ไหม?” ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณเดินเข้ามา ขณะที่ในมือถือไหสุรามาด้วย
“แน่นอน ในเมื่อเป็นแขก ก็เชิญนั่ง” อี้เทียนหยุนบอกให้เขานั่งลง ตราบเท่าที่ไม่หาเรื่องเขา เขาก็ยินดีต้อนรับทุกคน
“ขอบคุณสหายท่านนี้มาก” ผู้ตรวจการณ์แดนศักดิ์สิทธิ์จั่วชิงเทสุราให้ตัวเอง แล้วยกถ้วยขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าสหายท่านนี้มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไหนอย่างงั้นเหรอเหรอ?”
“ไม่มีทั้งสำนักและตระกูล เจ้าไม่จำเป็นต้องถามหาพื้นหลังของข้า ข้าไม่มีทั้งสำนักและตระกูลอะไรทั้งนั้น อย่างน้อยก็ในโลกสวรรค์แห่งนี้” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ผู้ตรวจการณ์แดนศักดิ์สิทธิ์จั่วชิงตาเป็นประกาย เขาเข้าใจคำพูดพวกนี้อยู่บ้าง หมายความว่าอี้เทียนหยุนไม่มีขุมอำนาจอยู่ที่นี่ แต่มีขุมอำนาจอยู่ที่โลกใต้พิภพ! พวกเขาไม่ต้องการไปยังโลกมนุษย์ เพราะว่าโลกมนุษย์นั้นค่อนข้างธรรมดา จะไปมีผู้คุ้มกันที่ร้ายกาจหรือทรงพลังขนาดนี้ได้ยังไง?
“ดูเหมือนว่าสหายจะไม่ใช่คนของโลกสวรรค์ ไม่ทราบว่าจะยินยอมมาเป็นแขกของแดนศักดิ์สิทธิ์จั่วชิวของข้าหรือไม่?” เขาทำการเชื้อเชิญในทันที ขุมอำนาจเล็กๆ อาจจะกลัวเทพวิบัติผู้นี้ แต่ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไม่กลัว สามารถมีเทพผู้นี้เป็นสหายได้ อิทธิพลของพวกเขาย่อมเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“ผู้น้อยเป็นผู้ตรวจการณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์อวี่ชิว(ธารน้ำไหล) นี่เป็นผลิตภัณฑ์พิเศษของแดนศักดิ์สิทธิ์เรา โอสถธารน้ำไหล ตราบเท่าที่แช่ลงไปในน้ำหรือของเหลว เมื่อดื่มเข้าไปจะช่วยทำให้กลิ่นของเครื่องดื่มนั้นดีขึ้น เพิ่มรสชาติให้สุดชื่นขึ้น รับประกันความพอใจ” พูดจบเขาก็ใส่มันลงในจอกสุรา จากนั้น สุราในถ้วยก็เปลี่ยนไป พร้อมกับส่งกลิ่นหอมละมุนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ออกมา เพียงได้กลิ่นก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมากแล้ว หากดื่มเข้าไป จะต้องรู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอน!
“ผู้น้อยเป็นผู้ตรวจการณ์จากแดนศักดิ์สิทธิ์เมิ่งหยุน(เมฆฝัน) นี่คือ…..”
ผู้ตรวจการณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์หรืออาณาจักรต่างก็เข้ามาแนะนำของดีของตน ในฐานะผู้ตรวจการณ์ของพวกเขา ย่อมรู้ดีถึงความสำคัญของการทูต สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพลังที่ร้ายกาจ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งอะไร พวกเขาก็รีบเข้าไปสร้างความสัมพันธ์ในทันที
สามารถสยบผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณจำนวนมากได้อย่างง่ายดายเช่นดี มาตรฐานของอีกฝ่ายจะน่าผิดหวังได้ยังไง? หากว่าสามารถเป็นพันธมิตรกับอีกฝ่ายได้ ก็เหมือนกับมีส่วนช่วยขุมอำนาจของพวกเขาได้มาก
เว่ยเฟยโจวที่อยู่ใกล้ๆ ก็ได้โอกาสจำนวนมากเช่นกัน บ้างก็มีโอสถยัดใส่มือเขา ไม่ก็เป็นอาวุธสักอย่าง ในเมื่อเว่ยเฟยโจวสามารถนั่งอยู่ข้างๆ ได้ พวกเขาก็คิดว่าอีกฝ่ายย่อมมีความสัมพันธ์บางอย่างกับอี้เทียนหยุนอย่างแน่นอน ดังนั้นอีกฝ่ายจึงได้รับการประจบไปด้วย
เว่ยเฟยโจวตอนนี้ตัวแข็งค้างไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะได้รับการปฏิบัติอย่างนี้ด้วย? ผู้ตรวจการณ์พวกนั้นแต่ละคน ต่างก็มีระดับที่สูงมาก แต่กลับมอบความสนิทชิดเชื้ออย่างนี้ให้กับเขา เรื่องนี้แม้แต่ฝันเขายังไม่เคย
แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่ความฝัน แต่ว่าเป็นความจริง!
อี้เทียนหยุนก็ไม่เกรงใจ ใครให้อะไรมาก็รับหมด ได้มีความสัมพันธ์อันดีกับแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องแย่อย่างแน่นอน
“อืม ในเมื่อพวกเจ้าสุภาพเช่นนี้ หากว่ามีเวลาเมื่อไหร่ ข้าจะไปเยี่ยมพวกเจ้าอย่างแน่นอน” อี้เทียนหยุนส่งยิ้มใจเย็นออกไป แบบนี้ก็เท่ากับยอมรับความปรารถนาดีของพวกเขาแล้ว
ผู้ตรวจการณ์เหล่านั้นต่างก็มีรอยยิ้มประดับหน้า แม้ว่าจะน่าเสียดายที่ไม่สามารถเชิญอีกฝ่ายไปได้ในทันที แต่อย่างน้อยก็ได้มอบของขวัญให้ไปแล้ว จากนี้ไปก็เท่ากับว่ารู้จักกันแล้ว ย่อมมีความประทับใจให้กันไม่มากก็น้อย
ที่พวกเขามอบไปนั้น ไม่ได้เป็นของล้ำค่าพิเศษอะไร ก็แค่ของธรรมดา แต่ว่าสำหรับพวกที่ระดับต่ำ นี่ก็ถือว่าเป็นสมบัติได้เช่นกัน
อย่างเช่นเว่ยเฟยโจวนั้น ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความสับสน ไม่กล้ารับของพวกนี้ไว้ พร้อมกับรอการตัดสินใจของอี้เทียนหยุน
ในตอนนี้เอง การปีนบันไดก็เกือบจะมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว อย่างรวดเร็ว เหอหรงคุนก็ไต่ขึ้นไปจนติด 1 ใน 3 ดูแล้วค่อนข้างแข็งแกร่งเลยทีเดียว ส่วนสองอันดับแรกนั้นยิ่งน่าทึ่งยิ่งกว่า ทำให้อี้เทียนหยุนมองพวกเขาสูงขึ้น โดยเฉพาะคนที่ได้อันดับที่ 1 ยิ่งทำให้เขาต้องตาเป็นพิเศษ
แต่ก็แค่มองเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายอะไร พวกนี้เป็นศิษย์ที่แดนศักดิ์สิทธิ์ฝึกฝนมาเป็นพิเศษ หากว่าไม่มีพรสวรรค์ถึงขนาดนี้ ก็คงไม่คุ้มกับทรัพยากรที่ทุ่มไป
“เอาล่ะ พวกเราไปดูบททดสอบต่อไปกันเถอะ” อี้เทียนหยุนลุกขึ้น พร้อมกับเก็บโต๊ะเข้ามา
ในตอนนี้ ด้านบนก็เกือบจะมีคนขึ้นไปครบ 30 คนแล้ว หลังจากที่ผู้ทดสอบขึ้นไปครบ 30 คน บททดสอบนี้ก็จะจบลง ส่วนผู้ทดสอบคนอื่นที่ปีนขึ้นไปไม่ถึง ก็จะถูกดีดออกมาในทันที ไม่สามารถปีนขึ้นไปต่อได้
ที่เหลือพวกเขาทำได้แค่รอเท่านั้น ไม่สามารถตามขึ้นไปดูได้ ถูกขวางให้อยู่ด้านนอกโดยสมบูรณ์ เมื่อเทียบกันแล้วถือว่าเข้มงวดพอๆ กับโลกใต้พิภพ หากต้องการเจอกันอีกครั้ง ก็ต้องรอจนการทดสอบสิ้นสุดลง ถึงจะถูกเคลื่อนย้ายออกมา
“ไปกันเถอะ พวกเราไปดูผลลัพธ์กัน” อี้เทียนหยุนเอามือไขว้หลังและเดินตรงไป
“แต่ว่าที่นี่ไม่สามารถขึ้นไปได้ หากว่าขึ้นไปจะถูกขวางไว้……”
เว่ยเฟยโจวยังพูดไม่เสร็จ ก็เห็นอี้เทียนหยุนเดินเข้าไป โดยที่ไม่มีการขัดขวางแม้แต่น้อย ซึ่งนี่ทำให้คนอื่นๆ พากันตกใจ ไหนบอกว่าไม่สามารถขึ้นไปได้ไง?
“พวกเจ้าทุกคนก็ขึ้นมาด้วย พวกเจ้าไม่อยากรู้หรือไงว่าคนที่พวกเจ้าพามาจะได้ผลลัพธ์แบบไหน?” อี้เทียนหยุนพูดกับผู้ตรวจการณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ
บางคราวก็สมควรที่จะเปิดเผยตัวตน ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถสร้างความตกใจให้พวกเขาได้
