ตอนที่ 683: ขวางข้าตาย!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังที่น่าสะพรึง อี้เทียนหยุนไม่แม้แต่จะกลัว แต่ในใจชิเสวี่ยอวิ๋นกลับเต็มไปด้วยความกังวล แม้ว่าระดับของอี้เทียนหยุนจะดี แต่เธอรู้ดีว่าพลังของผู้อาวุโสเหมยนั้นแข็งแกร่งมาก ดังนั้นเมื่อไม่ได้เจอกันนาน เธอจึงไม่รู้ว่าพลังของอี้เทียนหยุนจะเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่
ยังไงก็ตาม เมื่อเห็นสีหน้าที่สงบของอี้เทียนหยุน ในใจของเธอก็ค่อยๆ สงบลงอย่างช้าๆ เธอรู้ว่าอี้เทียนหยุนจะไม่ทำเรื่องที่ไม่มั่นใจ
มือของเธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น หัวใจเองก็รู้สึกได้ถึงความมั่นคง ราวกับเวลาได้หยุดนิ่งลง
“พวกเจ้าทั้งคู่ จงแยกกันซะ!” เหมยอี้หมิงอยู่ๆ ก็ลอบโจมตีเข้ามาจากด้านข้าง ฟันกระบี่เข้ามาอย่างไม่ลังเล ต้องการตัดแขนของอี้เทียนหยุนให้ขาด
ตั้งแต่แรกแล้ว เขาทั้งอิจฉาและก็โกรธ ชิเสวี่ยอวิ๋นโถมเข้าไปกอดอี้เทียนหยุนด้วยตัวเอง แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาโกรธได้ยังไง? ตั้งแต่แรก เขาคิดว่าชิเสวี่ยอวิ๋นนั้นเป็นผู้หญิงของตน มาตอนนี้กลับโถมเข้าใส่อ้อมกอดของอี้เทียนหยุนอย่างง่ายๆ เป็นใครก็ต้องโกรธอยู่แล้ว
มาถึงตอนนี้ ในที่สุดเขาก็สุดจะกลั้น ทันใดนั้นก็ชักกระบี่ออกมา หวังที่จะตัดแขนอี้เทียนหยุนให้ขาด ตัวกระบี่ปล่อยพลังที่เป็นคลื่นความเย็นออกมาโดยไม่มีการออมมือ หากว่าโดนกระบี่นี้เข้าจังๆ อย่าว่าแต่แขนที่จะไม่มีเลย แม้แต่ตัวคนก็ยังต้องถูกแช่แข็งไปทั้งร่างด้วย
“ไสหัวไป”
อี้เทียนหยุนฟาดฝ่ามือออกไป ดูแล้วเหมือนสายน้ำที่พัดผ่าน ไม่มีการฝืนออกแรง เหมือนเป็นแค่การโบกมือเบาๆ
“เปรี้ยง!”
เหมยอี้หมิงร้องโหยหวนออกมา ตัวคนถูกซัดกระเด็นกลับไปอย่างแรง จนชนเข้ากับกำแพงข้างหลัง ทะลุออกไปยังลานด้านนอกที่เต็มไปด้วยหิมะ ก่อนที่จะย้อมหิมะสีขาวให้เป็นสีชมพูอ่อนๆ เมื่อผู้อาวุโสหว่านหันไปดู ก็พบว่าบริเวณหน้าอกของเหมยอี้หมิงนั้นยุบเป็นโพลงรูปฝ่ามือ
ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 7 ที่ 8 กลับถูกฝ่ามือเบาๆ กระแทกใส่จนครึ่งเป็นครึ่งตาย เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย
“อี้หมิง!”
ผู้อาวุโสเหมยกรีดร้องออกมา พร้อมกับรีบบินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะประคองบุตรชายของตนในอ้อมกอด ในตอนนี้ เลือดได้ไหลออกมาจากศีรษะของเหมยอี้หมิงราวกับน้ำหลาก ลมหายใจติดขัด กระดูกทั่วร่างถูกฝ่ามือนี้ป่นจนแหลก ไม่มีกระดูกชิ้นไหนที่ยังดีอยู่
แม้ภายนอกจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ความจริงแล้วอวัยวะภายในของอีกฝ่ายได้ถูกทำลายลงหมดแล้ว ต่อให้จะใช้โอสถรักษา ก็ไม่สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ถึงยังไงก็ไม่ใช่แค่กระดูกที่หัก แต่แม้กระทั่งอวัยวะภายในยังถูกทำลาย แล้วอย่างนี้จะให้รักษายังไง?
โดยเฉพาะบริเวณที่เขานอนอยู่ ณ ตอนนี้ ต่างก็ได้กลายเป็นบ่อเลือดกองหนึ่งไปเป็นที่เรียบร้อย อี้เทียนหยุนจะไว้ชีวิตเขาได้ยังไง ในเมื่อคิดจะฆ่า เขาก็ไม่ยอมมือไม้อ่อนเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้เขาได้ให้โอกาสไปแล้ว แต่พวกเขาไม่เพียงแต่จะทำตัวโอหังเท่านั้น เหมยอี้หมิงเองยังได้ลอบโจมตีเข้ามา ดังนั้นจุดจบของมันจึงมีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่!
“ข้าบอกไปแล้วว่าขวางข้าตาย” อี้เทียนหยุนพาชิเสวี่ยอวิ๋นเดินออกมาด้านนอกทีละก้าว ไม่สนใจเหมยอี้หมิงที่นอนทอดร่างอยู่ใกล้ๆ ผู้อาวุโสเหมยโดยสมบูรณ์
ชิเสวี่ยอวิ๋นตกใจอย่างหนัก แม้ว่าจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ฝ่ามือที่ใช้จัดการกับเหมยอี้หมิงนั้นทรงพลังจริงๆ ไม่รู้ว่าระดับที่แท้จริงของเขานั้นคืออะไร เป็นระดับราชาวิญญาณช่วงต้น หรือว่าจะเป็นระดับราชาวิญญาณช่วงท้ายกัน?
“เจ้า เจ้ากล้าสังหารอี้หมิงโดยไม่คาดคิด เจ้าต้องตาย!”
ผู้อาวุโสเหมยเหมือนกับเป็นผู้หญิงบ้า เธอกรีดร้องออกมาพร้อมกับกระโจนเข้ามาที่นี่ หิมะสีขาวรอบๆ ปลิวว่อน ก่อนจะกลายเป็นพายุที่น่ากลัวพัดกวาดเข้ามา
ในมือของเธอปรากฏอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอดขึ้น พริบตา ความเย็นถึงขีดสุดก็ได้ควบแน่นเป็นกระบี่หนักเล่มหนึ่ง พร้อมๆ กับที่เธอทำการฟาดกระบี่ลงมา ก็พบว่าอากาศบริเวณรอบๆ พลันหนาวเยือกในทันที ตัวกระบี่ที่ฟันเข้าใส่เขานี้ กระทั่งว่าสามารถทำลายความว่างเปล่าได้!
ตัวเธอเองก็มีกายาต้นกำเนิดน้ำแข็งที่น่าทึ่งเช่นกัน ซึ่งถือว่าด้อยกว่ากายาน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์ของชิเสวี่ยอวิ๋นอยู่นิดหน่อย หากว่าเจ้ามีกายาที่พิเศษ มันก็จะสามารถเพิ่มพลังให้กับเจ้าได้มาก
ตัวอย่างเช่น พลังโจมตีในปัจจุบันของเธอ สามารถทำให้พลังวิญญาณน้ำแข็งที่อยู่รอบๆ ควบแน่นเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มพลังให้กับเธอ เปรียบได้กับพลังธาตุที่อยู่รอบๆ เป็นของเธอเอง
ภายใต้การฟันเข้ามานี้ พลังรบของเธอก็เพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้าน ถือว่าค่อนข้างน่าทึ่งเลยทีเดียว
แต่พลังรบ 1 พันล้านนี้สำหรับเขาแล้ว มันจะมีความหมายอะไรอย่างงั้นเหรอ? แน่นอนเลยว่า ไม่มีความหมายแต่อย่างใด
“ไสหัวไป!”
อี้เทียนหยุนยิงพลังออกมา ชุดเซ็ตหายนะบรรพกาลพลันทำงานอย่างรวดเร็ว แหวนสองวงรวมกับสร้อยคอ ทำให้พลังที่เขาปล่อยออกไปนั้นมีพลังรบสูงถึง 7-8 พันล้าน
“เปรี้ยง!”
กระบี่น้ำแข็งเล่มใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อนี้ ภายใต้บอลแสงที่เขายิงออกไป ก็ได้กลายเป็นละอองน้ำแข็งในทันที ยิ่งกว่านั้น พลังที่ยิงออกไปจากนิ้วนี้ ก็เหมือนว่าจะสามารถทำลายความว่างเปล่าได้เช่นกัน หลังจากทำลายกระบี่น้ำแข็งแล้ว มันก็ได้กระแทกเข้าใส่ร่างของผู้อาวุโสเหมยอีกต่อหนึ่ง
“เปรี้ยง!”
ผู้อาวุโสเหมยปลิวกระเด็นเพราะบอลแสงจากเพียงหนึ่งนิ้ว ก่อนที่จะตกกระแทกลงมาจากกลางอากาศอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจมลงไปยังพื้นหิมะหนา
“หือ ยังไม่ตายอย่างงั้นเหรอ?”
อี้เทียนหยุนมองไปทางนั้นด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าพลังจากนิ้วของเขานี้จะไม่แข็งแกร่งมาก แต่อย่างน้อยระดับราชาวิญญาณก็ไม่สามารถต้านทานได้ แต่ว่าผู้อาวุโสเหมยผู้นี้กลับยังไม่ตาย น่ากลัวว่าบนร่างของอีกฝ่ายน่าจะมีสมบัติอะไรสักอย่าง
แล้วก็จริง หลังจากนั้น ร่างของผู้อาวุโสหว่านที่ถูกซัดกระเด็นไปยังบริเวณหิมะนั้น ก็ได้ปรากฏลำแสงขึ้นปกคลุมร่างของเธอไว้ แต่ก็ดูเปราะบางอย่างมาก ส่วนตัวเธอเองนั้นก็ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน เพราะว่ามีสมบัติชิ้นนี้คอยปกป้อง จึงทำให้เธอยังไม่ตาย แต่ก็ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน
“เป็นไปได้ยังไง ทำไมพลังของเขาถึงได้แข็งแกร่งนัก!?”
ในใจผู้อาวุโสเหมยรู้สึกหวาดกลัว ยังเด็กแต่ก็มีพลังที่น่ากลัวอย่างนี้แล้ว ขนาดตนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณทุ่มพลังทั้งหมดโจมตีออกไป แต่กลับไม่สามารถแม้แต่ต้านรับหนึ่งนิ้วมือของอีกฝ่าย!
นี่มีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น นั่นก็คือเด็กหนุ่มตรงหน้านี้ เป็นระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุด หรือไม่ก็เป็นระดับราชาเซียน!
ผู้อาวุโสหว่านที่อยู่ใกล้ๆ ก็ตกใจกลัวเช่นกัน ระดับของเธอต่ำกว่าผู้อาวุโสเหมย แต่อีกฝ่ายกลับถูกบอลแสงที่ยิงออกมาจากนิ้วของเด็กหนุ่มผู้นี้จนบาดเจ็บสาหัส หากว่าไม่ใช่เพราะมีสมบัติคอยป้องกันเอาไว้ ป่านนี้เธอคงตายไปแล้ว
นี่เป็นพลังที่น่ากลัวนัก ทำให้ในใจของเธอต้องสะท้านขึ้นมา ไม่แปลกเลยที่ก่อนหน้านี้เขาจะยังมีสีหน้าที่สงบได้อยู่ ที่แท้ก็ไม่ใช่เพราะเขาโง่ แต่เป็นเพราะทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา!
ไม่ว่าจะเป็นแผนการหรือเล่ห์กลอะไร ต่อหน้าพลังที่เป็นที่สุด ก็เปรียบได้กับขยะเท่านั้น
“เทียนหยุน พลังของเจ้า…..” ชิเสวี่ยอวิ๋นตกใจ แม้ว่าเธอจะเดาไว้ว่าเขาต้องแข็งแกร่งมาก แต่นี่ไม่ใช่ว่ามันแข็งแกร่งเกินไปหรอกเหรอ?
ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณที่ยากต่อกร แต่ภายใต้บอลแสงที่ยิงออกไปจากหนึ่งนิ้วของอี้เทียนหยุน กลับถูกซัดกระเด็นไปอย่างง่ายดาย
“ข้าบอกแล้วว่าข้าจะปกป้องท่าน ปกป้องท่านไปตลอดชีวิตเลย” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มสดใสออกมา มีเพียงแต่กับชิเสวี่ยอวิ๋นเท่านั้น ที่เขาจะแสดงรอยยิ้มแบบนี้ออกมาได้
“อืม….” ในใจชิเสวี่ยอวิ๋นรู้สึกอบอุ่น เหมือนทุกอย่างไม่มีความสำคัญ ตราบใดที่มีอี้เทียนหยุนอยู่ข้างกายเธอ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
พลังวิญญาณของที่นี่เกิดการกระเพื่อมไหว ทำให้เหล่าผู้อาวุโสต่างก็พากันรีบบินมาในทันที เพราะว่าที่นี่คือตำหนักเทียนเหมย ซึ่งถือเป็นพื้นที่สำคัญของเผ่าเทพเทียนเหมย หากว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ต้องรีบออกมาจัดการในทันทีอยู่แล้ว
“เขา เขาเป็นผู้บุกรุก ต้องการทำลายตำหนักเทียนเหมยเรา ต้องการขโมยสมบัติล้ำค่าที่สุดของเผ่าเทพเทียนเหมยเรา….” ผู้อาวุโสเหมยเริ่มใส่ร้ายในทันที ใส่ร้ายว่าอี้เทียนหยุนบุกเข้ามาเพื่อขโมยสมบัติของพวกเธอ!
เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการแก้แค้น ทั้งยังต้องการแก้แค้นอย่างถึงที่สุด หากพวกเขารู้ความจริงว่าเธอกลับกลอก ไม่ยอมปล่อยชิเสวี่ยอวิ๋นไป เผ่าเทพเทียนเหมยจะต้องไม่ยอมลงมือกับอี้เทียนหยุนอย่างแน่นอน