Crazy Leveling System ตอนที่ 681: หากเจ้ากล้าขวางข้าก็เอาสิ

ตอนที่ 681: หากเจ้ากล้าขวางข้าก็เอาสิ

ชิเสวี่ยอวิ๋นไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง รู้สึกเหมือนกับฝันกลางวันอยู่ คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาปรากฏขึ้นตรงหน้าของเธอ ที่นี่คือโลกสวรรค์ อีกทั้งยังเป็นเผ่าเทพเทียนเหมย! ด้านนอกเต็มไปด้วยการคุ้มกันที่หนาแน่น แต่เขากลับสามารถบุกเข้ามาได้อย่างไม่คาดคิด ช่างเป็นอะไรที่ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ

“นี่ข้าตาฝาดอย่างงั้นเหรอ?” ชิเสวี่ยอวิ๋นตกใจ

“ท่านไม่ได้ตาฝาดหรอกท่านน้า ข้ามาหาท่านแล้ว” อี้เทียนหยุนส่งยิ้มให้กับเธอ เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เพียงพอที่จะหลอมละลายบรรยากาศที่หนาวเย็นแห่งนี้ได้

“เทียนหยุน!”

ชิเสวี่ยอวิ๋นกระโดดเข้าใส่อ้อมแขนของอี้เทียนหยุนอย่างไม่ลังเล เมื่อสัมผัสได้ถึงอ้อมแขนที่อบอุ่น อุณหภูมิที่คุ้นเคย เธอก็รู้ว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ภาพลวงตา

“ข้าไม่ได้ตาฝาดจริงๆ เจ้ามาแล้ว ข้าก็คิดว่าทั้งชีวิตจะไม่ได้เจอเจ้าอีก…..” เบ้าตาของชิเสวี่ยอวิ๋นแดงก่ำ ตัวคนซบเข้าที่อ้อมอกของอี้เทียนหยุน

ก่อนหน้านี้เธอแข็งกร้าวถึงขีดสุด มาตอนนี้กลับเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ เด็กผู้หญิงที่ต้องการการปกป้องคุ้มครอง

“คำพูดนี้ควรเป็นข้ามากกว่าที่ควรพูด ข้าก็คิดว่าทั้งชีวิตจะไม่ได้มีทางได้เจอท่านอีกแล้ว…. ท่านน้า ทำไมท่านถึงตัดสินใจมาที่นี่โดยไม่ถามความเห็นของข้าก่อน หนีมาที่โลกสวรรค์ตามอำเภอใจ แล้วจะไม่ให้ข้ามาตามหาท่านได้เหรอ!” อี้เทียนหยุนดุเธอ แต่สีหน้าไม่มีอาการแห่งการกล่าวโทษแม้แต่น้อย กลับเต็มไปด้วยความสุขมากกว่า

เมื่อฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของนายน้อยเหมยที่อยู่ใกล้ๆ เขาก็พลันรู้สึกโกรธ พร้อมกับความรู้สึกอิจฉาที่ถาโถมขึ้นมาจากในใจ โดยเฉพาะจังหวะที่ชิเสวี่ยอวิ๋นกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของอีกฝ่าย ยิ่งทำให้เขารู้สึกโกรธอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“เจ้าคือเทียนหยุนที่เสวี่ยอวิ๋นพูดถึงอย่างงั้นเหรอ? เจ้ากล้ามาที่นี่จริงๆ ถึงขนาดกล้าบุกเข้ามาในตำหนักเทียนเหมยแห่งนี้ ช่างไม่รู้จักที่ตายจริงๆ!” นายน้อยเหมยยังพูดไม่ทันขาดคำ ก็ได้กระโจนเข้ามาพร้อมกับซัดฝ่ามือเข้าใส่อี้เทียนหยุน

หลังจากชิเสวี่ยอวิ๋นเห็นฉากนี้ ในใจของเธอก็พลันรู้สึกตกใจ ขณะที่ต้องการช่วยอี้เทียนหยุนต้านรับฝ่ามือนี้ อี้เทียนหยุนก็ยังคงกอดเธอไว้เบาๆ เหมือนก่อนหน้า พร้อมกับหันไปมองยังนายน้อยเหมยที่กำลังซัดฝ่ามือเข้ามาอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดออกมาเบาๆ ว่า “คำว่าเสวี่ยอวิ๋นนี้ เจ้าสามารถเรียกได้เหรอ? ไสหัวไป!”

ลำแสงเย็นเยียบถูกยิงออกมาจากนัยน์ตาทั้งสองข้างของเขา พร้อมกับเกิดแรงระเบิดนับไม่ถ้วนขึ้นในวิญญาณของนายน้อยเหมย ร่างของนายน้อยเหมยสั่นสะท้าน ก่อนที่จะกระเด็นถอยกลับไปอีกหลายก้าว จนแทบจะล้มลง

“จะ เจ้าเป็นผู้ฝึกตนวิญญาณ?” นายน้อยเหมยรู้สึกเหมือนวิญญาณในหัวกำลังฉีกขาด แทบจะหมดสติไป ใบหน้าที่ซีดขาวของเขานี้ เป็นหลักฐานที่ดีที่สุด

เพียงแค่พูดออกมาเบาๆ ก็ทำให้วิญญาณของเขาถูกโจมตีอย่างหนัก จนแทบจะหมดสติไป

ผู้ฝึกตนวิญญาณนี้ คือผู้ฝึกตนพิเศษที่ฝึกฝนการใช้พลังโจมตีเข้าใส่ดวงวิญญาณ สามารถทำให้โจมตีจากระยะไกลได้ แต่ว่าการฝึกนี้เป็นอะไรที่ยากมาก ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว ผู้ฝึกตนวิญญาณจึงมักจะเป็นอาจารย์สลักอาคมด้วย

หากไม่ใช่เห็นว่าชิเสวี่ยอวิ๋นไม่เป็นอะไร เขาคงจะฆ่าอีกฝ่ายไปทันทีแล้ว ถึงยังไงชิเสวี่ยอวิ๋นก็ถูกที่นี่ให้การดูแลมา เขาสังเกตว่าระดับของชิเสวี่ยอวิ๋นได้เพิ่มขึ้นไม่ใช่น้อยๆ จึงรู้ว่าที่นี่ได้ให้การดูแลเธออย่างดี

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยังไว้หน้าเผ่าเทพเทียนเหมยอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้น นายน้อยเหมยผู้นี้คงได้กลายเป็นศพไปแล้ว

“ดูเหมือนว่าจะพอมีความสามารถอยู่นิดหน่อย ถึงว่าทำไมถึงได้แฝงตัวเข้ามาได้ ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเข้าแฝงตัวเข้ามาได้ยังไง แต่เจ้าไม่มีทางพาเธอออกไปจากที่นี่ได้เด็ดขาด!” นายน้อยเหมยไม่ถอย พร้อมกับจ้องเขม็งมาที่อี้เทียนหยุนอย่างเย็นชา แล้วพูดขึ้นว่า “ที่นี่คือเผ่าเทพเทียนเหมย และเธอก็คือคนของเผ่าเทพเทียนเหมย ตายไปก็ต้องเป็นผีของเผ่าเทพเทียนเหมย! หากไม่มีพวกเรา ชิเสวี่ยอวิ๋นก็คงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ถึงขั้นนี้ พวกเราเป็นคนสร้างเธอขึ้นมา เป็นพวกเราที่ฝึกเธอ!”

“พวกเราลงทุนกับเธอไม่มาก หากเจ้าคิดจะพาเธอไป ข้าบอกเจ้าได้เลยว่าไม่มีทาง! ยิ่งกว่านั้น แม้แต่เจ้าเองก็ไม่สามารถเดินออกไปจากประตูนี้ได้ตามใจ บุกรุกเข้ามาในตำหนักเทียนเหมยตามอำเภอใจ จุดจบเดียวที่ได้ ก็คือความตาย!”

นายน้อยเหมยใจกล้าอย่างมาก ไม่ใช่ว่าเขาไม่กลัวอี้เทียนหยุน แต่กลัวมากต่างหาก ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้คงไม่เรียกชื่อเต็มของเธอว่าชิเสวี่ยอวิ๋น แต่เรียกว่าเสวี่ยอวิ๋นไปแล้ว

การโจมตีทางวิญญาณเมื่อกี้นี้ ทำให้เขากลัวจนตัวสั่น

ผู้อาวุโสหว่านที่อยู่ใกล้ๆ มองมาที่พวกเขา พร้อมกันถอนหายใจ คำพูดนี้นั้นถูกต้องอย่างแท้จิรง

“ข้าไม่รู้ว่าสหายท่านนี้เข้ามาจากที่ไหน แต่การบุกรุกเข้ามาที่นี่ตามอำเภอใจนั้น ถือว่าเป็นอาชญากรรมที่ใหญ่มากจริงๆ!” ผู้อาวุโสหว่านถอนหายใจ “เสวี่ยอวิ๋น เจ้าบอกเขาหน่อยเถอะ ให้เขาตามพวกเราออกไปแต่โดยดี แบบนี้ยังจะพอสามารถผ่อนผันให้เขาได้ ไม่อย่างนั้น จะมาโทษว่าอาจารย์ใจร้ายไม่ได้นะ”

นายน้อยเหมยมองอยู่ด้านข้างพร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา ในสายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ที่นี่เป็นถิ่นของเขา แล้วเขาจะไม่เย่อหยิ่งได้ยังไง?

“ผู้อาวุโสหว่าน…..”

ในตอนนี้เอง เจียงอี้ก็ได้เดินข้ามาจากด้านนอก และในขณะที่กำลังจะรายงานอยู่นั้น เขาก็พลันเห็นอี้เทียนหยุนอยู่ที่นี่ด้วย ดังนั้นจึงได้แสดงอาการตกใจออกมา “นี่ไม่ใช่ข้ารับใช้ที่เพิ่งเข้ามาไม่ใช่เหรอ ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”

“ข้ารับใช้อย่างงั้นเหรอ?” นายน้อยเหมยตกใจเป็นอันดับแรก จากนั้นก็หัวเราะออกมา “ข้าก็คิดว่าเข้ามาจากไหน ที่แท้ก็แฝงตัวเป็นข้ารับใช้เข้ามา ก็สมกับที่มีความสามารถนิดหน่อยจริงๆ! ไม่แปลกที่จะสามารถเข้ามาได้ หากไม่มีคนนำเจ้ามา เจ้าก็คงจะตายอยู่ในป่าวงกตนั่นแล้ว!”

“ที่แท้ก็แฝงตัวเข้ามาในกลุ่มข้ารับใช้ที่รับสมัครมา ช่างเป็นวิธีที่ฉลาดจริงๆ แต่การที่บุกเข้ามาที่ตำหนักนี้ก็ยังถือว่าเป็นความผิดอันดับหนึ่งอยู่ดี!” ผู้อาวุโสหว่านพูดอย่างเย็นชา “เสวี่ยอวิ๋น ฟังคำอาจารย์นะ เพื่อเป็นผลดีกับเจ้าทั้งสองฝ่าย ตราบเท่าที่เขายอมไปจากที่นี่ และเจ้ายินยอมอยู่ที่นี่ เรื่องทั้งหมดนี้ข้าจะไม่เอาเรื่อง!”

ขณะที่ชิเสวี่ยอวิ๋นต้องการพูด อี้เทียนหยุนก็ดึงมือน้อยๆ ของเธออย่างอ่อนโยน จากนั้นก็มองไปที่พวกเขาด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจว่า “ข้าก็อยากจะถามเหมือนกัน จากปากเจ้าที่บอกว่าใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อฝึกเธอนั้น แท้จริงแล้วใช้ไปมากน้อยแค่ไหน? บอกให้ข้าฟังได้ ไม่ว่าจะใช้ไปมากแค่ไหน ข้าก็จะชดใช้คืนเป็นสองเท่า!”

“ชดใช้คืนสองเท่า เจ้าคิดว่าเจ้ามีปัญญาจ่ายอย่างงั้นเหรอ?” นายน้อยเหมยมองเขาสำรวจตัวเขา ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก

“ที่ข้ายอมชดใช้คืนให้สองเท่าก็ถือว่าเห็นแก่หน้าพวกเจ้าที่ไม่ได้ทำไม่ดีกับท่านน้าของข้า หากว่าพวกเจ้าทำให้ท่านน้าของข้าบาดเจ็บแม้แต่น้อย เผ่าเทพเทียนเหมยอะไรนี่ ป่านนี้คงไม่เหลืออยู่ในโลกนี้แล้ว” อี้เทียนหยุนพูดด้วยสีหน้าอย่างเย็นชา

นัยน์ตาคู่งามของชิเสวี่ยอวิ๋นจมลง พร้อมกับจับมืออี้เทียนหยุนที่กุมมือน้อยๆ ของเธอแน่น จากนั้นก็เผยรอยยิ้มหวานบนใบหน้า ให้ความรู้สึกว่าเธอมีความสุขเป็นอย่างมาก

“ช่างคุยโตนัก ไม่แปลกที่จะไม่ยอมรับปากคำขอของอี้หมิง ที่แท้ก็ชอบเจ้าเด็กที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำผู้นี้นี่เอง! วันนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถไปไหนได้ทั้งนั้น วันนี้ข้าจะยืนอยู่ที่นี่ ดูสิว่าเจ้าจะใจกล้าพาคนไปต่อหน้าข้าจริงๆ หรือเปล่า!”

ในตอนนี้เอง ได้มีผู้หญิงที่งดงามเดินเข้ามา ซึ่งนายน้อยเหมยนั้นมีส่วนคล้ายกับเธอมาก และแท้จริงแล้ว เธอก็คือแม่ของเหมยอี้หมิง ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าเทพเทียนเหมย!

“ท่านแม่!”

“ผู้อาวุโสใหญ่!”

เมื่อเหมยอี้หมิงเห็นแม่ของตนมา ในใจก็มีความสุขสุดๆ พร้อมกับมีแรงขึ้นมาในทันที ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสใหญ่ของที่นี่ ระดับของเธอย่อมเป็นถึงระดับราชาวิญญาณ ซึ่งถือว่ามีอำนาจที่น่าทึ่งอย่างมาก

เมื่อชิเสวี่ยอวิ๋นเห็นผู้อาวุโสใหญ่มา ในใจก็พลันรู้สึกตึงเครียด นัยน์ตาคู่งามเต็มไปด้วยความกังวล ผู้อาวุโสใหญ่ผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณที่แข็งแกร่ง ทำให้เธอกังวลว่าอี้เทียนหยุนจะเป็นอันตราย

อี้เทียนหยุนมองเธออย่างเย็นชา ไม่ได้เห็นเป็นจริงเป็นจัง แต่กลับพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “หากเจ้ากล้าขวางข้าก็เอาสิ?”

Crazy Leveling System

Crazy Leveling System

Status: Ongoing
อ่านนิยายCrazy Leveling System ปมเพาะไม่ได้เพราะเส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ? ไม่ใช่ปัญหา! เพราะมีระบบเพิ่มเลเวล แสนบำคลั่งอยู่ เจ้าแค่หภารกิจ สังหารสัตว์อสูร ดูดกลืนพลังวิญญาณของคนอื่น หลอมยา หรือสลักอาคม แค่นี้เจ้าก็ได้ค่าประสบการณ์แล้ว! อะไรนะ! ค่าประสบการณ์ที่ได้มันต่ำไปอย่างงั้นเหรอ? อย่าได้กลัว เพราะข้มีปัตร ประสบการณ์ x2 หรือแม้กระทั่งปัตรประสบการณ์ x10 แค่นี้ค่าประสบการณ์ของเจ้าก็จะฟุง ทะยานราวกับพลุระเบิดแล้ว! น่าชัน อัจฉริยะ นายน้อยตระกูลใหญ่ จักรพรรดิผู้ครองอาณาจักร หรือกระทั่งอัจฉริยะที่ฟันปี จะมีสักครั้งอย่างงั้นเหรอ? เมื่ออยู่ต่อหนีระบบเพิ่มเลเวลแสนบำาคลั่งนี้ พวกมันลัวนถูกทิ้ง ห่างไปไกล! "เฮ้ย นี่ข้เลเวลอัพอีกแล้วเหรอ?" อี้เทียนหยุนที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าเลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้น อีกครั้ง.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset