Crazy Leveling System ตอนที่ 670: เผ่าเทพเทียนเหมย

ตอนที่ 670: เผ่าเทพเทียนเหมย

ในที่สุด ตารางการจับคู่ประลองก็ได้ก็ออกมาอย่างรวดเร็ว มีหลายคนที่ด้านนอกให้การสนใจกับการประลองนี้ ก็เหมือนกับที่อี้เทียนหยุนทำก่อนหน้านี้ ที่ต้องประลองกับคนอื่น แม้ว่าหลายคนจะขึ้นมาไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถบินดูได้อย่างชัดเจนจากระยะที่ห่างออกไป โดยที่ไม่จำเป็นต้องเข้ามาดูใกล้ๆ

ในตอนนี้ ทั้งแปดคนคือผู้นำที่แท้จริง แต่นี่ก็เฉพาะกับคนไม่รู้ที่ด้านนอกเท่านั้น แต่สำหรับคนด้านในแล้ว อี้เทียนหยุนต่างหาก จึงจะเป็นเจ้านายที่แท้จริง

พร้อมกับการประลองที่เริ่มขึ้น บรรยากาศก็ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าด้านในจะไม่มีคนของตนอยู่ แต่พวกเขาก็ยังเกาะติดสถานการณ์อยู่ใกล้ๆ อยากจะรู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย เพราะสุดท้ายแล้ว ทุกคนที่มาถึงนี่ได้ต่างก็เป็นศิษย์ชั้นยอดด้วยกันทั้งนั้น และคนที่เอาชนะมาได้ แน่นอนว่าย่อมมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งที่สุด

จากนั้น พวกเขาก็เริ่มสู้กันอย่างบ้าคลั่ง แต่ละคนต่างก็ใช้วิชาของตนออกมาสู้

และในตอนนี้ ความต่ำชั้นของเหอหรงคุนก็ปรากฏออกมา ก่อนหน้านี้เพราะไม่ต้องพึ่งวิชายุทธ์หรืออาวุธ แต่ตอนนี้ได้ต่างออกไป เมื่อไม่มีวิชายุทธ์ดีๆ กับอาวุธชั้นยอด อย่างนั้นก็ต้องประสบกับความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

คนที่ขึ้นมาถึงนี้ต่างก็เป็นอัจฉริยะด้วยกันทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นอัจฉริยะจากขุมอำนาจใหญ่ ดังนั้นสมบัติของพวกเขาจึงมีมากมาย จึงทำให้อีกฝ่ายสามารถโจมตีจนเหอหรงคุนต้องถอยกลับไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ระดับของฝั่งตรงข้ามดีกว่าเขาเล็กน้อยเท่านั้น แต่ด้านอาวุธกลับเหนือกว่าเขาราวกับอยู่คนละชั้นกัน

ด้วยพื้นหลังที่ไม่เท่ากัน ทำให้ฝั่งตรงข้ามกดดันตนเองอย่างต่อเนื่อง ยากที่จะโจมตีสวนกลับไปได้ หากว่าเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาจะต้องแพ้อย่างแน่นอน

“ฮ่าๆๆ ครั้งนี้เจ้าแพ้แน่!” ฝั่งตรงข้ามของเหอหรงคุนหัวเราะออกมา “ข้าก็คิดว่าเจ้าจะมีอุปกรณ์ที่เหนือกว่าระดับจิตวิญญาณซะอีก แต่ใครจะรู้ว่าจะมีแค่อุปกรณ์ระดับจิตวิญญาณขั้นต่ำเท่านั้น แล้วอย่างนี้ยังกล้าขึ้นมาสู้อีก? รีบไสหัวกลับไปดื่มนมมารดาได้แล้วไป๊!”

“ข้าจะไม่แพ้!” เหอหรงคุนแกว่งกระบี่ยามในมือด้วยความโกรธ ต่อให้จะเป็นแค่อุปกรณ์ระดับจิตวิญญาณขั้นต่ำทั่วๆ ไป แต่ก็ยังพอที่จะใช้รับมือได้

“คนชนะ ไม่ใช่เพราะว่าเสียงดังกว่าแล้วจะได้เป็น แต่ต้องมีอาวุธและวิชายุทธ์ดีๆ ด้วยรู้หรือเปล่า? เจ้าขอทานเอ๊ย!” ฝั่งตรงข้ามดูถูก ขณะที่ในใจรู้สึกมีความสุขมากขึ้น ได้มาเจอกับขอทานอย่างนี้ จะไม่ให้เขาดีใจได้ยังไง?

แบบนี้เขาก็จะสามารถจัดการได้ง่ายๆ ก่อนหน้านี้เขาได้ถูกเหอหรงคุนกดไว้ ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ตอนนี้ได้โอกาสเอาคืนแล้ว แค่คิดก็สะใจ

“เฮ้อ หรงคุนเสียเปรียบจริงๆ วิชาที่ฝึกก็เป็นวิชายุทธ์ระดับปฐพีขั้นกลาง ที่ก่อนหน้านี้ได้มาอย่างยากลำบาก ส่วนอาวุธระดับจิตวิญญาณขั้นต่ำ ก็ถือว่าเป็นของที่ดีที่สุดที่ข้าจะให้ได้แล้ว….” เว่ยเฟยโจวมีท่าทางกังวลอย่างมาก หากเป็นอย่างนี้ ศิษย์ของตนจะต้องแพ้อย่างแน่นอน

แม้ว่าจะได้เพียงที่แปดก็ถือว่าดีมากแล้ว แต่การที่ต้องแพ้ให้กับคนอื่นอย่างไม่เป็นธรรมนี่มันช่างน่าเศร้าจริงๆ แต่ยังไงนี่ก็เป็นความจริง ในสภาพที่ด้อยกว่าคนอื่น ต่อให้จะมีพรสวรรค์ที่ดียังไง แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคนที่พื้นหลังน่าทึ่งพวกนี้อยู่ดี

“มันก็ดีที่เป็นแบบนี้ แต่ในเมื่อข้าบอกว่าจะมอบโชคชะตาที่ดีให้กับเขา ข้าก็จะมอบมันให้ เขาไม่ได้แพ้ในด้านพรสวรรค์ แต่แพ้ในด้านอาวุธ” อี้เทียนหยุนส่ายหัว “ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ยุติธรรมจริงๆ ดังนั้นหลายคนจึงต้องพึ่งพาโชคชะตาของตน และตอนนี้ข้าก็คือโชคชะตาของเขา…..”

เขาทำการชี้มือ จากนั้น ก็ได้มีลำแสงถูกยิงออกไปจากมือของเว่ยเฟยโจว พร้อมกับไปถึงเหอหรงคุนในพริบตา

เหอหรงคุนเพิ่งจะรู้สึกตัว ก็พบว่าในมือของตนได้ถืออุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์อยู่! นี่ทำให้เขาตกใจจนต้องถอยหลังไปหลายก้าว พร้อมกับพูดออกมาอย่างตกใจว่า “อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์?”

เขาและอาจารย์ของเขาเคยเห็นอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์มาก่อน แต่ไม่มีวาสนาได้สัมผัสมัน

“อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์!?” ฝั่งตรงข้ามก็ตกใจเช่นกัน เขาที่ใช้อุปกรณ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูงก็ถือว่าดีมากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ำ อาวุธในมือเขาก็เปรียบได้กับขยะดีๆ นี่เอง

“บอกว่าข้าเป็นขอทานสินะ คราวนี้ข้าจะทำให้เจ้าตอบโต้ไม่ได้เลยคอยดู!” เหอหรงคุนสีหน้าเย็นชา กลิ่นอายทั่วทั้งร่างเปลี่ยนไป พร้อมกับโจมตีเข้าไปอย่างกล้าหาญ เพียงแค่ 2-3 กระบวนท่า ก็สามารถจัดการกับฝั่งตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย

ด้วยความช่วยเหลือของอาวุธทรงพลัง ทำให้เขาสามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้โดยสมบูรณ์!

“ขะ ขอบคุณนายน้อยที่ช่วยเหลืออีกครั้ง!” หลังจากเว่ยเฟยโจวเห็นเหอหรงคุนชนะ เขาก็พลันตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ ข้าบอกไปแล้วว่าจะมอบโชคชะตาดีๆ ให้กับเขา และตอนนี้ข้าก็ได้เติมเต็มความต่างให้เขาแล้ว ตอนนี้ก็มาดูกันว่าเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน”

เขาสามารถช่วยได้ถึงตรงนี้เท่านั้น หากครั้งหน้าแพ้ เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ถึงยังไงทั้งหมดนี้ก็เป็นการประลอง ไม่เพียงแต่อาวุธเท่านั้น แต่ยังมีความต่างทางด้านประสบการณ์การต่อสู้อีก ตอนนี้เขาได้ช่วยเพิ่มความต่างให้มากแล้ว หากยังแพ้อีกก็คงบอกได้แค่ว่าเขามีความสามารถแค่นั้น

“แค่นี้ก็พอแล้ว ขอบคุณนายน้อยมาก!” เว่ยเฟยโจวรู้ความต่างระหว่างพวกเขา ตราบเท่าที่สามารถเติมเต็มความต่างนี้ ก็เท่ากับได้เปรียบในการประลองครั้งนี้แล้ว

อี้เทียนหยุนพยักหน้า พร้อมกับดูการประลองต่อ คนอื่นพากันพูดไม่ออก นี่มันแหกกฎการประลองชัดๆ! สามารถส่งอาวุธขึ้นไปให้กันได้ด้วยเหรอ? แต่ถึงยังไงที่นี่ก็เป็นอาณาเขตของอีกฝ่าย เขาอยากจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้น กระทั่งสามารถไล่ทุกคนออกไปได้ด้วยซ้ำ

จากนั้น เหอหรงคุนก็เข้ามาถึงรอบสี่คนได้สำเร็จ พร้อมกับเตรียมตัวรอการประลองรอบต่อไป ในขณะที่อยู่ในช่วงพักนี้ อี้เทียนหยุนก็กำลังนั่งรอฟังข่าวเช่นกัน

ช่วงพักหมดไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นการประลองรอบถัดไปก็เริ่มขึ้น ตราบเท่าที่เหอหรงคุนชนะการประลองรอบนี้ เขาก็จะติด 1 ใน 3 อย่างแน่นอน แต่หากแพ้ งั้นก็คงเป็นได้แค่อันดับ 4

สำหรับเว่ยเฟยโจวแล้ว ศิษย์ของตนมาถึงตำแหน่งนี้ได้ ก็ถือว่าเหนือความคาดหมายของเขาไปไกล ก่อนหน้านี้เขาวางเป้าหมายให้เหอหรงคุนปีนบันไดขึ้งไปถึงขั้นที่ 500 เท่านั้น ไม่ได้คิดว่าจะให้มาไกลถึงขนาดนี้

แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะผ่านด่านปีนบันไดเท่านั้น แต่ยังผ่านด่านที่สองมาได้สำเร็จ ซึ่งถือว่าเหนือกว่าที่เขาคาดเอาไว้

และในขณะที่กำลังประลองอยู่นี้ ก็ได้มีตัวแทนวิ่งเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว บนใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ขณะที่ตัวแทนของขุมอำนาจอื่นที่ไม่ได้จากไป เมื่อเห็นตัวแทนคนนี้มา ก็เผยสายตาอิจฉาออกมาในทันที

ดูจากสีหน้าของตัวแทนคนนี้ เขาจะต้องหาข้อมูลพบแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่อย่างนั้นคงไม่รีบกลับมาเช่นนี้ เมื่อไม่มีข้อมูล ก็ย่อมไม่กลับมาอย่างแน่นอน เพราะถึงต่อให้กลับมาก็ไร้ความหมาย

“นายน้อย พวกเราแดนศักดิ์สิทธิ์จั่วชิวพบข่าวแล้ว!” ตัวแทนหยิบกระดาษขึ้นมาอย่างตื่นเต้น พร้อมกับส่งให้อี้เทียนหยุน

“ช่างเป็นความเร็วที่เร็วจริงๆ”

อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย จากนั้นก็ยื่นมือไปรับกระดาษแผ่นนี้มา ขุมอำนาจอื่นก็อดไม่ได้ต้องมองมาที่นี่ แต่ก็เห็นเพียงภาพสลัวๆ ผืนหนึ่ง ถูกพลังวิญญาณที่ด้านนอกขัดขวางเอาไว้ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าใช้สัมผัสวิญญาณเข้าตรวจสอบ หากว่าตรวจสอบตามอำเภอใจจนไปทำให้อี้เทียนหยุนโกรธเข้า พวกเขาคงต้องพบกับหายนะแล้ว

และบนกระดาษแผ่นนั้นก็เขียนไว้ด้วยหัวข้อที่ค่อนข้างธรรมดา : เผ่าเทพเทียนเหมย

เผ่าเทพเทียนเหมยนี้ เป็นหนึ่งในตระกูลลับของโลกสวรรค์ ที่แยกตัวไปใช้ชีวิตอยู่ในภูเขาเทียนเหมย เป็นเผ่าที่ไม่ค่อยออกมาโลกภายนอกเท่าไหร่ โลกภายนอกมีข่าวลือเรื่องหนึ่งว่ากันว่า เผ่าเทพเทียนเหมยนี้ในตอนแรกอยู่ต่ำกว่าระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าก่อนหน้านี้นานมาก เผ่าเทพเทียนเหมยนั้นรุ่งเรืองมาก เพราะเป็นเผ่าของ 1 ใน 3 ราชาศักดิ์สิทธิ์(อันนี้ไม่ชัวร์นะครับ)

แต่ว่าหลังจากสงครามโลกสวรรค์ผ่านไป เผ่าเทพเทียนเหมยก็ได้ตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว หากคิดจะเข้าไปในนั้น ก็จำเป็นต้องผ่านมหาค่ายกลพิศวง หรือว่าให้เผ่าเทพเทียนเหมยเป็นคนพาเข้าไป

Crazy Leveling System

Crazy Leveling System

Status: Ongoing
อ่านนิยายCrazy Leveling System ปมเพาะไม่ได้เพราะเส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ? ไม่ใช่ปัญหา! เพราะมีระบบเพิ่มเลเวล แสนบำคลั่งอยู่ เจ้าแค่หภารกิจ สังหารสัตว์อสูร ดูดกลืนพลังวิญญาณของคนอื่น หลอมยา หรือสลักอาคม แค่นี้เจ้าก็ได้ค่าประสบการณ์แล้ว! อะไรนะ! ค่าประสบการณ์ที่ได้มันต่ำไปอย่างงั้นเหรอ? อย่าได้กลัว เพราะข้มีปัตร ประสบการณ์ x2 หรือแม้กระทั่งปัตรประสบการณ์ x10 แค่นี้ค่าประสบการณ์ของเจ้าก็จะฟุง ทะยานราวกับพลุระเบิดแล้ว! น่าชัน อัจฉริยะ นายน้อยตระกูลใหญ่ จักรพรรดิผู้ครองอาณาจักร หรือกระทั่งอัจฉริยะที่ฟันปี จะมีสักครั้งอย่างงั้นเหรอ? เมื่ออยู่ต่อหนีระบบเพิ่มเลเวลแสนบำาคลั่งนี้ พวกมันลัวนถูกทิ้ง ห่างไปไกล! "เฮ้ย นี่ข้เลเวลอัพอีกแล้วเหรอ?" อี้เทียนหยุนที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าเลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้น อีกครั้ง.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset